ถึงเเม้จะอยู่ในร่างของเอลเดนที่อายุ 12 ปีเเต่วิญญาณข้างในก็คือเขา นับเงิน ชายหนุ่มวัย 26 ตัวเขาเชื่อมันว่าตัวเองจะไม่ทำตัวติงต๊องเด็ดขาด เเต่เรื่องบางเรื่องก็คงไม่เป็นไร
"ผมอยากได้อียอร์" ผมคุยกับระบบ ตุ๊กตาลาสีฟ้าตัวใหญ่อยู่ในตู้กระจกหางของมันผูกด้วยโบว์สีชมพู
น่ารักมาก
ระบบบอก "ซื้อสิ"
"ผมไม่มีเงิน"
ระบบ "น่าสงสารจริง" มันคิดว่าจะช่วยโฮสต์ของมันยังไง มันพูด "ขอคุณพ่อของนายดูสิ"
อเล็กซ์กับผมหลังจากทานมื้อกลางวันเป็นอาหารญี่ปุ่นของร้านร้านหนึ่งที่อยู่ชั้นบนสุดของห้างที่รสชาติอร่อยมากเเล้ว พวกเราก็ลงมาชั้นล่างเพื่อเดินเล่นกัน ผมเดินดูนั่นดูนี่อย่างตระการตา ทุกอย่างที่นี่ไม่มีอะไรเหมือนโลกเดิมของผม ห้างก็ดูแปลกตาเหมือนมาเดินห้างที่พึ่งสร้างใหม่ในสยาม ร้านต่างๆก็มีโลโก้ที่ไม่รู้จัก ในขณะที่คุณพ่อของผมเดินเข้าไปในร้านร้านหนึ่ง ผมเผลอปล่อยมือที่จับกับเขาออก ให้จนเขาเดินเข้าไปในร้านก่อน
ที่สะดุดตาผมคือร้านข้างๆ
ร้านนี้ขายอียอร์
หัวใจของผมเต้นเร็วขึ้น เมื่อนึกถึงการ์ตูนแสนสนุกที่ดูเมื่อเช้า ผมก็รู้สึกรักอียอร์ที่สุด
"ทำไมถึงมีอียอร์ในโลกนี้" ผมถาม
ระบบ "มันก็คงได้รับวัฒนธรรมกันบ้าง"
ผมร้อง'อ้อ'ให้หนึ่งที
พอคิดถึงอเล็กซ์ ผมบอกกับระบบ"เราพึ่งรู้จักกันแค่วันเดียวเอง" ความจริงนับเวลาเจอกันก็ไม่ถึงวันด้วยซ้ำ ถึงจะเป็นลูกของเขาสิบสองปีแล้วแต่นั่นเอลเดนนี่ ตัวผมพึ่งเข้ามาเองนะ
"เขาไม่น่าให้" ผมพูดเสริม "ในห้องเอลเดนไม่มีของเล่นสักชิ้นเดียว"
ระบบ"ลองขอก่อนไหม"
" ไม่" ผมปฏิเสธ
ระบบ"ในคู่มือการเป็นลูกชายที่น่ารักมันบอกว่าขอได้นะ"
" ไม่เอาอะ" เห๋อ... เขาอายุตั้งเท่าไหร่แล้วมันเลยวัยที่จะให้พ่อซื้อของเล่นให้แล้วมั้ย
ระบบกำลังหาเหตุผลว่าทำไมโฮสต์ของมันเมื่อวานยอมทำตามแต่วันนี้ไม่ยอมทำตาม ระบบลืมคิดถึงศักดิ์ศรีที่ค้ำคอโฮสต์มันไว้ มันไม่เข้าใจหรอกนะ
"ผมจะเก็บตังเอง!! " ผมพูดอย่างแน่วแน่
ระบบคิด'นายลืมหรือเปล่าว่าพ่อนายรวยมาก ทำไมลูกของเขาต้องซื้อของเล่นเอง' มันไม่ได้พูดออกไป
อเล็กซ์ออกมาจากร้านที่เขาเข้าไปก่อนหน้าแล้ว เขาไม่ได้ซื้ออะไรเพราะผมไม่เห็นเขาถืออะไรออกมา เขากลับมาจูงมือผมเดินดูร้านอื่นต่อ
พอผ่านร้านเครปที่ตกเเต่งขนมเป็นหน้าสัตว์ต่างๆ จู่ๆ เขาก็ถามว่าอยากกินไหม ผมพยักหน้างงๆ เครปที่ใส่ไอศกรีมรสสตรอว์เบอร์รี่หน้าคุณกระต่ายก็มาอยู่ในมือผมแล้ว
โอ้ น่ารักมาก ผมมองมันอย่างชื่นชม ผมยื่นมันตรงหน้าเขาและถามเขา "แด๊ดกินไหม"
เขามองมันอย่างเฉยเมยและบอกว่าไม่ชอบของหวาน
เมื่อเขาไม่กินผมก็จัดการกับเจ้ากระต่ายน้อยจนหมด
พอช่วงบ่ายสามโมงกว่าเราก็กลับบ้าน ตอนกลับระหว่างทางผมคุ้นคิดวิธีที่สามารถหาเงินเพื่อซื้ออียอร์มาเป็นของผม
พอถึงบ้านผมลงจากรถ พ่อบ้านยืนรออยู่ก่อนแล้ว อเล็กซ์บอกให้เขาช่วยยกของหลังรถ ผมมองอย่างสงสัย เมื่อท้ายรถเปิดออกก็เห็นถุงมากมาย
เอ๊ะ? เขาไปซื้อตอนไหนอะ
แล้วผมก็คิด อ้อ... ที่เขาไม่หิ้วออกมาเพราะให้พนักงานไปส่งที่รถหรอ
"เอาไปไว้ที่ห้องของเขา" อเล็กซ์พูด
เขานี่คือใคร?
ระบบกระซิบ "ของโฮสต์นั่นแหละ"
ผมร้อง "ห๊ะ"
ระบบ "บางร้านเขาเดินเข้าไปเป็นร้านเสื้อผ้าเด็กอะ ตอนนายยืนมองของเล่น"
ผม"อ่อ...ไม่รู้ตัวเลย"
เฮ้อ... โฮสต์บ้าได้มองอะไรบ้างมั้ยเนี่ย!
ของเกือบสิบกว่าถุงถูกยกไปไว้ในห้องของผม ส่วนใหญ่ของที่อยู่หลังรถล้วนเป็นของของผมทั้งหมด คุณป้าแม่บ้านเข้ามาช่วยจัดแจงเก็บให้เข้าที่ เธอชมว่าเสื้อผ้าเหล่านี้น่ารักมาก มันมีทั้งเสื้อ กางเกง รองเท้า บางตัวเป็นสีขาว สีน้ำตาลไม่ก็สีอ่อนๆ ที่ดูสุภาพ
" มันเหมาะกับคุณหนูมากเลยค่ะ" เธอพูด
ผมพยักหน้าเห็นด้วย
ผมคุยกับระบบ"ทำไมเขาซื้อของให้ผม"
ระบบ "ก็นายเป็นลูก เขาก็ต้องซื้อให้อยู่แล้วมั้ย?"
ผม "ผมว่าผมต้องไปขอบคุณเขาสักหน่อย"
ระบบบอก "ดีๆ"
ในระหว่างนี้มันอยู่กับความรู้สึกปลื้มปริ่มกับพัฒนาการของโฮสต์พอๆ กับคุณป้าแม่บ้าน เธอก็ดีใจอย่างมาก
มื้อเย็นวันนี้อาหารถูกจัดเต็มโต๊ะเป็นพิเศษ ทั้งที่ทานกันอยู่แค่สองคน ซึ่งทุกอย่างน่ากินหมดเพราะป้าจันทร์เป็นคนทำ อาหารบนโต๊ะจะเป็นอาหารตะวันตก พวกสเต๊ก สปาเกตตี ไก่อบและก็อื่นๆ ที่เรียกไม่ถูก
แน่นอน ตัวเขาคนนี้ชอบกินสเต๊ก ผมมองจานกระดูกซี่โครงตาวาววับเมื่อมันเลื่อนมาตรงหน้า
นี่เป็นมื้อที่สามที่ผมนั่งกินข้าวกับอเล็กซ์ วันนี้เขาอยู่กับผมทั้งวันจริงๆ
ผมทำตามที่ระบบสั่งสอนตามคู่มือการเป็นลูกชายที่น่ารัก ผมหั่นชิ้นเนื้อพอดีคำและวางบนจานของเขา
"แด๊ดกินเยอะๆ นะ" ผมบอก อีกฝ่ายมองเขาเล็กน้อยและกินมันอย่างว่าง่าย
ผมรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนน่ากลัวอย่างที่คิด แน่นอนเขางดงามเหมือนเทพบุตร ไม่ใช่คนช่างพูดแต่ผมก็รู้สึกว่าเขาค่อนข้างใจดี
บางทีถ้าผมทำตัวเป็นเด็กดีเขาคงไม่ฆ่าผมหรอก
ผมถือโอกาสขอบคุณเขาที่ซื้อของให้ มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อยเเละถามว่าชอบหรือเปล่า
"ชอบครับ หนูชอบ" ผมยิ้มหน้าบาน ของฟรีใครๆ ก็ชอบอะเนาะ...
"ก็ดี" อเล็กซ์ตอบ
ระบบบอกว่าตอนผมยิ้มเหมือนมีฟิลเตอร์ดอกไม้ผุดกลางอากาศด้วย
เค้ารู้ตัวเเหละว่าน่ารัก ฮิฮิ
หลังจากกินข้าวเสร็จ นั่งเล่นที่ห้องนั่งเล่นสักพัก ผมก็เดินกลับห้องโดยมีอเล็กซ์เดินตามอยู่ข้างหลัง เมื่อเดินขึ้นบันไดขึ้นมาผมมองไปทางห้องตัวเองมองเลยไปที่ห้องของอเล็กซ์ มันมีถุงใหญ่ๆ วางอยู่บนพื้นหน้าห้องของเขา เป็นถุงสีชมพูเด่นสะดุดตา
ผมพยายามจ้องว่ามันคืออะไรจนเดินเข้าไปใกล้ๆ เห็นปลายผ้าสีฟ้าสองข้างห้อยเลยถุงออกมา ด้วยความสงสัย ผมเลยถือวิสาสะหยิบมันออกมาซะเลย
มันคือตุ๊กตาอียอร์
'โอ้ โอ้ โอ้' ผมร้องในใจ อยู่ๆ หัวใจก็ฟูฟ่อง ตอนผมยืนมองที่หน้าตู้กระจก อเล็กซ์เห็นด้วยหรอ
ผมนั่งยองๆอยู่ จึงหมุนตัวหันหลังไปถามเขา ปรากฏว่าผมปะทะกับใบหน้าอันหล่อเหลาในระยะกระชั้นชิด เขาโค้งตัวลงมา เเขนยาวยื่นผ่านใบหน้าของผมไป เขาหยิบตัวอียอร์ไปเเละยืดตัวตรงเหมือนเดิม
"แด๊ด... อียอร์อะ..." ยังไม่ทันถามให้ครบประโยค เสียงทุ้มก็แทรกออกมาก่อน
"อันนี้ของฉัน" อเล็กซ์พูด
ผมชะงัก เผลอทำหน้าเหวอด้วยความไม่เข้าใจออกมา
เดี๋ยว มันไม่ถูกต้อง
อเล็กซ์! คุณเอาอียอร์ไปทำไม
"ดะ แด๊ด" ผมยื่นมือจะคว้ามันจากเขาแต่ อเล็กซ์ไม่ยอมเขาชูเจ้าลาน้อยสูงขึ้น คนที่เตี้ยเลี่ยดินอย่างผมมองเจ้าอียอร์น้อยตาละห้อย
" ทำไมอะ..." ผมแหงนหน้าถามเขาเสียงเศร้า
"ก็มันคือของฉันไง" เขาทวนซ้ำ
จิตใจผมเหลวแหลกเหลวเป๋ว ใจที่ฟูฟ่องก่อนหน้าดันแฟบลงทันที
"ถ้าอยากเล่นก็มาเล่นในห้องนี้" อเล็กซ์พูด เสียงของเขาจริงจังมาก ว่าจะไม่ยอมผมง่ายๆ
อะ...อียอร์ ผมร้องในใจ
เขาว่าพลางเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องเเละโยนเจ้าอียอร์น้อยไปบนเตียงของเขา ผมไม่มีเวลาใส่ใจว่าห้องของเขาเป็นยังไง ผมรู้สึกโกรธเเละรีบเดินออกมา
อเล็กซ์พึงพอใจเมื่อเห็นเด็กชายมองเขาด้วยแววตาวาววับ ใบหน้าน้อยเเดงระเรือด้วยความกรุ่นโกรธ เขากัดริมฝีปากอย่างง้องอน ภายในดวงตาเจือความเศร้าสร้อย ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่ล่อมล่อ
จนเขาอยากรังแก
อีกฝ่ายวิ่งออกจากห้องไปแล้ว เมื่อตอนเย็นยังเห็นร่าเริงอยู่ แต่ก็มาโกรธเขาเพราะตุ๊กตาตัวเดียว
เขาเชื่อว่าเด็กคนนี้จะไม่โกรธเขานาน เมื่อนึกถึงตอนที่เด็กชายมองตุ๊กตาตัวนี้อย่างเหม่อลอยจนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ดูก็รู้ว่าอยากได้มันมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ยอมเอ่ยขอกับเขาตรงๆ
ถ้าแค่ขอมีหรือเขาจะไม่ซื้อให้ คงต้องฝึกเด็กให้หัดอ้อนวอนกันบ้าง
ก็ใช่ว่าเขาไม่ให้ 'มัน' แต่แค่ให้ย้ายมาเล่นที่ห้องนี้ต่างหาก
อเล็กซ์ถอดเสื้อนอกของเขาออกและพาดมันกับพนักเก้าอี้ เขามองไปที่ก้อนสีฟ้าบนเตียง
ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มหยั่งลึก
ถึงไม่เจอกันนานแต่เขาก็จำนิสัยของเด็กคนนั้นได้ เด็กชายที่เอาแต่มองเขาด้วยสีหน้าหวาดกลัวคนนั้น
เหมือนจะแปลกไปอย่างสิ้นเชิง
ตั้งแต่เจอกันที่ห้องหนังสือเขาดู 'ใคร่รู้' และทำตัว'ให้น่าสนใจขึ้น' แต่ก็ไม่น่ารำคาญจนตัวเขาต้องสนใจจริงๆ
เอลเดนไม่เคยเรียกเขาว่า'แด๊ด' เเละไม่เคยแทนตัวว่า 'หนู'
แต่คราวนี้กลับเรียกได้คล่องปากซ้ำยังออดอ้อนจนน่ามันเขี้ยว
ชายหนุ่มผลุบตาลงมองแหวนที่สวมไว้บนนิ้วนางข้างซ้าย ลายสลักรูปตัว A ของแหวนยังชัดเจน แหวนวงนี้ไม่ได้มีมูลค่าอะไร มันเป็นแค่แหวนเงินธรรมดาๆ วงหนึ่ง
เขาหลับตาลงเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งความลังเลและความสับสนก็หายไป เหลือเพียงความเย็นชาที่แสนเยือกเย็น
เมื่อเด็กชายเอลเดนกลับถึงห้อง ระบบก็อดปลอบไม่ได้
ระบบ "ไม่เป็นไรน่า ถ้าฉันมีเงินฉันจะซื้อให้นายห้าตัวเลย"
ผม "อืม... "
ระบบเล่นมุกฝืดๆ "ถึงตัวเป็นเด็กแต่สมองเป็นผู้ใหญ่ ชื่อของเขาคือ...โฮสต์!"
ผม "..."
ระบบ "แหะๆ"
ผมนอนฟุบบนที่นอน "ทำไมผมรู้สึกอยากได้มันมาก" เมื่อคิดแบบนี้ผมก็หน้าแดงก่ำ ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะโกรธแต่เป็นเพราะอาย
"เลยวัยที่จะเล่นตุ๊กตาแล้ว" ผมพูด
ระบบ "มันก็ต้องมีของที่อยากได้บ้าง ไม่ว่าวัยไหนๆ"
ผมถาม "ผมดูบ้าหรือเปล่า"
ระบบตะโกน "นายไม่บ้า แต่นายน่ารักมาก! "
ผมนิ่งคิดและพูดจากใจจริง "ขอบใจนะ"
ระบบ" อืมๆ " เห็นมั้ยโฮสต์ของมันน่ารักมาก
ผม" บางทีผมก็ไม่ได้อยากได้ขนาดนั้น"
ระบบ" เอาน่า ไปเล่นห้องพ่อนายก็ไม่เสียหายตรงไหน"
ผมมองไปที่ตู้เสื้อผ้าที่ภายในมีของที่เขาซื้อให้จนเกือบเต็มตู้ เขาซื้อของให้ผมขนาดนี้ ผมโกรธเขาลงได้ยังไง
"ทำไมต้องเป็นอียอร์นะ" ผมพึมพำ
ผม "หรือเขาก็ชอบอียอร์?"
ระบบ"ไม่รู้สิ" มันอยากค้าน คนอย่างอเล็กซ์น่ะหรอจะชอบ
ผมพยายามนึกภาพอเล็กซ์ที่นอนกอดตุ๊กตาลาสีฟ้า พอนึกภาพได้ผมก็เผลอยิ้มขำเเละหัวเราะ
คิดดูดีๆ เขาอาจจะชอบก็ได้
แล้วอย่างงี้ไม่เหมือนว่าผมไปแย่งของของอีกฝ่ายหรือ?
เมื่อนึกถึงหน้าของอเล็กซ์ที่ดูจริงจังมาก ผมก็รู้สึกว่าตัวเองทำพลาดซะแล้ว
ผม "ผมนี่โง่จริงๆ เลย!"
ระบบ "???" โฮสต์เป็นอะไรอีกแล้ว
"ผมต้องไปขอโทษเขาล่ะ ในฐานะผู้ใหญ่ผมเป็นเด็กไม่ดีซะแล้ว" ความรู้สึกผิดตีตื้นขึ้นมาในอก ผมลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกไป
"นายน่าจะอาบน้ำก่อน" ระบบห้ามไว้
ผมหยุดชะงัก "เหม็นหรอ"
ระบบ "นิดหน่อย"
ผมยืนอยู่หน้าห้องของอเล็กซ์ พอมายืนตรงนี้ก็รู้สึก...ลังเลนิดหน่อย
นี่ก็เริ่มดึกแล้วนะ หรือมาพรุ่งนี้เช้าดี? แต่พรุ่งนี้เขาไปทำงานหรือเปล่า?
โอ้ อาการตอนสารภาพผิดกับพ่อแม่มันเป็นอย่างนี้นี่เอง เหมือนที่อาบน้ำมาเหงื่อจะเริ่มออกซะแล้ว
ระบบเชียร์"เข้าไปเลย! "
ผมกะจะเคาะประตูก่อนแต่มือที่จับลูกบิดก็หมุนได้ เขาไม่ได้ล็อกห้อง ผมเลยเปิดเข้าไปเลย
ภายในห้องกว้างเห็นเตียงนอนที่มีอียอร์นอนแอ่งแม้งอยู่ แต่ตอนนี้ผมมาหาคุณพ่อ ผมไม่ได้สนใจอียอร์แล้ว
ห้องของอเล็กซ์ เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นสีดำล้วน ขนาดเตียงนอนก็เป็นสีดำ เขาคงชอบสีดำมาก ทำให้ตุ๊กตาลาสีฟ้าโดดเด่นที่สุดในห้องนี้
ในห้องนอนผมไม่เห็นเขา ตรงทางขวามีประตูเชื่อมไปห้องทำงานส่วนตัว ผมเปิดมันอย่างเบามือและชะโงกหน้าเข้าไป
"เเด๊ด..."ผมเรียก
อเล็กซ์นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงาน เขาสวมแว่นตาอีกแล้ว และบนโต๊ะก็มีกองเอกสารมากมาย ผมรู้สึกว่าตัวเองมาผิดที่ผิดเวลา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อเข้ามาแล้ว ปัญหาจะรอให้มันยืดเยื้อทำไม
เมื่อได้ยินเสียงเรียกและเห็นคนผลุบๆโผล่ๆ ที่ประตู อเล็กซ์ก็จ้องมองผมด้วยสีหน้านิ่งเฉย
"มีอะไร?" เขาพูด
บรรยากาศเริ่มอึดอัดทวีคูณ ผมคงไม่ได้คิดไปเอง เพื่อเเสดงถึงความตั้งใจของผม ผมรีบเดินไปหาเขาโดยอ้อมผ่านโต๊ะ ไปยืนข้างๆ เขา จากนั้นจับเข้าที่แขนเสื้อของเขา เพราะตื่นเต้นเลยรีบพูดรัวเร็วเกินไป
"แด๊ด! หนูขอโทษ หนูไม่ควรแย่งอียอร์ของแด๊ดเลยอะ...อย่าโกรธกันเลยนะ!" ผมหลับตาปี๋ มือที่จับเสื้อเขาอยู่เปลี่ยนมากำแน่น
อเล็กซ์น่ากลัวมาก เขาจะตีผมไหมนี่
เมื่อพูดจบทั้งห้องกลับเงียบกริบ ผมพะวักพะวนว่าตัวจะทำอะไรผิดอีกหรือเปล่า เมื่อเงยหน้ามองเขาก็สบตากับดวงตาสีมรกตที่เต็มไปด้วยความขบขัน
จากนั้นอเล็กซ์ก็ขำออกมา
"ห๊ะ?" ผมชะงัก
ถึงขั้นดวงตาของเขาหลี่เป็นเส้นโค้ง ผมไม่เคยเห็นเขายิ้มแบบนี้มาก่อน แต่ที่เขาหัวเราะแล้วยังหล่อนั่นไม่ใช่ประเด็น
'เอ๊ะ? ผมพลาดอะไรไป' ผมปล่อยมือที่กำเสื้อเขาจนยับยู่ยี่ ถอยหลังออกมาสองก้าวเเล้วก็ทำหน้างง
ง่ะ ทำไมกลายเป็นว่าผมรู้สึกไม่ดีวะ...ผมจะร้องไห้แล้วนะ
พออเล็กซ์หยุดขำ เขาเรียกผมให้เข้ามาใกล้ๆ ผมเดินไปหาอย่างไม่อิดออด อเล็กซ์เอื้อมมือมากอดเอวผมไว้หลวมๆ อีกข้างก็ลูบหัวของผม เขาไม่พูดอะไรอีก
แต่สายตาของเขาที่มองมามันยังเเสดงถึงความขบขันอยู่เเละก็ความเอ็นดูด้วย?
อเล็กซ์เอ็นดูผมงั้นหรอ?
ไม่ทันตั้งตัวเขาอุ้มผมขึ้นด้วยมือข้างเดียว ผมผวากอดคอเขาไว้ อเล็กซ์วางผมลงบนเตียงนอนของเขา จากนั้นก็หยิบอียอร์ให้ผมกอด เจ้าลาตัวใหญ่จนเลยหัวผม ผมเบี่ยงมันออกเล็กน้อยแต่ก็ยังกอดไว้อยู่
"แด๊ด" ผมเรียกเขา กะจะถามว่าหมายความว่ายังไง
"วันนี้นอนที่นี่เเหละ" อเล็กซ์พูด
ผมขมวดคิ้ว "หนูกลับไปที่ห้องก็ได้"
"ไม่" เขาปฏิเสธ "นอนที่นี่"