“เชิญทางนี้เลยครับ”
เสียงผู้จัดการบริษัทสาขาประเทศไทยเอ่ยขึ้น เมื่อวันนี้ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทพากันมาดูงานเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ที่ประเทศไทยด้วยตนเอง จากนั้นกลุ่มคนชุดดำกลุ่มใหญ่ก็เดินตามเจ้านายของตนออกไปขึ้นรถที่ทางนี้จัดเอาไว้ให้ทั้งหมด 5 คัน
“แล้วงานเรียบร้อยดีหรือยัง”
อเดลถามออกมาพร้อมกับเดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่แล้ว
“ครับ เรียบร้อยแล้วครับ ท่านจะเข้าไปดูที่งานเลยรึเปล่าครับผมจะได้บอกให้ทางนั้นเตรียมการแสดงที่จะมีขึ้นพรุ่งนี้ไว้ท่านดูก่อนว่าพอใจไหม”
ผู้จัดการเอ่ยขึ้น เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายก่อนงานจะปิดตัวในวันพรุ่งนี้ ทางทีมงานกำลังซ้อมคิวกันอยู่พอดี
“ว่าไงโลเวล นายจะเข้าไปดูที่งานหรือเปล่า”
อเดลหันไปถามมาเฟียหนุ่มเพื่อถามความคิดเห็น ถึงเขาจะเป็นผู้บริหารคนหนึ่งก็จริง แต่ถ้าโลเวลมาด้วยการตัดสินใจทั้งหมดต้องผ่านโลเวลก่อนเสมอ
“อืม ไปก็ดีเหมือนกัน อยู่ที่เดียวกับที่เราพักนี่”
โลเวลเอ่ยออกมาเสียงเรียบก่อนที่ผู้จัดการสาขาของที่นี่จะรีบบอกออกมา
“คะ ครับ ใช่ครับท่าน งั้นเดี๋ยวผมบอกทางนั้นเตรียมทุกอย่างไว้ให้เหมือนการแสดงวันจริงเลยนะครับ”
เมื่อผู้จัดการพูดเสร็จสองหนุ่มก็เดินขึ้นรถที่มีความปลอดภัยดีเยี่ยมทั้งกันกระสุนทั้งกันระเบิดซึ่งถูกผลิตและนำเข้ามาเพื่อให้มาเฟียหนุ่มโดยเฉพาะ
เมื่อมาถึงภายในโรงแรมที่จะใช้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท โลเวลและอเดลก็เดินเข้าไปยังห้องที่จัดเตรียมไว้โดยให้พวกการ์ดคอยคุ้มกันความปลอดภัยอยู่ด้านนอก ทั้งสองเดินมานั่งลงหน้าเวทีที่จะมีการแสดงในวันรุ่งขึ้นเพื่อรอชมโดยผู้จัดการบริษัทรีบวิ่งไปเตรียมงานด้านหลังเพราะกลัวผิดพลาด
“เตรียมพร้อมกันหมดแล้วใช่ไหม พรีเซนเตอร์ละ พร้อมไหม”
เสียงผู้จัดการเอ่ยถามขึ้นอย่างร้อนรนเมื่อตอนนี้คนรอดูพร้อมเต็มที่แล้ว
“พร้อมคะ...พรีเซนเตอร์คะ เดี๋ยวซ้อมใหญ่กันอีกรอบนะคะ เริ่มเลยคะ”
เสียงผู้กำกับเวทีเอ่ยขึ้นก่อนที่นักแสดงทุกคนจะออกมาแสดงโดยการแสดงนี้เป็นการโชว์ความพลิ้วไหวของร่างกายโดยการโหนเชือกที่ทำจากผ้า จากนั้นพรีเซนเตอร์จะออกมาในช่วงกลางการแสดงพร้อมกับถือขวดไวน์ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทออกมาแสดงโชว์และจะมีการเปิดขวดไวน์แล้วให้พรีเซนเตอร์ของงานเดินไปรินไวน์ใส่แก้วของแขกกิตติมศักดิ์ของงานทุกท่านก่อนจะเดินขึ้นเวทีแล้วกลับลงไป พร้อมกับเดินออกมาอีกรอบเพื่อถ่ายรูปคู่กับเจ้าของงาน เพียงแค่นี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น โดยการแสดงชุดนี้มีชื่อว่า เสน่ห์หานางโรม เพราะพรีเซนเตอร์นั้นแต่งตัวเหมือนนางโรมสมัยโบราณของจีนเพื่อออกมาเสิร์ฟไวน์นั่นเอง
การแสดงเริ่มได้เพียงครึ่งเรื่องเท่านั้น มาเฟียหนุ่มก็รู้สึกว่ามันน่าเบื่อเกินกว่าจะทนนั่งดูจึงลุกขึ้นยืนพร้อมกับตั้งท่าจะเดินออกจากงานแต่อเดลกลับเรียกเอาไว้ก่อน
“โลเวล อีกนิดเดียวพรีเซนเตอร์จะออกมาแล้ว นายไม่ดูก่อนเหรอ เผื่อไม่ถูกใจจะได้เปลี่ยนทัน”
อเดลบอกออกมา แต่มาเฟียหนุ่มกลับทำท่าไม่สนใจ แค่ปลายตาขึ้นไปมองบนเวทีพร้อมกันนั้นมีร่างเล็กของพรีเซนเตอร์สาวเดินถือขวดไวน์ออกมา นั่นแหละมาเฟียหนุ่มถึงหยุดเดินและยอมกลับมานั่งลงที่เดิมด้วยสายตาเรียบนิ่งไม่บ่งบอกความรู้สึกทำเอาทีมงานใจหายใจคว่ำเมื่อคิดว่าเจ้าของงานคงไม่พอใจงานในครั้งนี้
“เป็นไงพรีเซนเตอร์คนนี้ เห็นบอกว่าเป็นดาราที่กำลังมาแรงมากเลยดึงตัวมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับเรา”
อเดลบอกออกมาอย่างพยายามจับความรู้สึกของมาเฟียหนุ่มว่าเขานั้นพอใจในการเปิดตัวแบบนี้หรือไม่ แต่ก็ได้เพียงความเงียบกลับมา พร้อมกับสายตาคมที่เอาแต่จ้องร่างเล็กที่อยู่ในเสื้อยืดกางเกงยีนส์ของพรีเซนเตอร์สาวโดยไม่แสดงความรู้สึกใดๆออกมา จนกระทั่งการแสดงจบลงนั่นแหละ เขาจึงลุกเดินออกจากห้องไปโดยมีอเดลเดินตามหลังไปพร้อมกันกับมาเฟียหนุ่ม เพราะถ้าไม่ตอบแสดงว่าพอใจกับการแสดงเมื่อกี้
เมื่อขึ้นมาถึงห้องโลเวลเรียกการ์ดคนหนึ่งเข้ามาถามเรื่องที่ให้ไปสืบมาก่อนหน้านี้ว่าแดเนียล กบดานอยู่ที่ไหน ซึ่งคำตอบที่ได้คือภูเก็ต และหลังจากจบงานเปิดตัวสินค้าใหม่มาเฟียหนุ่มจะบินไปจัดการแดเนียลด้วยตัวเองทันที เพราะการมาของเขาครั้งนี้ยังคงเป็นความลับ แต่พอพรุ่งนี้พวกมาเฟียกลุ่มต่างๆก็จะรู้ว่าเขาอยู่ที่ประเทศไทยพร้อมกับแดเนียล และแดเนียลนั้นคงหลบหนีไปอีกตามเคยถ้าเขาไม่ส่งคนไปจับตัวเอาไว้ก่อน
“พาคนไปค้นหามันและจับตัวมันเอาไว้ พรุ่งนี้ฉันจะไปจัดการมันด้วยตัวเอง อย่าให้มันหนีรอดไปได้อีก ไม่งั้นคนที่จะลงไปนอนในหลุมแทนมันคือใครคงรู้นะ”
โลเวลบอกออกมาแค่นั้นก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อพักผ่อนสักหน่อยหลังจากที่เดินทางข้ามทวีปมาหลายชั่วโมง
“เฮ้อ กว่าจะเสร็จเกร็งแทบตายอะเจ๊ คนอะไรไม่รู้หน้าตาก็หล่อ แต่จ้องซะน่ากลัว แล้วยังเอาแต่จ้องอยู่ได้ พลอยนึกว่าจะไม่มีชีวิตรอดงมาจากเวทีแล้วนะคะเนี่ย”
เสียงพลอยใสบ่นออกมาเมื่อเธอเดินขึ้นเวทีไปนั้น ก็มีผู้ชายสองคนนั่งดูการแสดงอยู่ คนหนึ่งนั้นดูเฉยๆ แต่อีกคนนั้นดูน่ากลัว ดวงตาสีฟ้ามรกตอ่อนๆที่เอาแต่จ้องเขม็งมาที่เธอนั้น ทำเอาคนที่มีความมั่นใจถึงกลับเริ่มไม่มั่นใจ เพราะเขาเอาแต่จ้องตาไม่กระพริบแบบนั้น ทำให้หน้าหล่อเหลากลับดูดุดันน่ากลัวจนหญิงสาวยังสัมผัสได้ถึงรังสีที่แผ่ออกมาจากตัวชายหนุ่ม
“จริงเหรอ เสียดายเจ๊ไม่เห็นมัวแต่คุยโทรศัพท์ วันนี้คงไม่มีอะไรแล้ว งั้นเราไปอีกงานกันเถอะคะ งานสุดท้ายของวันนี้แล้ว พรุ่งนี้แล้วสินะสัญญาของพลอยจะหมด เฮ้อออ เลือกเอาไว้บ้างรึยังละเจ๊จะได้เขียนใบลาออกไว้รอ”
เจ๊เปาบอกออกมาพร้อมกับถอนหายใจยาว แต่ก็เพียงแค่นั้น เพราะถึงดาราสาวจะไปเป็นนักแสดงอิสระ เธอก็คิดว่าจะตามไปเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้อยู่ดี จากนั้นทั้งสองสาวก็พากันเดินออกไปขึ้นรถที่จอดรอเอาไว้อยู่แล้วเพื่อไปทำงานกันต่อ
ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง
เสียงออดหน้าห้องดังขึ้น โลเวลที่พึ่งอาบน้ำเสร็จหลังจากตื่นนอนก็เดินไปเปิดประตูทันที
“ว่าไง”
เขาถามออกไปเมื่อคนที่มากดออดนั้นคืออเดล
“ไปหาอาหารกินกันข้างล่างนี่แหละ ฉันหิวแล้ว”
อเดลบอกออกมาก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะเดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์มือถือปืนพกติดตัวออกมาด้วย แล้วเดินลงไปหาอาหารทานกันด้านล่างโดยมีคนของมาเฟียหนุ่มคอยคุ้มกันเจ้านายอยู่ห่างๆ
“ฉันอยากได้ประวัติของพรีเซนเตอร์ของเรา เอาเย็นนี้เลยนะ”
โลเวลบอกออกมาเสียงเรียบเมื่อทั้งสองคนกำลังนั่งทานอาหารกันอยู่ ทำเอาอเดลถึงกับชะงักแล้วเงยหน้าขึ้นมองหน้ามาเฟียหนุ่มทันทีอย่างอ่านความคิด
“ได้สิเดี๋ยวจัดการให้”
อเดลตอบออกมาแค่นั้น เพราะไม่สามารถอ่านความคิดของคนตรงหน้าได้เลยสักนิด เขาแค่อยากรู้ว่าจะเอาประวัติของเธอมาทำไมกัน จากนั้นสองหนุ่มก็พากันทานข้าวจนอิ่มแล้วก็แยกย้ายกันกลับเข้าไปพักที่ห้องของตน