ไร่ดวงเดือนตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงรายของไทย มีเนื้อที่หลายสิบไร่ เป็นอาณาจักรของดอกกุหลาบที่ส่งขายไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าหรือบริษัทเพื่อเอาไปผลิตเป็นสินค้านานาชนิด
ไร่แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงดอกกุหลาบเท่านั้น แต่ยังมีฝั่งที่เป็นไร่ชาและไร่องุ่นจึงมีร้านคาเฟเล็กๆ ภายในไร่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเช็กอินถ่ายรูป จิบชา กินขนม รวมถึงซื้อของฝาก
แสงเหนือ มหาดำรงวัฒนา คือหลานชายคนเล็กของคุณยายดวงเดือนที่เข้ามาช่วยบริหารงานเมื่อหลายปีก่อน หลังจากเขาอกหักเพราะคนรักไปท้องกับผู้ชายคนอื่น
คราแรกชายหนุ่มจะมาพักผ่อนหย่อนใจไม่นาน แต่สุดท้ายเกิดติดใจจึงอยู่ยาวและรับช่วงต่อกิจการจากคุณยาย
“ช่วงนี้คนมาเที่ยวเยอะไหมตาเหนือ” คุณยายเงยหน้าถามหลานชายเมื่อละครที่กำลังดูเข้าสู่ช่วงพักโฆษณา ท่านอายุมากก็จริงแต่ยังดูสวยและแข็งแรง งานการยกให้หลานชายดูแล เหลือเพียงอย่างเดียวที่ยังไม่สมหวังคือเรื่องเหลน
“ก็เหมือนเดิมครับคุณยาย คนจะเยอะแค่ช่วงเทศกาล”
ชายหนุ่มวางโทรศัพท์ลง ก่อนจะหันมาตอบผู้หญิงที่มีใบหน้าคล้ายมารดาของตนเอง เขาเห็นหน้ายายทีไรนึกว่ากำลังคุยกับแม่ทุกครั้ง เหมือนจนนึกว่าแฝดต่างกันก็แค่อายุ
“ยายเห็นคนมาเที่ยวแล้วมีความสุขจริงๆ”
คนแก่ยิ้มแป้นเมื่อคิดถึงจำนวนคนที่มาท่องเที่ยว บางครั้งถ้าท่านไม่ได้ออกไปไหนก็จะไปช่วยงานในร้านคาเฟ ท่านชอบเวลาเห็นคนมีความสุข
“คุณยายมีความสุขผมก็ดีใจครับ”
“ถ้างานทางโน้นไม่ทันก็ให้หนูดาวไปช่วยได้ น้องทำงานเก่ง”
“พอเลยครับ ไม่ต้องชงผมกับคนโปรดของคุณยายหรอก”
“ก็ยายอยากอุ้มเหลนแล้ว ไม่เห็นเราชอบพอใครเลย”
“ไปบอกพี่สายฟ้าให้แต่งงานสิครับ รายนั้นแก่กว่าผมอีก”
“โอ๊ยหวังจากเรายังง่ายกว่าไหมตาเหนือ ไม่รู้ล่ะก่อนตายยายต้องได้เห็นหน้าเหลน ยายตั้งชื่อให้แล้วด้วย”
คนแก่ส่งค้อนวงโตให้แสงเหนือ คิดถึงใบหน้าของหลานชายคนโตแล้วเซ็ง รายนั้นทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอต คงจะมีเหลนมาให้คนแก่ชื่นใจหรอก คาดหวังกับหลานชายคนเล็กนี่แหละดีที่สุด
“เอาไว้ไปตั้งให้ลูกพี่สายฟ้านะครับคุณยาย ส่วนผมจะอยู่เป็นโสดตลอดชีวิต”
ชายหนุ่มสีหน้าเศร้าหมองขึ้นมาทันควัน เมื่อคิดถึงเรื่องอดีตที่ทำให้คนเจ็บปางตาย รักครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตพังไม่เป็นท่า เพียงเพราะคำว่าเขาไม่มีเวลาให้เธอ
“ยังไม่ลืมเรื่องนั้นอีกเหรอลูก ผู้หญิงไม่ได้เลวเหมือนกันทุกคน อย่าปิดใจตัวเองแบบนี้สิเชื่อยาย” เห็นหลานทำหน้าเศร้าซึมท่านก็อดเศร้าใจตามไม่ได้ คนผ่านร้อนผ่านหนาวมานานเอื้อมมือไปลูบหัวหลานรักด้วยความสงสาร
“ลืมแล้วครับ แต่ผมคิดว่าอยู่เป็นโสดแบบนี้แหละดี”
ยังไงแสงเหนือก็คิดว่าการไม่มีรักเป็นสิ่งที่ดีต่อหัวใจ เขาไม่จำเป็นต้องแต่งงานมีครอบครัว เพราะทุกวันนี้ชีวิตมีความสุขดี ทว่าคุณยายกลับไม่เห็นด้วยตามประสาคนแก่
“ยายจะคอยดู ยังไงยายก็อยากให้หลานมีครอบครัว ยัยหนูดาวยายชอบ” ประดับดาวคือหลานของลูกน้องสามีที่เพิ่งเสียชีวิตไม่นาน ท่านทั้งรักทั้งเอ็นดูเพราะหญิงสาวขาดทั้งพ่อทั้งแม่อยู่กับลุงมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ ท่านอยากให้คนที่ตัวเองรักทั้งสองคนได้ครองคู่กัน
“แต่ผมไม่ชอบ ผู้หญิงซุ่มซ่าม เหมือนม้าดีดกะโหลก พูดมากแบบนั้น ใครจะไปชอบลง แค่คิดก็สยองแล้วครับคุณยาย”
“เรานี่นะกับคนอื่นไม่เห็นจะปากร้าย ทำไมกับประดับดาวถึงเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ น้องออกจะน่ารัก”
“เอาเป็นว่าถ้าหลานชายของคุณยายจะมีความรัก ผู้หญิงคนนั้นต้องไม่ใช่ประดับดาว”
“แล้วยายจะคอยดู คนปากไม่ตรงกับใจ”
“ผมไปดีกว่า ไม่อยากเถียงคุณยาย”
แสงเหนือทำหน้ามุ่ย ก่อนจะเดินหนีหายกลับขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง และหากมองจากหน้าต่างของเขาจะเห็นบ้านของหญิงสาวซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก
วันนี้บ้านหลังเล็กข้างหน้าไม่มีแสงไฟอย่างเช่นทุกวันที่ผ่านมาอดสร้างความสงสัยแก่คนมองไม่น้อย ประดับดาวหายไปไหน ไม่รู้อะไรดลใจถึงได้คว้าโทรศัพท์ออกมา แต่กลับฉุกคิดขึ้นมาได้ยัยตัวป่วนจะไปไหนก็เรื่องของเธอ เขาไม่เกี่ยว
Rrr Rrr Rrr
โทรศัพท์มีสายเรียกเข้าพอดี ชายหนุ่มเห็นเบอร์ที่ติดต่อเข้ามาก็รีบกดรับอย่างรวดเร็ว
“ดึกดื่นขนาดนี้ไม่ทราบว่าคุณมึงโทรหาคุณกูทำไมครับ”
ชายหนุ่มถามเพื่อนที่เป็นเจ้าของโครงการหมู่บ้านจัดสรรสุดหรูด้วยน้ำเสียงกวนบาทา สิงหราชไม่สนใจเพราะมีเรื่องจะมาบอก อยากกระตุ้นต่อมหึงของแสงเหนือ
‘กูมีเรื่องจะเล่าให้มึงฟัง วันนี้กูไปเจอคู่แข่งของมึงด้วย’ คนโทรมายิ้มร้าย ถ้าไม่ติดว่าตัวเองกำลังโป๊อยู่ในอ่างอาบน้ำคงกดวิดีโอคอลไปแล้ว
เขาอยากเห็นหน้าแสงเหนือจริงๆ อยากรู้เพื่อนจะทำหน้าอย่างไรหลังจากรู้ว่ามีคนมาจีบประดับดาว ถึงแสงเหนือจะบอกว่าไม่คิดอะไรแต่สิงหราชกลับไม่เชื่อ เป็นเพื่อนกันมานานมีเหรอจะดูไม่ออก
“คู่แข่ง มึงหมายถึงใคร พูดอะไรกูงง” ไม่ใช่งงธรรมดาต้องบอกว่างงมาก แสงเหนือขมวดคิ้วมุ่นหลังจากตั้งคำถาม ทว่าดวงตายังคงจับจ้องไปที่หน้าต่างของบ้านหลังเล็กตรงหน้า
‘ก็ไอ้เวคินไง ผู้ชายที่กำลังตามจีบน้องดาวคนน่ารัก’
ด้วยความบังเอิญจริงๆ วันนี้ตอนเที่ยงเขาไปกินข้าวกับมารดา ในระหว่างเดินทางกลับบ้าน เหลือบไปเห็นเวคินกำลังเดินตามหลังประดับดาวต้อยๆ ดูไปก็เหมือนสามีเดินตามตูดภรรยาไม่มีผิด เขาอยากถ่ายรูปส่งให้ไอ้เพื่อนจอมปากแข็งดูมาก แต่ถ่ายไม่ทันน่าเสียดายจริงๆ
“คู่แข่งมึงมากกว่า กูไม่ได้คิดอะไรกับยัยม้าดีดกะโหลกนั่น”
‘ไอ้คนบาปกูรักดาวเหมือนน้องสาว’
“จะโทรมาบอกกูแค่นี้”
‘ไม่ใช่แค่นี้ คืองี้วันนี้กูเห็นไอ้เวคินเดินถือของตามหลังน้องดาว เหมือนคู่รักเลยว่ะ นี่ถ้าไม่รู้มาก่อนนึกว่าผัวน้องมัน’
“เรื่องของประดับดาว กูไม่เกี่ยว ยัยเด็กนั่นจะไปไหนกับใครกูไม่สนใจ”
ปากบอกไม่สนใจแต่มือทั้งสองข้างกำแน่นอย่างไม่รู้ตัว แสงเหนือไม่รู้สักนิดว่าสีหน้าของตัวเองบูดบึ้งขนาดไหน
‘เออ มึงไม่สนใจน้องก็ดีแล้ว’
“ดียังไง พูดให้มันเคลียร์หน่อยไอ้สิงห์”
‘เอ้าก็กูจะได้ไม่ต้องเห็นคนอกหักซ้ำสองไง ดูแล้วครั้งนี้ไอ้เวคินเอาจริง’
“มึงรู้ได้ไง ไปเป็นเห็บเหาบนตัวมันเหรอ”
‘กูมีสมองโว้ย วิเคราะห์เองได้ ขอฟันธงครั้งนี้ไอ้เวคินรักจริง’
“มึงควรไปเช็กสมองบ้างนะไอ้สิงห์”
‘ไม่เชื่อกูอีก คอยดูแล้วกัน’
แสงเหนือกลอกตามองบนใส่เพื่อนพร้อมเบะปาก ไม่เชื่อคำพูดของสิงหราชแม้แต่นิดเดียว เวคินเจ้าชู้จะตายไม่มีทางมาชอบยัยม้าดีดกะโหลกจริงหรอก
สองเพื่อนซี้คุยกันต่ออีกสักพักก็วางสาย ก่อนต่างฝ่ายจะล้มตัวนอนแล้วหลับตาลงเพื่อพักผ่อน ทว่าคนที่บอกไม่สนใจประดับดาวกลับยกโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งแล้วกดเข้าไปดูในโลกโซเชียล เห็นหญิงสาวโพสต์รูปที่ถ่ายกับเพื่อนสนิท แต่เงาในกระจกข้างหลังกลับสะท้อนภาพผู้ชายที่มีชื่อว่าเวคิน อริยะพจน์วงทา