“เขาคงลืมไปหมดแล้วล่ะเอ”
“แล้วถ้าเขายังรักยะหยาอยู่ล่ะ ตอนนี้เขาก็ยังไม่มีใครเลยนะ”
“เอ...รับปากกับยะหยาเรื่องหนึ่งได้มั้ย”
มษยาดึงมือของเพื่อนมากุมไว้และจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีอำพันงดงามคู่นั้น
“เรื่องอะไรล่ะที่อยากให้เอรับปาก”
“เออย่าบอกเหตุผลที่ยะหยาไปจากชีวิตของเขาเมื่อห้าปีที่แล้วนะ ได้โปรด....ยะหยาไม่อยากให้เขารู้ว่าเหตุผลที่ครั้งนั้นยะหยาต้องหันหลังให้เขามันคืออะไร ตอนนี้เขาเป็นถึงท่านประธานมีหน้ามีตาในบริษัท เขาคงไม่นึกถึงผู้หญิงต่ำต้อยคนหนึ่งที่จะดึงชีวิตของเขาลงที่ต่ำเป็นแน่”
เอริณอึ้งไปชั่วขณะ ความคิดของหญิงสาวประหวัดไปเมื่อหลายปีก่อน เวลานั้นเธอสนิทกับมษยามากและรู้เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเพื่อนสนิทกับผู้ชายที่ครั้งนั้นเธอก็แอบรักเขาอยู่เช่นกัน ใช่...เธอแอบหลงรักเคน คลิฟตัน ที่เข้ามาติดพันเพื่อนของเธอ ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขากับมษยาเคยรักกันมากขนาดไหนและไม่มีวันจะเข้าไปแทนที่เพื่อนรักในหัวใจของบุรุษผู้นั้นได้ หากแต่เธอก็ไม่เคยหยุดคิดที่จะรักเขา ผู้ชายงามสง่าที่น่าหลงใหล เคนมีเสน่ห์ล้นเหลือแม้เขาจะไม่เคยแสดงออกว่าเป็นเจ้าชู้ และเธอก็มีความสุขเล็ก ๆ กับการได้แอบรักเขากระทั่งวันหนึ่งที่มษยาตัดสินใจหันหลังให้ลูกชายคนเดียวของตระกูลมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งลำดับต้นของอเมริกาก่อนเขาจะเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศด้วยเหตุผลที่ว่า
“ฉันไม่อยากเป็นตัวถ่วงเขานะเอ พอรู้ว่าเคนกำลังจะไปเรียนต่อฉันก็รู้แล้วว่าเรื่องของเราควรสิ้นสุดกันแค่นี้ ฉันควรปล่อยเขาไป ให้เขาได้มีชีวิตที่ดีกว่าการมาจมปลักอยู่กับผู้หญิงต่ำต้อยอย่างฉัน เขาจะมีอนาคตที่ดี ฉันไม่รู้ว่าจะพูดยังไง ฉันก็เจ็บปวดนะเอ แต่ทำยังไงได้ในเมื่อเราแตกต่างกันขนาดนี้ และที่สำคัญนี่จะเป็นการช่วยต่อลมหายใจของแม่ ท่านขอร้องว่าให้ฉันหยุดความสัมพันธ์กับเขา แม่กลัวว่าฉันจะผิดหวังและถ้าหากฉันผิดหวังแม่ก็จะเจ็บปวดยิ่งกว่าฉันหลายเท่า แม่คงทนไม่ไหวเพราะตอนนี้แม่กำลังไม่สบาย และสิ่งที่ดีที่สุดก็คือการทำตามความต้องการของแม่ทุกอย่าง”
“แล้วยะหยาจะทนเจ็บปวดที่ต้องจากกคนที่ตัวเองรักได้อย่างนั้นเหรอ?”
“ยะหยาทนได้...ทนได้ทุกอย่าง ถ้ามันจะเป็นความสบายใจของแม่ ถ้ามันจะทำให้แม่หายป่วย ถึงต้องเฉือนหัวใจตัวเองออกเป็นชิ้น ๆ ยะหยาก็จะทำ”
คำบอกเล่าถึงเหตุผลสำคัญของการหลีกห่างจากคนรักของเพื่อนสนิทดังก้องในหูของเอริณ และทำให้เธอคิดไปถึงคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของคนอีกคน
“เรื่องที่แม่บอกว่าแม่ป่วยเป็นโรคหัวใจนั่นก็แค่เรื่องโกหก...แต่เอต้องเก็บเรื่องนี้ไว้อย่าให้ยะหยารู้เป็นอันขาด แม่บอกเอเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนที่ยะหยาไว้วางใจมากที่สุดและอยากให้เข้าใจว่าที่แม่ทำไปเพราะมีเหตุผล เคนพยายามขอพบยะหยาแต่แม่ไล่เขาไป แม่โกหกว่ายะหยากำลังคบกับผู้ชายคนใหม่ แม่จำเป็นต้องกีดกันความรักของลูกกับผู้ชายคนนั้นเพราะแม่เคยผิดหวังมาก่อน เอรู้ใช่มั้ยว่ายะหยาไม่มีพ่อ มันเป็นความผิดของแม่เองที่เคยหลงรักคนรวย แม่คิดว่าเขาจะรับผิดชอบแต่แล้วเขาก็ทอดทิ้งแม่กับยะหยาไว้เพียงลำพัง แม่ไม่อยากให้ลูกของแม่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดอย่างนั้น ยอมให้เขาเจ็บวันนี้ดีกว่าจะต้องมานั่งเสียใจเหมือนอย่างแม่ คนมีเงินไม่มีวันที่เขาจะจริงใจกับคนที่ไม่มีอะไรอย่างเรา”
เอริณรับฟังความเจ็บปวดของแม่ลูกที่ต่างมาระบายกับเธอและเธอก็ได้แต่เก็บงำสิ่งเหล่านั้นเอาไว้แม้จะเห็นว่าเคนทุกข์ใจอย่างมากก่อนเดินทางออกจากสหรัฐเพื่อไปเรียนต่อและได้ยินประโยคสุดท้ายของผู้ชายคนนั้น
“ผมจะไม่ลืมว่าญาญ่าทำอะไรไว้กับผมบ้าง”
หญิงสาวไม่รู้ว่านั่นเป็นคำตัดพ้อหรือการคาดโทษไว้ด้วยความเกลียดชัง แต่มีอะไรบางอย่างบอกเธอในการมาพบกันครั้งนี้ว่า เคนไม่ได้รู้สึกกับมษยาเหมือนเดิมอีกต่อไป
“ยะหยาอย่ากังวลไปเลยนะ” เอริณจับมือเพื่อนรักเอาไว้แน่น “เอจะไม่บอกเรื่องนี้กับเคนอย่างเด็ดขาด เขาจะไม่รู้ว่าทำไมยะหยาถึงต้องไปจากเขา”
“ขอบคุณมาก...เอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของยะหยา”
มษยากอดเพื่อนของเธอและเผลอร้องไห้ออกมาก่อนจะรีบปาดน้ำตาเมื่อนึกได้ว่าถึงเวลาที่ต้องกลับไปแผนก หญิงสาวผละจากเพื่อนของเธอพร้อมพูดว่า
“เอ...ขอบคุณมากนะ แต่ตอนนี้ยะหยาคงต้องรีบกลับไปพบคุณโดโรธีก่อน เธอเป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคลที่รับยะหยาเข้าทำงาน”
“ตามสบายเลยนะ ดูสิ...ตาแดงหมดละ รีบเช็ดน้ำตาและทำทุกอย่างเป็นปกติ เอสัญญาว่าจะรักษาความลับของเพื่อไว้อย่างดี”
“ขอบคุณมากนะเอ...ขอบคุณมาก”
มษยาดึงมือเพื่อนรักมาจับไว้แน่นก่อนปล่อยให้เป็นอิสระและเดินกลับไปยังลิฟท์ เอริณมองตามด้วยแววตาที่ฉายประกายกล้าขึ้น เธอรำพึงกับตัวเองเบา ๆ
“จ้ะ...ยะหยาเพื่อนรัก...เอจะเก็บเรื่องของยะหยาไว้อย่างดี ไม่ต้องห่วงหรอกนะ เคนจะไม่มีวันรู้เรื่องนี้อย่างเด็ดขาด”