ร้านเกม เจนเยี่ยม
ฉันตื่นมาในช่วงสายๆก็รู้สึกคุ้นๆนี่มันห้องนอนฉันนี่หว่า ทำไมฉันมาอยู่ในห้องนอนตัวเองได้ ฉันจำได้ว่าฉันทำงานจนถึงเช้า แล้วฉันก็เอารายงานไปส่งที่ห้องของคุณกิจนี่
“ฉันเป็นลม ใช่ๆ ฉันเป็นลมแล้วทำไมตอนนี้ฉันถึงได้มาอยู่ในห้องนอนตัวเองได้ละเนี้ย...”
ฉันรีบลุกขึ้นจากที่นอนแล้วลงไปหาพ่ออย่างไว
“พ่อ...พ่อ...”
“เรียกพ่อทำไมเสียงดัง ลูกค้าตกใจหมด”
“นี่หนูกลับมาบ้านได้ยังไงคะ หนูจำได้ว่าหนูทำงานอยู่ที่บริษัทแล้วทำไม..?”
“ก็หนูเป็นลมไงลูก พ่อก็เลยไปรับหนูกลับมาบ้าน”
“แล้วพ่อเป็นคนอุ้มหนูขึ้นไปส่งถึงห้องนอนเลยหรอ..?”
“หัวหน้าหนูเป็นคนอุ้มมาส่งถึงห้องเลย”
“อ่อ! หัวหน้าหนูนี่เอง...เห้ย!”
นี่ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม พ่อบอกว่าหัวหน้าหรอหัวหน้าคนไหนละอย่าบอกนะว่า...
“พ่ออย่าบอกนะว่าหัวหน้าหนูคือคุณศุภกิจ อะ...?”
“ใช่ เขานั่นแหละ...”
อึ้งซิช็อกไปเลย ถ้าเขาอุ้มฉันไปส่งที่เตียงเขาก็ต้องเห็นสภาพห้องรกๆของฉันนะซิ โอ๊ยอยากจะบ้าตาย
“พ่อ...ทำไมพ่อปล่อยให้เขาอุ้มหนูขึ้นไปบนห้องแบบนั้นละ พ่อไม่หวงหนูบ้างหรือไง ...พ่อนะพ่อ”
ฉันงอนพ่อแล้วก็เดินหนีขึ้นไปบนห้อง โดยไม่ฟังเสียงพ่อเรียก
เพราะ ภายในห้องของฉันตอนนี้มันทั้งรกแล้วก็มีแต่ภาพโปสเตอร์เกมออนไลน์จากบริษัท S.P.K เต็มไปหมดรวมทั้งรูปโปสเตอร์ของเขาที่ฉันระเรงสีด้วยเมจิเต็มใบหน้า
“ระเรงหน้าจนเละแบบนั้นคงจะไม่รู้หรอกนะว่าเป็นตัวเองอะ...”
ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่เลย ถ้าเขารู้ว่าฉันแอบปลื้มเขาอยู่ฉันก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว แต่...
“มันเมื่อก่อนย่ะ...ตอนนี้หนูเกลียดคุณที่สุด หนูไม่ได้ปลื้มคนปากร้ายแล้วก็ชอบดูถูกคนอื่นอย่างคุณอีกแล้ว หนูจะต้องรู้ให้ได้ว่าเกมที่คุณจะส่งเข้าประกวดครั้งนี้คือเกมอะไร และหนูนี่แหละจะทำให้คุณรู้จักคำว่าแพ้เอง...”
ฉันคิดแผนที่อยู่ในใจเพราะที่ฉันเข้ามาฝึกงานที่บริษัทนี้เพราะต้องการมาสืบว่าเขาจะทำเกมอะไรเข้าไปแข่งในเกมออนไลน์ระดับโลก ซึ่งการแข่งครั้งนี้บริษัทที่ชนะจะได้เซ็นสัญญากับบริษัทยักษ์ใหญ่ในฝั่งยุโรปอีกด้วย และเธอก็ต้องรู้ให้ได้
เกม The Toys
King: winwin ออนอยู่มั้ย
King: ช่วงนี้ไม่เห็นเล่นเลย เข้ามาไม่เจอเลย
ฉันหันไปมองหน้าคอมตัวเองที่เปิดทิ้งไว้ก่อนลงไปหาพ่อ เกม The Toysเป็นเกมที่ฉันเล่นมาได้สักพักแล้วเกี่ยวกับราชาที่ครองอาณาจักร 3 เมือง ที่ร่วมกันดูแลบ้านเมืองป้องกันจากปีศาจร้ายที่เข้ามาในแต่ละด่านจะมีทั้งปีศาจที่ปลอมตัวมาเป็นคน ซอมบี้ หรือคนร้ายมากมายให้ผู้เล่นได้จับผิด โดยในเกมฉันเป็นราชาที่ครองอีกเมืองโดยใช่ชื่อในเกมว่า winwin แล้วมีราชาอีกคนที่ชื่อ king ร่วมเล่นด้วย เราคุยกันมานานร่วม 2 ปีได้
King : เธอคงยุ่งสินะ
Winwin : ช่วงนี้ยุ่งๆนะคะ เลยไม่ค่อยได้เข้ามาเล่นฝากดูแลเมืองด้วยนะคะ
King : อืม ฉันก็ไม่ค่อยได้เข้ามางานยุ่งๆแต่วันนี้เซ็งๆเลยเข้ามาทักทายเห็นว่าเธอออนอยู่
Winwin : เซ็งเรื่องอะไรคะ ใครทำให้พี่ปวดหัวเดี๋ยววินเนอร์จะส่งอาวุธจากเมืองของเราไปจัดการให้ค่ะ
King : คุยกับเธอแล้วหายเครียดดี
Winwin : พี่เครียดเรื่องอะไรลงที่วินเนอร์ได้เลยนะคะ วินเนอร์ยินดีรับฟังนะคะ
King : ไม่มีอะไรหรอก เธอไปทำอะไรก็ไปเถอะฉันไม่กวนเธอแล้ว
Winwin : งั้นก็ตามใจคะ ไว้ค่อยคุยกันนะคะ
ไม่รู้ว่าพี่เขาหน้าตาเป็นยังไง รู้แค่ว่าอายุมากกว่าแต่ประวัติส่วนตัวเขาฉันไม่รู้เลยเพราะมันเป็นกฎของเกมว่าห้ามบอกเรื่องส่วนตัวยกเว้นอายุ
บริษัท S.P.K
เวลา 8 โมงเช้า
ผมเดินเข้ามาในบริษัทอย่างเซ็งๆ ยิ่งต้องมาเห็นหน้ายัยเด็กฝึกงานปากเสียอีกยิ่งเซ็ง คิดถึงเรื่องเมื่อวานที่ย่าพูดกับพ่อยัยนั่นผมยิ่งปวดหัว
“หมั้นหรอครับ ทำไมถึงต้องหมั้นละครับ..?”
ผมถามคุณย่าขึ้นกลางวงที่ทุกคนยืนคุยกัน
“ก็กิจทำให้น้องต้องเป็นแบบนี้ กิจต้องแสดงความรับผิดชอบ...”
“แต่ก็ไม่ใช่การหมั้นนี่ครับ แล้วเมื่อคืนนี้ผมก็ไม่ได้...”
“ย่าบอกให้หมั้นก็ต้องหมั้น อย่าขัดย่า...”
ผมกำลังจะพูดแต่ถูกคุณย่าพูดแทรกสะก่อน
“ผมว่าเรื่องนี้ผมคงต้องคุยกับลูกสาวก่อน...”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ...ดิฉันเอ็นดูหนูเจนมากๆอยากได้มาเป็นหลานสะใภ้จริงๆ ถ้าหนูเจนหมั้นกับหลานชายดิฉัน ดิฉันจะเป็นคนไถ่โฉนดบ้านที่คุณเอาไปจำนองเพื่อเปิดร้านเกมคืนให้กับคุณเองคะ...แค่คุณยอมให้หนูเจนหมั้นกับตากิจหลานชายดิฉัน”
ทำไมคุณย่ารู้เรื่องครอบครัวนี้ดีจังนี่ถึงขนาดจะไถ่บ้านคืนให้ด้วย เพื่อให้พ่อยัยนี้ยอมตกลงยกยัยตัวแสบนี้ให้มาหมั้นกับผมเลยเนี้ยนะ
“เอ่อ....คือ”
“ฉันให้เวลาคุณคิด 3 วัน แล้วฉันจะมารอคำตอบจากคุณค่ะ นี่คะนามบัตรดิฉัน...”
และนี่ก็นับเป็นวันที่ 1 แล้ว ผมเริ่มหงุดหงิดและเครียดมากๆที่ต้องได้หมั้นกับยัยเด็กไม่มีสัมมาคารวะ แถมยังปากจัดแบบนั้นอีกผมยอมไม่ได้หรอก ยิ่งเห็นหน้ายิ่งรำคาญลูกตาไม่อยากให้มาอยู่ใกล้ๆ
“คุณกิจคะ คุณกิจ...”
“อะไร เรียกอยู่ได้”
ผมสะดุ้งตกใจที่ได้ยินเสียงคนเรียกจะใครละครับก็ยัยเด็กฝึกงานนี่แหละ ไม่รู้เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่
“เข้ามาทำไมไม่เคาะประตู”
“หนูเคาะแล้วค่ะ แต่คุณไม่ได้ยินเองหนูเคาะตั้งหลายครั้ง”
“ฉันยังไม่อนุญาตแล้วเข้ามาได้ยังไง ออกไปใหม่รอให้ฉันอนุญาตก่อนแล้วค่อยเข้ามา”
“คุณจะมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับการเคาะประตูหนักหนาคะ หนูเดินเข้ามาแล้วแฟ้มก็อยู่ตรงหน้าคุณแล้วคุณก็เซ็นๆไปเถอะค่ะจะอะไรหนักหนากันกับอีเรื่องแค่นี้เอง”
“ฉันบอกให้ออกไปใหม่...”
“ไม่ค่ะ หนูไม่ออก ถ้าคุณไม่เซ็นก็ไม่ต้องเซ็นหนูจะยืนอยู่แบบนี้แหละ...”
เธอยืนนิ่งไม่พูดอะไรจนผมเริ่มโมโหในความกวนประสาทของเธอ
ผมเงยหน้ามองเธอแล้วนึกถึงเรื่องที่ย่าพูดกับพ่อของเธอเรื่องที่จะให้เธอหมั้นกับผม นี่เธอคิดจะจับฉันสินะทำเป็นมายืนอ่อยฉันคิดหรอว่าฉันรู้ไม่ทันแผนการของเธอ
“คุณจะทำอะไรคะ...?”
ผมยืนขึ้นแล้วจ้องหน้าเธอตาเขม็งเดินเข้าไปหาเธอช้าๆ จนเธอเริ่มถอยหลังหนี
“คุณกิจหยุดนะคะ...นี่คุณจะทำอะไรหนูคะ ?”
เธอเริ่มลนลานเดินถอยหลังหนีผมจนไปชิดกับกำแพง
“อย่าเข้ามานะคะ อย่าทำอะไรหนูนะคะ...”
ผมเดินเข้าไปใกล้เธอจนชิดตัวเธอ จับแขนเธอทั้ง 2 ข้างตึงไว้กับผนัง
“เก่งนักไม่ใช่หรือไง...ทำไมทีนี่ถึงเงียบละ”
“คุณจะทำอะไรหนู ถ้าคุณทำหนู หนูจะร้องไห้คนช่วยนะคะ”
“ถ้าเธอร้องฉันก็จะจูบปิดปากเธอ...”
“ถ้าคุณจูบหนู หนูก็จะกัดปากคุณให้ขาดเลย”
“ถ้าเธอกัดฉัน ฉันจะจับเธอปล้ำมันสะตรงนี้เลยดีมั้ย”
“คุณไม่กล้าหรอก คุณแค่ขู่ให้หนูกลัว หนูไม่....อื้มมมมมม”
“จ๊วบบบบ อื้มมมม”