ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นสามนัดรวดพร้อมกับสามร่างล้มลงไร้ซึ่งลมหายใจทันที เมื่อคนที่เหนี่ยวไกไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะปลิดชีวิตของคนเหล่านี้
“หมดแล้วใช่ไหม แล้วไอ้แดเนียลละไปกบดานอยู่ที่ไหน”
เสียงเรียบนิ่งถามออกมาก่อนที่หนึ่งในลูกน้องจะตอบขึ้น
“มีสายแจ้งมาว่ามันบินไปกบดานอยู่ที่เมืองไทยครับ”
จากนั้นมาเฟียหนุ่มก็เดินออกไปจากโกดังร้างแห่งนี้พร้อมกับบอกให้ลูกน้องจัดการศพอย่าให้เหลือจนตำรวจตามกลิ่นมาได้เด็ดขาด
โลเวล สเวน มาเฟียหนุ่มสุดโหดแห่งประเทศอิตาลี ชายหนุ่มผู้ได้ฉายาว่า มาเฟียไร้ใจ เพราะการที่เขาสามารถเหนี่ยวไกโดยไม่ฟังคำร้องขอชีวิตของเหยื่อที่อยู่ตรงหน้าเลยสักนิด เขาเป็นมาเฟียที่มีอิทธิพลมากที่สุดในประเทศนี้และประเทศใกล้เคียง จนกฎหมายไม่สามารถทำอะไรเขาได้ทั้งๆที่รู้ว่ามาเฟียหนุ่มนั้นทำธุรกิจผิดกฎหมายมากมายขนาดไหน
โลเวลนั้นมีทั้งธุรกิจที่เป็นด้านมืดที่สืบทอดมาจากผู้เป็นบิดา และธุรกิจขาวสะอาดที่สืบทอดมาจากมารดา แต่ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ เขาเป็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีชีวิตเหมือนเด็กหนุ่มทั่วไปที่มีความรักและความฝัน แต่เมื่อ คารอส ผู้เป็นบิดาจากไปด้วยน้ำมือของมาเฟียคู่อริ โลเวลจึงต้องเข้ามาบริหารงานด้านมืดแทนบิดาทั้งๆที่ตอนนั้นเขาแทบทำอะไรไม่เป็นเลย แต่ได้ อดัม มือขวาของบิดานั้นคอยช่วยเหลือสนับสนุนและสอนทุกอย่างที่มาเฟียคนหนึ่งควรปฏิบัติจนทำให้เขาได้ก้าวมายืนในจุดนี้ และเมื่อคิดว่าตนเองแข็งแกร่งพอ ชายหนุ่มจึงเริ่มต้นออกไล่ล่ามาเฟียคู่อริที่ฆ่าบิดาของตนจนมาเฟียกลุ่มนั้นแตกสลายหมดอำนาจลงเมื่อโลเวลได้ฆ่าหัวหน้ากลุ่มและคนสืบทอดทั้งหมดโดยไม่ฟังคำอ้อนวอนของพวกนั้นเลยสักนิด
เมื่อขึ้นรับตำแหน่งได้เพียงไม่กี่ปี คู่แข่งที่เริ่มกลัวการมีอำนาจของมาเฟียหนุ่มนั้นก็พยายามที่จะลดอำนาจของโลเวลลงแม้กระทั่งจับมารดาเขาไปเป็นตัวประกัน และสุดท้ายพวกมันก็ลงมือฆ่ามารดาของชายหนุ่ม เมื่อคนที่รักในชีวิตได้จากไปจนหมด นั่นเองทำให้เขาแทบเป็นมาเฟียที่ไร้ทั้งหัวใจไร้ทั้งความรู้สึกกับทุกสิ่งทุกอย่าง โดยสามารถฆ่าคนได้เหมือนเป็นแค่สัตว์ตัวหนึ่งเท่านั้นถ้าพวกมันเป็นคนเลว มาเฟียหนุ่มพยายามขยายอำนาจของตนเองจากที่แค่ในอิตาลี ก็เริ่มลามไปเรื่อยๆยังประเทศใกล้เคียง จนตอนนี้ เขาเป็นที่รู้จักในระดับโลกในวงการมาเฟีย
และเมื่อมารดาเสียชีวิตธุรกิจมูลค่าหลายพันล้านก็ตกเป็นของเขาบุตรชายคนเดียวโดยปริยาย จึงทำให้โลเวลนั้นต้องมาบริหารทั้งธุรกิจด้านสว่างไปพร้อมๆกับด้านมืด โดยมี อเดล บุตรชายคนเดียวของ อดัมคอยบริหารธุรกิจด้านสว่างช่วยชายหนุ่ม ส่วนด้านมืดนั้นอดัมก็เป็นคนจัดการให้ทุกอย่างเหมือนกัน
สองพ่อลูกนั้นเคารพและซื่อสัตย์ต่อครอบครัวของมาเฟียหนุ่มมาก เพราะในอดีต คารอส บิดาของโลเวลเคยช่วยชีวิตอดัมกับภรรยาเอาไว้จากมาเฟียอีกกลุ่มพร้อมกับพาเข้าวงการมาเฟียและฝึกฝนสอนเกี่ยวกับด้านมืดให้ทั้งหมด จนทำให้อดัมนั้นกลายมาเป็นมือขวาก่อนที่คารอสจะถูกลอบฆ่า เมื่อโลเวลขึ้นมารับตำแหน่งแทน อดัมเลยปฏิญาณตนว่าจะดูแลและปกป้องมาเฟียหนุ่มอย่างเต็มที่ พร้อมกับให้บุตรชายเพียงคนเดียวของตนเข้ามาช่วยทำงานให้กับมาเฟียหนุ่มด้วย
“ผมจะเข้าบริษัท และอาทิตย์หน้าจะไปล่าไอ้แดเนียลที่ไทย ยังไงฝากงานทางนี้ด้วยนะครับคุณอา”
โลเวลบอกออกมาในขณะที่เดินไปขึ้นรถเพื่อเข้าบริษัทไปทำงาน เพราะโดยส่วนมากเขาก็ทำงานเหมือนนักธุรกิจทั่วไป แต่เมื่อมีความขัดแย้งหรือมีใครมาเฟียกลุ่มไหนเข้ามาระรานมาเฟียหนุ่มจึงจะออกไปจัดการด้วยตัวเอง เพราะส่วนมากอดัมจะเป็นผู้จัดการงานด้านมืดทั้งหมดให้
เขาเคยคิดที่จะวางมือจากการเป็นมาเฟียอยู่หลายครั้งหลังจากที่ขึ้นรับตำแหน่ง แต่เมื่อเขายอมสละอำนาจมืดก็เหมือนกับพวกมาเฟียกลุ่มเล็กๆพยายามที่จะฆ่าเขาเพื่อให้หมดอำนาจจริงๆไป เขาเลยต้องกลับเข้ามาเป็นมาเฟียอีกครั้งเพื่อเป็นการปกป้องตนเองและไม่ให้มาเฟียกลุ่มอื่นได้เติบโตขึ้นมาอีกในเขตพื้นที่ของตน
“ดูแลโลเวลดีๆเมื่อมีสิ่งผิดปกติโทรหาฉันเข้าใจไหม”
อดัมบอกพวกลูกน้องออกมาก่อนที่จะแยกตัวออกไปทำงานอีกที่หนึ่งซึ่งมีไว้สำหรับติดต่องานด้านมืดโดยเฉพาะ
ไม่นานโลเวลก็มาถึงบริษัทที่เขานั้นเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว โดยเป็นบริษัทเกี่ยวกับการผลิตและส่งออกไวน์ชั้นดีให้กับทั่วโลก ซึ่งบริษัทของเขานั้นเป็นที่ขึ้นชื่อและโด่งดังมากในแถบยุโรปนี้ เมื่อมาถึงที่ทำงาน มาเฟียหนุ่มก็เดินตรงไปยังลิฟต์ที่มีไว้สำหรับเขาคนเดียวทันที เขากดลิฟต์ไปยังชั้นสูงสุดที่มีเพียงเขาคนเดียวทำงนอยู่บนนั้น ด้วยเพราะการที่เขานั้นเป็นมาเฟีย ทุกย่างก้าวคืออันตรายรอบตัว ดังนั้นการรักษาความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับชายหนุ่ม ถึงแม้คนภายนอกจะรู้จักเขาในนานนักธุรกิจหนุ่มชื่อดังเจ้าของธุรกิจมูลค่าหลายพันล้าน แต่ในวงการมืดเขาคือมาเฟียที่มีค่าหัวแพงที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้
“อเดล ขึ้นมาหาฉันหน่อย”
เมื่อเข้ามาถึงห้องทำงานที่มีระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยม โลเวลก็ยกหูโทรศัพท์ขึ้นโทรหา อเดลทันที เพราะอเดลนั้นทำงานอยู่อีกชั้นด้านล่างเขานี่เอง
“โอเค เดี๋ยวขึ้นไป”
เพราะด้วยอายุเท่ากันและยังโดนฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ต่างๆมาพร้อมกันทำให้โลเวลกับอเดลนั้นเป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่ทั้งน้องและยังเป็นลูกน้องของมาเฟียหนุ่มอีกด้วย ไม่นานอเดลก็มาหยุดอยู่ที่ทางเข้าห้องของมาเฟียหนุ่ม จากนั้นประตูนิรภัยก็เปิดออกมาเมื่อเจ้าของห้องกดรีโมตเปิดให้เข้ามา ซึ่งน้อยคนนักที่จะได้เข้ามาในห้องนี้
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไร่ ไม่เห็นมีใครบอกเลย แล้วอดัมยังอยู่ดีใช่ไหม”
อเดลเดินเข้ามาถึงก็เอ่ยถามทันที โดยไม่ลืมที่จะถามถึงผู้เป็นบิดดาออกมาด้วยทุกๆครั้งที่เห็นโลเวลออกไปต่อสู้กับมาเฟียกลุ่มอื่น
“อืม ยังดีอยู่ อาทิตย์หน้าฉันจะไปเมืองไทยเพื่อตามล่าไอ้แดเนียลด้วยตัวเอง ยังไงจัดการด้วยแล้วกัน มีงานเปิดตัวไวน์ตัวใหม่ที่นั่นด้วย แกจะไปด้วยก็ได้เพราะอดัมไม่ไป”
โลเวลบอกออกมาแค่นั้นก่อนที่จะก้มหน้าตรวจงานต่อ เพราะอเดลนั้นรู้ว่าต้องทำยังไงและจัดการอะไรบ้างอยู่แล้วโดยที่มาเฟียหนุ่มนั้นไม่ต้องอธิบายออกมาให้ยืดยาว
“มันจะไม่อันตรายไปหน่อยเหรอกับการที่แกจะบินข้ามถิ่นไปอย่างนี้ ยิ่งอดัมไม่ไปด้วยอีก เสี่ยงไปหรือเปล่า”
อเดลเตือนออกมา เพราะมีเพียงเขาและผู้เป็นบิดาเท่านั้นถึงจะกล้าพูดกล้าเตือนมาเฟียหนุ่มในสิ่งที่เห็นว่ามันอันตรายต่อชีวิตของมาเฟียหนุ่มเอง
“หึ มันไม่มีปัญญาทำอะไรฉันหรอกน่าแกก็รู้ดีนี่ แล้วโซเฟียมารึยัง”
โลเวลบอกออกมาทั้งที่ยังก้มหน้าทำงานต่อ พร้อมกับถามหาคู่ขาของตนที่เขาสั่งให้พาเธอมารอ อยู่ที่ห้องพักชั้นล่างเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ที่มีตามธรรมชาติของตน เพราะโซเฟียเป็นผู้หญิงที่ไม่เรื่องมากไม่เซ้าซี้จึงทำให้โลเวลเรียกหาบ่อยที่สุดในบรรดาคู่ขาทั้งหมด
“อืม เอาอย่างนั้นก็ได้ เดี๋ยวฉันไปด้วย เป็นจันทร์หน้าแล้วกันนะเดี๋ยวจัดการให้ ส่วนโซเฟียมารอแล้ว”
อเดลบอกออกมาพร้อมกับเดินออกจากห้องไป เพราะยังไงเขาก็ไม่ยอมให้โลเวลไปเมืองไทยคนเดียวแน่นอน
โลเวลนั่งตรวจงานอยู่สักพักก็เดินออกจากห้องทำงานไปเพื่อไปหาโซเฟีย ที่เขาเรียกมาใช้บริการในวันนี้เพื่อปลดปล่อยอารมณ์ที่อัดอั้นอยู่มากมายของมาเฟียหนุ่ม