ตอนที่ 11 เผชิญหน้า

1811 คำ
ด้านแทคิณหลังจากที่พวกผมทานข้าวกันเสร็จแล้วนั้น ผมและไอ้โรมก็มาติดต่อเพื่อจะขอดูกล้องวงจรปิดกับทางมหาลัย วินาทีที่กล้องซูมหน้าคนร้ายชัดๆ ใบหน้าอันหล่อเหลาทั้งสองหนุ่มถึงกับชะงัก “พรีนงั้นเหรอ” แทคิณหลุดเสียงเบาออกมา แต่นั้นชื่อที่เขาเอ่ยนั้นก็ถึงหูโรม ทั้งสองหนุ่มได้แต่มองหน้ากัน “เชี่ย...พรีนนี่นะ เธอเป็นแฟนคลับพวกสะสมของศิลปินป่าว” โรมที่เห็นภาพใบหน้าของพรีนเต็มสองตาถึงกับหันมาถามเขา อย่าว่าแต่ไอ้โรมเลยครับที่ตกใจเห็นยัยนั้น ผมเองก็ไม่ต่างจากมันหรอก พรีนงั้นเหรอเธอจะเอาหมวกกันน็อคของผมไปทำไม “เหอะ ยัยนั้นเนี่ยนะไม่น่าจะใช่ว่ะ” “แล้วจะเอาไปเพื่อ?” โรมเอ่ยพร้อมกับมองหน้าแทคิณ “อย่าว่าแต่มึงเลย กูแม่งยังมึนเลย” นั้นน่ะสิ ระดับคุณหนูอย่างยัยนั้นจะเอาหมวกกันน็อคผมไปทำไมเถอะ “หึ...นอกเสียจากว่าเธอเป็นพวกแฟนคลับ คลั่งรักมึง” โรมได้แต่สันนิษฐาน แต่จะว่าไป พรีนไม่น่าจะจัดอยู่ในกลุ่มนั้น โรมได้แต่คิด “แล้วนี้มึงจะเอาไง รู้ตัวคนร้าย หน้าชัดขนาดนี้แล้วแจ้งความจับเลยไหม ถ้าเป็นกูแม่งคงแจ้งไม่ลงว่ะเพื่อน คนร้ายดันสาวสวยซะด้วยสิ” โรมเอ่ยพร้อมกับหลุดขำ เหอะใครจะคิดว่าคนที่ขโมยหมวกเชี่ยคิณไปเป็นใกล้ตัว ดันเป็นเพื่อนนานิลแฟนเขาซะด้วยสิ แต่เมื่อรู้ว่าคนที่ขโมยไปเป็นพรีนจะโกรธ ก็โกรธไม่ลง หรือที่เธอทำแบบนี้ ไม่พอใจที่เราจูบกันวันนั้น จะเอาคืนด้วยการเอาหมวกกันน็อคผมไปเนี้ยนะ เหอะยัยนี้เด็กชะมัด “ว่าไง ทีนี้มึงจะเอาไง จัดเลยไหม...” โรมเอ่ยด้วยสีหน้าหลุดขำ พอเห็นหน้าโจรสาวสวยเท่านั้นแหละเพื่อนเขาถึงกับเอาเรื่องไม่ลง สีหน้าแทคิณตอนนี้กับเมื่อครู่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด จะว่าไปวันนั้นหลังจากที่แทคิณหายออกจากโต๊ะไป ผมเห็นนะครับว่าไอ้เชี่ยคิณแม่งออกไปกับพรีน แต่นั้นโรมก็เลือกที่จะเงียบ ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเรื่องของเพื่อนมาก เพราะผมและนานิลในตอนนี้ก็ท่าจะไม่รอด “อืม เดี๋ยวกูจัดการเอง ขอบใจมากที่ช่วยเป็นธุระให้ ไว้เจอกันพรุ่งนี้ว่ะ” แทคิณเอ่ยจบก็เดินแยกกับโรมไปยังตึกคณะนิเทศ แต่ภายในหัวกับคิดไม่ตกหมวกกันน็อคราคาไม่กี่หมื่นยัยนั้นจะเอาของผมไปทำไม ถ้าเธออยากได้มากไม่ต้องถึงขั้นขโมยแค่เอ่ยปากขอก็พร้อมให้มาก เมื่อเห็นหน้าค่าตาของคนที่ขโมยหมวกไปนั้น กะจะเอาเรื่องอยู่แล้วเชียวแต่นั้นกับเอาเรื่องเธอไม่ลง คืนนั้นเขาพลาดมากที่ไม่แลกไลน์ติดต่อเธอ แต่อีกใจกับค้านขึ้น ถึงไม่มีไลน์แต่นั้นเขาก็รู้คอนโดเธอนี่น่า ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่เขาจะตามตัวคนที่เอาหมวกกันน็อคใบโปรดเขาไป !!หึ...!! แทคิณหลุดเสียงออกมาแค่นั้น @ภายในห้องเรียน ด้านพรีนหลังจากที่ได้รายงานแล้วนั้นฉันก็รีบกลับมหาลัยให้ทันชั่วโมงส่งงาน ร่างบางที่ทั้งเดินทั้งวิ่งขึ้นตึกคณะถึงกับเหนื่อยหอบ วินาทีที่วางเล่มรายงานลงบนโต๊ะอาจารย์แล้วนั้น ฉันเดินมานั่งข้างยัยลิลลี่และยัยโปรเกล “เฮ้ย...ซบหน่อยมึง ไม่ไหว จาเป็นลม จาวูบ” พรีนไปพูดเปล่าแต่กับเอนศีรษะซบเข้าที่ไหล่ของโปรเกล “เป็นไรของแกพรีน ดูท่าน่าจะไม่ไหว” โปรเกลถามด้วยสีหน้าสงสัย “นั่นดิ” นานิลที่นั่งถัดจากโปรเกลว่ามาอีกเสียง แต่นั้นเธอกับสะดุดเข้ากับหมวกกันน็อคที่พรีนอุ้มเข้าห้องวางที่ข้างเก้าอี้ “ของใครพรีน ของเธอเหรอ” นานิลถามด้วยสีหน้าสงสัย จะว่าไปยัยพรีนขับมอไซค์ด้วยเหรอฉันไม่เคยเห็น “เออ นั้นดิ แกขับมอไซค์ด้วยเหรอพรีน” กิ๊บที่ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นพรีนหอบหมวกกันน็อคมาด้วยแบบนี้ เพื่อนๆ ในห้องที่เห็นถึงกับขมวดคิ้วตามๆ กัน “ปะ...ป่าว ยืมเขามาอะ” ใช่ฉันยืมมา ไม่ได้ขโมยนะ ถึงเจ้าของหมวกไม่อยู่ตรงนั้น แต่ฉันก็ยืมกับเจ้าบิ๊กไบค์คันสีน้ำเงินแล้ว กะจะเอาไปคืนเจ้าของรถหลังเลิกเรียน เพราะตอนนี้ฉันสายมากขืนเอาไปคืนตอนนี้ส่งงานอาจารย์ไม่ทันอ่ะ “แต่หมวกใบนี้ฉันคุ้นมากเลยนะ เหมือนเคยเห็นใครที่ไหน” “แกเคยเห็นที่ไหนยัยนิล หมวกแบบนี้ที่ไหนก็มีขายทั้งนั้นแหละ” พรีนที่นานิลเอาแต่สงสัยถึงกับว่ามา ก็แค่หมวกกันน็อคธรรมดา “ไหน ขอจับดูหน่อย” ยัยกิ๊บไม่พูดเปล่า แน่สายเผือก อย่างยัยนี้กับจับพลิกไปมา “แกปกติ หมวกจะเหม็นเหงื่อไรงี้นะ แต่นี้คือหอมมาก” เฮ้ย...ยัยกิ๊บหยิบหมวกกันน็อคใบนั้นขึ้นมาสูดดมหน้าตาเฉย “ท่าจะไม่ธรรมดา ราคาคงจะแรงน่าดู ยืมมางั้นเหรอ ของหนุ่มหน้ามนคนไหนป่าว” แต่นั้นยัยกิ๊บกับหันมาถามฉัน “หนุ่มคนไหน ไม่มีอ่ะ อยากมีนะ หาให้บ้างดิ” ฉันบอกยัยกิ๊บไป “เด็กปีหนึ่งคงไม่เหมาะกับแกว่ะพรีน” ยัยกิ๊บหันมาว่าให้กับฉัน “แกให้ยัยกิ๊บหาให้ แล้วคนที่แกจุบุด้วยนี่คือไร ไม่สนใจคนดังคนนั้นแล้วเหรอ” ลิลลี่ที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับเล่นฉันทันที “คนดัง เลยเหรอ ใครอะลี่ พวกฉันรู้จักป่ะ” โปรเกลที่ลิลลี่ว่ามาเช่นนั้นถึงกับหันถาม ไม่เว้นแม้กระทั่งยัยนานิล แต่ขณะที่ลิลลี่จะเอ่ยอะไรมานั้น “เออ ใช่ ฉันคิดออกแล้ว เหมือนเคยเห็นที่คอนโดโรม แบบนี้เลย” เสียงนานิลเอ่ยมา “ยัยนิลเรื่องหมวกเขาจบกันแล้วย่ะ แกนี่จริงๆ เลย” ยัยโปรเกลหันมาว่าให้กับยัยนานิล “ห้าคนด้านหลัง เงียบๆ กันหน่อยครับ จะเอาไหม แนวข้อสอบน่ะ” ยัยโปรเกลที่ว่ายัยนิลเมื่อครู่ กลุ่มพวกฉันที่นั่งสุมหัวกันห้าคนถึงกับโดนมองแรง อาจารย์เบรกอย่างไว “แยกค่ะ เพื่อน ตั้งหน้าตั้งหนาจดแนวค่ะ” เสียงยัยลิลลี่บอกพวกฉัน จากนั้นพวกฉันก็นั่งเลคเชอร์ลงกระดาษของใครของมันฉันที่ทั้งจดและอัดเสียงอาจารย์เอาไว้ เพราะกลัวพลาดช่วงเวลาสำคัญ 2 ชั่วโมงต่อมา ด้านพรีนหลังจากที่เลิกคลาสเรียนกันแล้วนั้น ขณะที่พวกฉันกำลังเดินลงจากตึกขณะนั้น “ยัยนิล แกกลับพร้อมพวกฉันไหม” เสียงยัยกิ๊บถามยัยนิล “จะถามไร เห็นหลัวเขาไหมคะ โน้นค่ะ โรมมารอรับยัยนิลแล้ว” พอยัยลี่เอ่ยจบยันนิลก็หันมาโบกมือบายๆ ให้กับพวกฉัน “บายนะพวกแก พรุ่งนี้เจอกัน” “บาย” ฉันเอ่ยกับยัยนิล และสบตาเข้ากับโรม แต่นั้นโรมกับกระตุกยิ้มให้ฉัน แต่ฉันว่าโรมเขายิ้มให้ฉันแปลกๆ นะ ฉันเลิกสนใจโรม “ลี่ วันนี้กูไม่ได้เอารถมา รอกูด้วยนะ ขอเอานี่ไปคืนเจ้าตัวเขาแป๊บ” ฉันหันไปเอ่ยกับยัยลี่ “จะว่าไปหนุ่มคนไหนน๊า ที่ใจดีให้แกยืมหมวก คนที่ฉันคิดป่ะ จุบุ จุบุอ่ะ” ลิลลี่ทำหน้าล้อเล่นฉัน ยัยลี่นี่จริงๆ เลย นี้ฉันคิดถูกหรือคิดผิดที่หลุดปากเรื่องนั้นกับนาง ท่าจะไม่ใช่ความลับแล้วล่ะ “ไม่ใช่ย่ะ กูขโมยเขามา กูรีบมากลี่ไปละนะ มึงรอกูที่หน้าตึกนิเทศก็ได้” เอ่ยจบร่างบางอุ้มหมวกกันน็อคและวิ่งไปข้างตึกคณะบริหาร ด้านแทคิณร่างสูงเสื้อเชิ้ตนักศึกษาแขนยาวพับแขนสวมกางเกงยีนส์สีเข้มที่เดินลงมาจากตึก ขณะที่เดินไปยังรถบิ๊กไบค์คู่ใจนั้นแต่สายตากับสะดุดเข้ากับร่างบางที่ยืนหันหลังวางหมวกกันน็อคลงกับเบาะรถของเขา “ขโมย...” เสียงเข้มที่ดังมาจากด้านหลังทำเอาคนวางหมวกกันน็อคอย่างเบามือนั้นถึงกับสะดุ้ง !! ตุ๊บ !! ให้ตายเถอะอย่าบอกนะว่าเจ้าของรถคันนี้เขาเห็นฉันแล้ว ชิบหายแล้วไหม ขาที่จะก้าวเดินออกมานั้นถึงกับแน่นิ่งก้าวขาแทบไม่ออก “ฉันไม่ได้ขโมยนะ แค่ยืมไปแล้วไม่ได้บอก แต่เอามาคืนแล้ว” ในจังหวะที่ร่างบางหันมาเผชิญหน้ากับเจ้าของรถ ร่างสูงยืนมือกอดอกสบตาเข้ากับฉันนั้น “แท...คิณ” ด้านพรีนที่ไม่คิดว่าเจ้าของรถบิ๊กไบค์คันนี้เป็นของแทคิณ ดวงตาเรียวสวยถึงกับเบิกกว้างออกมาด้วยท่าทีตกใจ “ไง จับได้คาหนังคาเขาขนาดนี้ เธอจะปฏิเสธฉันยังไง” แต่นั้นคนอยากแกล้งไม่พูดเปล่า แทคิณกับสาวเท้ามาหยุดที่หน้าของเธอ ให้ตายเถอะหยิบของใครไม่หยิบนะฉันเสือกหยิบของคนที่มีประเด็นกับตัวเอง ยิ่งไม่อยากเจอแต่ดูเหมือนว่าโชคจะไม่เข้าข้างฉันสักนิด “หรือฉันควรจับเธอส่งตำรวจดี หลักฐาน กล้องวงจรปิดฉันมีพร้อมมาก” !!อึก!! ด้านพรีนที่แทคิณว่ามาเช่นนั้นถึงกับสะอึก “ส่งตำรวจเลยเหรอ” ใบหน้าสวยหวานเอ่ยด้วยสีหน้าตกใจ นี่ฉันจะติดคุกติดตารางเพียงแค่หมวกกันน็อคใบเดียวเนี่ยนะ “ฉันไม่ได้ขโมย แค่ยืม นี่ไง ฉันเอามาคืนนายแล้ว” ร่างบางไม่พูดเปล่า แต่เธอกับหยิบหมวดกันน็อคของเขาขึ้นมาปิดบังใบหน้าด้วยท่าทีเขินอาย ตั้งแต่จูบกับเขาก็อายมากแล้ว ยิ่งมาหยิบหมวกกันน็อคของแทคิณ และดันซวยโดนเขาจับได้อีก อายคูณสองไปเลยสิฉัน และดูหน้าหล่อๆ ของเขาที่มองฉันตอนนี้สิใครเขาจะกล้ามองล่ะ รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ หายใจไม่ทั่วท้องยังไงไม่รู้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม