ที่นี่ที่ไหนทำไมฉันไม่เคยคุ้น

1230 คำ
ตอนที่ 1 ด้วยความรู้สึกที่แสนจะสับสนและหวั่นหวาดกลัวอย่างที่สุดกับสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าไม่ทันตั้งตัวและไม่นึกคาดฝัน หลังจากหล่อนถูกโปะด้วยยาสลบจากนั้นก็จำเรื่องราวไม่ได้ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับพาลิณี   และในอีกครั้งที่พาลิณีได้ตื่นฟื้นขึ้นมาก็ต้องตกใจอย่างมากพบว่าที่นี่ไม่ใช่กรุงเทพฯ เมืองที่หล่อนคุ้นเคย ในบ้านนี้ ลักษณะบ้านไม้ไผ่ชั้นเดียว ที่พาลิณี ถูกจับขัง และพันธนาการไว้ด้วยเชือกไว้ที่นี่เกือบทั้งคืน พวกมันเป็นใคร ทำไม อาจหาญอย่างนี้ นึกถึงว่าศัตรู หล่อนก็ไม่มีศัตรูที่ไหน หรือว่าเป็นศัตรูของบิดา     ก็เพราะเบื้องหน้าที่มองดูแล้วจากทางหน้าต่างกรงเหล็กดัด สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยเกาะแก่ง มีหาดทรายโอบล้อมแปลกใจอย่างมากไม่เคยมาที่นี่ก่อนเลยในชีวิต ไม่รู้ที่ไหน เมื่อยล้าบวกกับความกลัวทั้งไม่คุ้นชิน ภายห้องหับ มีแต่กลิ่นอับทำไมพวกมันถึงทำกับหล่อนเยี่ยงสัตว์อย่างนี้ ฮึ ซึ่งในระหว่างนี้พาลิณีพาตัวเองไปยืนชิดอยู่ริมหน้าต่าง หากแต่ตรงหน้านั้นที่ประตูห้องกลับถูกเคาะและเปิดออกมา และเห็นเด็กสาวอายุไม่เกินสิบสิบเจ็ด ผิวคล้ำเหมือนชาวเล เดินถือถุงผ้าในมือ ยื่นให้หล่อน พาลิณีรู้สึกฉุนเฉียวที่มารบกวนหล่อน อยากรู้พวกมันเป็นใคร    “เสื้อผ้านี่ นายเป็นคนซื้อให้ ไม่ต้องกลัวหรอกของฉันน่ะ เธอใส่ไม่ได้หรอกคนสำอาง บอบบางอย่างเธอ รีบใส่เสียสิ ถ้าไม่งั้นเธอไม่มีเสื้อผ้าใส่เปลี่ยนนะ มีชุดเดียวเองไม่ใช่หรือ”  เด็กแพน มองหล่อนด้วยแววตาที่สมเพช  พาลิณีอ่านออกต้องเป็นนายวายร้ายที่เป็นนายของเด็กสาว และหญิงสาวเม้มริมฝีปากหล่อนยังไม่เคยเห็นหน้านายวายร้ายมหาโจรนั่นสักครั้ง   ถ้าเจอหน้าละก็  หล่อนจะด่าว่าอย่างสาดเสียเทเสียใส่เลย และเมื่อเด็กสาวที่ชื่อแพนออกไปแล้วด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงบ่นขมุบขมิบในใจ แล้วจากนั้นมีร่างของใครคนหนึ่งที่เขาแทบจะก้าวพรวดเข้ามาแทนเด็กสาวทันทีเลย ชายหนุ่มคนนี้ เขาเป็นคนที่รูปร่างสูงโปร่งหน้าตาดูคมเข้มและร่างกายดูกำยำแข็งแรงอย่างมาก ก็เลยทำให้พาลิณีต้องเงยใบหน้าแหงนขึ้นมอง    และชายหนุ่มตรงหน้านั้นเขายืนจังก้าและหันมาทางหล่อนพร้อมด้วยแววตาที่ เครียดเขม็งมุมปากยิ้มเยาะใส่ให้    “ตื่นแล้วหรือเชลยคนสวย นึกว่า จะหลับนอน โดย ที่ ไม่ ยอม ดูเดือนดูตะวันเหมือนคนขี้เกียจ” “แก ไอ้คนบ้า ไอ้คนเลว นี่ พวก แกจับฉันมาทำไม”                 ยังไม่ทันจบคำ พาลิณก็ปากกล้าพาด่าออกไปอย่างสุดแค้นทันที ใส่คนใบหน้าที่ดูคมเข้มใต้คาง ที่เต็มไปด้วยหนวดเคราที่ดูรุงรังแถมไว้ผมยาวอีก   และนั่นก็ ทำให้ สาวสวย พยายามที่จะกระถดกายเพื่อถอยหนีการแตะเนื้อต้องตัว แล้วร่างสูงของเขานั้นมองดูหล่อน พร้อมกับคู่ดวงตาที่กราดด้วยสีเพลิงเข้มระยับ “ปากดีนัก แม่คุณ หมดอิสรภาพอย่างนี้แล้ว ยังจะปากดีอีกหรือยังไง” หล่อนกล้าเอ่ยปากโต้ตอบแต่ในใจสั่นเอ่ยด้วย ซุ่มเสียงที่หอบปนเหนื่อย “ที่นี่ที่ไหน” ยอมรับว่าเขาเป็นคนที่สะดุดตาของหล่อน คือจมูกเรียวโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหนา และ เหนือริมฝีปากกลับถูกบดบังไปด้วยหนวดเคราครื้มเข้มนี่ต้องเป็น ภาคใต้  แต่ไม่รู้ว่าจังหวัดไหนพาลิณี อึกอักไม่ชอบใจที่ ถามไปแล้วแต่เขากลับไม่ตอบ  หล่อนเกิดความอึดอัดเมื่อเขาพุ่งดวงตาชิงชัง กราดมาที่หล่อนแล้ว นิ่งเงียบเหมือนคนเป็นใบ้แต่คำพูดของเขาที่ผ่านมาหล่อนฟังได้ชัดเขาพูดไทยภาคกลางชัดเจนทีเดียวไม่มีสำเนียงแปร่งของทางใต้ หล่อนไม่ชอบพูดกับคนใบ้ แต่นี่เขาทำตัวเหมือนคนใบ้  แล้วคนอย่างเขาก็ไม่ใช่ว่าหล่อนนั้นนึกจะอยากเสวนาด้วย แต่หล่อนไม่มีทางต่อสู้ เพราะว่าหล่อนหาทางดิ้นรน เพื่อเอาตัวรอดยิ่งไม่มีแน่ หนทางข้างหน้านั้น พาลิณีไม่รู้เลยว่าอนาคตของหล่อนในเวลานี้นั้นพาลิณีมาตกอยู่ใต้กำมือของใครกันแน่ หล่อนมืดแปดด้านไปหมด “คุณพ่อคุณแม่ขา ช่วยแพมด้วยเถิดค่ะ”  แล้วหล่อนก็คร่ำโอดครวญอยู่ในใจกับชะตากรรมที่ไร้ทิศทาง ใครจะนึกคิดได้ว่า หล่อนจะมาฟื้นตัวและตื่นขึ้นมาอีกครั้งที่นี่ราวกับพบฝันร้ายที่ยิ่งกว่าร้ายในชีวิตเสียอีก และน่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุดกว่าทุกครั้ง แต่นี่เป็นเรื่องจริงเพราะถูกลักพาตัว พาลิณีไม่เคยคิดอย่างนี้สักนิดอย่าว่าแต่คิดเลยแค่คิดก็ไม่เคยด้วยซ้ำ ว่าหล่อนจะมาตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของผู้ชายกักฬระ สันดานดิบคนนี้ พาลิณีกวาดตามองอีกครั้งแววตาดุดันคมเข้มตรงหน้าของหล่อน เขาเป็นผู้ชายร่างสูงที่ไว้ผมค่อนข้างยาว  บริเวณริมฝีปากใต้คางนั้นดูครื้มเข้มปิดบังและเต็มไปด้วยหนวดเคราหนาจนดูเถื่อนไม่ต่างไปจากมหาโจรคิ้วเข้มพาดเป็นปื้นดกดำ  หากฝ่ายบุรุษนั้นเขาได้กวาดสายตามองหล่อนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยสายตาที่บางครั้งบ่งประกายอย่างหนึ่ง คล้ายกับแทะโลมไปที่นวลเนื้อของหล่อนซึ่งหล่อนเดาเอาก็รู้ความหมาย  พาลิณีแอบครุ่นคิด ทำไมสายตาเขามักชอบจ้องมาที่สาบเสื้อของหล่อน ชะโงกมองต่ำลงคนบ้า คนอัปรีย์ผีทะเล พาลิณีนึกแช่งด่าในใจ แม้เขาจะเป็นโจรห้าร้อยก็ตาม แต่ในยามที่หล่อนหวาดกลัวมากต่อสิ่งที่กำลังจะคุกคามใส่หล่อน  เพราะหากฟิวส์ขาด หล่อนก็ซัดเหวี่ยงกราดใส่แบบไม่สนหน้าอินทร์พรหมเหมือนกัน        สีหน้าเขาเหมือนเยาะเย้ยหล่อน   “ไม่ต้องมาทำเป็นปากเก่งหรอก คนสวย” หากแววตาของหล่อนเหมือนคนที่ฝังความอาฆาตไว้ข้างใน   แต่เขาก็ยังเมินเฉย เหมือนไม่สนใจกับท่าทีของหล่อน “เมื่อไร่พวกแกจะปล่อยฉันเสียที นี่อยากรู้นัก พวกแกจับฉันมาเพื่ออะไรกัน ฮึ อยากได้เงินมากใช่ไหม..แล้วฉันจะโทร.ติดต่อพ่อของฉัน ให้เอาเงินมาให้ถ้าปล่อยตัวฉันไป และฉันจะเอามาให้พวกแกทั้งหมดเลยอยากได้เท่าไหร่ ฉันจะให้พ่อเอามาให้” หากหล่อนไม่สิ้นฤทธิ์ เพราะยังโวยวายต่อ  และมีคำตอบจากปากชายหนุ่ม  “ไม่มาก หรอก แค่ หกสิบล้าน” พาลิณี อึ้ง ยิ่งโมโหหนัก  “นี่ค่าตัวฉันมากถึงหกสิบล้านเลยหรือนี่ แกจะเอามาสร้างตึกหรือ ทำศูนย์การค้า ไอ้มหาโจร” “อ้าว ไหนว่า เท่าไหร่ก็ได้นี่ คุณคงรวย” “บ้า แต่ลดลงกว่านี้หน่อยได้ไหม” “ ไม่ได้ หกสิบล้านก็คือหกสิบล้าน” 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม