เสียงทุ้มหวานและลมหายใจอุ่นเป่ารดลงบนข้างแก้มของมษยา เธออบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน ราวกับโลกกำลังหมุนกลับ อดีตระหว่างเธอกับเขาย้อนคืนมาอีกหน หญิงสาวหลับตาลงและรำลึกถึงช่วงเวลาอันงดงามเหล่านั้น เธอลืมตาขึ้นอีกครั้งเมื่อเขาจับตัวเธอหมุนกลับไปเผชิญหน้ากับเขา มษยาเงยหน้าเพื่อจ้องมองเคนชัดเจนอีกหน เขาโน้มใบหน้าลงมาหา ปลายจมูกของเขาชนปลายจมูกเล็กของหญิงสาว เขาทำราวไม่ยี่หระต่อสายตาของพนักงานในร้าน ทำราวกับว่าในห้วงเวลานี้มีพียงเขาและเธอแค่สองคน
“ญาญ่า...มันเป็นอย่างนั้นใช่มั้ย...เป็นอย่างที่ผมพูดใช่มั้ย”
เรียวปากอิ่มฉ่ำสั่นระริก เธออยากตอบรับใจจะขาดแต่กลัวเหลือเกินว่าเมื่อเธอเปิดเผยความในใจออกไปแล้วทุกอย่างอาจไม่เหมือนเดิม กลัวเหลือเกินว่าเคนอาจคิดว่าเธอแก้ตัวหลังจากทำให้เขาพลาดหวัง และเมื่อเป็นเช่นนั้นทุกอย่างจึงถูกกดเก็บลงไปในส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจที่ไม่อาจเฉลยความนัยทั้งหมดที่มีได้
“ค่ะ...เคน...ฉันยังเหมือนเดิม”
“ผมดีใจที่ได้ยินคุณพูดแบบนี้”
เสียงกระซิบแผ่วแทรกลึกเข้าไปในสำนึกไหวยวบของมษยาก่อนที่เจ้าของเสียงทุ้มนุ่มจะเลื่อนใบหน้าออก เคนขยับลำตัวสูงใหญ่ห่างจากร่างเล็กก่อนจูงมือเรียวบางพาหญิงสาวกลับไปที่รถด้วยท่าทีสุขุมเยือกเย็นทว่ากลับทิ้งอะไรบางอย่างไว้มากมายสำหรับหัวใจบอบบางที่ไหวสะท้านยามอยู่ใกล้เขาในทุกวินาที แม้อดีตไม่อาจหวนกลับแต่เธอก็ปรารถนาเหลือเกินที่จะรั้งเวลาไว้เพื่อให้เห็นหน้าและได้ยินเสียงของเขานานที่สุด
“บ้านของคุณยังเหมือนเดิมนะญาญ่า ดูสิ...ขนาดผมไม่ได้มาที่นี่หลายปีแต่ก็ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปเลย”
เคนกล่าวขึ้นหลังจากที่เขาพามษยากลับมายังบ้านหลังเล็กของเธอใกล้เขตที่พักอันหรูหราของมหาเศรษฐีในเบล แอร์ ซึ่งหญิงสาวรู้ดีว่าบ้านของเขาก็อยู่ห่างไปจากที่นี่ไม่มากนัก หากแต่ฐานะระหว่างเธอกับเขานั้นเทียบกันไม่ได้เลยเพราะเธออาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กที่อยู่ท่ามกลางบ้านหลังใหญ่หรูหราของพวกมหาเศรษฐี และบ้านหลังนี้ก็มาจากเงินที่แม่ของมษยาได้รับเป็นก้อนสุดท้ายจากผู้ชายซึ่งไม่เคยเปิดเผยเลยว่าใครคือผู้ให้กำเนิดชีวิตของเธอ หญิงสาวก้มหน้าเพื่อเก็บความขมขื่นไว้ในใจ
“มันก็แค่บ้านหลังเล็กเท่านั้นค่ะเคน เมื่อก่อนเป็นยังไงเดี๋ยวนี้ก็เป็นอย่างนั้น...”
หญิงสาวกล่าวไม่ทันจบประโยคก็ต้องตระหนกจนเกือบลืมหายใจเมื่อร่างสูงใหญ่ดึงร่างของเธอเข้าไปในอ้อมกอดของเขา เคนก้มหน้าลงต่ำจนริมฝีปากอยู่เกือบชิดกับปากของเธอแค่คืบ
“บ้านเล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญหรอกญาญ่า มันสำคัญที่ว่าคุณอยู่อย่างมีความสุขหรือเปล่า”
“เคน...”
หญิงสาวครางชื่อนั้นออกมาอย่างลืมตัว ลมหายใจผ่าวร้อนของเขาเป่ารดลงบนแก้มของหญิงสาวและหลอมละลายจิตสำนึกเบื้องบนจนทำให้เธอลืมสิ่งที่ต้องเตือนตัวเองไว้เสมอว่าตอนนี้เขาและเธอแตกต่างด้วยสถานะที่ห่างกันลิบ
“เคนคะ...”
มษยาคิดว่าเธอจะผละห่างแต่ชายหนุ่มกลับโอบแขนแกร่งบนไหล่บางและดันร่างน้อยเข้าไปชิดอกกว้างซึ่งเธอได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นชัดเจน มันเป็นสัมผัสแห่งความใกล้ชิดที่กำลังปลุกเร้าความรู้สึกในอดีตให้หวนกลับมาอีกครั้ง จะทำเช่นไรดี...มษยาถามตัวเองอย่างสับสนว่าจะทำเช่นไรดีในเมื่อเธอไม่เคยลืมเขาได้แม้แต่วินาทีเดียว
“ญาญ่า” เสียงทุ้มห้าวนั้นเบานักทว่าก็หนักแน่นเหลือเกิน “ทำไมคุณตัวสั่นแบบนี้ จำไม่ได้แล้วหรือว่าครั้งหนึ่งเราเคยอยู่ด้วยกันอย่างนี้”
“แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อนนี่คะ...เคนคะ...ได้โปรด...”
“ผมให้คุณร้องขอ”
“คะ?”
“ร้องขอให้ผม...จูบคุณ”
หญิงสาวอ้าปากเพื่อจะปฏิเสธหากก็ช้าเกินไปเพราะริมฝีปากหยักหนาได้รูปประกบปิดลงบนกลีบปากนุ่มระริกสั่นจนแน่นและเก็บกลืนเสียงประท้วงแสนเบาหวิวของหญิงสาวเข้าไปในลำคอของเขาจนสิ้น มษยาตระหนกต่อการจู่โจมอันแสนละมุนนั้น ปลายลิ้นของเคนนุ่มเบาราวขนนก มันไล้เลียดไปทั่วอุ้งปากหวานฉ่ำของหญิงสาวที่อ้าค้างและไม่อาจปฏิเสธจุมพิตที่ชายหนุ่มจุ่มจ้วงสัมผัสซึ่งครั้งหนึ่งเธอเคยโหยหา ลิ้นหนาตวัดพลิ้วและไม่ยอมหยุดแทรกซอนเพื่อค้นหาความหอมละมุนเย้ายวนในปากอิ่มสวย
มษยาสำลักลมหายใจตัวเองเมื่อเคนถอนลิ้นออกจากปากของเธออย่างเชื่องช้าและยังคงอ้อยอิ่งอยู่บนกลีบปากบอบบางราวกลีบกุหลาบสีชมพูราวกับว่าเขายังไม่อยากให้เวลาระหว่างเธอกับเขาสิ้นสุดลงเพียงแค่นี้ หญิงสาวปรือตามองใบหน้าคร้ามเข้มและเมื่อได้เห็นเงาสะท้อนในดวงตาของบุรุษที่เธอเคยรักและหลงใหลเขานักหนาราวกับมีบางอย่างกำซาบจากแววตาอ่อนโยนลึกเข้าไปถึงใต้บึ้งอันอ่อนไหว
ร่างเล็กรีบหรุบตามองต่ำเมื่อรู้สึกว่ามีน้ำรื้นขึ้นมาเต็มขอบจตาแดงก่ำขณะชายหนุ่มประสานมือของเธอไว้ในมือของเขาแล้วประทับรอยจุมพิตบนหลังมือบางเบา ๆ ก่อนกระซิบเสียงพร่า
“ญาญ่า...ถ้าคุณยังจำจูบของผมได้”
“เคนคะ...”