เอริค ซาวันเดอร์ & คริสตี้ เลอนาร์ด
‘เช้าวันเสาร์ ที่เหมือนกับทุกเสาร์ของคริสตี้’
กริ๊งงงงงงง คริสตี้หยิบสมุดจดพร้อมปากกาเพื่อเดินเข้าไปรับ ออร์เดอร์ เมื่อเสียงกริ่งประตูแจ้งเตือนให้รู้ว่ามีลูกค้า
“สวัสดียามเช้าค่ะ...เช้านี้รับอะ...ไร...ดีคะ!!!” คริสตี้ที่กล่าวทักทายลูกค้าที่นั่งที่โต๊ะว่างแล้ว เมื่อเธอละสายตาจากสมุดสำหรับจด มองหน้าลูกค้า คริสตี้กลายเป็นคนติดอ่างทันที เมื่อเช้าวันเสาร์ในร้านอาหารของคนรายได้ระดับต่ำจนถัดขึ้นไปถึงระดับกลางจะเข้ามาใช้บริการ แต่ลูกค้าใหม่ตรงหน้าเธอหนึ่งในสองเขาคือ เอริค ซาวันเดอร์ ที่มองหน้าเธอพร้อม รอยยิ้มเล็กๆที่แสดงให้เห็นถึงความเย้ยหยัน
“ช่วยแนะนำหน่อยสิ” เอริคตอบกลับด้วยท่าทางสบายๆ
“ค่ะ...สองที่รับเหมือนกันเลยมั้ยคะ ชุดฟูร์คอร์ดมื้อเช้า ตามภาพนี้เลยค่ะ” คริสตี้พยายามข่มความสั่นเทาของมือและใจ ที่ตอนนี้เธอควบคุมมันไม่ได้ เอริคยิ้มเมื่อเห็นอาการตื่นกลัวของคริสตี้ ดี!เพราะเขาต้องการให้เธอเป็นแบบนั้น สำหรับเขาแล้ว เขาไม่เคยปล่อยให้ใครที่เข้ามาล้วงคอแล้ว จะมีความสุขต่อไปได้ง่ายๆ
คริสตี้รีบเดินออกมาจากโต๊ะ เพื่อมาส่งออร์เดอร์ทันทีเมื่อเอริครับเมนูตามคำเสนอของเธอ
“คริสตี้ เป็นอะไรนะ?” พ่อครัวถามเธอเมื่อเห็นว่าเธอมีท่าทางเปลี่ยนไป ดูเหมือนเธอตื่นกลัวอย่างชัดเจน
“ปะ...เปล่าๆค่ะ” คริสตี้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักลมหายใจขาดช่วง คริสตี้นั่งลงบนเก้าอี้สองมือประสานกันบีบมือตัวเองอย่างกระวนกระวาย “บังเอิญ มันเป็นเรื่องบังเอิญ เขาคงไม่รู้อะไรทั้งนั้น” คริสตี้พึมพำเบาๆ เหงื่อแตกพรั่ก เพราะเธอร้อนตัวจริงๆ กลัว เธอกลัวผู้ชายคนนี้ เอริค ซาวันเดอร์ เขาทำให้เธอตื่นกลัวเพียงแค่สายตาที่เขามองเธอ
คริสตี้ อยากหนีออกไปจากร้านตอนนี้เลย เธอคงจะทำได้ ถ้าทั้งร้านไม่ได้มีเธอเป็นพนักงานเสิร์ฟและต้อนรับเพียงคนเดียว เธอต้องเอากาแฟไปเสิร์ฟลูกค้ามาใหม่ทั้งสองได้แล้ว คริสตี้สูดอากาศเข้าปอดอย่างต้องการเรียกกำลังใจให้กับตัวเอง และย้ำบอกตัวเองว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ
เอริค ทอดสายตามองคริสตี้อีกครั้ง เมื่อเธอออกมาโดยที่ในมือมีถาดที่ใส่กาแฟร้อนเดินมายังทิศทางโต๊ะของเขา คริสตี้หลบเลี่ยงที่จะสบสายตากับเอริค และพยายามขยับขาให้เดินไปข้างหน้า
“กาแฟค่ะ” คริสตี้เอ่ยออกมา พร้อมกับที่รีบยกทุกอย่างในถาดวางบนโต๊ะของลูกค้าทั้งสอง คริสตี้รีบเอาถาดไปเก็บไว้หลังท็อปสูง เมื่อมีลูกค้าใหม่เข้ามา เธอทำตามปกติทุกอย่าง โดยที่เธอพยายามสลัดความรู้สึกที่ถูกจับตามองทุกอิริยาบถอยู่ตอนนี้ ช่วงเวลาเพียงสี่สิบนาทีที่เอริคเป็นลูกค้าของร้านอาหารเช้า คริสตี้รู้สึกดั่งกับโลกกำลังบีบอัดกำจัดพื้นที่ระหว่างเขากับเธอให้แคบลงเรื่อยๆ กว่าจะถึงช่วงเวลาก*********นและการแยกห่างออกไปของลูกค้ากิตติมศักดิ์ ก็ทำให้คริสตี้อยู่ไม่เป็นสุข เธอเกือบจะเทกาแฟรดใส่ลูกค้าอยู่หลายครั้ง แล้วต่อจากนั้นเธอก็ต้องเจอกับรอยยิ้มขบขำของเขา เอริค ซาวันเดอร์ ที่เขาคอยแต่จะมองเธอ ไม่มีหลบหรือแอบมองเลย เขามองเธอตรงๆ แบบไม่ปิดบัง แต่ไม่ใช่สายตาของผู้ชายที่มองผู้หญิง ตามความคิดของเธอ เพราะคนอย่างเอริคไม่มีทางจะมองเธอแบบนั้น...
คริสตี้เร่งฝีเท้าเมื่อตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงวัน เธอกำลังเดินกลับห้องเช่าเมื่องานที่ร้านอาหารเช้าปิดแล้วนั้นเอง
“ปัง!” คริสตี้ปิดประตูห้องเช่าทันทีที่เธอเข้ามาในห้อง พร้อมล็อค ลงกลอนประตูทุกอันที่มีอยู่ ดีน ยังไม่กลับมา หลังจากที่เขาออกไปตั้งแต่เมื่อคืน ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคริสตี้ เพราะตลอดเวลาดีนมักจะเป็นแบบนี้ตลอด ยามที่เขาออกไปทำงานนานสุดคือแปดวันกว่าเขาจะกลับมา ดีน เป็นพนักงานรับจ้างก่อสร้างทั่วๆไป บางครั้งเขาก็ไปทำงานต่างเมืองนานหลายวัน แต่เมื่อถึงวันหยุดเขาก็จะกลับมาหาเธอ พาเธอไปกินอาหารดีๆสักมื้อเมื่อเขาได้รับค่าแรง บางครั้งเขาก็จะมีรองเท้า เสื้อผ้าชุดใหม่ให้เธอบ้างแล้วแต่โอกาส สำหรับเธอแล้วดีนแค่ไม่กำลังเงินมากมาย แต่กำลังน้ำใจที่เขามีต่อเธอมากมาย เป็นโชคดีของเธอที่ดีนเมตตาและช่วยเหลือเธอไว้
คริสตี้สลัดเรื่องบังเอิญในตอนเช้าทิ้งไป เธอกลับเข้าห้องนอนของ ตัวเองเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวใหม่ เพราะเธอต้องเข้าไปทำงานเป็นพนักงานขายสินค้าในห้างสรรพสินค้าตั้งแต่บ่ายสองไปถึงสี่ทุ่ม คริสตี้เดินเข้าห้องน้ำโดยที่เธอไม่รู้เลยว่าในห้องเช่าแห่งนี้ไม่ได้มีเธอเพียงลำพัง เอริค เดินออกมาจากห้องขนาดเล็กไม่ต่างกัน คือห้องนอนของ ดีน เลอร์นาร์ด ห้องนี้ก็สะอาดแต่ไม่มีกลิ่นหอมเหมือนกับอีกห้องที่ตอนนี้เจ้าของห้องอยู่ในห้องน้ำ เอริคมองห้องนอนของคริสตี้ เตียงขนาดเล็กที่เพียงพอแค่เจ้าของเตียง ผ้าปูที่นอนสีเหลืองสะอาดตาเรียบตึงอย่างสวยงาม เอริคเปิดตู้เสื้อผ้าที่มีเสื้อผ้าแขวนอยู่เพียงไม่กี่ตัว เอริคดึงผ้าพันคอผืนเล็กที่แขวนไว้อยู่หลายผืนติดมือมา และเขาก็ดึงเนคไทของตัวเองออกมาเพื่อการกระทำบางอย่างที่เขาจะจัดการกับหญิงสาวที่กำลังอาบน้ำ
คริสตี้พันตัวด้วยผ้าขนหนูที่ปกปิดร่างกายเธอได้เป็นอย่างดี เธอเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อไปยังตู้เสื้อผ้า
“อ๊ะ!!!”
“ถ้าไม่อยากตาย อยู่เฉยๆ หุบปากและหลับตาซะ” คริสตี้ เนื้อตัวสั่นเทาเมื่อเธอถูกจู่โจมจากด้านหลัง เธอไม่มีโอกาสได้ร้องขอความช่วยเหลือด้วยซ้ำ เมื่อมือใหญ่โอบรอบคอมาปิดปากเธอและรัดร่างเธอแนบกับแผ่นอกกว้าง
เอริคยิ้มออกมา เมื่อคริสตี้น่าจะช็อคกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เพราะเธอยืนนิ่งทั้งๆที่สั่นเทาไปทั้งตัวด้วยความกลัว ผิวกายเธอเย็นเพราะเธอพึ่งจะอาบน้ำเสร็จ ร่างกายเธอยังมีหยดน้ำเกาะอยู่มากมาย หอม คริสตี้หอมสดชื่นจากกลิ่นสบู่อาบน้ำ คริสตี้หลับตาลงตามคำสั่งนั้น เพราะเธออาจจะรอดตายจากเหตุการณ์นี้ถ้าเธอไม่เห็นหน้าและชี้ตัวคนบุกรุกไม่ได้
เอริคเอาเนคไทปิดดวงตาเธอ เมื่อคริสตี้ยืนนิ่งสองมือของเธอโอบรัดตัวเองไว้เพื่อไม่ให้ผ้าขนหนูที่เธอพันร่างกายต้องหลุดล่วงไป เอริคขยับมายืนตรงหน้าเธอ ที่ถูกปิดดวงตา เขาเอาผ้าพันคอของเธอมาพันข้อมือเธอไว้ คริสตี้ขัดขืนเมื่อเธอถูกรั้งข้อมือที่เธอโอบตัวเองไว้ แต่เอริคครางเสียงในคอเป็นการเตือนเธอ
คริสตี้ขนลุกซู่ เมื่อเธอรับรู้สึกถึงลมหายใจของผู้บุกรุกได้ และเธอก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าผู้บุกรุกมีกลิ่นหอมจากเสื้อผ้าและโคโลญจน์ที่บ่งบอกถึงผู้ใช้มีรสนิยมและกลิ่นนี้ก็มีลักษณะเฉพาะตัว แน่ล่ะเธอต้องรู้แน่นอนเมื่อเธอเป็นพนักงานขายในช็อปน้ำหอมและโคโลญจน์ชั้นนำของห้างสรรพสินค้า
“ได้โปรด อย่าทำอะไรฉันเลย” คริสตี้ร้องออกมา เมื่อเธอถูกดึงให้ไปที่เตียงนอนของตัวเองทั้งๆที่เธอโดนปิดตา มัดมือไว้ ปากเธอยังว่างอยู่ เอริคมอง คริสตี้ที่ตอนนี้เธอกำลังตื่นกลัวสุดๆ และนั้นคือสิ่งที่เขาต้องการ สั่งสอนให้เธอหวาดกลัวรับกรรมกับสิ่งที่ตัวเองทำ ทั้งๆที่หน้าที่นี่เอริค ซาวันเดอร์ ไม่มีความจำเป็นต้องทำด้วยตัวเองเลย แต่ก็ไม่รู้ทำไมว่า ถึงอยากเป็นคนจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง สั่งสอนผู้หญิงคนนี้ คริสตี้ เลอนาร์ด
เอริครู้ดีว่าคริสตี้ทำเพียงแค่ถ่ายภาพห้องทำงานเขา เธอไม่ได้ข้อมูลสำคัญอะไรไป นั้นคงต้องขอบคุณโนอาห์ที่พัฒนาอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมา และเอามาติดตั้งในห้องทำงานเขาเมื่อสามเดือนก่อน อย่าว่าแต่คริสตี้เลย แม้แต่นักโจรกรรมข้อมูลมืออาชีพก็ไม่สามารถใช้อุปกรณ์ดาวน์โหลดข้อมูลไม่ว่าจะทันสมัยแค่ไหนในห้องทำงานเขาได้ และในทางตรงกันข้ามถ้ามีเครื่องมือที่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลเข้าใกล้อุปกรณ์ดักจับสัญญาณในระยะยี่สิบเมตร อุปกรณ์ตัวนั้นจะส่งสัญญาณให้เขารู้ทันทีและดักจับสัญญาณติดตามสัญญาณอุปกรณ์นั้นได้ในรัศมีพันไมล์เลยทีเดียว และนั้นทำให้เขารู้ว่าคริสตี้พักที่ไหนเมื่อเธอถือโทรศัพท์เครื่องนั้นกลับมาบ้าน แต่สัญญาณหายไปเมื่อคืนนี้ นั้นคงเกิดจากการปิดเครื่องแต่ถ้าเครื่องถูกเปิดอีกครั้งในรัศมีพันไมล์เขาก็จะรู้ว่าเครื่องนี้อยู่ที่ไหน แน่นอนตอนนี้มันไม่อยู่ในห้องนี้แล้ว และนั้นเขาต้องขอบคุณโนอาห์ เบนเน็ตอีกครั้ง ที่พัฒนาเครื่องมือเหล่านี้ขึ้นมา แน่นอนไม่มีขายตามท้องตลาด เพราะมันมีไว้สำหรับพวกเขาเท่านั้น เทคโนโลยีหลายอย่างถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นมาโดยตระกูลเบนเน็ต โนอาห์หนุ่มน้อยหน้าหวานที่หว่านเสน่ห์ไปทั่ว มีแต่คนภายในครอบครัวเท่านั้นที่รู้ว่าโนอาห์มีความสามารถในการประดิษฐและคิดค้นอุปกรณ์ไฮเทคเหล่านี้
ขุนพลตระกูลนี้มีความสามารถเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป และแน่นอนไม่เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันคือความเหี้ยมโหดต่อผู้ที่เป็นศัตรูของพวกเขา คริสตี้เองก็เช่นกันเธอกล้าทำในสิ่งที่ไม่มีใครกล้าทำ เธอจะได้รับบทลงโทษอย่างที่เธอเองไม่รู้ตัวเลยว่าต้องเจอกับอะไรในอีกไม่กี่นาทีนี้
“ฮืออออ...ไม่นะ!!...” คริสตี้ร้องเสียงดังออกมา เมื่อเธอถูกผลักล้มตัวลงนอนบนเตียงนอนของตัวเอง
“มันสายไปแล้ว...เธอต้องได้รับบทลงโทษที่เธอเองจะไม่มีวันลืม ในสิ่งที่เธอกล้าทำ” เอริค ทาบทับร่างบางที่ดิ้นรนหาอิสระ แต่เธอไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ เมื่อมีมือแข็งแรงมาปิดปากเธอไว้ คริสตี้ยิ่งดิ้นปมผ้าขนหนูก็เหมือนจะหลุดออก คริสตี้น้ำตาไหลออกมาทั้งๆที่เธอยังถูกปิดตาอยู่ จนเนคไทเปียกชื้นไปด้วยน้ำตาของเธอ แต่นั้นก็ไม่ทำให้เอริคล้มเลิกสิ่งที่จะทำ เขาดึงข้อมือของคริสตี้ไว้เหนือศีรษะและผูกมันไว้กับซี่เหล็กที่หัวเตียง และต่อจากนั้นเอริคหยิบห่อพลาสติกเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋ากางเกงและเอาไปใกล้มือเล็กให้เธอสัมผัสมันว่ามันคืออะไร