“ข้ารู้ว่าบุญคุณที่ท่านอามีต่อข้ายิ่งใหญ่ แต่ข้าไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อยที่ต้องถวายตัวให้ชายที่ไม่ใช่คนรักดังที่ข้าเคยวาดฝันเอาไว้ แม่เฒ่า... หากข้าไม่ไปเล่า จะเกิดเหตุอันใดขึ้น”
มาราตีหยั่งเชิงถามด้วยความลังเล เธอไปอยู่รัฐซาลาลกับซูไรดาหลายปี เพิ่งกลับมาได้ไม่นานจึงไม่ค่อยรู้เรื่องราวการเมืองและอำนาจรัฐมากนัก แต่พอรู้ว่าเป็นธรรมเนียมของซาล ซึ่งในความคิดของเธอ ชีคผู้เป็นประมุขบ้าอำนาจเกินไปนัก คงคิดแต่ว่าคนอื่นจะกบฏหรืออย่างไรกัน ถึงได้เอาทายาทของหัวหน้าเผ่าไปเป็นตัวประกัน
“หากท่านไม่ไปถวายตัว ชีคอัฟฟานจะต้องยกทัพมาตีชนเผ่ากัวลาของเราอย่างแน่นอน และตอนนั้นก็จะเกิดการเสียเลือดเนื้อมหาศาล ท่านควรพิเคราะห์ให้ดี สงครามหาได้ทำให้ประเทศชาติเจริญไม่ สิ่งสำคัญอีกข้อก็คือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติตั้งแต่ชีคอัสมินขึ้นครองราชย์ว่าทุกเผ่าน้อยใหญ่ในซาลต้องทำตาม” ยะห์นาเอ่ยเตือน
มาราตีถึงกับหน้าซีดเผือด ไม่คิดว่าเรื่องราวจะเลวร้ายถึงขนาดต้องยกทัพมาตีกันถึงเพียงนี้
“ร้ายแรงขนาดนั้นเชียวรึ” หญิงสาวยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตระหนก
“ท่านเป็นคนก่อ ก็ควรจะรับผิดชอบทุกอย่าง ข้าบอกท่านแล้วว่ามันเป็นชะตาของท่าน” ยะห์นามองใบหน้าตระหนกของผู้เป็นนายนิ่งๆ เหมือนเตือนสติให้รับผิดชอบการกระทำที่เป็นคนก่อทั้งหมด
“แม่เฒ่ารู้!!!” เสียงเอ่ยถามทำให้ยะห์นาพยักหน้า มาราตีเอามือทาบอกอีกครั้ง
..นี่นางรู้ว่าเธอเป็นคนช่วยเหลือให้ซูไรดาให้หนีไป
“ไม่มีอันใดที่ข้าไม่รู้ ท่านเป็นหญิงสาวที่เพียบพร้อม การไปครั้งนี้คือจุดเปลี่ยนของชีวิตท่าน” ยะห์นาบีบมือนายสาวเบาๆ
มาราตีเงยหน้า สบตาลึกล้ำของนางด้วยความไม่เข้าใจ
“ท่านหมายถึงอันใด ข้าหาเข้าใจไม่ ท่านรู้แต่ท่านก็ปล่อยให้ข้าช่วยพี่ยูดาหนีไป เหมือนท่านจงใจ”
ยะห์นาส่ายหน้าไปมาเพื่อบอกว่ายังไม่ถึงเวลาตามแบบฉบับของนาง และเพื่อปฏิเสธว่าไม่ใช่ความจงใจ
“ท่านรู้อยู่แก่ใจ เหตุผลที่คุณหนูยูดาหนีไปหาใช่หวาดกลัวความโหดร้ายของชีคอัฟฟาน แต่เพราะเหตุอันใดกันแน่” แม่เฒ่าสูงวัยบอกเสียงเรียบ ทำให้มาราตีหลบสายตานางที่ทอดมองมา
..เธอก็รู้ว่าเหตุผลสำคัญคือฮาฟิซนั่นเอง
“ข้าคงปิดบังอะไรท่านไม่ได้เลยจริงๆ” มาราตียอมจำนนในที่สุด
“ท่านไปเตรียมตัวเถอะ ข้าดูฤกษ์การเดินทางให้ท่านแล้ว” ยะห์นาบอกนายสาวอีกครั้งเพื่อเป็นการตัดบท
มาราตีได้แต่ทำอะไรไม่ถูกเมื่อคนที่ต้องไปเป็นนางบำเรอให้ชีคอัฟฟาน ชีคเถื่อนผู้โหดร้าย ตามเสียงคำเล่าลือไปทั่วซาลคือตัวเธอ!!!
วันที่ 5 เดือนญูมาดูซ เอาวัล (คศ.1378)
การเดินทางมายังเมืองหลวงของซาลเป็นสิ่งที่มาราตีตื่นเต้นไม่แพ้การต้องถวายตัว ซาลเป็นรัฐที่สถาปนาขึ้นมาหลังจากเกิดสงครามระหว่างชนเผ่านับครั้งไม่ถ้วน แม้จะผ่านมาหลายทศวรรษ แต่ก็ยังถือว่าเป็นรัฐใหม่ในคาบสมุทรอาหรับ
ขบวนเดินทางของบุตรสาวหัวหน้าเผ่าทางเหนือมาถึงเมืองหลวงโดยใช้เวลาสามวัน หญิงสาวใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูกที่จะได้พบกับประมุขของรัฐ สำคัญมากกว่านั้นคือเธอมาในฐานะซูไรดา และหน้าที่ในครั้งนี้คือการถวายตัว
อับดุลอาซิและโมฮัมหมัดต่างเดินทางมาส่งเธอถึงเมืองหลวงด้วยตนเอง
ท้องพระโรงกว้างใหญ่ของเมืองหลวงเป็นสีขาวแทบทั้งหลัง รวมถึงพระราชวังลวดลายวิจิตรตระการตาสลับกับทองคำบ่งบอกถึงความมั่งคั่งของรัฐ
มาราตีกุมมือเนียนนุ่มบีบเข้าหากันแน่น หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก เท้าบอบบางที่สวมใส่รองเท้าคู่สวยประดับด้วยทองคำล้ำค่าส่งเสียงทุกครั้งที่ย่างก้าว ชุดสีทองอร่ามยาวกรอมเท้าลากบนพื้นเวลาเดิน บนศีรษะคลุมฮิญาบ และมีผ้าโปร่งปิดบังใบหน้าเห็นเพียงดวงตาคมหวาน
มาราตีช้อนสายตาสบกับดวงตาสีเทาเหล็กกล้าของบุรุษผู้สูงศักดิ์บนบัลลังก์อันโอ่อ่าน่าเกรงขามที่ประดับด้วยทองคำระยิบระยับและอัญมณีล้ำค่าราคาแพงสลับกันอย่างงดงามประณีตด้วยช่างฝีมือเอกไม่เป็นสองรองใครในคาบสมุทร
ทันทีที่ชีคอัฟฟาน อาลี โซมาล ได้สบตาสายตาคมหวานสีน้ำตาลเข้มที่เปล่งประกายดื้อรั้น อวดดี แฝงไว้ด้วยแววมุ่งมั่นแต่ซุกซ่อนหลายอย่างให้น่าค้นหา ในนั้นก็รวมเสน่หาอันเหลือร้ายอยู่ด้วย ชีคหนุ่มถึงกับตะลึงงันมองร่างเย้ายวนภายใต้อาภรณ์งดงามเหมือนต้องมนตร์สะกด เธองดงามจนเขาไม่อาจถอนสายตาได้ ลมหายใจของชายหนุ่มแทบหยุดลง ก่อนจะผ่อนออกมาอย่างยากลำบาก ความต้องการทางร่างกายอาจมากล้นในตัวหญิงสาวหลายคน แต่ไม่เท่าคนที่กำลังยืนสงบอยู่เบื้องหน้า เธอกำลังทำให้เขามีความรู้สึกบางอย่างดั่งสายฟ้าฟาดลงกลางร่าง แสงสีต่างๆ คล้ายปริซึมกระทบอยู่รอบกาย จนอยากเข้าไปกอดกระชับเนื้อนาง กดจุมพิตรับขวัญทั่วเรือนร่างที่ถูกปกปิดด้วยอาภรณ์งดงามสีทองอร่าม นั้นทันที
เธอเป็นหญิงสาวที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดล้ำ!!!
ไม่คิดว่าหญิงสาวที่เขาเฝ้าคิดถึงตลอดทุกลมหายใจเข้าออก หญิงสาวผู้เก่งกล้ากว่าชายใดที่เขาเคยเจอที่ตลาดในดินแดนทะเลทรายแห่งการค้าขายอันมั่งคั่งจะมาปรากฏกายอยู่เบื้องหน้า แต่ความรู้สึกล้ำลึกพึงพอใจก็ไม่เท่าความรู้สึกกริ้วโกรธรุนแรงที่ปะทุขึ้นมาในอก
ชีคอับดุลอาซิและกัวลากำลังหลอกลวงเขาอย่างหน้าไม่อาย!!!
มาราตีใจเต้นแรงกว่าเดิมเมื่อมองเห็นชายหนุ่มที่จะได้ครอบครองเรือนสาวของตัวเอง ร่างสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตรในชุดประจำชาติซาลที่เป็นชุดยาวคลุมข้อเท้าสีขาวผ่าด้านหน้าเป็นคอเชิ้ตปลายแขนแบบปล่อย ศีรษะโพกด้วยผ้าคลุมตาหมากรุกสีแดงขาวผูกด้วยเชือกถักสีดำทำจากขนแพะ ด้านในสวมหมวกกะปิเยาะห์ ด้านนอกสุดสวมทับด้วยเสื้อคลุมมิชลาฮ์ Mishlahส่วนด้านในก็สวมทับด้วยกางเกงอีกตัว
ทำไมเธอรู้สึกเหมือนเคยเจอเขามาก่อน!!!
“ลุงพาซูไรดามาถวายตัวแล้ว”
คำพูดของอับดุลอาซิทำให้อัฟฟานตื่นจากมนตร์สะกดแห่งเสน่หาที่ไหลวนไปทั่วร่าง แค่ได้สบตากับหญิงสาว เขาก็ใจเต้นแรงประหลาด บางอย่างบอกว่าเธอไม่เหมือนหญิงสาวคนอื่นๆ แต่เพราะนี่คือการเมือง จึงสะกดกลั้นอารมณ์พึงพอใจอย่างที่สุดเอาไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบสนิทแต่คิ้วเข้มอดไม่ได้ที่จะเลิกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะวางสีหน้าดังเดิม
ซูไรดาอย่างนั้นเรอะ ตลกสิ้นดี นี่กัวลาเห็นเขาเป็นตัวตลก เป็นไอ้โง่ให้หลอกง่ายๆ รึ!!!
มาราตีกะพริบตา ก่อนก้มหน้าถอนสายบัวเบื้องหน้าเจ้าครองรัฐผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร ด้วยกิริยาอ่อนช้อยงดงาม
อัฟฟานนึกชื่นชมในใจว่าเธอมีทั้งความอ่อนหวานและห้าวหาญอยู่ในตัวเอง พลันนึกไปถึงเหตุการณ์ที่ตลาดในชนเผ่ากัวลาวันนั้นไม่จางหาย
อับดุลอาซิมองสบตาโมฮัมหมัดผู้เป็นบุตรชายเมื่อเห็นชีคหนุ่มแย้มยิ้มรับไมตรีอันดี และมีสีหน้าพึงพอใจเป็นที่สุด แม้จะเพียงชั่วแวบแต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาอันแหลมคมไปได้ เขาสกัดกั้นบุตรสาวและมาราตีจากภายนอก จึงมีน้อยคนนักที่จะได้เห็นโฉมหน้าของพวกนาง รวมถึงกัวลาเป็นดินแดนทะเลทรายที่มีเหตุปล้นฆ่าความไม่สงบเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ดังนั้นหัวหน้าเผ่าต่างๆ จึงมิกล้าย่างกรายเข้าสู่ดินแดนแห่งมหันตภัยเช่นนั้นจะมีก็แต่คนในชนเผ่าที่เพิ่งได้เห็นซูไรดาและมาราตีหลังกลับจากซาลาลเมื่อไม่นานมานี้
หลังจากอดีตหัวหน้าเผ่ามัลมาเลียได้ถูกลอบสังหารในดินแดนทะเลทรายทางตอนเหนือด้วยกลุ่มโจรเหนือที่ไม่ฝักใฝ่ที่จะเป็นราษฎรของซาล รวมถึงต้องการแบ่งแยกดินแดนที่เป็นแหล่งการค้าจากชนเผ่าต่างๆ ในทะเลทราย
“เชิญท่านลุงไปพักผ่อนเถิด ข้าได้เตรียมทุกอย่างไว้ต้อนรับท่านแล้ว” ชีคหนุ่มบอกอับดุลอาซิเสียงเรียบ
ปู่และบิดามีความสัมพันธ์กับกัวลามายาวนาน อีกทั้งสายเลือดครึ่งหนึ่งของเขาก็เป็นกัวลา ดังนั้นเขาจึงนับถือหัวหน้าเผ่ากัวลาเสมือนญาติ ซึ่งหัวหน้าเผ่าอื่นๆ ต่างรู้ข้อนี้ดี สำคัญไปกว่านั้นมารดามีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของอับดุลอาซิด้วยเช่นกัน