ชายหนุ่มผลักบานประตูเข้าห้องมาอย่างเงียบๆ แม้รู้ดีว่าไร้ร่างเนียนนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงนอนของเขาแล้วก็ตาม คานันเสยผมรองทรงของตนที่เริ่มยาวลงมาปรกหน้าอย่างเคยชิน พลางถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ไม่ใช่ภาระการงานที่แทบจะล้นมือหรอกที่ทำให้เขาเบื่อ แต่เพราะการนอนคนเดียวเป็นเวลานานต่างหากที่เพิ่มความเงียบเหงาในใจ ความจริงเขาควรจะเคยชินแล้วใช่ไหม? ทำไมมันยังไม่ชินอีกเล่า? แล้วทำไมเขาไม่หาผู้หญิงสักคนมาเคียงข้าง? ผู้หญิงคนเดียวหาไม่ยากหรอก
แต่คนที่ทำให้จิตใจเขาหวั่นไหวได้นี่ซิไม่รู้จะไม่หาที่ไหน
“นึกว่าจะทิ้งโน้ตไว้บ้างซะอีก” คานันพึมพำกับตัวเองพลางปลดเนกไทออกโยนไว้ที่โซฟาก่อนจะรินบรั่นดีให้ตนเอง แล้วมานั่งที่เก้าอี้ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ ยามค่ำคืน
ชายหนุ่มแห่งดินแดนทะเลทรายทราบจากพนักงานโรงแรมว่าเปรมวดีกลับไปตั้งแต่บ่ายโมงเศษเขาเองก็ไม่คิดว่าเธอจะกลับบ้านไหวเพราะเห็นอาการแย่มากขนาดนั้น
แต่การประชุมยืดเยื้อเกินกว่าจะปลีกตัวกลับมาให้เร็วอย่างใจคิดได้
อาจเป็นเพราะเขาไม่มีใครที่สนิทมากพอที่จะพูดคุยด้วยทุกครั้งที่มาเมืองไทยก็จะมีแต่เรื่องงานและงานเท่านั้น มือใหญ่ยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มหวังละลายม่านหมอกบางๆ ในใจ
แต่ราวกับว่าปรั่นดีชั้นเยี่ยมจะไม่ได้ช่วยอะไรได้เลย ในสมองของเขากลับปรากฏรอยยิ้มสดใสและกิริยารื่นเริงของเปรมวดี เขาจำได้ดีในวันที่เขาขับรถไปรับหญิงสาวที่สนามบิน เปรมวดีมาในฐานะเพื่อนเจ้าสาว เพราะความอ่อนเพลียทำให้เปรมวดีหลับใหลในรถ เขาแทบกลั้นใจอยู่นาน เมื่อเห็นริมฝีปากอิ่มเผยอขึ้นเล็กน้อยอย่างเย้ายวน หากดวงตากลมโตคู่นั้นไม่กะพริบตาขึ้นมาก่อน เขาคงได้ลิ้มลองความหวานช่ำจากเรียวปากเธอไปแล้ว
เวลาช่วงสั้นที่หญิงสาวมาบาฮาเนียนั้น เขาไม่ได้อยู่ดูแลเธอเหมือนเมื่อครั้งแรกที่เธอมาเยือน เพราะต้องจัดการงานต่างๆ แทนท่านราเฟย์ที่เตรียมตัวไปฮันนีมูน แต่เขาก็จดจำความสดใสราวกับดอกไม้ที่เบ่งบานท่ามกลางแสงตะวันที่แผดแสงแรงกล้าของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี และในขณะเดียวกันก็แสนซุกซนราวเด็กน้อย
คานันสะดุ้งเมื่อโทรศัพท์มือถือเครื่องบางเฉียบสั่นในอกเสื้อ เขาเห็นหมายเลขปลายทางที่คุ้นเคยแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ แม้อีกฝ่ายจะเป็นองค์รัชทายาท อะ! ไม่ซิ ตอนนี้เป็นกษัตริย์แล้ว แต่ความเป็นเพื่อนที่มีมายาวนานก็ทำให้บ่อยครั้งที่พูดคุยกันโดยไม่มีการแบ่งชนชั้น
“หลับหรือเปล่าคะ คุณคานัน”
“คุณอารยา...” คานันออกจะแปลกใจที่ได้ยินเสียงพระชายา “กระหม่อมยังมิได้หลับพระเจ้าข้า”
“ขอโทษที่มารบกวนนะคะ” ปลายสายเอ่ยอย่างเกรงใจเพราะเธอเอาโทรศัพท์ของราเฟย์มาใช้ “คือฉันขอยืมโทรศัพท์ราเฟย์มาใช้ค่ะ ถ้าใช้เบอร์อื่นกลัวคุณไม่รับสาย”
“กระหม่อมนมิกล้าทำเช่นนั้นกับพระชายาหรอกพระเจ้าข้า ต้องการใช้อะไรกระหม่อมหรือ?” คานันกลั้นหัวเราะในความขี้เกรงใจของเจ้านายคนที่สองของเขา
“ฉันฝากผ้าไหมบาฮาเนียนพับใหญ่มาให้แป๋มทางเครื่องบิน คุณคานันช่วยเอาไปให้เพื่อนฉันหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้พระเจ้าข้า ไม่ทราบว่าผ้าส่งมากับเครื่องบินลำไหน”
“ฉันส่งรายละเอียดไปให้ทางอีเมล์แล้วมีที่อยู่ยัยแป๋มด้วยคือ...มันเป็นเรื่องส่วนตัวฉันเลยไม่รู้จะไหว้วานใครนะค่ะ”
“พระชายาไม่ต้องเกรงใจกระหม่อมหรอกพระเจ้าข้า” คานันหัวเราะ “กระหม่อมยังต้องเคลียร์งานในเมืองไทยอีกสองสามวันจึงจะเรียบร้อย ถ้าอย่างไรเสร็จงานของท่านราเฟย์แล้วกระหม่อมจะจัดการนำของผ้าไปให้คุณแป๋มเอง”
“ขอบใจมาก ฮืม...เดี๋ยวฉันจะลองขอราเฟย์ให้เธอหยุดพักร้อนเที่ยวเมืองไทยดีไหม” อารยาหัวเราะคิกคัก
“การได้อยู่ไกลๆ ท่านราเฟย์ก็เหมือนกับกระหม่อมได้พักร้อนอยู่แล้วพระเจ้าข้า” เขาหัวเราะออกมาบ้าง เอ...จะบอกพระชายาดีไหมว่าเขาเพิ่งเจอคุณเปรมวดีเหมือนกัน?
“โอเค. ฉันไม่รบกวนคุณแล้ว ขอบคุณที่เป็นธุระให้นะ”
“รักษาพระวรกายด้วยพระเจ้าข้า”
“จ๊ะ”
ปลายทางตัดสัญญาณไปแล้วคานันจึงเก็บโทรศัพท์เครื่องบางเฉียบไว้ที่เดิม เขาเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานแล้วเปิดโน้ตบุ๊กเพื่อเช็คอีเมล์ตามคำสั่งใหม่ แต่นอกเหนือจากอีเมล์ของคุณอารยาแล้วยังมีอีเมล์งานโครงการใหม่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชิ้น สายตาของเขาไล่อ่านข้อความอย่างคราวๆ คิ้วหนาก็ขมวดกันยุ่ง
งานนี้ไม่รู้โชคชะตาเล่นตลกหรือว่ากามเทพแผลงศรเข้าให้แล้วนะ
โศรดา ดารา-นางแบบสาวสวยชาวไทย ถอดแว่นกันแดดสีดำสนิทออกทันทีเมื่อก้าวเข้าไปนั่งในรถที่มาจอดรอรับที่สนามบินเรียบร้อยแล้ว เธอได้แต่ถอนหายใจหนักๆ และรู้สึกหงุดหงิดที่ต้องสวมแว่นดำตั้งแต่ขึ้นเครื่องบินที่ฮ่องกงจนมาถึงเมืองไทย แม้การเดินทางจะไม่นานนักแต่สำหรับคนที่ ‘หนีหนี้’ ย่อมยาวนาน
“เพราะไอ้เสี่ยสกลแท้ๆ ที่ทำให้ฉันหมดตัวขนาดนี้” โศรดาสบถหยาบคายอีกหลายคำซึ่งเป็นสิ่งไม่คาดคิดว่านางแบบที่ได้ชื่อว่า ‘แอ๊บแบ๊ว’ ที่สุดในวงการจะพูดจาน่ากลัวแบบนี้
โศรดาเข้าวงการมายามาตั้งแต่ห้าปีที่แล้ว แต่เพราะมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์ราวกับเด็กสาวทำให้เธอยังคงเป็นที่นิยมของวัยรุ่นอยู่
แต่ในระยะหลังที่มีดาราหน้าใหม่เข้าวงการมากขึ้นแทบทุกวันจนนางเอกเบอร์หนึ่งแทบไม่มีงานเข้ายกเว้นก็แต่งานเกมโชว์หรืองานโชว์ตัวซึ่งก็น้อยลงทุกที แต่ที่แย่กว่านั้นผีพนันได้เข้าสิงสถิตในร่างนางแบบสาว จากที่ไม่มีเงินเก็บเพราะหมดไปกับการซื้อเสื้อผ้าและเครื่องสำอางก็กลายเป็นหมดตัวเพราะการพนัน
มือเรียวที่ทาเล็บสีแดงสดหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าสะพาย เธอกดหาเบอร์อดีตผู้จัดการส่วนตัวอย่างไม่มีทางเลือกมากนัก เธอจะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าเงินในกระเป๋าเกลี้ยงแล้วและที่สำคัญจะให้ใครรู้ว่าอดีตดาวรุ่งพุ่งแรงกำลังจะกลายเป็นดาวร่วงในไม้ช้า
“พี่เป็ดเหรอคะ น้องรดาเองนะคะ” หญิงสาวกรอกเสียงหวานทั้งที่ทำหน้าแหย พี่เป็ดเป็นกระเทยร่างยักษ์แต่ใจเล็กเท่ามด
“ว่าไงยัยโศ”
“โธ่! พี่เป็ดขาอย่างเรียกน้องรดาแบบนั้นซิคะมันไม่เพราะเลย”
“ฉันว่ามันเหมาะกับหล่อนมากกว่านะยะยัยโศ-โสโครก!”
“พี่เป็ด!” โศรดากรี๊ดออกมาจนคนขับรถตกใจแทบเสียการควบคุม “น้องเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือนะคะ”
“ฉันรู้แล้วยะ! คนอย่างหล่อนไม่เดือดร้อนไม่มาหาฉันหรอก”
“รู้แล้วก็หาทางช่วยหน่อยซิคะ” ถ้าไม่ติดว่าเดือดร้อนจะไม่มีวันพูดดีด้วยหรอก
“มีแต่ถ่ายนู้ดเอามั้ย”
“ชุดว่ายน้ำแบบคราวที่แล้วไม่ได้เหรอคะ”
“ต๊าย!ตายหล่อนเข้าวงการมากี่ปียังจะถ่ายชุดว่ายน้ำแบบแอ๊บแบ๊วอีกเหรอยะ” ปลายสายกรีดเสียงดูถูก “เดี๋ยวนี้เด็กใหม่เข้าแทบจะถ่ายโป๊กันอยู่แล้วนะยะ”
“งั้นเป็นชุดว่ายน้ำแบบวาบหวิวเซ็กซี่ได้ไหม” โศรดาต่อรองเธอเองก็รู้ดีว่าทางเลือกเธอไม่มีมากนัก
“มันต้องเซ็กส์จัดเลยละยะ”
“แล้วมีอย่างอื่นให้เลือกอีกไหม”
“ถ้าไม่ถ่ายนู้ดทำปฏิทินโป๊หรือนางเอกหนังเอ็กซ์ไม่ก็เป็นเมียเก็บไงยะหล่อน มีเงินเดือนไม่ต้องทำอะไรเลย”
“นี่ดีที่สุดแล้วเหรอคะพี่เป็ด”
“ยะ...หล่อนจะเอาไงก็ว่ามา เย็นนี้ฉันต้องส่งคนกินข้าวกับคุณจาตุรงค์ด้วยนะ”
“คุณจาตุรงค์ที่เป็นเจ้าของบริษัททำเข้ารถยุโรปนะเหรอเจ๊”
“ฮืม...คนนั้นแหละ หล่อนจะมาไหม ตานี่แกเป็นโรคคลั่งคนสวยคนดังแค่ได้นั่งกินข้าวควงไปไหนมาไหนให้ปาปารัชซี่แอบถ่ายรูปแล้วมีความสุขอ่ะ”
“เคยได้ยินเหมือนกัน” โศรดาครุ่นคิด เอาเถอะแค่ไปกินข้าวก็ได้ค่าเสียเวลานิดหน่อย ถ้าถูกแอบถ่ายก็บอกนักข่าวว่าเป็นเพื่อนไปก็จบ เรื่องถ่ายนู้ดหรือเมียเก็บเสี่ยขอเป็นตัวเลือกลำดับสุดท้ายดีแล้วกัน
“กี่โมงคะเจ๊”
“ห้าโมงเย็นถ้าหล่อนจะมาล่ะก็คุณจาตุรงค์จะส่งคนไปรับที่คอนโด”
“ได้ค่ะเจ๊ งานนี้ขอหนูละกัน”
“เจ๊ก็ขอสามสิบเปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม
“ได้ค่ะ” ยัยเค็ม! โศรดาว่าในใจก่อนจะวางหูโทรศัพท์ ชีวิตวงการบันเทิงที่เริ่มริบหรี่คงไม่มีทางเลือกให้เธอมากนัก
เมื่อกลับถึงคอนโดใจกลางเมืองหญิงสาวรีบแช่น้ำอุ่นเพิ่มความกระชุ่มกระช่วยจัดการชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อนพรหมด้วยน้ำหอมจนฟุ้งแล้วเลือกหยิบชุดเดรสเกาะอกสีดำเข้ารูปมาสวมใส่
แม้จะเป็นกระโปรงยาวแต่ก็ฝ่าข้างจนเห็นเรียวขาสวย โศรดาออกจะแปลกใจที่นัดครั้งนี้เริ่มต้นที่ห้าโมงเย็นเพราะทุกครั้งที่มีงานแบบนี้มันจะนัดเอาหลังสามทุ่ม
แต่หลังจากที่เธอโดนปาปารัชซี่แอบถ่ายพร้อมเขียนขาวเสียๆ หายๆ ทำให้เธอต้องแกล้งบีบน้ำตาไปหลายหยดกว่าข่าวจะเงียบได้ก็แสนเหนื่อยใจ มันทำให้ครั้งต่อๆ มาเธอต้องเลือกคนที่จะไป ‘กินข้าว’ ด้วยไม่อย่างนั้นภาพพจน์ที่แทบจะไม่มีจะยิ่งดูเลวร้ายลงกว่าเก่า
เสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้นสองสามครั้งมือเรียวก็ยกหูขึ้นรับ หญิงสาวรับคำเบาๆ เมื่อรู้ว่าคนขับรถของคุณจาตุรงค์ได้มารออยู่ด้านล่างแล้ว เธอหยิบผ้าคลุมไหล่สีเงินขึ้นคลุมไหล่เนียนมองใบหน้าสวยของตนที่ฉาบเครื่องสำอางครบสูตรแล้วต้องสูดลมหายใจลึกๆ เรียกกำลังใจให้ตนเองก่อนที่จะก้าวออกไปในจุดหมายของเย็นนี้
การเจรจาการค้าจบลงด้วยดีและรวดเร็วจนคานันแปลกใจ ทั้งที่เมื่อวานกลับล่าช้าจนเป็นกังวน แต่งานในวันนี้ที่คิดว่าจะยุ่งยากกลับรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ
“ทานอาหารด้วยกันก่อนซิครับคุณคานัน อาหารที่โรงแรมนี้อร่อยมาก”
จาตุรงค์เอ่ยปากชวนหลังออกมาจากห้องประชุมที่ใช้ในโรงแรมหรูกลางกรุง ใบหน้าอวบอูมทั้งที่อายุเพียงสี่สิบทำให้เขาดูราวกับคนอายุห้าสิบกว่า แต่การเจรจาคนผู้รวมลงทุนในบริษัทของเขาลุลวงไปด้วยดีทำให้เขาอารมณ์ดีกว่าปกติ
“ไม่เป็นไรครับ” คานันยิ้มบางๆ เขาเหนื่อยกับการอยู่ในโรงแรมแบบนี้มากกว่าเหนื่อยจากเรื่องงาน
“แหม! คุณคานัน ขอให้ผมเลี้ยงอาหารคุณหน่อยเถอะ”จาตุรงค์ไม่พูดเปล่าแต่กลับดึงแขนของคานันให้เดินตามเข้ามาในลิฟต์ด้วยกัน
คานันปรายตามองมืออูมที่จับแขนของเขาอยู่ เขาไม่ชอบให้ใครมาถึงเนื้อถึงตัวเขาแบบนี้ แต่ก็พอเข้าใจนิสัยคนไทยเป็นอย่างดีจึงได้แต่ทำเฉย เอาเถอะ! กินพอเป็นพิธีแล้วค่อยแอบย่องออกไปก็ได้
จาตุรงค์พาคานันเข้าในห้องเศษที่เขาสั่งทางโรงแรมไว้ โต๊ะอาหารริมที่ถูกจัดอยู่ริมสระน้ำให้บรรยากาศโล่งโปร่งสบาย เขาอารมณ์ดีจนไม่ทันสังเกตว่าคานันเริ่มขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ ‘นี่เขากำลังลงทุนกับคนประเภทไหนกันนะ!’
“คุณโศรดาขอบคุณที่ให้เกียรติมาทานข้าวกับผม” จาตุรงค์ยิ้มแล้วยกมือเรียวของนางแบบสาวขึ้นแนบริมฝีปากของตน เขาแทบจะอดใจไม่ไหวสูดกลิ่นหอมละมุนจากมือของนางแบบสาว
“รดาต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายของคุณคุณจาตุรงค์” โศรดาโปรยยิ้มหวานหยาดเยิ้มแต่หัวใจหญิงสาวต้องกระตุกวูบเมื่อสบตาคมของหนุ่มอาหรับที่ยืนข้างๆ จาตุรงค์ เพราะร่างนั้นช่างในชุดสูทสุดเรียบหรูนั้นสูงใหญ่และกำยำจนทำให้เธออยากจะระทดระทวยในอ้อมกอดของเขา
“นั่น...เพื่อนคุณหรือคะคุณจตุรงค์”
“อ้อ!หุ้นส่วนคนใหม่ของผมท่านเป็นชีคจากประเทศบาฮาเนียท่านชื่อคานัน”
“สวัสดีค่ะดิฉันโศรดา...เอ๊ะ!พูดไทยได้ไหมคะ”
“สวัสดีครับ” คานันยื่นมือไปสัมผัสมือหญิงสาวที่ยื่นออกมาด้วยท่าทางเชิญชวน
“ตายจริง!พูดไทยชัดเชียว” โศรดาหัวเราะคิดคักเออยากจะกำจัดจาตุรงค์ให้พ้นสายตาเพื่อที่จะได้ทอดกายให้หนุ่มอาหรับสุดหล่อคนนี้ เอ๊ะ! ได้ยินว่าเป็นถึงชีค ก็ต้องรวยนะซิ!
“ผมเชิญคุณคานันมาทานอาหารกับเราด้วยคุณโศรดาคงไม่ว่านะครับ”
“ไม่ค่ะ ด้วยความยินดี รดาสนใจประเทศในแถบทะเลทรายที่เร่าร้อนอยู่แล้ว”
โศรดาใช้สายตายั่วยวนอีกฝ่ายและขยับขาขึ้นไขว้จนทำกระโปรงยาวที่คลุมต้นขาแหวกออกเผยขาขาวเนียนน่าหลงใหลแต่หารู้ไม่ว่ากลับทำให้จาตุรงค์เข้าใจผิดว่าโศรดาเป็นฝ่ายให้ท่าเขา
“วันนี้คงไม่สะดวกครับ เพราะผมมีธุระสำคัญที่ต้องรีบไปจัดการ” คานันปฏิเสธด้วยรอยยิ้มไม่ได้รู้สึกอะไรกับกิริยาเชิญชวนของอีกฝ่าย
“ได้ไงละครับคุณคานัน”
“ต้องขอโทษจริงๆ ครับธุระสำคัญจากเจ้าเหนือหัวผมขัดไมได้ เอาไว้โอกาสหน้าดีกว่าครับ ผมต้องขอตัวก่อน”
เขากล่าวลาคนทั้งสองแล้วเร่งเท้าเดินออกมา เมื่อพ้นห้องพิเศษแล้วคานันต้องรีบหยิบโทรศัพท์เครื่องบางเฉียบสั่งการกับเลขาให้ตรวจสอบข้อมูลในเชิงลึกของจาตุรงค์เสียแล้ว
โศรดาเสียดายอย่างสุดแสน เธอไม่อยากอยู่ใกล้ผู้ชายที่เต็มไปด้วยไขมันอย่างนี้เลย ถ้าหากเป็นผู้ชายอย่างท่านชีคคานัน เธอจะยอมพลีกายบูชาเขาด้วยชีวิตเลยทีเดียวผู้ชายอะไรทั้งรวยและหล่อขนาดใส่เสื้อสูทแม้จะอยู่ในท่าทีเย็นชาเธอยังรู้สึกได้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่เร่าร้อน แค่จินตนาการถึงเขาร่างกายของเธอก็ร้อนฉ่าขึ้นมาทันที
“อุ๊ย!คุณจาตุรงค์” โศรดาสะดุ้งเมื่อถูกวงแขนใหญ่รวบร่างเข้าไปกอดและสูดกลิ่นหอมตรงซอกคออย่างแรง เธอผลักออกด้วยจริตมารยาทั้งที่ในใจอยากจะผลักเจ้าหมูอ้วนนี่ตกน้ำให้รู้แล้วรู้รอดไป
“ผมเห็นแววตาที่เร่าร้อนของคุณนะให้ผมช่วยดับให้เถอะ” เขาพูดลางใช้มืออีกข้างลูบต้นขาที่โผล่พ้นเนื้อผ้า
“แหม! คุณจาตุรงค์พูดแบบนี้ได้ไงรดาเป็นผู้หญิงนะคะ”
‘ฉันไม่ได้มาขายตัวให้แกนะเจ้าหมูตอน!’
“ขอโทษครับคุณรดา แต่ผมอดใจไม่ไหวจริงๆ” เขาพยายามจะโน้มหน้าเข้ามาจูบเรียวปากที่ฉาบสีแดงสดชวนหลงใหลแต่หญิงสาวพลิกตัวหลบได้ทัน
“คุณทำแบบนี้ไม่ให้เกียรติดาเลยนี่คะ ถ้าคุณจริงใจกับรดาจริงก็ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ รดาไม่หนีไปไหนเสียหน่อย”
“โอ้!คุณรดาพูดจริงหรือครับ” ดวงตาเรียวเล็กเบิกกว้างอย่างตื่นเต้น เขาหันซ้ายแลขวารอบตัวแล้วมองหยิบกุญแจรถเก๋งของตนมาวางบนฝ่ามือของโศรดา “ผมไม่ได้เตรียมของขวัญมาให้คุณเลย เอารถของผมไปใช้ก่อนดีไหมครับ ได้ยินว่ารถของคุณรดาอยู่ที่อู่”
โศรดายิ้มหวานเยิ้มขึ้นมาในทันที รถของเธออยู่ที่เต็นท์ขายรถต่างหากไม่ได้อยู่ที่อู่หรอก
แต่ช่างเถอะ! เริ่มต้นครั้งแรกได้แค่นี้ก็คุ้มอยู่ แต่ท่าสำคัญกว่าเธอต้องใช้จาตุรงค์เป็นสะพานเชื่อมไปหาท่านชีคคานันให้ได้ยังไงเธอจะไม่ยอมมีชีวิตจมปรักอยู่กับความลำบากแบบนี้แน่ๆ.