ด้ายแดงดึงหา

812 คำ
หลังคิดได้เธอจึงหยิบป้ายหยกออกจากกระเป๋าเสื้อ “เฮ้ย! ทำไมหยกร้าวได้อ่ะ ก่อนหน้านี้ยังดีอยู่เลย” “ท่านเป็นอะไรหรือไม่” ซ่งอิ้งหร่วนถามเพราะสงสัยกับอาการที่เกิดขึ้นของหญิงตรงหน้าที่เปลี่ยนแปลงบนใบหน้าตลอดเวลา หลังจากนั้นเธอก็ตกใจเพราะแขลงไปนั่งคุกเข่าและยกมือพนมไหว้ หน้าแหงนขึ้นฟ้าพร้อมเอ่ยว่า “ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง รบกวนช่วยลูกช้างลูกม้าคนนี้กลับบ้านด้วยเถิด หากลูกได้กลับบ้าน ลูกจะถอนเงินมาจ้างหนังกลางแปลงฉายสามวันเจ็ดวันเลยเจ้าค่ะ ลูกจะรำถวายเท่านั้นยังไม่พอลูกจะไหว้เป็ดไก่ หัวหมู ผลไม้เก้าอย่าง ขนมหวานมงคล น้ำแดง น้ำส้ม น้ำอัดลมทุกยี่ห้อเลย ช่วยลูกด้วยนะเจ้าคะ พ่อจ๋าแม่จ๋า...หากวิญญาณพ่อแม่มีจริง ช่วยหนูด้วย ฮื้อๆ” แขพูดไปก็ร้องไห้ฟูมฟายอีกครั้ง “พี่ใหญ่ แม่นางคนนี้น่าสงสาร เราจะช่วยยังไงดี” ซ่งอิ้งหร่วนถามซ่งอิ้งเทียน อีกฝ่ายดูสีหน้าก็ตอบปลอบใจน้องสาว “พี่ก็ไม่รู้ คงต้องให้อยู่ที่นี่ไปสักพักและหาหนทางช่วยเท่าที่เราจะช่วยได้ คงมีเพียงหนทางนี้เท่านั้น” ซ่งอิ้งเทียนตอบ “แม่นางแข ระหว่างนี้ท่านก็อาศัยอยู่ในจวนนี้กับข้าก่อนก็แล้วกัน” ซ่งอิ้งหร่วนเอ่ยปากชวนให้อีกฝ่ายอยู่ที่นี่ แขหันหน้ามามองสองพี่น้องตระกูลซ่ง และพยักหน้ารับน้ำใจของทั้งสองแต่ในใจยังไม่อยากเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนพร้อมๆ กับซ่งอี้เทียนก็ไม่เชื่อใจหญิงที่ร้องไห้อยู่ตรงหน้า “ถ้างั้นฉันขออาศัยอยู่ที่นี่ไปก่อนนะ แต่ในตัวฉันไม่มีเงินสักบาทติดตัวเลยนะ พวกคุณคงไม่คิดที่จะเก็บค่าเช่าฉันใช่ไหม?” แขถามอย่างหวั่นใจ เพราะไม่รู้ถึงชะตาชีวิตของตนอีกทั้งเงินติดตัวมาก็คงจะใช้กับโลกนี้ไม่ได้ “พวกข้าไม่ใช่คนใจร้ายเช่นนั้นหรอก แต่ข้าอยากรู้จังว่าเหตุใดท่านถึงรู้จักข้ากับพี่ใหญ่ของข้าทั้งๆ ที่เราก็เพิ่งจะรู้จักกันครั้งแรก” ซ่งอิ้งหร่วนถามด้วยความกังขายิ่ง “ฉันอ่านในหนังสือ” แขตอบอย่างเร็วจนลืมคิดไปว่าตนควรที่จะโกหกเพื่อรักษาชีวิตน้อยๆ ของเธอให้ไม่ตกเป็นเป้าสายตาใครๆ “หนังสือ ท่านจะบอกว่าเรื่องราวของครอบครัวข้าถูกบันทึกไว้ในหนังสือหรือ?” ซ่งอิ้งหร่วนเอ่ยถามน้ำเสียงตื่นเต้น แขได้ทางออกที่อีกฝ่ายส่งมาให้รีบพร้อมโป้ปดทันที “ใช่ๆ หนังสือบันทึกทางประวัติศาสตร์ เพียงแต่ฉันอ่านไม่จบ คุณบอกเองนี่นาว่านี่คือจวนแม่ทัพซ่งแคว้นเยี่ยน แล้วพี่ชายคุณก็เป็นแม่ทัพ ฉันก็เดาเอานะว่าเคยได้ยินมาจากที่ใด หลังจากนั้นก็นึกออกพอดี อ๊ะ! เช่นนั้นพวกคุณก็อาจจะเป็นบรรพบุรุษของฉันแน่เลย ฉันมีบรรพบุรุษเก่งกาจเพียงนี้” แขรีบตอบโดยกลบเกลื่อนความจริงว่าเรื่องราวครอบครัวของซ่งอิ้งหร่วนเธอรู้มาจากนิยายที่เธอยึดมาจากเด็กนักเรียน และเธอจำต้องบอกว่าเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ เพราะกลัวว่าพี่น้องตระกูลซ่งจะหาว่าเธอเป็นบ้า “เป็นเช่นนี้นี่เอง...แม่นางแขก็เป็นลูกหลานของพวกข้า ดีๆ ดีเหลือเกิน อ๊ะ! ข้าขอดูป้ายหยกของท่านได้หรือไม่” “อ๋อ…ได้สิ จริงๆ มันไม่ใช่ของฉันหรอก ฉันเก็บได้ตอนไปงานแต่งเพื่อนนะ ตอนแรกคิดว่าจะหาเจ้าของแต่ฉันกลับลืมเสียได้ แต่ก็นะ ฉันแค่สงสัยว่าที่ฉันมาโผล่ที่นี่ได้ เพราะป้ายหยกนี้หรือเปล่าก็เท่านั้น” แขยื่นป้ายหยกให้ซ่งอิ้งหร่วนดู นางรับมาสำรวจอีกครั้ง ด้วยความที่ซ่งอิ้งหร่วนเป็นคนที่ละเอียดสายตาพลันไปเห็นด้ายสีแดงม้วนขดอยู่ในหยก ถ้าคนไม่สังเกตจะไม่เห็น อีกทั้งหลังป้ายมีอักษรจีนโบราณเขียนกำกับไว้ ‘ต่างภพชาติ ด้ายแดงดึงหา ชะตาผูกพัน’ ซ่งอิ้งหร่วนยกมุมปากยิ้มเล็กน้อยแทบจะไม่มีใครสังเกตเห็นก่อนจะคืนป้ายหยกให้กับแข “คุณดูแล้ว พอจะมีหนทางช่วยฉันได้ไหม ฉันอยากกลับบ้าน” ซ่งอิ้งหร่วนส่ายหน้า “ข้าโง่เขลา เรื่องชะตาฟ้าลิขิต ข้าไม่ทราบจะช่วยท่านอย่างไรได้ แต่ข้าสามารถช่วยให้ท่านอยู่ที่นี่อย่างสบายได้” ซ่งอิ้งหร่วนกล่าว และในใจคิด ‘สงสัยชะตาได้พาฮูหยินมามอบให้พี่ใหญ่ของข้าแล้ว ขอบคุณสวรรค์ที่เมตตา ข้าเบื่อที่จะไล่นางจิ้งจอกนอกจวนเสียแล้ว’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม