วันศุกร์ เวลา 16.00 น
“อายรอชานนท์อยู่เหรอ” เสียงตะโกนของเด็กสาวมัธยมปลายปีสุดท้ายเอ่ยถามเพื่อนสาวที่กำลังรอเพื่อนชายของเธอเป็นประจำแทบทุกวัน
“อืม นนท์บอกให้เรารอกลับพร้อมกัน” เสียงหวานของอารยาหันไปตอบเพื่อนตัวเองที่เดินเข้ามานั่งข้างเธอ
“ดีเลย เดี๋ยวเรารอเป็นเพื่อน ขี้เกียจกลับบ้านเร็วเหมือนกัน” น้ำทิพย์เอ่ยบอกอารยาเมื่อนั่งลงด้านข้างของเธอ
“อาทิตย์หน้าก็สอบแล้ว ไม่น่าเชื่อนะว่าเราจะเรียนจบเร็วแบบนี้” น้ำทิพย์มองไปยังด้านหน้าก่อนเอ่ยขึ้นด้วยความอารมณ์ดี
“จบเร็วที่ไหน เรียนตั้ง 6 ปีแล้วนะ” อารยาเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มแสนหวาน ด้วยเป็นคนที่พูดเพราะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
“มันก็จริง แต่อย่างน้อยเราก็จบ นี่! ถ้าไม่ได้อาย เรายังไม่รู้เลยว่าเราจะเรียบจบกับเขาไหม” น้ำทิพย์พูดขึ้นพลางทำหน้ายู่ เพราะเรื่องเรียนเป็นเรื่องที่เธอเบื่อมาก
“ตัวเองก็หัดอ่านหนังสือบ้างสิ แล้วนี่ใกล้สอบแล้ว เริ่มอ่านหนังสือบ้างรึยัง” อารยาเอ่ยถามเพื่อนสาวของเธอขึ้น ซึ่งน้ำทิพย์ก็ส่ายหน้าเป็นคำตอบ พร้อมส่งยิ้มแห้งๆ ให้
“ทิพย์! ทำไมยังไม่อ่านอีกเดี๋ยวก็ไม่จบเอาหรอก เอาหนังสือขึ้นมาเลย เดี๋ยวอายติวให้” หญิงสาวต่อว่าเพื่อนเสียงดัง น้ำเสียงฟังดูเหมือนต่อว่า แต่ความจริงแฝงไปด้วยความห่วงใย อารยามักเคี่ยวเข็ญน้ำทิพย์เรื่องอ่านหนังสือแบบนี้เป็นประจำตั้งแต่ ม.ต้นจวบจนจะจบม.ปลาย
“จ้ะแม่ ยอมแล้วจ้ะ” น้ำทิพย์จึงล้อเลียนเพื่อนสาวด้วยรอยยิ้มก่อนจะหยิบหนังสือขึ้นมาตามที่อารยาเธอบอก
สองสาวนั่งติวหนังสือให้กันที่ม้าหินอ่อนสักพักใหญ่ๆ ก่อนจะมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามา
“ทำอะไรกันอยู่จ๊ะสาวๆ” ชานนท์ที่เดินเข้ามาสมทบกับสองสาวเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดีตามแบบฉบับของเขา
ทำให้สองสาวที่นั่งอ่านหนังสือกันอย่างขะมักเขม้นหันมามองตามเสียงพร้อมกัน ก่อนที่ทั้งสองสาวจะยิ้มหวานออกมาเมื่อเห็นหน้าผู้มาใหม่
“อายกำลังนั่งติวหนังสือสอบกับทิพย์น่ะ นนท์ซ้อมบาสเสร็จแล้วหรือ” อารยาตอบชานนท์พร้อมส่งยิ้มให้ ก่อนที่จะถามเขาขึ้นในประโยคต่อมา เพราะชานนท์คืนคนที่พวกเธอทั้งสองกำลังนั่งรออยู่ในตอนนี้
ชานนท์เป็นถึงกัปตันทีมบาสของโรงเรียน เขามีตารางซ้อมในเกือบทุกๆ วัน และชายหนุ่มก็มักจะให้อารยานั่งรอแบบนี้ประจำ เพียงแต่เขาไม่ยอมให้เธอไปรอที่สนาม เพราะที่นั่นผู้ชายเยอะ เขากลัวว่าจะมีคนมาวุ่นวายกับเธอ จึงให้อารยานั่งรอที่หน้าอาคารเรียนแทนทุกครั้งที่เขามีซ้อม
“เสร็จแล้วกลับเลยไหม” ชานนท์ถามขึ้นพลางยื่นมือมารับหนังสือจากอารยาไปถือไว้เอง
“นนท์มาพอดีเลย ไปกินชาบูกันไหม วันนี้ตอนเที่ยงเรากินข้าวไปนิดเดียวเอง แถมตอนเรียนก็เรียนหนักมาก เราใช้พลังงานไปเยอะมาก ทำให้ตอนนี้เราหิวมากเลย ไปกินชาบูกันนะนนท์” น้ำทิพย์รีบปิดหนังสือลงทันที เมื่อเห็นชานนท์เดินเข้ามา ก่อนจะรีบอ้อนให้เขาพาไปกินชาบูที่เป็นของโปรดของเธอ ทำให้อารยาแย้งขึ้นมาทันทีที่เห็นเพื่อนหยุดอ่าน
“ทิพย์ทำไมรีบปิด ไม่อ่านบทนี้ให้จบก่อน”
“ไว้อ่านวันหลังก็ได้ แต่ตอนนี้ทิพย์หิวมากเลย ไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะนะ นะนนท์” น้ำทิพย์ออดอ้อนชานนท์ทั้งคำพูดและแววตา แต่ชานนท์กลับไม่ได้ใส่ใจสักเท่าไร
“ไปนะอาย เราหิวมากเลย อีกอย่างเราไม่อยากกลับไปกินข้าวคนเดียวเหมือนทุกวัน” เมื่ออ้อนชานนท์ไม่ได้ผล น้ำทิพย์จึงเปลี่ยนเป้าหมายมาอ้อนอารยาแทน
“ทิพย์นี่น้าอย่างนี้ทุกทีเลย แล้วนนท์เอาไง” เสียงหวานของอารยาบ่นให้เพื่อนอย่างไม่จริงจังนัก เพราะน้ำทิพย์มักอ้อนเธอแบบนี้ประจำ ก่อนหญิงสาวจะหันไปถามชานนท์ที่ยืนนิ่งมองเธอไม่หยุด ทุกครั้งที่น้ำทิพย์ใช้ลูกอ้อนด้วยเงื่อนไขนี้ อารยามักตามใจเธอเสมอ เพราะอารยารับรู้มาโดยตลอดว่าพ่อของน้ำทิพย์เป็นนักธุรกิจ และไม่ค่อยมีเวลาให้น้ำทิพย์ น้ำทิพย์จึงต้องกินข้าวคนเดียวอยู่บ่อยครั้งกลายเป็นก้อนความเหงาที่ก่อตัวขึ้นมานั่นเอง
“นนท์อย่างไรก็ได้ ตามใจอายเลย” ชานนท์เอ่ยขึ้น สายตาคมยังมองใบหน้าหวานของหญิงสาวที่เขากำลังพูดถึงด้วยความหลงใหล ทำเอาอารยาเขินจนหน้าแดง
“พอแล้วนนท์ จ้องเพื่อนทิพย์อยู่ได้ ดูสิอายเขินจนหน้าแดงไปหมดแล้ว”
“ทิพย์!” อารยาเรียกเพื่อนเสียงดัง เพราะที่น้ำทิพย์พูดยิ่งทำให้เธอเขินอายมากยิ่งขึ้น ท่าทีของอารยาทำเอาหัวใจของชานนท์เต้นแรงยิ่งขึ้น และชายหนุ่มคิดว่าอารยาก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน
ชานนท์ตั้งไจไว้ว่าหลังสอบเสร็จเขาจะขออารยาเป็นแฟน เพราะทุกอย่างเริ่มลงตัวหมดแล้ว เขามั่นใจว่าความรักของพวกเขาสุกงอมมากแล้ว สำหรับชานนท์แล้ว อารยาคือผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกดีด้วย
แม้ที่ผ่านมาชานนท์จะมีผู้หญิงเข้าหาเยอะมากแค่ไหน แต่ก็ยังไม่มีใครเข้าตาเขาสักคน จนมาเจออายรา ดาวโรงเรียน 3 ปีซ้อน ที่ทำให้ชานนท์ตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น แต่อารยาค่อนข้างไว้ตัวเรื่องผู้ชาย ทำให้เขาค่อยๆ เข้ามาเป็นเพื่อนเธอก่อน
3 ปีที่คบกันเป็นเพื่อน ทำให้ชานนท์รู้ใจตัวเองยิ่งขึ้นว่าเขาไม่ได้รู้สึกกับอารยาแค่เพื่อน และชายหนุ่มก็มั่นใจว่าอารยาเองก็ไม่ได้คิดกับเขาแค่เพื่อนแล้วเหมือนกัน