“กูนี่แหละจะทำให้พวกมึงสิ้นชื่อ!!!”
ผู้กองมานพหัวเราะก้อง ยกปืนพกกระบอกสั้นเล็งไปที่โจรทั้งหกคน พวกโจรกระจอก มีแค่มีดดาบจะสู้กับปืนได้อย่างไร โง่หาที่ตายกันแท้ ๆ
เป็นแค่โจรโง่ ๆ แต่ริอาจมาปล้นบ้านผู้กองอย่างเขา นอกจากเงินจะไม่ได้แล้ว พวกมันก็จะไม่มีโอกาสได้รอดชีวิตกลับไปด้วย
ราชันประเมินสถานการณ์ตรงหน้าอย่างรวดเร็ว เขาถูกยิงที่ท้องหนึ่งนัด ส่วนอีกนัดไอ้ผู้กองมันยิงพลาด อาจจะเป็นเพราะความเมาหรือเพราะมันกระจอกเองเขาไม่รู้ แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะมันไม่ได้ทำให้ราชันเจ็บหนักจนทนไม่ไหว
แต่ถึงอย่างไรปืนก็คือปืน แค่นัดเดียวก็สามารถปลิดชีวิตคนได้เหมือนผักปลา หากวันนี้ไอ้ผู้กองไม่เมามายจนยิงพลาดเขาคงตายไปแล้ว แม้จะมีพวกเยอะกว่าแค่ไหนแต่ก็สู้เพชรฆาตอย่างปืนนั่นไม่ได้ ไม่มีทางสู้ได้เลย...
แต่หากจะต้องตาย ก็ให้เขาตายเพียงคนเดียว
“พวกมึงหนีไป”
“พี่ ฉันไม่...”
“ไป! ดูแลพวกเราให้ดี หากพระอาทิตย์ขึ้นแล้วกูยังไม่กลับไป.. ก็หมายความว่ากูไม่รอด”
“พี่!!”
“ไปเดี๋ยวนี้!! หากไม่ไปก็อย่ามาเรียกกูว่าพี่อีก ไป!! อย่าให้ไอ้ผู้กองชั่วได้เงินทองคืน ไปสิวะ!!”
ราชันตะโกนไล่ ลูกน้องทั้งห้าน้ำตาคลอ ก่อนจะยอมหันหลังวิ่งหนีไป อ้อมแขนโอบกอดถุงเงินทองเอาไว้แน่น ผู้กองมานพเห็นแบบนั้นจึงเปลี่ยนเป้า เพื่อหมายจะเอาชีวิตพวกโจรทั้งห้าและทรัพย์สินคืน
ผลั่ก!
“อ๊ากกก”
แต่ผู้กองมานพประเมินกำลังของจอมโจรต่ำไป ถ้าหากงูเห่าต้องตีให้ตายแล้ว คนอย่างราชันก็ต้องฆ่าให้ตายเหมือนกัน
ไม่อย่างนั้นมันจะวกกลับกัดจนจมเขี้ยว
“อ๊ากกกกกกก!!!”
.
.
ใบบัวรู้สึกตัวตื่นตอนใกล้สว่าง แม้ท้องฟ้าจะยังมืดมิดแต่ไก่ก็เริ่มพากันส่งเสียงขันรับเช้าวันใหม่ เธอได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของชาวบ้านไม่ไกลจึงรีบลงจากเรือนไปดู
กลุ่มโจรกลับมาแล้ว ไปหก แต่กลับมาห้า ทั้งห้าคนนั้นตีอกชกหัวตัวเองอย่างโกรธแค้นและเสียอกเสียใจ
“เกิดอะไรขึ้น พี่ราชันเล่า”
สองที่ไม่ได้ออกปล้นด้วยในวันนี้วิ่งเข้าไปถามเพื่อน ชาวบ้านต่างปิดปากเงียบเพื่อรอฟังคำตอบ แต่กลับไม่มีใครตอบอะไรกลับมาสักคน พวกมันหอบหายใจหนัก ส่งเสียงร่ำไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ไอ้กล้า พี่ราชันอยู่ที่ใด”
“สอง กู..”
“กูถามว่าพี่ราชันอยู่ที่ไหน!! ตอบกูสิวะ!”
สองจับกล้ามาเขย่าเต็มแรง เสียงถามกลายเป็นเสียงตะคอก ยิ่งกลุ่มโจรที่ออกไปพร้อมราชันพากันปิดปากเงียบ สองก็ยิ่งคุมสติตัวเองไม่อยู่
“กูถามว่าพี่ราชันอยู่ไหน!! ปากพวกมึงอมเหี้ยอะไรกันอยู่!!!”
“สอง ใจเย็น ๆ ก่อนนะ” ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เอ่ยปลอบ แต่สองในตอนนี้หูดับ มันไม่สนอะไรทั้งนั้นจนกว่าจะเค้นหาความจริงจากเพื่อนโจรทั้งห้าได้
“พี่ราชันอยู่ที่ไหน แล้วทำไมพี่ราชันจึงไม่กลับมากับพวกมึง ตอบกูมาเดี๋ยวนี้! ตอบสิวะ!!!”
กล้าปาดน้ำตาที่หน้าออก ก่อนจะตอบด้วยเสียงที่แหบพร่าแผ่วเบา
“ไอ้สอง พี่ราชัน.. ถูกยิง”
“อะไรนะ..”
ชาวบ้านต่างหน้าเสีย พากันร้องอุทานด้วยความตกใจ ใบบัวยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดปาก โดนยิงเลยหรือ..
“ละ แล้วตอนนี้พี่ราชันอยู่ที่ไหน กูจะรีบไปตามแม่อ่อนมารักษา แม่อ่อนรักษาได้ทุกอย่าง ทะ ทุกคนไม่ต้องกังวลไป” สองพยายามตั้งสติ แต่ถึงอย่างนั้นคำพูดของมันก็ติดขัดจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง
“พี่ราชัน..” กล้ากลั้นเสียงสะอื้น “ไล่พวกกูกลับมา”
“..มึงว่าอะไรนะไอ้กล้า”
“พี่ราชันให้พวกกูกลับมา แล้วอยู่สู้กับมันเพื่อให้พวกกูปลอดภัย”
“ไหนมึงบอกว่าพี่ราชันถูกยิง แล้วพี่ราชันจะสู้กับมันได้อย่างไร”
“กูไม่รู้ อึก.. กูไม่รู้ กูแม่ง!”
กล้าเริ่มทุบตีตัวเอง น้ำตาลูกผู้ชายไหลอาบหน้า
“กูแม่งกระจอก! แค่ปกป้องพี่ราชันยังทำไม่ได้ กูรังเกียจตัวเอง มึงช่วยกระทืบกูทีไอ้สอง เผื่อความเจ็บจะทำให้กูหายกระจอกได้บ้าง ฮึก”
สองในตอนนี้ไร้เรี่ยวแรงจะไปกระทืบใคร มือทั้งสองข้างปล่อยออกจากตัวเพื่อน ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำใส ก่อนที่มันจะไหลอาบหน้าไม่ต่างจากคนอื่น ๆ
เสียงร้องไห้ดังขึ้นระงม ใบบัวมองภาพนั้นด้วยความหดหู่ใจ สำหรับชาวบ้านราชันคงเป็นเหมือนที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ พอขาดไปก็ไม่ต่างอะไรจากต้นหญ้าที่ไหวเอนไปกับสายลมเพราะไร้ที่พักพิง
ขนาดใบบัวมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานยังใจหาย ชาวบ้านที่อยู่กับราชันมาเป็นสิบปีจะรับไหวได้อย่างไร
“ร้องไห้กันทำไม”
ทว่า... สุ้มเสียงอ่อนแรงที่ยังคงเต็มไปด้วยความดุดันก็ทำให้บรรยากาศแสนหดหู่จางลง ทุกคนหันไปมองตามเสียงนั้นเป็นตาเดียว เห็นร่างของราชันโงนเงนอยู่บนหลังเหนือเมฆ ท่าทางอ่อนแรงแต่ยังมีลมหายใจ
ราชันยังไม่ตาย
ใบบัวเผลอยิ้มออกมา เธอใจชื้นขึ้นเมื่อเห็นว่าราชันยังมีชีวิตอยู่
“มีใครตายถึงได้ร้องห่มร้องไห้กัน”
“พี่ราชันนนน!!”
สองวิ่งเข้าไปหาราชันอย่างรวดเร็ว มันเดินวนสำรวจเหมือนหนูติดจั่น แตะตรงโน้นทีตรงนี้ทีเพื่อตรวจสอบว่าราชันยังไม่ตายจริง ๆ เมื่อมั่นใจแล้วสองก็ยิ้มกว้างทั้งน้ำตา
“พี่ยังไม่ตาย!”
“มึงแช่งกูหรือ”
“เปล่านะ! ฉันไม่ได้แช่งพี่นะจ๊ะ”
“งั้นก็เลิกคร่ำครวญเสียที กูยังไม่ตาย... อึก!”
พูดยังไม่ทันจบประโยคดีราชันก็ทรุดลง พิษบาดกำลังทำร้ายร่างกายอย่างไม่ปราณี เสื้อที่ฉีกมาพันรอบบาดแผลเพื่อห้ามเลือดชุ่มฉ่ำ เลือดจอมโจรไหลออกมามากจนปากหยักเริ่มซีดจาง
“พี่ราชัน!!”
“พี่ราชันแย่แล้ว ใครก็ได้ไปตามแม่อ่อนที!”
“ไม่ต้อง ข้าอยู่นี่แล้ว
แม่อ่อนที่โผล่มาจากไหนไม่รู้เอ่ยขึ้น มือเอื้อมไปแตะชีพจรของจอมโจร ก่อนจะหันไปสั่งคนอื่น ๆ เสียงเครียด
“ชีพจรอ่อนเกินไป พวกเอ็งพาราชันขึ้นเรือน ส่วนอีหนูใบบัวไปเอาของที่ข้าสั่งให้เตรียมไว้มา แล้วตามข้าไปที่ห้องของราชันเดี๋ยวนี้”
“จ๊ะ แม่อ่อน”
ใบบัววิ่งไปที่ครัว ยกสิ่งที่แม่อ่อนสั่งไว้แล้วตามไปที่ห้องนอนของราชัน เมื่อเข้าไปในห้องเธอก็เห็นว่าราชันกำลังนอนสะลึมสะลืออยู่บนเตียง ผ้าชุ่มเลือดถูกดึงออก แผลของราชันไม่ใหญ่มาก แต่เลือดกลับไหลไม่หยุด
“กระสุนฝังใน ต้องผ่า เอ็งมาช่วยข้าใบบัว”
ใบบัวช่วยแม่อ่อนอย่างกระตือรือร้น เธอหวาดกลัวตอนที่เห็นเลือดมากมาย แต่สักพักก็รู้สึกคุ้นชินเพราะอยากช่วยเหลือราชันมากกว่า
“เอาผ้ามาให้ราชันกัด ส่วนเอ็งก็ให้ราชันหนุนตักไว้ คอยพูดคุยอย่าให้ราชันหลับเด็ดขาด”
“จ้ะแม่อ่อน”
“ราชันจะเจ็บมาก เพราะข้าไม่มียาชา เองต้องคอยให้กำลังใจอย่าให้ห่าง”
“จ้ะ”
ใบบัวรีบทำตามที่แม่อ่อนสั่ง เธอฉวยหยิบผ้าสะอาดผืนหนึ่งมา ก่อนจะอ้อมไปทางหัวเตียง ปีนขึ้นไปแล้วยกหัวราชันขึ้นมาวางบนตัก อ้าปากออกแล้วยัดผ้าเข้าไป ป้องกันไม่ให้ราชันกัดลิ้นตัวเอง
แม่อ่อนเริ่มทำความสะอาดบาดแผล เช็ดเลือดสีสดหลายต่อหลายครั้งจนกระทั่งมันเริ่มหยุดไหล มีดผ่าตัดจ่อเข้ากับเปลวเทียนจนร้อนได้ที่ ใบบัวเม้มริมฝีปาก จับมือใหญ่ไว้แน่น
“มีสติ อย่าตกใจ”
“อื้อออ!!!”
สิ้นคำของหญิงชรา มีดที่ทั้งคมและร้อนจัดก็กรีดลงบนผิวเนื้อของจอมโจรทันที ราชันที่สะลึมสะลือตื่นเต็มตา เขาดิ้นหนี ส่งเสียงร้องอู้อี้ในลำคอ แววตาดุดันฉายแววเจ็บปวดทรมานเกินจะกล่าว
“พี่ราชัน อย่าดิ้น บีบมือใบบัวไว้นะ”
ใบบัวกระซิบบอก ราชันได้ยินแบบนั้นก็รีบบีบมือทั้งสองของใบบัวทันที แรงของราชันนั้นมีมากจนใบบัวรู้สึกเหมือนถูกหักกระดูก แต่เธอก็ไม่บ่นออกมาสักคำ ได้แต่เอ่ยปลอบให้ราชันหายเจ็บปวดระหว่างที่แม่อ่อนผ่าเอากระสุนออก
แกร๊ง
หัวกระสุนถูกวางลงบนถาดเล็ก ๆ แม่อ่อนความสะอาดแผล หยิบเข็มและด้ายขึ้นมาก่อนจะเย็บปิดบาดแผลแบบสด ๆ
“อื้อออ”
“ไม่เป็นไรนะพี่” ใบบัวกระซิบ บีบมือราชันเพื่อบอกให้เขารู้ว่าเธออยู่ตรงนี้ “ชู่ว ไม่เป็นไร อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว ใบบัวอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน”
จู่ ๆ ราชันรู้สึกอุ่นวาบที่หน้าอกข้างซ้าย เขาเผลอมองหน้าที่มีรอยแดงไปเกือบครึ่งของหญิงสาว ดวงตากลมเหมือนลูกกวางสั่นระริก ใบบัวเองก็คงกลัวไม่น้อย อายุก็เพียงเท่านี้ แต่ริมฝีปากอิ่มกลับพร่ำคำปลอบโยนออกมาตลอดเวลา
ราชันไม่รู้ว่าตัวเองตกอยู่ในภวังค์นั้นนานเพียงใด แต่ในตอนสุดท้ายเขาได้ยินเสียงแม่อ่อนพูดขึ้นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว พร้อม ๆ กับดวงตากวางที่หายไปเพราะใบบัวเงยหน้าขึ้นมองแม่อ่อน
“พี่ราชันจะหายใช่ไหมจ๊ะแม่อ่อน”
“หึ ราชันมันไม่ตายง่าย ๆ หรอก ข้าบอกเอ็งแล้ว”
แม่อ่อนมองคนสองคนก่อนจะยิ้มออกมา อีกคนนอนซบบนตักนุ่มดูท่าจะสบายไม่น้อย มือใหญ่จับมือน้อย ๆ ไว้ไม่ห่าง แววตาที่มองใบบัวเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด
ส่วนอีกคนก็นั่งนิ่งให้เขานอนตักไม่ท้วงสักคำ แววตาที่สั่นระริกมีแต่คำว่าเป็นห่วงผิดวิสัยคนที่ไม่ชอบพอกัน โชคชะตาคงกำลังทำหน้าที่ของมัน อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
เพียงแค่มีคนที่รู้อนาคตอย่างเธอเข้ามาช่วยเติมฟืนนิด ๆ หน่อย ๆ ให้ไฟมันติดเร็วขึ้นก็เท่านั้น
“ข้าหมดแรงเหลือเกิน คงต้องไปพักแล้ว”
“ให้ใบบัวไปส่งไหมจ๊ะ”
“ไม่ต้อง เอ็งอยู่ดูแลราชันที่นี่แหละ อีกไม่เกินสองชั่วยามจะไข้ขึ้น เอ็งต้องคอยเช็ดตัว ป้อนยาหม้อทุกสี่ชั่วโมง”
“ได้จ้ะ”
“แม่อ่อน ฉันขอบคุณ” ราชันเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน ดูอ่อนแรงและอ่อนแอไม่เหมือนจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่
“ข้ามีหน้าที่ช่วยเหลือทุกคนในหมู่บ้านนี้อยู่แล้ว”
แม่อ่อนพูดแค่นั้นก็ขอตัวไปพักผ่อน เมื่อเหลือกันเพียงสองคนใบบัวก็ขยับตัวออกเพื่อไปเก็บข้าวของ แต่ราชันกลับยึดตักหอม ๆ เอาไว้
“พี่ราชัน ใบบัวจะเก็บของ”
“ไว้ก่อน กูอยากนอนแบบนี้”
ขนาดเจ็บตัวยังเอาแต่ใจไม่เลิก ใบบัวเบะปากใส่คนที่นอนหลับตาอยู่บนตัก แต่ทว่าจู่ ๆ ราชันก็ลืมตาโพลงขึ้น และทันได้เห็นเธอที่กำลังทำหน้าประหลาด ๆ อยู่พอดี
“ทำหน้าอะไรของมึง”
“เปล่านี่จ๊ะ”
“เดี๋ยวนี้หัดโกหกกูนะ”
“เปล่าจ้ะ พี่ราชันให้ใบบัวไปเก็บของก่อน”
“แม่อ่อนพูดว่าอะไร ให้ดูแลกูไม่ใช่หรือ ไม่ทันไรก็เกเรแล้วนะมึง”
“ใบบัวเปล่า แค่จะไปเก็บของ”
"นั่งเฉย ๆ กูเจ็บแผล"
ได้ผล ใบบัวหยุดขยับตัวทันทีเมื่อราชันพูดแบบนั้น จอมโจรยกยิ้มมุมปาก ดวงตาคมกริบปิดลงอย่างเชื่องช้า
ไม่นาน เสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอก็ดังขึ้น ใบบัวก้มมองโจรหน้าดุที่นอนหมดฤทธิ์บนตักของตนเอง ราชันในเวลานี้ดูไร้พิษภัย เหมือนเป็นแค่ชายหนุ่มธรรมดาที่เหนื่อยอ่อนและต้องการพักผ่อนเท่านั้น
ดวงตากลมไล่มองลงไปที่ลำตัว บาดแผลตรงท้องด้านซ้ายมีผ้าสีสะอาดพันไว้ ส่วนที่เหลือเปิดเปลือยอวดมัดกล้ามแน่นตึงและรอยแผลเป็นหลายจุด บางจุดนูนสูงบ่งบอกว่าแผลตรงนั้นมันเคยฉกรรจ์เพียงใด
“คงเจ็บมาก”
ชีวิตของโจรมีแต่เรื่องให้ต้องเจ็บตัวตลอดเวลา ออกปล้นทีไรก็เหมือนเอาชีวิตไปทิ้ง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหากก้าวออกไปแล้วจะได้กลับมาหรือไม่ เงินทองยิ่งได้มาง่ายเท่าไรก็ยิ่งอันตรายเท่านั้น
“หากพี่ราชันเลิกเป็นโจรได้ก็คงดี”
ครั้งเดียวก็พอแล้วกับภาพใกล้ตายของราชัน ใบบัวไม่อยากเห็นอีก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม...