น้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ของเข้มเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่ากำลังจะเข้าเขตอาณาจักรหลังใหญ่ของพ่อเลี้ยงราเมศวร์แล้ว
" ไม่ต้องกลัวนะครับคุณกิ่งไผ่ พ่อเลี้ยงเป็นคนใจดีมาก "
นายพูดเพื่อให้เธอคลายความกังวล ร่างบอบบางรู้สึกว่าคุณนายแทบจะอ่านใจเธอออกทุกอย่างเลย
" ขอบคุณมากนะคะ "
เธอเอ่ยขอบคุณเขาพร้อมกับมอบรอยยิ้มหวานๆ ไปให้ แม้ในความโชคร้ายเธอก็ยังโชคดีที่อย่างน้อยเธออาจจะมีเพื่อนที่ดีเพิ่มมาอีกสักคน นั่นก็คือคุณนายส่วนคนที่นั่งข้างๆ เธอเนี่ยหรอน่ากลัวชะมัด
เมื่อมาถึงยังบ้านหลังใหญ่ร่างบอบบางลงมาจากรถตู้คันหรูพร้อมกับมองไปยังข้างหน้าที่มีบ้านหลังใหญ่โตด้วยความกลัว ไม่รู้ว่าทางข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ท้องฟ้ายามเย็นเป็นสีส้มอ่อนๆ สวยงามชวนมอง หากแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้จิตใจของเธอมันดูสงบลงด้วยเลย ความกลัวเริ่มคืบคลานเข้ามาในหัวเธอ ตอนนี้รู้สึกปั่นป่วนภายในท้องน้อยๆ ไปหมด เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเองและเป็นการรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี แล้วก็เดินตามผู้ชายมาดเข้มที่ชื่อเข้มสมชื่อเข้าไปในบ้าน
" นมอิ่มครับ พ่อเลี้ยงอยู่ข้างบนใช่ไหมครับ "
เข้มเอ่ยถามหญิงชราคนหนึ่งด้วยความสุภาพ หลังจากที่พากิ่งไผ่เข้ามานั่งยังห้องรับแขกเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตอนนี้เธอก็นั่งนิ่งตัวเกร็งอยู่ แล้วก็มองไปเห็นหญิงชราคนหนึ่งซึ่งเธอมองว่าคงจะเป็นแม่บ้านของที่นี่จึงยิ้มไปให้เพื่อสร้างมิตรไมตรีที่ดี การเข้ามาอยู่บ้านท่านคงไม่ดีแน่ถ้าหากว่าเธอจะมาสร้างศัตรูที่นี่
" อยู่บนห้องทำงานแหน่ะ เอ็งก็ขึ้นไปตามเอาแล้วกัน หนูคนนี้สินะที่ชื่อกิ่งไผ่ "
นมอิ่มถามพร้อมกับมองหน้าของสาวน้อยที่น่าทะนุถนอมน่าเอ็นดู หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มแบบนี้คนเป็นพ่อไม่น่าทำกับลูกได้ลงคอ เมื่อนมอิ่มหันมายิ้มกิ่งไผ่ก็ยิ้มตอบพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม
" สวัสดีค่ะ หนูชื่อกิ่งไผ่นะคะ "
ร่างบอบบางพูดแนะนำตัวพร้อมกับเผยรอยยิ้มที่คลายความกังวลออกมาให้ได้เห็น
ส่วนเข้มขึ้นไปตามผู้เป็นเจ้านายที่ตอนนี้อยู่บนห้องทำงานที่อยู่ชั้น 2 ของบ้านเพราะวันนี้พ่อเลี้ยงไม่ได้เข้าไปทำงานที่ไร่
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
" เข้ามา "
ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาพร้อมกับวางปากกาเงยหน้าขึ้นมามองเมื่อลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาหา
" ลูกสาวของนายไม้เมืองมาถึงแล้วครับ "
ใบหน้าที่ดูไร้อารมณ์ไม่แพ้กันของเข้มเอ่ยบอกผู้เป็นเจ้านายออกไป หากไม่บอกว่าใครคือเจ้านายคือลูกน้องทั้งสองคนนี้ก็มีท่าทางเหมือนกันซะเหลือเกิน
" อืม..งั้นไปกันเลย "
ราเมศวร์ที่รออยู่แล้ว เขานั่งรอเธอเพื่อจะคุยธุระเพียงไม่กี่คำ หลังจากนั้นก็จะไปหาเพื่อนที่นัดเอาไว้ เพราะนี่ก็ไกล้จะถึงเวลานัดหมายแล้ว ราเมศวร์เดินลงมาจนถึงห้องรับแขกก็ปรากฏเห็นร่างของเด็กสาวคนหนึ่งที่ยืนหันหลังให้กับเขาอยู่ เพราะเธอนั้นกำลังคุยกับนมอิ่มซึ่งเป็นแม่บ้านของที่นี่ แค่ได้เห็นแผ่นหลังระหงนั้นก็ทำเอาเขาผู้ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความเย็นชากลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก หัวใจมันเต้นแรงทำไมกัน เขารู้สึกแปลกๆ แต่นั่นก็เพียงแค่ครู่เดียว
" หนูไผ่พ่อเลี้ยงมาแล้วจ่ะ "
นมอิ่มสะกิดบอกหญิงสาวพร้อมกันนั้นกิ่งไผ่ก็ได้หันกลับไปอย่างรวดเร็ว เธอจึงได้สบตาเข้ากับพ่อเลี้ยงราเมศวร์เข้าอย่างจัง ความรู้สึกของหญิงสาวเหมือนโดนมนต์สะกด เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าเอาแต่จ้องตาของเธอไม่ลดละ พร้อมกันนั้นเธอก็เผลอยืนมองตาเขาอยู่พักใหญ่เช่นเดียวกัน ความรู้สึกหลากหลายวิ่งเข้ามาในหัวของเธอ นี่หรือคือพ่อเลี้ยงราเมศวร์ เธอแอบคิดว่าเขาจะมีอายุมากกว่านี้เสียอีก แต่ที่ไหนได้กลับดูเด็กกว่าที่เธอคิดมาก เธอจ้องมองเขาอยู่นานก็ได้สติขึ้นมาก่อนจึงรีบหลบตาแล้วยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม
" เอ่อ...สะ...สวัสดีค่ะพ่อเลี้ยงราเมศวร์ "
ร่างบอบบางพูดพร้อมกับยืนก้มหน้าเพราะความกลัว คนตัวโตเองก็ละสายตาออกมาจากภวังค์ เขายอมรับว่าเธอมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างบอกไม่ถูก เขาคิดว่าเธอจะเป็นเด็กกะโปโลมากกว่านี้เสียอีก แต่ไม่ใช่เลยแม้จะอายุแค่ 18 ปีแต่ดูเป็นสาวสะพรั่งเต็มตัวแล้วต่างหาก
" นั่งก่อนสิ "
เขาพูดเมื่อนั่งลงที่โซฟาตัวใหญ่กลางห้องแล้วจากนั้นกิ่งไผ่ก็ได้นั่งลงตรงโซฟาเดี่ยวอีกมุมหนึ่ง
" ฉันคงไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อมแล้วนะ เธอรู้ใช่ไหมว่ามาที่นี่เพราะอะไร "
ราเมศวร์พูดเข้าเรื่องทันทีด้วยความที่เขาเป็นนักธุรกิจเขาจึงไม่อ้อมค้อมใดๆ ทั้งสิ้น
" ค่ะ ไผ่มาทำงานใช้หนี้สินแทนพ่อค่ะ ใช้จนกว่าจะหมด พ่อเลี้ยงราเมศวร์มีงานอะไรให้ไผ่ทำบ้างคะ ไผ่ทำได้หมดเลยนะคะขอแค่ปลดหนี้ได้เร็วๆ ก็พอ "
คำพูดของเธอทำเอาราเมศวร์ถึงกับขมวดคิ้วทำได้ทุกอย่างอย่างนั้นหรอแม้กระทั่งเรื่องนั้น...
" ทุกอย่างจริงๆ หรอ? "
เขาถามเธอออกไปเพราะไม่รู้ว่าคนตรงหน้าใจกล้าบ้าบิ่นได้ถึงขนาดนี้ ถ้าเขาให้เธอทำงานบนเตียงเธอก็จะทำอย่างนั้นหรอ หรือว่าเขามองสาวน้อยคนนี้ผิดไปที่คิดว่าซื่อๆ ใสๆ คงไม่ใช่แล้วสินะ
" ค่ะ เอ่อ...ทุกอย่างที่เป็นงานสุจริต "
ร่างบอบบางรีบพูดขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าคำพูดของเธออาจจะทำให้คนตรงหน้าเข้าใจผิดก็ได้
เพ้ง!!!!
คนตัวสูงถึงกับลอบอมยิ้มเมื่อเขาหน้าแหกแบบหมอไม่รับเย็บ ทั้งที่ตัวเขาเองเป็นคนยิ้มยาก เธอคงอ่านใจเขาออกสินะ ถึงได้พูดดักไว้แบบนี้ ใครจะรู้ล่ะก็ผู้หญิงส่วนมากเข้าหาเขาก็ด้วยสาเหตุนี้ทั้งนั้นก็ไม่แปลกที่เขาจะคิดว่าเธอก็เหมือนผู้หญิงพวกนั้นที่อยากรวยทางลัด และการยิ้มออกมาของพ่อเลี้ยงในครั้งนี้ทำเอาเข้ม นาย แล้วก็นมอิ่มถึงกับงงไปตามๆ กัน เพราะไม่บ่อยครั้งนักที่จะเห็นรอยยิ้มออกมาจากพ่อเลี้ยงตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดขึ้น
" อืม ดี ถ้าอย่างนั้นเริ่มจากการที่เรียกฉันว่าพ่อเลี้ยงเฉยๆ ก็พอ แล้วก็ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นฉันไม่ใช่ยักษ์ไม่ใช่มาร เป็นคนธรรมดาเหมือนกับเธอนั่นแหละ "
" ค่ะ พ่อเลี้ยง "
ร่างบอบบางรับคำอย่างว่าง่าย จะไม่ให้เธอกลัวได้ยังไงท่าทางเย็นชาขนาดนี้อย่างกับอยู่ในน้ำแข็งขั้วโลกเหนือ ขนาดหายใจแรงเธอยังไม่กล้าทำเลย ทำได้แค่ก้มหน้าแล้วก็รับคำ แค่เงยหน้าขึ้นมามองเสี้ยวหน้าของเขาเพื่อจะจดจำใบหน้าเธอยังไม่กล้าทำเลย
เสียงกัมปนาทของพ่อเลี้ยงที่เอ่ยขึ้นมาอีกครั้งทำเอาทุกคนต้องแปลกใจ เพราะปกติพ่อเลี้ยงจะไม่เป็นคนสั่งงานคนงานเองแต่วันนี้กลับเลือกที่จะสั่งงานลูกน้องโดยตรงโดยที่ไม่ผ่านมือขวาคนสนิทอย่างเข้ม
" ทุกคนออกไปก่อน ฉันจะสั่งงานกับเด็กนี่เอง "