เมื่อสายลมเริ่มสงบ กระดาษพลันร่วงหล่นกระจัดกระจายเต็มพื้นห้องไปหมด แขค่อยๆ ลืมตาอย่างยากลำบากเพราะยังรู้สึกถึงอาการแสบตา เธอมองภาพตรงหน้าอย่างไม่ชัดเจนนัก มือขวาค่อยๆ ยกมากุมขมับเพราะอาการมึนงงที่ยังคงอยู่ ส่วนอีกมืออีกข้างยังคงกุมป้ายหยกไว้แน่น
เธอค่อยๆ ลุกขึ้นพร้อมกะพริบตาเพื่อให้ม่านตาได้ปรับรับการมองเห็นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
แขกวาดสายตามองรอบห้องหลังจากที่ดวงตาเห็นได้ถนัดถนี่ เธอมองกระดาษที่กระจัดกระจายเต็มพื้นห้องจึงได้วางป้ายหยกที่ถือไว้ใส่กระเป๋าเสื้อก่อนก้มลงไปเก็บกระดาษเอกสารของตนขึ้นมาจากพื้น ปากก็พร่ำบ่นถึงลมที่สร้างงานให้เธอทำในขณะนี้
หลังจากเก็บเอกสารแล้ววางไว้ที่โต๊ะทำงานก็ทำให้เธอใจหาย เพราะโต๊ะทำงานกลับไม่คุ้นตา
จากเดิมโต๊ะสำนักงานมีรูปภาพที่ถ่ายคู่กับนักเรียน ทั้งที่เป็นภาพกิจกรรมหรือถ่ายเล่นหรือไม่แม้แต่กระทั่งเอกสารต่างๆ ที่วางไว้เต็มโต๊ะทว่าภาพที่เห็นกลับเป็นโต๊ะขนาดใหญ่ ทั้งยังขัดมันเงา มีตราประทับจากทองเหลืองขนาดเท่าฝ่ามือเห็นจะได้ นอกจากนี้ยังมีพู่กัน แท่งฝนน้ำหมึกวางคู่กันแทนที่จะเป็น ปากกา ดินสอ ยางลบ หรือเครื่องใช้สำนักงานที่จำเป็นในการประกอบอาชีพครูของเธอ
“โอ๊ะ! อะไรกันเนี่ย” แขเริ่มใจไม่ดี ขาเริ่มเดินสำรวจไปรอบห้องรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป ห้องที่ตนเองยืนอยู่ทั้งใหญ่โตโอ่อ่ามากกว่าห้องพักครูหลายเท่า ทั้งยังมีชั้นหนังสือหลายเล่มราวกับห้องสมุดขนาดย่อมๆ ที่ย่อส่วนมาจากหอสมุดแห่งชาติเลยทีเดียว
มิหนำซ้ำฝาผนังยังประดับภาพวาดแขวนผนังรูปเทพเจ้ากวนอู และตัวอักษรจีน มีโต๊ะทำงานและเก้าอี้อย่างละหนึ่งตัว เพื่อแสดงให้เห็นว่า ผู้เป็นเจ้าของห้องนี้มีสิทธิ์ที่จะใช้ห้องนี้แต่เพียงผู้เดียว ถัดมาอีกฟากจะมีโต๊ะอาหารขนาดเล็กล้อมรอบด้วยเก้าอี้เพียงสี่ตัว พร้อมถ้วยน้ำชา
หันมาอีกด้านที่ไม่ไกลนักยังมีตั่งไม้นอนที่ได้จัดเตรียมไว้พร้อมสรรพรอเพียงแค่คนมาเอนพักกายพักผ่อนเท่านั้น
แขเริ่มปรับลมหายใจโดยหายใจเข้าลึกๆ และพยายามปลอบใจตัวเองเพราะเธอมักจะโดนเพื่อนๆ แกล้งเล่นอยู่เสมอหากแต่คราวนี้เล่นเสียสมจริงสมจัง
“เอาอีกแล้วไง...ต้องเป็นฝีมือเจ้านัตแน่ๆ คราวนี้เล่นแรงนะ มีพายุ ทั้งจัดฉากเสียสมจริงคงร่วมมือกับ ผอ.แน่ๆ เข้าใจจัดเตรียมสถานที่ทั้งเตียงนอน โต๊ะน้ำชา โต๊ะทำงานเลิศค่ะ!”
แขเดินชมความละเอียดในการจัดแต่งห้อง ในใจก็แอบชมฝีมือเพื่อนเป็นการใหญ่
“ฝีมือในการจัดเยี่ยมมากนะเนี่ย เข้าบรรยากาศยุคสมัยจีนโบราณ ขนาดผ้าม่านยังสวยเลย แต่ติดที่ไม่เหมาะกับผู้หญิง อ๊ะ! โต๊ะนี่ทำจากไม้เนื้อดีด้วยนะเนี่ย ลงทุนจริงๆ ตราประทับนี่ก็หนักและใหญ่ไปหน่อย แต่ก็สมกับธีมแนวจีนแหละ” เธอหงายตราประทับขึ้นเพื่อพิจารณาตราประทับจึงได้เห็นว่าการลงทุนของเพื่อนช่างแนบเนียนไร้ที่ติ
“โอ้โห! เนี๊ยบมากค่ะ อยู่วงการบันเทิงมันสร้างคนให้เก่งและรอบคอยอย่างนี้นี่เอง สงสัยต้องให้เพื่อนนัตจ้างทำตราปั๊มบ้างแล้วจะได้เพิ่มความขลัง นักเรียนจะได้กลัว” เธอคิดไปก็ขำไป
จากนั้นสองขาก็เดินสำรวจไปมาสมองเริ่มสงสัยตงิดๆ ว่าเพื่อนเอาเวลาที่ไหนมาเตรียมตัว ไหนจะข้าวของ สถานที่ แต่เธอก็ต้องตัดข้อสงสัยไปเพราะพรรคพวกในวงการบันเทิงของเพื่อนสนิทนั้นค่อนข้างมาก การจะไหว้วานอะไรคงไม่ลำบาก แต่ว่า...นัตทำไปทำไม? และทันใดนั้นเองเธอพลันได้ยินเสียงค่อยๆ ดังขึ้นที่หน้าประตู
“พี่ใหญ่! ข้าแค่ออกไปเดินเล่นข้างนอกจวนแค่เดี๋ยวเดียวเอง ทำไมต้องโมโหข้าขนาดนี้ด้วยเจ้าคะ”
“พี่ไม่ได้โมโหเจ้า”
“พี่ใหญ่กำลังโมโห ข้ารู้”
“เจ้า! เฮ้อ! ใครใช้ให้เจ้าไปทะเลาะกับเจียวเหม่ยลี่ล่ะ รู้ว่าทะเลาะไปเจ้าก็สู้เขาไม่ได้”
“ข้าไม่เคยแพ้ ข้าไม่กลัว! พี่ใหญ่เป็นถึงท่านแม่ทัพ ถ้าข้ากลัวข้าก็ไม่สมควรเป็นน้องของท่านแล้วอีกอย่างใครใช้ให้นางมายุ่งกับพี่ใหญ่ ข้าไม่ชอบนาง และอย่าหวังว่านางจะได้มาเป็นพี่สะใภ้ข้าด้วย”
“แต่เจ้าก็ไม่สมควรไปหาเรื่องทะเลาะกับนาง ถ้าพี่ไปไม่ทัน พวกเจ้าก็ต้องเป็นที่ขบขันของชาวบ้านแล้วที่ร้าย...” อีกฝ่ายตำหนิน้องสาวทว่าจู่ๆ เขาก็ต้องชะงักเพราะเสียงหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะเข้าพอดี
“เอ่อ ขอโทษนะคะ รบกวนถามหน่อยว่า เห็นเพื่อนฉันมั้ยคะ”