พริมานั่งตรวจเอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเองอย่างสบายอกสบายใจ ในช่วงสายของวันเป็นช่วงเวลาที่เธอได้พักผ่อน เพราะเจ้านายหนุ่มสุดฮอตไม่สามารถมาก่อกวนเวลาอันสงบสุขของเธอได้ ถึงจะเป็นประธานบริษัทก็ใช่ว่าจะว่างงานหรอกนะ เอกสารมีให้อ่านรอเซ็นอนุมัติเป็นตั้งๆ จะทำแบบขอไปทีก็ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะเกิดข้อผิดพลาดขึ้น
“คุณพรีมคะ วันนี้พนักงานใหม่ฝ่ายประชาสัมพันธ์เข้าทำงานเป็นวันแรก คุณพรีมจะลงไปตรวจดูความเรียบร้อยด้วยตัวเองไหมคะ”
“ไม่ล่ะค่ะ ให้เป็นหน้าที่ของพวกฝ่ายประชาสัมพันธ์ดูแลเองกันดีกว่า พรีมไม่อยากก้าวก่ายทำเกินหน้าที่ตัวเอง”
“เกินอะไรกันล่ะคะ คุณพรีมเป็นเลขาของท่านประธาน การจะรู้เรื่องราวความเป็นไปในบริษัทก็สมควรอยู่”
“ถ้าอย่างนั้นพรีมขอดูประวัติการสมัครของพนักงานใหม่ก็แล้วกันค่ะ ถ้าบังเอิญเจอกันโดยบังเอิญได้รู้ว่าเป็นใคร”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวลลิลไปเอาใบสมัครของเธอมาให้นะคะ”
พริมามองลลิลเดินส่ายสะโพกไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเธอนัก เวลามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นลลิลก็จะรีบเอาข่าวมาบอกจนเธอตามทันเหตุการณ์ภายในบริษัทแห่งนี้ตลอด แถมยังคอยเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลความเรียบร้อยแทนเธอ พอมีตรงไหนผิดปกติไม่ชอบมาพากลก็จะรีบมารายงานทันที
คราวนี้คงเกี่ยวข้องกับพนักงานใหม่ล่ะสิ อาจจะสวยตรงสเปกคุณโยก็ได้
ความจริงเธอก็พอรู้สึกตัวอยู่บ้างว่าพนักงานส่วนใหญ่เชียร์ให้เธอกับท่านประธานคบกัน แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาไม่รู้คือเธอกับท่านประธานมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้ว แถมทุกวันนี้เธอยังแทบจะขนย้ายตัวเองไปพักอาศัยอยู่ในห้องเขา
เป็นความสัมพันธ์ที่ก้าวกระโดดและรุดหน้าไปไกลมาก หากนับดูตั้งแต่วันแรกที่เรารู้จักกัน
คุณโยเป็นผู้ชายประเภทที่เธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยมากที่สุด เพราะสุดท้ายก็จะมีแต่ฝ่ายเธอที่เจ็บช้ำให้กับคนไม่มีหัวใจ สักวันหนึ่งก็คงต้องแยกทาง
ทันทีที่ได้ประวัติกับรูปถ่ายพนักงานใหม่ ลางสังหรณ์ก็บังเกิดขึ้นในใจของพริมา ทั้งหน้าตาสวยเซ็กซี่ ทั้งรูปร่างสะบึมหน้าอกคัพซี นี่มันแบบที่คุณโยชอบเลยนี่ ท่าทางจะไม่ได้มาแค่สมัครทำงานเพียงอย่างเดียวแล้วล่ะมั้ง
“คุณพรีมไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ ลลิลจะช่วยจับตาดูพนักงานใหม่ให้เอง”
“อย่าออกอาการมากไปจนเธอคิดว่าพวกเรากำลังจ้องจับผิดอยู่ เดี๋ยวจะไม่เป็นอันทำงานจนมีปัญหาให้ต้องฟ้องกัน”
“รับทราบค่ะ ลลิลไปทำงานก่อนนะคะ เดี๋ยวท่านประธานออกมาดุ”
พริมาส่ายหน้าพลางอมยิ้มขำ อย่างคุณโยน่ะเหรอจะออกมาดุ รายนั้นพอเข้าห้องได้ก็ไม่ยอมโผล่หน้าออกมาอีกเลย เวลามีประชุมหรือนัดสำคัญก็ต้องเข้าไปรายงาน ถึงจะพาตัวเองโยกย้ายออกมาได้
การทำงานของทุกคนยังคงราบรื่นเหมือนเดิม ถึงจะมีช่วงเวลาเคร่งเครียด แต่ก็ยังมีเสียงพูดคุยเฮฮาและเสียงหัวเราะไม่ได้ดูเงียบเหงาเหมือนบริษัทอื่น เพราะทุกคนทำงานร่วมกันมานานจนรู้จักนิสัยใจคอกันดี หากจะมีอะไรที่ทำให้เสียบรรยากาศก็คงเป็นพนักงานใหม่ที่ช่วงนี้ดูจะเขม่นกับเลขาสาวของท่านประธาน โดยไม่รู้เลยว่าจะนำหายนะมาสู่ตน
เพราะคนที่ไม่ควรแตะต้องมากที่สุดก็คือพริมา มิเช่นนั้นอนาคตในบริษัทนี้จะมืดมน
พริมาไม่ถือสายายซูซี่ที่ตั้งตนเป็นศัตรูกับเธออย่างมั่นหน้าไม่เจียมตัว แต่ถ้ายังล้ำเส้นไม่เลิกเธอจะไม่ปล่อยผ่านไปอีกแล้ว
ซูซี่ชะโงกหน้ามองดูหน้าห้องท่านประธานว่ามีหมาตัวเมียอย่างยายพรีมเฝ้าหวงเจ้านายอยู่หรือเปล่า พอเห็นทางโล่งสะดวกปลอดภัยไร้สุนัขรับใช้คอยเฝ้าก็กรีดยิ้มร้าย ยกมือสางผมจัดชุดเดรสสั้นเหนือเข่ามาเกือบสองคืบให้เข้าที่เข้าทางก็หยิบแฟ้มสีน้ำเงินขึ้นมาถือไว้ เดินกรีดกรายเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธาน
เธอสืบรู้มาว่าคุณโยธินเคยเป็นคาสโนวาตัวพ่อ ความเจ้าชู้เปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้าของเขาดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งบริษัท แต่ช่วงหลังกลับเงียบหายไปเฉยๆ ซะอย่างนั้น แล้วก็เกิดข่าวลือใหม่ขึ้นมาว่ายายพรีมกิ๊กกันอยู่กับท่านประธาน
ยายพรีมนั่นไม่เห็นจะสวยสู้เธอได้เลย ก็คงแค่หลงของใหม่ แต่ตอนนี้น่าจะเริ่มเบื่อแล้ว เพราะฉะนั้นเธอนี่แหละที่จะช่วยให้คุณโยได้กลับมาซู่ซ่าซาบซ่านอีกครั้ง
ร่างสุดสะบึมยั่วยวนเดินนวยนาดเข้ามาในห้องทำให้โยธินเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย ก่อนจะหรี่ตามองหุ่นดินระเบิดที่สั่นสะเทือนจิตใจเขาให้ไหวยวบ เมื่อลากสายตาขึ้นมองใบหน้าสวยเซ็กซี่ของอีกฝ่ายเห็นดวงตาของหญิงสาวมีประกายยั่วยวนปลุกปั่นอารมณ์ เขาก็พอเข้าใจเจตนารมณ์ของเธอ
พรีมคงออกไปทำธุระที่ไหนล่ะมั้ง พนักงานหญิงคนนี้ถึงได้โผล่หน้าเข้ามายั่วสวาทเขาได้
โยธินไม่ได้ห้ามปรามหรือไล่อีกฝ่ายออกไปอย่างที่ควรทำ กลับมองดูว่าสาวสวยเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟันคนนี้จะทำอะไรต่อไป ในใจอดรู้สึกตื่นเต้นและรอคอยไม่ได้ ร่างกายเหมือนจะร้อนผ่าวขึ้นมาเล็กน้อย
ตั้งแต่มีอะไรกับพริมา เขาก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย หนึ่งปีแล้วสินะ
ซูซี่ที่พอเห็นว่าท่านประธานไม่ได้มีท่าทีไม่พอใจหรือไล่ตะเพิดเธอออกไปล่ให้นะก็ทำใจกล้า เยื้องย่างกรายเข้าไปหาชายหนุ่มที่นั่งหลังโต๊ะทำงานวางแฟ้มเอกสารลงแล้วเดินไปหยุดยืนอยู่ข้างหลัง
“ให้ซูซี่นวดไหล่ให้นะคะ” เสียงกระซิบแผ่วหวานเฉียดใกล้ใบหูโยธินนำพาความรู้สึกเสียวซ่านจั๊กจี้มาให้ แต่เพียงครู่เดียวก็คืนสู่ความปกติ
ซูซี่เม้มปากเล็กน้อย ดวงตาเปล่งประกายเจ้าเล่ห์กดหน้าอกหน้าใจไปบดเบียดบ่าหลังของคนร่างสูง สองมือบีบนวดหัวไหล่อย่างเนิบช้าค่อยเป็นค่อยไป โยธินหลับตาลงอย่างพอใจ น้ำหนักมือของผู้หญิงคนนี้กำลังดีเลย ไหนจะหน้าอกนุ่มนิ่มอวบอัดที่นวดอยู่ตรงด้านหลังก็ให้สัมผัสเร้าอารมณ์ไม่หยอก
“ออกแรงอีกหน่อยสิ ฝีมือการนวดของเธอใช้ได้เลย”
ซูซี่พอได้รับคำชมอย่างนั้นก็ตั้งอกตั้งใจนวดต่อไป พอได้ยินเสียงครางต่ำในลำคอก็เลื่อนฝ่ามือมาข้างหน้าลูบวนหน้าอกบึกบึนมีกล้ามๆ แน่นฟิตเปรี๊ยะซ่อนใต้เสื้อสูทตัวหนา เธอกรีดเล็บลงบนยอดอกของเขา ก่อนจะถือวิสาสะปลดกระดุมสูทออก
“ท่านประธานรู้สึกดีขึ้นไหมคะ ซูซี่เห็นสีหน้าท่านประธานดูเหนื่อยๆ ก็เลยอยากนวดให้หายปวดเมื่อย”
“ขอบใจ ฉันกำลังเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวอยู่จริงๆ”
“เดี๋ยวซูซี่จะช่วยให้ท่านประธานหายเหนื่อยเอง”
ลมร้อนเป่ารดต้นคอชายหนุ่ม โยธินไม่หือไม่อือ ปล่อยให้มือซุกซนย่ามใจสัมผัสลูบไล้เนื้อตัวเขาได้ตามใจชอบ ก่อนที่เก้าอี้นวมตัวใหญ่จะถูกหมุนให้หันมาหา ร่างสะโอดสะองดึงรั้งชุดเกาะอกให้ร่นลงมาเผยทรวงอกเต่งตึงเครียดคัด ยอดถันสีชมพูชูชันท้าแอร์เย็นจนขนลุกซู่ สองมือเรียวรูดซิปกางเกงออกกดนิ้วชี้ลูบท่อนเนื้อที่เริ่มตื่นจากหลับใหลใต้อันเดอร์แวร์
ขนาดยังไม่ตื่นตัวเต็มที่ยังแผลงฤทธิ์ได้ขนาดนี้ แล้วถ้าเหยียดขยายจนสุดลำจะมีขนาดใหญ่โตแค่ไหน
แค่คิดดวงตาทั้งสองของซูซี่ก็ลุกวาวด้วยความกระสัน เธอควักท่อนเอ็นยาวขึ้นมารูดรั้งขึ้นลง ใบหน้าสวยยั่วเย้าเงยขึ้นสบตาท่านประธานสุดหล่ออีกครั้ง เห็นสีหน้าอดกลั้นของเขา เธอก็ผุดยิ้มอย่างมีชัย เมื่อบางอย่างในมือพองตัวจนได้ที่ กลีบปากอิ่มสีแดงสวยก็จูบลงบนหัวแดงบานหยัก ตวัดลิ้นเลียจากโคนถึงปลาย ก่อนครอบริมฝีปากดูดดุนพร้อมผงกหัวหัวขึ้นลงเร็วๆ สองมือสาวแท่งเอ็นร้อนลวกเหมือนเหล็กเผาไฟ
กลิ่นกายเซ็กซี่ผสานกลิ่นเหงื่อแบบผู้ชายทำให้เธอยิ่งกระสันอยากได้ตัวเขามากขึ้น
“อ่า...เยี่ยมเลย เร็วอีก” โยธินครางเสียงกระหึ่มยกมือขึ้นกดท้ายทอยผู้หญิงที่นั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า บังคับให้เธอรูดอมท่อนเนื้อของเขาตามจังหวะสาวสะโพกที่เร็วขึ้น