1

1114 คำ
“สวยมากเลยแพรว รับรองว่าเจ้าบ่าวเห็นแล้วต้องอึ้งแน่ๆ เลย” แซมมี่หรือสุริยนสาวประเภทสองช่างแต่งหน้ามืออาชีพเอ่ยชื่นชมความงดงามของแพรวพรรณราย เจ้าสาวผู้โชคดีแห่งปีที่ได้วิวาห์กับกรกวินทร์ รัตนบดี นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงขวัญใจสาวๆ ครึ่งค่อนเมือง แต่สำหรับเจ้าสาว เธอคิดว่าตัวเองโชคร้ายเสียมากกว่า “ขอบคุณค่ะ”ใบหน้าเรียบเฉยไม่ยินดียินร้ายกับคำชมของเจ้าสาวตอบกลับแล้วสีหน้าของแพรวพรรณรายก็ทำให้ใครอีกคนหนึ่งที่นั่งไม่ห่างรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา “นังแพรว แกทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย แกแต่งงานนะไม่ได้ไปตาย” พริ้งเพราแหวใส่บุตรสาวคนโต “ถ้าแม่แต่งงานกับคนที่แม่ไม่ได้รัก แม่จะอยากตายหรืออยากจะมีชีวิตอยู่ต่อล่ะคะ” แพรวพรรณรายย้อนถามมารดา หน้าบูดบึ้ง ยิ่งนึกถึงหน้าเจ้าบ่าว เธอก็แทบจะอยากตายวันละหลายๆ รอบถ้าไม่ติดที่ว่ามารดาบังคับแกมข่มขู่ให้แต่งงาน อย่าหวังเลยว่าเธอจะยอมง่ายๆ แซมมี่มองแพรวพรรณราย หญิงสาวที่เปรียบเสมือนน้องสาวของตนด้วยความรู้สึกสงสาร เพราะเธอรู่ดีว่า น้องสาวคนนี้ไม่มรความปรารถนาจะวิวาห์สุดอลังการกับกรกวินทร์ แต่ที่ยอมแต่งเพราะถูกมารดาบังคับ ทว่าแซมมี่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้มากไปกว่า ส่งกำลังใจให้ “ถ้าฉันได้แต่งงานกับคนรวยๆ หล่อๆ แบบคุณทัชล่ะก็ ฉันไม่อยากตายหรอก อยากมีชีวิตต่อมากกว่า” พริ้งเพราตอบกลับทันควัน "แล้วแกก็ไม่ต้องแสดงออกมากนักนะว่าไม่อยากแต่งงาน เห็นแก่หน้าฉันบ้างถ้าคิดว่าฉันเป็นแม่" “ก็ที่แพรวยอมแต่งงานกับไอ้หมอนั่นก็เพราะเห็นว่าแม่เป็นแม่ ไม่อย่างนั้นอย่าหวังว่าแพรวจะยอม” เจ้าสาวโต้กลับมารดา เพราะความเป็นแม่ลูกกันนี่แหละที่ทำให้เธอต้องสวมชุดวิวาห์ราคาแพง ต้องมานั่งให้ช่างแต่งหน้าทำผม ต้องมานั่งปั้นหน้ายิ้มทั้งที่อยากจะร้องไห้ ต้องกล่ำกลืนฝืนทนทุกอย่างเพื่อใครล่ะ ถ้าไม่ใช่คนจอมบงการตรงหน้า “งั้นแกก็จำใส่หัวเอาไว้ด้วยว่า อย่าทำให้ฉันผิดหวัง”พริ้งเพรากำชับเสียงแข็ง “ถ้าแกทำให้ฉันผิดหวัง อย่ามาเรียกฉันว่าแม่ จำใส่หัวเอาไว้” ระหว่างที่สถานการณ์ของพริ้งเพราและแพรวพรรณรายกำลังตึงเครียด หญิงสาวนางหนึ่งได้เดินเข้ามาในห้องแต่งตัว ความสวยงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเจ้าสาวเลย “แม่ขา ได้เวลาแล้วค่ะ ไปกันเถอะคะ” เจ้าของเสียงคือ เดือนดาราลูกสาวคนเล็กของพริ้งเพรา และเป็นน้องสาวต่างบิดาของเจ้าสาวเอ่ยบอกมารดาด้วยรอยิ้มอ่อนหวาน “จ้ะลูก เดี๋ยวแม่ออกไป” น้ำเสียงของพริ้งเพราที่พูดกับเดือนดารา ต่างกับพูดกับแพรวพรรณรายมากเหลือเกิน ราวกับหนังคนละม้วน “แม่คะ เมื่อกี้พี่หวานบอกว่า คุณหญิงป่านถามถึงแม่ค่ะ” เดือนดาราพูดต่อ “คุณหญิงป่านมาแล้วเหรอลูก ถ้าอย่างนั้นออกไปข้างนอกกันเลยนะ ในห้องนี้มลพิษมันเยอะ แม่หายใจหายคอไม่สะดวก” พริ้งเพราไม่วายเหน็บแนมแพรวพรรณราย ที่มองมารดากับน้องสาวผ่านกระจกบานใหญ่ ผู้เป็นแม่พูดจบก็เดินกุมมือลูกสาวคนเล็กออกไปจากห้องแต่งตัวทันที คำพูดและการกระทำของพริ้มเพรา สร้างความเสียใจและเจ็บช้ำซ้ำๆ ให้กับแพรวพรรณราย เธอไม่เคยได้ยินคำพูดจาหวานหูจากมารดาเลย มีแต่แข็งกระด้าง ตวาดใส่อยู่ร่ำไป และไม่มีสักครั้งที่พริ้งเพราะจะกอดหรือแม้แต่กุมมือเธอ ไม่เลยไม่เคยปรากฏ จนบางครั้งเธอก็ยังแอบคิดว่า ตนเองไม่ใช่ลูกของนาง น้ำตาเม็ดใสเออคลอดวงตาคู่หวานปนเศร้า จนเธอต้องหยิบทิชชู่มาซับความอ่อนแอที่กำลังไหล “ใจเย็นๆ นะแพรว วันนี้เป็นวันดีของแพรว พี่ไม่อยากเห็นแพรวร้องไห้” แซมมี่พูดปลอบใจ เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เหตุใดพริ้งเพราถึงได้ไม่รักแพรวพรรณราย ต่างกับเดือนดาราที่รักและเอาใจสารพัด ทั้งที่แพรวพรรณรายก็เป็นลูกของนางเช่นกัน “แพรวไม่อยากร้องไห้ แพรวอยากตายมากกว่า” นี่คือความรู้สึกที่แท้จริงของเธอ มารดาไม่รักว่าแย่แล้ว นี่ยังต้องมาแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักอีก ความรู้สึกของเธอเวลานี้ย่ำแย่มากเหลือเกิน “ไม่เอาค่ะไม่พูดอย่างนั้นนะ” แซมมี่รีบห้าม “ชีวิตคนไม่ได้เกิดมาง่ายๆ นะแพรว มีหลายคนที่แย่กว่าแพรวแต่เขาก็ไม่คิดอยากจะตาย เขามีแต่จะสู้กับสู้ ดูอย่างพี่สิ พี่ถูกพ่อกับแม่รังเกียจและถูกไล่ออกจากบ้านเรื่องที่พี่ผิดเพศ แต่พี่ก็พิสูจน์ให้ท่านรู้ว่า การเป็นกระเทยไม่ได้เป็นเรื่องเลวร้าย ไม่ได้ผิดศีลธรรม สามารถดำรงชีวิตได้เหมือนคนปกติ จนตอนนี้พ่อกับแม่พี่ภูมิใจในตัวพี่มาก ชีวิตของคนเรามันไม่ได้แย่ไปซะทุกเรื่องนะแพรว มันต้องมีเรื่องดีๆ เข้ามาบ้าง” แซมมี่ให้ข้อคิดกับแพรวพรรณราย กว่าที่เธอจะเป็นที่ยอมรับและเป็นที่ภาคภูมิใจของบิดามารดาและคนรอบข้างได้ แซมมี่ต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองร่วมห้าปี จนกระทั่งตอนนี้เธอเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพ แต่หน้าทำผมให้กับคนดังมานับไม่ถ้วน รวมทั้งดารานางแบบและเหล่าเซเลบทั้งหลาย “ขอบคุณพี่แซมมี่มากค่ะที่ปลอบใจแพรว แพรวจะเข้มแข็งค่ะ” ในชีวิตของแพรวพรรณราย นอกจากทักษอรกับเพทาย สองเพื่อนสนิท เธอก็ยังมีแซมมี่ เพื่อนบ้านคนสนิทที่เป็นกำลังใจให้เสมอมา แซมมี่จึงเปรียบเสมือนพี่สาวคนหนึ่งของเธอ “ดีมากแพรว” แซมมี่พูดด้วยรอยยิ้ม “จำไว้นะแพรว น้ำตาไม่ช่วยอะไร สติเท่านั้นที่จะช่วยเราได้” แซมมี่พูดทิ้งท้าย ก่อนจะลงมือแต่งแต้มใบหน้า ปกปิดคราบน้ำตาของเจ้าสาว จริงอย่างที่แซมมี่พูด น้ำตาไม่ได้ช่วยอะไร เธอจะร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด งานแต่งงานก็ยังคงดำเนินตามกำหนดการ ไม่มีอะไรที่จะมาเปลี่ยนแปลงงานวิวาห์นี้ได้ เพราะชีวิตของเธอถูกลิขิตด้วยมือของพริ้งเพราะมาตั้งแต่เธอลืมตาดูโลก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม