ทะเลทรายโซฟีเรียเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก และก็เป็นที่ตั้งของนครกลางทะเลทรายมากมาย แต่ถ้าพูดถึงมหานครอันยิ่งใหญ่ไพศาลก็ต้องมีนครฟาดิลาห์ติดโผไปด้วยเสมอ
นครฟาดิลาห์ คือดินแดนทรายอันยิ่งใหญ่ไพศาลซึ่งตั้งอยู่ในทิศเหนือของทะเลทรายโซฟีเรีย โดยที่ทิศใต้ของทะเลทรายโซฟีเรียคือที่ตั้งของนครซาเรียอันยิ่งใหญ่ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก คือที่ตั้งของนครความาร์ และเฮตินีตามลำดับ
ตามธรรมเนียนที่ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาช้านาน องค์สุลต่านแห่งฟาดิลาห์จะไม่อภิเษกกับผู้หญิงที่ไม่ใช่เชื้อสายฟาดิลาห์ ดังนั้น ส่วนมากลูกสาวของเสนาอำมาตย์ชั้นผู้ใหญ่จึงถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นองค์สุลตาน่านับครั้งไม่ถ้วน และในสมัยขององค์สุลต่าน ลูฟาส บิน ชารีฟ อัล ซานัล ก็ไม่ต่างไปจากบรรพบุรุษของตนเอง ซึ่งองค์สุลต่านหนุ่มหล่อได้เลือกสตรีนางผู้เหมาะสมสำหรับตำแหน่งองค์สุลตาน่าเอาไว้เรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือ ฮันนา ลูกสาวของอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายนั่นเอง
ฮันนาสาวงามที่ได้รับสมญานามจากชาวฟาดิลาห์ว่าคือกุหลาบแห่งทะเลทราย หล่อนคือผู้มีวาสนาที่จะได้เป็นองค์สุลตาน่าลำดับต่อไป ซึ่งผู้หญิงทุกคนต่างใฝ่ฝันที่จะได้ครอบครองตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ ฮันนาเองก็ไม่ต่างจากผู้หญิงพวกนั้นนัก แต่ติดปัญหาอยู่นิดเดียว นั่นก็คือหัวใจของหล่อนเกิดผูกพันกับพี่ชายบุญธรรมที่เห็นกันมาตั้งแต่สมัยเยาว์วัยเสียแล้ว
“ท่านพ่อเรียกฉันมาพบ มีอะไรกับฉันหรือคะ”
ฮาริสนั่งอยู่บนเก้าอี้นวม มองลูกสาวคนโตที่เขาประคบประหงมมาอย่างดีด้วยความไม่พอใจนัก
“เมื่อคืนเจ้าออกไปไหนมา”
ฮันนาหน้าซีดเผือด แต่เพราะสมองที่ชาญฉลาดของหล่อน ทำให้แก้ตัวได้อย่างทันท่วงที “ฉันออกไปเดินเล่นน่ะท่านพ่อ”
“ดึกดื่นขนาดนั้น เจ้าออกไปเดินเล่นคนเดียวทำไม มันอันตรายมาก ไม่รู้หรือไง”
ฮันนาลอบเป่าปากด้วยความโล่งอก เมื่อบิดาไม่ได้สงสัยอะไรอีก นอกจากตำหนิเพราะความเป็นห่วง “ฉันจะไม่ทำอีกแล้วค่ะท่านพ่อ”
ฮาริสระบายลมหายใจออกมา ชายชราลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินมาหยุดตรงหน้าลูกสาวคนสวย
“เจ้าต้องรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี อีกเพียงไม่นาน เจ้าก็จะได้เป็นใหญ่เคียงคู่กับองค์สุลต่านแล้วนะ”
“ฉันรักษาตัวดีเสมอค่ะท่านพ่อ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก”
“ดีแล้วละ พ่อไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดอะไรขึ้น เพราะถ้าเจ้าได้ขึ้นเป็นองค์สุลตาน่า ตระกูลของพวกเราก็จะยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้นจนไม่มีใครในฟาดิลาห์กล้าต่อกร”
“ค่ะท่านพ่อ ฉันเข้าใจดีเสมอ”
ฮันนาระบายยิ้มตอบรับบิดา หล่อนรักฮูเซ็น ทั้งรักทั้งผูกพัน แต่กับองค์สุลต่านลูฟาส หล่อนก็ไม่อาจจะปล่อยมือจากพระองค์ได้เช่นกัน เพราะพระองค์ทั้งหล่อ ทั้งมีอำนาจ ดังนั้นหล่อนคงต้องเหยียบเรือสองแคมแบบนี้ไปอีกนาน
“แล้วนี่เจ้าจะออกไปไหนเหรอ ฮันนา”
“ฉันจะไปเข้าเฝ้าองค์สุลต่านน่ะค่ะ จะนำสำรับฝีมือของฉันไปถวายพระองค์”
ฮาริสส่ายหน้าน้อยๆ มองลูกสาวคนโตที่เกิดจากวีณาเมียเอกอย่างรู้ทัน
“เจ้าทำเอง หรือว่าจินนี่ทำกันแน่”
จิรัชยา หรือว่า จินนี่ หล่อนเป็นลูกสาวอีกคนหนึ่งของเขา แต่เขาไม่ได้ยกย่องหล่อนเกินกว่าคำว่าลูกสาวนางบำเรอ เพราะแม่ของหล่อนคือเมียทาส ที่เขาพลั้งเผลอมีความสัมพันธ์ด้วยเพียงครั้งเดียวและก็เกิดตั้งท้อง
เขาเลี้ยงดูจิรัชยาไม่ต่างจากทาสในเรือนเบี้ย หล่อนต้องทำงานหนักไม่ต่างจากคนรับใช้ ซึ่งหน้าที่ที่จิรัชยาได้รับมอบหมายจากเขา นอกเหนือไปจากการทำงานบ้านก็คือตามรับใช้ฮันนาลูกสาวคนโปรดของเขานั่นเอง
หลายต่อหลายครั้งที่จิรัชยาหน้าตาบวมเจ่อ ปากแตก เนื้อตัวเขียวช้ำ เพราะถูกฮันนาระบายอารมณ์ใส่ แต่เขาก็เลือกที่จะเข้าข้างลูกสาวคนโปรดมากกว่าลูกสาวเมียทาสอย่างจิรัชยา เพราะฮันนาคือความหวังทุกอย่างของตระกูลนั่นเอง
“แหม ท่านพ่อน่ะ ทำไมท่านถึงคิดว่าฉันทำสำรับพวกนี้ไม่ได้ล่ะคะ”
ฮาริสหัวเราะออกมาอย่างขบขัน “ก็เพราะว่าตั้งแต่เจ้าเกิดมา เจ้าไม่เคยเข้าครัวแม้แต่ครั้งเดียว และอาหารทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นของคาวหรือว่าของหวาน รวมถึงผลไม้ที่แกะสลักอย่างสวยงาม ที่เจ้านำไปถวายองค์สุลต่านก็เป็นฝีมือของจินนี่ทั้งนั้น”
ฮันนาหน้าตาบูดบึ้ง โมโหบิดาไม่น้อยที่ท่านพูดเหมือนชื่นชมนังลูกไพร่อย่างจิรัชยา “นี่ท่านพ่อชื่นชมนังจินนี่เหรอคะ”
“เปล่า พ่อก็แค่พูดตามความจริง เจ้าไม่ต้องทำหน้าบูดหรอก เพราะจินนี่มีหน้าที่ทำคำสั่งของเจ้าอยู่แล้ว”
ใบหน้าหวานที่บูดบึ้งค่อยผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก็ยังกระเง้ากระงอดบิดาอยู่
“แล้วท่านพ่ออย่าเอาความนี้ไปแพร่งพรายนะคะ ฉันไม่ต้องการอับอายคนอื่น โดยเฉพาะองค์สุลต่าน”
“พ่อไม่ทำอะไรให้เจ้าเดือดร้อนเยี่ยงนั้นหรอก เจ้าสบายใจได้ฮันนา”
“ขอบคุณค่ะท่านพ่อ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“ไปเถอะ แล้วอย่าลืมใส่จริตลงไปในกิริยาของเจ้าให้เยอะๆ นะ องค์สุลต่านจะได้ยิ่งลุ่มหลงเจ้า”
“ท่านพ่อไม่ต้องบอกฉันหรอก เพราะฉันทำประจำอยู่แล้ว” ฮันนาระบายยิ้มอย่างจองหอง “และตอนนี้พระเนตรขององค์สุลต่านก็มีแต่เพียงฉันคนเดียวเท่านั้น”
“เก่งมากลูกพ่อ ไม่เสียแรงที่พ่อรักและทุ่มเทกับเจ้า”
ฮันนายิ้มให้บิดา ก่อนจะเดินลงจากเรือนพักมา หัวใจลิงโลดไปด้วยความสุข แต่แล้วก็ต้องชะงักเท้ากึก เมื่อเห็นฮูเซ็นยกมือขึ้นลูบศีรษะของจิรัชยาเบื้องหน้า
หล่อนกำมือแน่น ความหึงหวงแล่นพล่านแน่นอก ตอนแรกหล่อนตั้งใจจะเดินเข้าไปอาละวาด แต่ความร้ายกาจในอกร้องเตือนให้ทำอย่างอื่นแทน
ฮันนารีบหมุนตัวเดินกลับขึ้นไปบนเรือน และรีบตรงไปหาบิดา แสดงท่าทางร้อนรน
“ทำไมเจ้าหน้าตาตื่นแบบนั้นล่ะ ฮันนา”
“ก็ฉันมีเรื่องบัดสีจะมาบอกท่านพ่อน่ะสิคะ”
“เรื่องอะไรเหรอ”
ฮันนายังคงแสดงทำหน้าตื่นตกใจ ขณะก้าวเข้าไปดึงแขนบิดาให้เดินออกไปยังระเบียง ก่อนจะชี้ไปตรงข้างหน้า
“นังจินนี่มันอ่อยพี่ฮูเซ็นค่ะ” น้ำเสียงของฮันนาเต็มไปด้วยความหึงหวง เพราะอะไรที่เป็นของตนเอง หล่อนจะหวงแหนยิ่งกว่าไข่ในหินเสียอีก
“ไหนล่ะ พ่อไม่เห็นเลย...”
“นั่นไงคะท่านพ่อ”
ฮาริสมองตามนิ้วเรียวของลูกสาวคนโตไป ก็เห็นว่าฮูเซ็นลูกชายบุญธรรมที่เขารับมาเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะกำลังยืนคุยอยู่กับจิรัชยา
“พ่อก็ไม่เห็นมีอะไรบัดสีสักหน่อย เจ้าคิดมากไปเองหรือเปล่าฮันนา”
“ฉันไม่ได้คิดมากนะท่านพ่อ แต่ฉันรู้จักนิสัยของนังจินนี่ดี มันก็นิสัยเหมือนแม่ของมันนั่นแหละ อยู่ใกล้ผู้ชายคนไหนก็เลื้อยไปทั่ว หรือว่าท่านพ่อลืมเรื่องที่มันแอบหนีออกไปเที่ยวกับผู้ชายแล้วคะ”
ความจริงจิรัชยาไม่ได้หนีออกไปเที่ยวกับผู้ชายคนไหนหรอก แต่หล่อนต่างหากเป็นคนจัดฉากให้เกิดเรื่องขึ้นแบบนั้น เพื่อทำให้น้องสาวต่างมารดาได้รับความอับอาย และชื่อเสียงเสียหายป่นปี้
“พ่อไม่ลืมหรอกว่าจินนี่นิสัยแย่แค่ไหน แต่นั่นมันฮูเซ็น พี่ชายของจินนี่นะ พ่อคิดว่าคงไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดหรอกฮันนา”
“พี่ชายที่ไหนกันคะ พี่ฮูเซ็นเป็นแค่พี่ชายบุญธรรมเท่านั้น คนละสายเลือดกัน” ฮันนาโต้เถียงออกมา และนั่นก็ทำให้ฮาริสอดที่จะมองลูกสาวคนโตด้วยความแคลงใจไม่ได้
“นี่เจ้าคิดเสมอหรือว่าฮูเซ็นไม่ใช่พี่ชายของเจ้า ฮันนา”
“ปละ เปล่านะท่านพ่อ ฉันก็แค่... พูดในสิ่งที่ฉันรู้ว่านังจินนี่มันจะคิดเท่านั้นเองค่ะ”
ฮันนารีบแก้ตัว และกลบเกลื่อนด้วยการเร่งเร้าบิดให้ทำโทษจิรัชยา
“ไม่รู้แหละ ท่านพ่อจะต้องทำโทษมันนะคะ”
“แต่พ่อยังไม่เห็นความผิดของจินนี่เลยนะฮันนา”
“ก็อย่างที่ฉันบอกท่านพ่อยังไงล่ะคะ นังจินนี่มันอ่อยพี่ฮูเซ็น มันร่านมันแรดเหมือนแม่ของมันไม่มีผิด”
“เจ้าพอได้แล้ว ยิ่งเจ้าพูดแบบนี้ พ่อก็ยิ่งคิดว่าตัวเองโง่ ที่ไปเผลอเกลือกกลั้วกับผู้หญิงคนนั้น”
ฮาริสขอร้องลูกสาวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และนั่นก็ทำให้ฮันนาถอนใจออกมา แต่ก็ยังไม่หยุดความคิดที่จะทำร้ายจิรัชยา
“นังไพร่ชั้นต่ำพวกนี้ มันอ่อยเก่งค่ะ ท่านพ่อไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมมันหรอก”
“โอเค เราจะไม่พูดถึงเรื่องในอดีตแล้วนะฮันนา”
“ก็ได้ค่ะท่านพ่อ แต่ถ้าท่านพ่อไม่จัดการนังจินนี่ ฉันขออนุญาตจัดการมันเองนะเจ้าคะ”
ฮาริสส่ายหน้าไปมา แต่ก็ไม่อยากจะขัดใจลูกสาวคนโปรด “ก็แล้วแต่เจ้าเถอะ แต่อย่าทำให้นางตายในบ้านของพ่อก็เป็นพอ”
“ฉันไม่ทำมันตายหรอกเจ้าค่ะ แค่ให้ตายทั้งเป็นก็พอ ฉันขอตัวก่อนค่ะท่านพ่อ”
ฮันนาแค่นยิ้มอย่างริษยา ก่อนจะเดินลงไปจากเรือนอีกครั้ง พร้อมกับมุ่งหน้าไปหาจิรัชยาที่ตอนนี้กำลังกวาดถนนหน้าบ้านพักอยู่ตามลำพังด้วยความโทสะแรงกล้า
“นังจินนี่!”
จิรัชยาสะดุ้งโหยง หันมองพี่สาวต่างมารดาด้วยความสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว หล่อนถอยร่นออกห่าง แต่ฮันนาก็ก้าวตามไปจิกเส้นผมเอาไว้เต็มแรง
“โอ๊ย... พี่ฮันนา ปล่อยฉันเถอะค่ะ ฉันเจ็บ...”