ถูกจับได้

2144 คำ
"เกะกะจริงวะ" ดวงตาคมจดจ้องมองในความมืด มือหนาคล่ำหาสวิตซ์ไฟที่มันอยู่ตรงประตูทางเข้า แต่ด้วยความเมาทำให้ร่างของเขาเซไปชนกับโต๊ะตัวเล็กที่มีแจกันตั้งอยู่ โต๊ะทั้งเล็กทั้งบอบบางล้มลงไปพร้อมกับแจกันราคาแพง แตกกระจายเกลื่อนพื้น เสียงแตกดังไปทั่วบริเวณบ้าน คนทำแตกพอเปิดไฟได้ก็แค่ชายตามอง แล้วเดินหลบทางไป ไม่สนใจความเสียหายเพราะมันก็แค่ของแตก "ใคร" ร่างหนาถอดเสื้อออกพาดไว้กับโซฟาตัวใหญ่เพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย และทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาตัวนั้น กำลังจะเข้าสู้ห้วงนิทราด้วยความเมา แต่ทว่ากลับได้ยินเสียงลมหายใจดังๆของใครเข้ามารบกวน เสียงลมหายใจนั้นเหมือนกำลังกลัว "เธอเป็นใคร" ด้วยความหงุดหงิดไม่ชอบให้ใครมารบกวนเวลานอน สิงหราชเดินตามหาเสียงลมหายใจนั้นอย่างเงียบๆภายในห้องสี่เหลี่ยมที่ไม่ได้ใหญ่มากมายอะไร จนเจอเข้ากับต้นตอของเสียง หญิงสาวตัวเล็กผิวขาว ที่ใส่ชุดนอนลายการ์ตูน สองมือกอดหนังสือแนบอกเอาไว้แน่น ก้มหน้าจนเห็นแต่ผมยาวสีน้ำตาลเข้มแทนใบหน้า ยืนอยู่ในช่องเก็บของที่มีประตูบานพับเล็กๆปิดอยู่ด้านหน้าเบียดเสียดกับอุปกรณ์ทำความสะอาด "คือหนู" ชมจันทร์ถูกกระชากออกมาจากในช่องเก็บของ ร่างบางสั่นเทาด้วยความกลัว ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นสบตาเขา "ฉันถามว่าเธอเป็นใคร เข้ามาทำอะไรในบ้านของฉัน" ร่างหนาตะคอกใส่คนตรงหน้าอย่างดุดัน สายตาจ้องมองราวกับจะกินเลือดกินเนื้อคนตรงหน้า เมื่อไม่ได้รับคำตอบที่ตัวเองนั้นต้องการ "หนูชื่อกระต่าย" ชมจันทร์พยายามรวบรวมความกล้าที่มีเพียงน้อยนิดเพราะมันมีความผิดที่เธอแอบเข้ามาอยู่ที่นี่บดบังอยู่เงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ ค่อยๆลืมตาที่หลับสนิทขึ้นที่ละนิดเพื่อมองหน้าคนที่เธอกำลังกลัว "เธอคือใคร เข้ามาในนี้ทำไม" สายตาคมจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวที่เพิ่งจะยอมเปิดเผยให้เห็น มันช่างคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหนแต่ก็นึกไม่ออกแต่ที่แน่ๆเธอไม่ใช่คนงานของไร่ฉายตะวันเพราะคนงานทุกคนที่นี่รู้ดีว่าบ้านหลังนี้คือสิ่งหวงห้าม "หนูแค่มา" ร่างหนาขยับเข้าใกล้ชมจันทร์มากขึ้น สายตาจ้องปากที่ขยับพูดของเธอ จนเธอพูดไม่ออกต้องกลืนคำพูดลงคอด้วยความกลัว "หนูไม่ได้ขโมยอะไรนะคะ" สิงหราชยังไม่ยอมถอยหา เขายังคงมองริมฝีปากเล็กที่พยายามจะขยับพูดสลับกับกัดตัวมันเองจนเริ่มเปลี่ยนจากสีชมพูจางๆเป็นสีเข้มขึ้น ชมจันทร์เริ่มกลัวหนักขึ้นกว่าเดิม เธอถอยหนีจนหลังชนเข้ากับพนังบ้าน ภาพเขาถือปืนในตอนนั้นมันยังชัดเจนอยู่ในหัวและเสียงปืนที่ฆ่าลุงใบ้มันยังดังชัดอยู่ในสองหูของเธอ "อื้อ" มือหนาจับปลายคางมนของชมจันทร์ยกขึ้น โน้มริมฝีปากหนาลงไปหาริมฝีปากบางที่สั่นระริก ออกแรงดูดเพื่อลิ้มรสเบาๆแล้วผละออกห่างเพียงเล็กน้อย สิงหราชยกยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจในความหวานที่ได้รับมา พร้อมขยับริมฝีปากหนาเข้าหาริมฝีปากบางของหญิงสาวที่เขานั้นไม่รู้จักเธอเลย ชมจันทร์หลับตาปี๋ ใจเต้นเร็วแทบทะลุออกมานอกอก สองมือกอดหนังสือเอาไว้แน่น กลัวจนไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ปากหนาดูดดื่มริมฝีปากทั้งบนและล่างของเธออย่างหนัก เรียกร้องเอาความหวานหอมมาดื่มกินอย่างคนตะกละตะกราม โดยไม่ให้ริมฝีปากบางที่เขานั้นเองยังไม่รู้จักได้พักเลย "อ่ะ" ริมฝีปากบางที่ไม่เคยจูบกับใครมาก่อนเผยอขึ้นเปิดทางให้เขาส่งลิ้นร้ายเข้ามาไล่ตวัดลิ้นของเธอได้ จนคนที่กำลังกลัวขนลุกซู่ด้วยความรู้สึกประหลาด "อื้ม" เสียงหนาครางในลำคออย่างพึงพอใจกับรสจูบที่เรียกได้ว่าหวานเอามากๆ และยังพอใจเพิ่มขึ้นอีกเมื่อลิ้นเล็กๆถอยหนีให้เขาได้ตามอย่างสนุกสนาน "อื้อ" ชมจันทร์อ่อนระทวยไปทั้งตัว จูบของเขาทำเธอกลายเป็นเทียนไขที่ถูกไฟล้นได้อย่างน่าประหลาด ใจกลางสาวที่อยู่ภายใต้กางเกงชั้นใน เต้นตุ๊บๆทั้งที่มันเคยสงบมาตลอดสิบเก้าปี เหมือนเรียกร้องอะไรบางอย่างที่เธอเองก็ไม่รู้ "อื้ม" สองมือหนาของสิงหราชพร้อมใจกันขยับเลื่อนต่ำลงไปที่ด้านหลังของร่างบาง วางมันลงบนสะโพกผายที่เต่งตึงดันกางเกงผ้าของชุดนอนออกมา บีบเคล้นเบาๆเพื่อทักทายให้มันสู้มือ และเมื่อมันถูกใจ ปากหนาที่ครอบครองปากบางอยู่ด้านบนก็เร่าร้อนเพิ่มขึ้นอีกระดับ ดูดดื่มแนบชิดจนแม้แต่อากาศก็แทรกผ่านไม่ได้ "อื้อ" ร่างบางที่ยังคงกอดหนังสือเอาไว้แน่นถึงกับเซขยับมาหาเขาที่ด้านหน้า เมื่อสองมือหนาของเขาขย้ำสะโพกเธออย่างรุนแรง ร่างสองร่างแนบชิดกันจนแทบจะเป็นคนคนเดียวกัน จะมีก็เพียงหนังสือที่เธอกอดเอาไว้แน่นคั้นกลางเอาไว้ "อ้าส์" ร่างหนาส่งส่วนที่กำลังเริ่มแข็งตัวขึ้นเรื่อยๆเข้าชนด้านหน้าของเธอ มันยังมีเสื้อผ้ากั้นอยู่แต่เขากลับพึงพอใจจนครางออกมา "โอ๊ย" ชมจันทร์ตกใจกับของแข็งที่มาชนเธอ สองมือเลยปล่อยหนังสือที่กอดอยู่ลงพื้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ หนังสือทั้งหมดเลยหล่นใส่เท้าของเขาแล้วเธอก็วิ่งหนีหายไป "ไอ้เคิร์ฟมึงไปจับตัวคนที่แอบเข้ามาในไร่มาให้กูเดี๋ยวนี้" สิงหราชรีบหยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาโทรหาลูกน้องทันทีที่ได้สติหลุดออกจากภวังค์แห่งความหอมหวานนั้น พร้อมกับหาที่นั่งเพื่อถอดถุงเท้าทั้งสองข้างออกมาดูนิ้วเท้าว่ามีตรงไหนเลือดออกไหมเพราะมันเจ็บเอาเรื่องอยู่ "ครับนาย" "แล้วพาไปที่บ้านใหญ่ กูต้องรู้ให้ได้ว่าใครแอบพาเข้ามา" "ครับ" ปาถุงเท้าที่อยู่ในมือทิ้งเพื่อระบายความโมโห ไม่เคยมีใครแอบเข้ามาอยู่ในไร่ของเขามาก่อน และยิ่งไปกว่านั้นคงอยู่มานานแล้วถึงขั้นใส่ชุดนอนเข้ามาแอบนอนในบ้านของเขา โดยที่คงรู้เวลาไปเวลามาของเขาเป็นอย่างดี "มีเรื่องอะไรกันคะ" ไฟทั้งบ้านใหญ่ถูกเปิดสว่างทุกดวง ลูกน้องทุกคนของสิงหราชถูกเรียกมารวมตัวกันในบ้าน ไม่เว้นแม้แต่เกศรินก็ถูกปลุกให้มารวมตัวด้วย "มีคนแอบเข้ามาอยู่ในไร่ฉายตะวัน เธอรู้ไหมว่ามันเป็นใคร" ประมุขใหญ่ของไร่ฉายตะวันนั่งอยู่บนโซฟาหนังสีน้ำตาลเข้มตัวยาวกลางห้องรับแขก จ้องมองทุกคนที่กำลังเดินเข้ามาด้วยสายตาที่มีเปลวไฟลุกโชนอยู่ด้านใน "ไม่มีนะคะ" เกศรินรู้สึกเย็นที่สันหลังขึ้นมาทันที เธอถึงกับถอยหลังไปยืนรวมกับคนอื่นๆทั้งที่ในตอนแรกตั้งใจว่าจะไปนั่งใกล้ๆกับเขาเหมือนอย่างเคย ในใจหวาดหวั่นกลัวไปหมด เพราะถ้าเกิดเรื่องของชมจันทร์แดงขึ้นมา ชมจันทร์จะไปอยู่ที่ไหนญาติพี่น้องก็ไม่มีให้กลับไปอยู่ที่เดิมก็มีแต่อันตราย "ปล่อยหนูนะ" ร่างบางถูกมือหนาและสากด้านฉุดกระชากลากมาจากห้องนอนเล็กที่อยู่ด้านหลังบ้าน เธอพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากมือหนานั้นมาตลอดทางแต่ไม่เป็นผลเลยจนมาถึงภายในบ้านที่มีคนมากมายยืนกันอยู่เต็มบ้าน "กำลังเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าเตรียมจะหนีเลยครับนาย" "โอ๊ย" ร่างเล็กที่สะพายกระเป๋าเป้ใบเล็กไว้ที่หลังถูกเหวี่ยงลงไปกับพื้น ทั้งตัวของเธอกระแทกไปกับพื้นอย่างแรง มันเจ็บจนต้องร้องออกมาต่อหน้าทุกคน "เบาๆก็ได้นิเคิร์ฟ เด็กตัวเล็กนิดเดียวทำไมต้องรุนแรงด้วย" เกศรินทนยืนมองคนที่เธอชุบเลี้ยงมาโดนทำร้ายไม่ได้ รีบลงไปช่วยประคองให้ลุกขึ้นนั่ง แล้วช่วยดูว่ามีส่วนไหลเลือดตกยางออกหรือเปล่า "กล้ามากที่ทำแบบนี้ เกศริน" พญาราชสีห์คำรามดังขึ้นมากลางห้องเมื่อภาพตรงหน้ามันชัดเจน ไม่ต้องเค้นถามจากใครให้ต้องเปลืองเวลาแค่นี้ก็ได้รู้แล้วว่าใครมันกล้าดีพาคนนอกที่เขาไม่ได้อนุญาตเข้ามาอยู่ในไร่ "คุณรินไม่ได้ทำครับ ผมเอง" อาซานรีบลงไปนั่งคุกเข่าข้างๆผู้หญิงทั้งสองคน ออกปากรับผิดเองเพราะเขานั้นก็มีส่วนในเรื่องนี้ด้วย ปล่อยให้ทุกอย่างมันผ่านมาหลายปีโดยไม่แก้ไขตั้งแต่วันแรกที่รับชมจันทร์เข้ามาอยู่ที่นี่ "อย่ามาโกหกกู" สิงหราชจ้องหน้าอาซานที่ทำงานกับเขามาหลายปีอย่างรู้ทัน และชี้นิ้วสั่งให้คนลากอาซานออกไป "รินเองค่ะ อาซานห้ามรินแล้วแต่รินไม่ฟังเอง รินสงสารกระต่าย ลุงใบ้ของเธอจากไปกะทันหันแล้วกระต่ายก็ไม่ญาติพี่น้องที่ไหน" เกศรินเห็นอาซานถูกลากออกไปก็ใจคอไม่ดี ตอนนี้สิงหราชโกรธมากเธอเดาใจเขาไม่ออกว่าเขานั้นคิดอะไร เกิดเขาสั่งฆ่าอาซานมันคงไม่คุ้มกันที่จะมีคนมาตายเพื่อรับผิดแทนเธอ "ออกไป" ความโกรธเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัวเมื่อคนในบ้านของเขาเองกล้าดีพาคนที่เขาสั่งเอาไว้แล้วว่าชาตินี้ไม่อยากจะเห็นหน้าอีกเข้ามาอยู่ในบ้าน ความเกรงใจที่เห็นเกศรินเป็นเพื่อนที่ดีตลอดมาเลยขาดผึงออกปากไล่ออกจากบ้านโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "คุณสิงห์" เหมือนฟ้าผ่าลงกลางอกของเกศริน น้ำตาไหลร่วงหล่นออกมาจากสองดวงตาด้วยความเสียใจ เธอรักสิงหราชมากเกินกว่าที่จะก้าวเดินออกจากบ้านหลังนี้ เธอไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น เธอรักเขา แม้รู้ดีว่าความผิดที่เธอก่อมันยากเกินจะให้อภัย "นายอย่าไล่คุณรินออกนะคะ หนูผิดเองที่ขอเข้ามาอยู่ที่นี่ หนูไปเอง จะไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ" ชมจันทร์ยิ้มพร้อมน้ำตาที่เอ่อล้นให้กับเกศรินแล้วกราบลา พยุงร่างกายที่บอบช้ำไปทั้งตัวลุกขึ้น เดินออกจากบ้านเพียงหลังเดียวที่เธอมีอย่างไม่รู้ว่าจะไปไหน ถึงจะเคว้งคว้างมากแค่ไหนก็ต้องไปเพราะถ้าเธอยังฝืนอยากอยู่ต่อคนที่มีพระคุณกับเธอก็จะต้องเดือดร้อน "ไอ้ตัวเล็กไม่นะ" อาซานพยายามจะเดินตามชมจันทร์ออกไป แต่บรรดาลูกน้องของสิงหราชช่วยกันจับตัวเอาไว้ เพื่อไม่ให้เรื่องมันใหญ่โตไปกว่านี้และพวกเขาก็อยากมีอาซานเป็นหัวหน้าเหมือนเดิม "กระต่าย" เกศรินได้แต่ร้องไห้ฟูมฟายด้วยความเสียใจอยากจะตามชมจันทร์ไปแต่ก็ทำไม่ได้ด้วยเธอไม่อาจทิ้งความรักที่มีต่อสิงหราชไปได้ "ไอ้ภัทร หาแม่บ้านคนใหม่มาประจำที่นี่กับคนคุมบ่อนคนใหม่" สิงหราชไม่แม้แต่จะมองดูความวุ่นวายนั้น เขาลุกออกจากตรงนั้นทันทีที่ตัวก่อเรื่องพูดจบ แล้วประกาศออกมาเสียงดังให้ทุกคนได้ฟังกันให้เต็มสองรูหูจะได้ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งเขาอีก "แล้วคุณรินกับอาซานล่ะครับ" ภัทรที่กำลังน้ำตาคลอกับเหตุการณ์ผลัดพรากถึงกับทำตัวไม่ถูกกับคำสั่งฟ้าผ่าของเจ้านาย "ให้เป็นแค่คนงานธรรมดา" สิงหราชพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับเขานั้นไม่ได้โมโหใครทั้งนั้น แต่มันกลับแฝงไปด้วยความเย็บเฉียบที่พร้อมจะเป็นดาบที่เคลือบน้ำแข็งแทงใครให้ตายไปเดี๋ยวนี้เลยก็ได้ "ครับ" ภัทรถึงกับหน้าเจื่อนทำอะไรไม่ถูกแต่ก็ต้องทำ ใครล่ะจะกล้าไปขัดคำสั่งเจ้านายอย่างสิงหราชตัวอย่างก็มีให้ จากตำแหน่งใหญ่โตกลายเป็นคนไม่มีตัวตนไม่โดนไล่ออกก็เหมือนไล่ออก เจ็บปวดใจเท่ากัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม