“ถ้าฝ่ายโน้นเขาไม่ยอมก็ปล่อยเขาเถอะ ยังไงซะตอนนี้ฉันก็มีความสุขดีแล้ว แค่นายยังช่วยดูแลยัยรัญไปอย่างนี้ พาลูกมาเจอฉันบ่อยๆ ให้ฉันกับคุณเดือนได้เห็นรอยยิ้มของแกแค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว”
แมคโลริคเกิดอาการอึ้งเมื่อเขาถูกมัดมือชกกลายๆ เขาจะดำรงตำแหน่งแฟนหนุ่มของหลานสาวไปอย่างนี้ตลอดชีวิตไม่ได้หรอกนะ
“แต่ว่า...ผม...”
“ฉันรู้ว่าฉันขอนายมากไปนะแมค แต่ช่วยฉันสักครั้งเถอะ เห็นแก่ที่แม่ทิ้งฉันไปแต่งงานกับพ่อของนายเถอะนะ ฉันไม่เคยได้รับความรักจากแม่เลย ช่วยทดแทนให้คนแก่ๆ อย่างฉันด้วยเถอะ” คนเป็นพี่วอนขอเสียงเครือ ในอดีตท่านถูกทิ้งให้เป็นเด็กกำพร้าแม่เพราะบิดามารดาแยกทางกัน ความจริงท่านไม่อยากใช้ข้อนี้มาบีบน้องชาย แต่ความรักที่มีต่อบุตรสาวมันบังคับ
“พี่ครับ...มัมรักพี่ มัมไม่เคยลืมพี่เลย ไม่อย่างนั้นบั้นปลายชีวิตมัมคงไม่กลับมาสิ้นลมที่นี่” น้องชายช่วยย้ำเตือนความจริง มารดาของเขาและพี่ชายเสียไปนานหลายปีแล้ว ทิ้งไว้เพียงแผลใจให้บุตรชายคนโตที่ยังไม่ลืมวันที่มารดาหอบหิ้วกระเป๋าออกไปจากบ้านหลังนี้
“ฉันรู้ แต่ฉัน...”
“ผมพยายามช่วยพี่อย่างเต็มที่แล้วนะครับ ตลอดเวลาที่รัญตาเรียนมหาวิทยาลัย ผมทำตัวเป็นคนรักที่ดีของหลาน ไม่เคยได้ออกเดตกับสาวที่ผมอยากเดตด้วยเพราะผมกลัวว่าหลานจะเสียใจ ตอนนี้รัญตาโตแล้วนะครับพี่ และผมก็อยากมีชีวิตของผม ที่ผ่านมาผมยังทดแทนให้พี่แทนมัมไม่พอหรือครับ”
น้องชายตัดพ้ออย่างหมดกำลังใจ เขาก็อยากมีชีวิตเช่นหนุ่มโสดบ้าง ตลอดสามสี่ปีที่ผ่านมามันไม่เคยเป็นเช่นนั้นเลย ทุกครั้งที่อยากได้ผู้หญิงสักคนบนเตียง ก็ต้องโทรไปสั่งเอาจากสถานบริการชั้นสูง พอเสร็จสมอารมณ์หมายก็โยนเศษเงินไปให้ เขาเบื่อชีวิตแบบนั้น เขาอยากใช้ชีวิตเช่นบุรุษทั่วไป อยากได้ผู้หญิงคนไหนก็ใช้วาจาท่าทีและเสน่ห์ในตัวเข้าช่วย มันรู้สึกภูมิใจมากกว่ากันเยอะ
“พี่เข้าใจ แต่ว่า...”
“พี่ไม่คิดบ้างหรือว่ายัยรัญจะเสียใจถ้ารู้เรื่องทั้งหมด”
“ยัยรัญจะไม่มีวันรู้จนกว่าจะถึงวันที่น้าของแกเป็นคนบอก ซึ่งนั่นคงเป็นไปไม่ได้ ตราบใดที่ฉันยังไม่หย่ากับคุณเดือน” ท่านติภพเอ่ยอย่างมั่นใจ
“ใช่ไงครับพี่ รัญจะไม่มีวันรู้จนกว่าน้าแกจะบอก แล้วถ้าวันหนึ่งรัญอยากแต่งงานละครับ อย่าลืมว่ารัญเรียนจบแล้ว รัญรักผมมากขึ้นทุกวัน ผมไม่อยากทำร้ายหลานอีกแล้ว”
แมคโลริคกระแทกแผ่นหลังกับพนักเก้าอี้ ใบหน้าและกลิ่นกายของพิชฎาตามมาหลอกหลอนเขาถึงที่นี่ เวลานี้มันทำให้เขาอยู่ไม่สุข หล่อนคงเป็นแม่มดกระมังถึงได้ทำเสน่ห์ให้เขาลุ่มหลง และเขาก็ลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว
“เฮ้อ...ใจเย็นๆ นะแมค มันต้องมีทางออกเรื่องนี้ เชื่อฉันเถอะ” บุรุษสูงวัยเอ่ยปลอบประโลม แม้วาจาจะให้กำลังใจแต่ข้างในก็หนักอกหนักใจไม่แพ้กัน
“เอ้า? แมคมาจริงๆ ด้วย ตอนแรกได้ยินเสียงรถนึกว่าไม่ใช่”
เดือนเด่นเดินเข้ามาในห้องรับแขกพร้อมกับรัญตา เจ้าหล่อนทำหน้าบึ้งใส่แฟนหนุ่มทันทีที่เห็นหน้าเขา
“ผมเพิ่งเสร็จธุระเลยแวะมาครับพี่เดือน ว่าแต่ยัยตัวยุ่งมาขลุกอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” ถามราวกับไม่รู้ว่ารัญตามาที่นี่ ทั้งๆ ที่พี่ชายบอกกล่าวแล้วล่วงหน้า
“ตั้งแต่บ่ายแล้วจ้ะ นี่ก็จะมืดค่ำแล้ว แมคมาก็ดีจะได้ไปส่งแฟนเราด้วย”
เดือนเด่นสั่งความเสร็จสรรพ เดินไปนั่งข้างสามี รัญตาวางถาดคุกกี้ไว้บนโต๊ะตรงกลาง ก่อนจะเดินถอยหลังมานั่งที่เก้าอี้อีกตัวซึ่งตรงข้ามกับแฟนหนุ่ม ติดเก้าอี้ของเจ้าบ้าน
“ความจริงรัญกลับเองก็ได้นะคะ วันนี้อาแมคคงงานเยอะ” พูดเหมือนประชดนิดๆ จนแมคโลริคอดยิ้มไม่ได้ รัญตายังเด็กเกินกว่าจะกักเก็บความรู้สึกความต้องการ
“อาทำงานเสร็จแล้ว ไม่ยุ่งแล้ว” เขาตอบ
“ความจริงหนูรัญน่าจะขับรถเองได้แล้วนะ ไปไหนมาไหนจะได้สะดวก เดี๋ยวนี้นั่งแท็กซี่อันตราย” ท่านติภพเสนอ เดือนเด่นเห็นด้วยกับสามี
“ใช่ๆ ถ้าว่างๆ หนูไปดูรถกับแมคเขาสิ อยากได้คันไหนก็ไปเลือกเอาเลยที่โชว์รูม ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายนะ เดี๋ยวฉันกับคุณภพจัดการให้เอง” เดือนเด่นกระตือรือร้นด้วยอยากให้สาวน้อยมีรถไว้ใช้สักคัน
“โอ...อย่านะคะ อย่าให้ของแพงขนาดนั้นกับรัญเลยค่ะ รัญรับไว้ไม่ได้หรอก มันมากเกินไป” รัญตาปฏิเสธด้วยความเกรงใจ เธอเป็นแค่แฟนหนุ่มของน้องชายพวกท่าน ไม่สมควรได้รับความเมตตาถึงเพียงนั้นหรอก แม้ว่าอีกฝ่ายจะร่ำรวยมากก็ตาม
“ไม่มากหรอกถ้ารัญต้องการ พรุ่งนี้ไปเลือกเลยนะ ช่วงบ่ายก็ได้ เพราะพรุ่งนี้อามีประชุมเช้า” แมคโลริคช่วยสำทับ
รัญตากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอเกรงใจเขาและเกรงใจน้าสาวของตัวเองด้วย
“คือว่า...รัญกลัวน้าฎาจะว่าเอาค่ะ น้าฎาต้องว่ารัญแน่ๆ ถ้ากล้ารับของขวัญชิ้นโตจากคุณท่านและอาแมค รัญรับไว้ไม่ได้จริงๆ”