“รู้ไหม... เขาว่าหมามันหอนเพราะมันเห็นผีนะครับ” เขายังพูดต่อ ถ้าเธอกลัวแล้วอยู่บนตักของเขาแบบนี้นานๆ ก็ดีสิ
“พี่ตรัย ไม่เอาไม่พูด พราวยิ่ง กลัวๆ อยู่” พราวมุกซุกหน้าเข้าหาอกกว้างของตรัยด้วยความลืมตัว จำได้ว่าเวลาตัวเองเป็นแบบนี้ มักจะซุกเข้าหาอกพี่ชาย จนลืมไปว่าคนที่เธอกอดอยู่ไม่ใช่พี่ชายตัวเอง ตรัยยิ้มกว้างอย่างไม่เคยเป็น มาก่อน แผนการของเขาได้ผลดีเกินคาด
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” เธอทำท่าจะปีนลงจากตักเขาเมื่อได้สติ แต่โดนกอดเอาไว้แน่นขึ้น นึกอายที่เผลอกระโดดขึ้นมานั่งบนตักของเขา เพราะเผลอคิดว่าเขาเป็นพี่ชายของเธอไปเสียได้
“ถ้ากลัวก็กอดพี่ได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องรีบไปไหนหรอกครับ พี่ยินดีให้กอด อยู่กันแบบนี้ก็อุ่นดี” กายหอมของเธอ ผิวนุ่มของเธอ ทำให้เขาอยากกอดแบบนี้ไปนานๆ ไม่อยากปล่อยให้เธอผละไปได้ง่ายๆ
“เอ่อ... ปล่อยพราวเถอะค่ะ พราวไม่ค่อยกลัวแล้วค่ะ” เธอพูดอย่างอายๆ ก้มหน้างุด หัวใจเต้นแรงไปหมด ไหนบอกตัวเองว่าไม่ได้คิดอะไรกับตรัยยังไงเล่า แล้วทำไมพอโดนเขากอดแบบนี้ถึงได้หัวใจเต้นแรงนักนะ
...หรือเป็นเพราะว่าเธอไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายคนไหนมาก่อน เนื่องจากพี่ชายหวง เธอจึงได้รู้สึกใจเต้นแรงแบบนี้ขณะอยู่ในอ้อมแขนของตรัย
ตรัยยอมปล่อยร่างน้อยแต่โดยดี นึกเสียดายอยู่ลึกๆ แต่เขายังมีโอกาสใกล้ชิดเธออีกมาก พราวมุกเลื่อนตัวเองไปนั่งที่โซฟาอีกด้าน เธอตาสว่างจนหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง พอได้พูดคุยกับตรัยและดื่มโกโก้ร้อนด้วยกัน แต่พอนั่งคุยกันไปสักพัก เธอก็เริ่มตาปรือ กลับมาง่วงอีกรอบ เพราะวันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน รู้สึกอยากคลานขึ้นเตียงและหลับเต็มที
ตรัยนั่งกอดอกมองร่างน้อยของคนที่พยายามถ่างตาบอกเขาว่าไม่ง่วงแล้วอมยิ้ม ร่างสูงค่อยๆ ตวัดอุ้มร่างคนที่หลับปุ๋ยไปแล้วขึ้นสู่อ้อมแขน ก่อนจะพาขึ้นไปนอนบนห้องนอนของเธอเอง
เขาค่อยๆ วางร่างเธอลงบนเตียงแล้วห่มผ้าให้อย่างอ่อนโยน ริมฝีปากหนาประทับจุมพิตลงบนหน้าผากนูนเกลี้ยง นั่งมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน แสนรักใคร่ มือหนาลูบไล้เรือนผมสลวยของเธอเบาๆ เขามีความสุขที่ได้นั่งมองเจ้าหญิงน้อยๆ ของตัวเองนอนหลับฝันหวานแบบนี้ อยากนั่งมองเธออยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหน มันเป็นความสุขเล็กๆ
แค่ได้มอง แค่เห็นหน้า แค่เห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงพูด เขาไม่ได้ต้องการอะไรมาก ขอแค่นี้จริงๆ เขาเป็นสุขกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต เมื่อมีพราวมุกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งอยู่เสมอๆ ไม่ว่าเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
“พี่ต้องทำยังไงนะ ถึงจะได้เธอมาครอบครองทั้งตัวและหัวใจ” ตรัยพูดเบาๆ คล้ายรำพึงกับตัวเอง เขามองใบหน้าจิ้มลิ้มที่หลับปุ๋ยไปอย่างมีความสุข ก่อนจะผละออกมาที่ระเบียงบ้านของหญิงสาว แล้วกดโทรศัพท์หาลูกน้อง คนสนิทที่ยังทำหน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่อง
“พอได้แล้ว จะหอนจนถึงเช้าหรือไง” เสียงของตรัยทำให้ศักดิ์สิทธิ์ถอนใจเฮือกอย่างโล่งอก ที่ไม่ต้องทนยืนให้ยุงกัดทำเสียงหมาหอนอยู่ตรงนี้อีกแล้ว
“ครับๆ คุณตรัย ผมก็จะไปแล้วครับ ยุงเยอะจริงๆ” ลูกน้องคนสนิทของตรัยตอบกลับพร้อมกับตบยุงไปด้วย ช่วยลุ้นอยู่ตั้งนาน ในที่สุดเจ้านายก็ได้เข้าบ้านสาวน้อยที่แอบรักอยู่กันสองต่อสองสักที
ตรัยกดวางสายก่อนจะเดินกลับมาในห้องนอนของพราวมุกอีกครั้ง เขาเดินสำรวจบ้านของเธอ คุ้นเคยกันดีเหมือนเป็นบ้านของตัวเองเพราะเข้าออกบ้านหลังนี้ตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งเธอกับเขาสูญเสียพ่อแม่ไปในเวลาไล่เลี่ยกัน เขาเองก็มีน้องสาว แต่ก็อยากมีเพื่อนเล่นเป็นเด็กผู้ชายอย่างพายัพ ตอนเด็กๆ คิดว่า... ดีที่มีสองพี่น้องข้างบ้านคอยเล่นด้วย
ชายหนุ่มมองภาพถ่ายของเพื่อนรักกับน้องสาว น่าแปลกที่เขากับพายัพไม่เคยทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นแตกหัก ทั้งๆ ที่ชอบหยอกล้อกันแรงๆ แต่กลับรักกันมาก ใครรังแกพายัพ เขาไม่ยอม ใครรังแกเขา พายัพเอาตาย เรียกว่าเพื่อนตายเลยก็ว่าได้
ส่วนเพื่อนๆ ในกลุ่มก็สนิทกันตามสมควร แต่สำหรับพายัพเป็นมากกว่าเพื่อนทั่วไป เรียกว่าเป็นครอบครัว พี่น้อง และหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตที่ช่วยเติมเต็มให้กันและกัน เหมือนสีขาวกับสีดำ มืดกับสว่าง ไฟกับน้ำ อาจเพราะเขาใจเย็นได้เสมอ แต่พายัพกลับร้อนเป็นไฟ ใครเตือนไม่ฟัง
น้องสาวของเขาได้ทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศ เนื่องจากตุลยากรเป็นเด็กเรียนเก่งจึงสอบชิงทุนได้ เธอแทบไม่ขอเงินเขาเลย แต่ไปเรียนที่โน่นก็หางานทำเอง เขาไม่เคยทิ้งน้อง คอยส่งเสียน้องตลอด โดยการโอนเงินเข้าบัญชีทุกเดือน ถึงเธอไม่ค่อยได้แตะต้องเงินก้อนนั้น แต่นั่นก็ถือว่าเป็นเงินรองรังเอาไว้ให้น้องเมื่อเรียนจบ หากตุลยากรอยากจะทำอะไร อาจจะต้องใช้เงินก้อนนั้นก็เป็นได้
ตรัยทอดสายตามองใบหน้าจิ้มลิ้มของพราวมุก เขาบอกว่าคนเราเกิดมารู้จักกันไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เป็นแรงกรรม ทำไมคนที่อยู่ไกลกันข้ามโลกยังสามารถมาพบเจอกันได้ มารักกันได้ เขาเองก็เชื่อแบบนั้น และเชื่อว่าที่เขารักพราวมุกมาตลอดเพราะเธอเกิดมาคู่กับเขา เธอเกิดมาเพื่อเขา และพราวมุกเอง ก็ไม่เคยมีแฟน ทั้งๆ ที่มีผู้ชายมากมายหมั่นแวะเวียนมาขายขนมจีบ จะเป็นเพราะว่าพี่ชายหวงนักหวงหนาก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเอาเข้าจริงๆ ถ้าพราวมุก รักใคร พายัพเองก็คงไม่ขัดความสุขของน้อง
ตรัยทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาตัวยาวในห้องของหญิงสาว เขาตะแคงหน้านอนมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่นอนตะแคงกลับมาเช่นกัน เขาหนุนศีรษะกับแขน มองคนน่ารักนอนหลับแล้วริมฝีปากโค้งขึ้น รอยยิ้มพิมพ์ใจที่ส่งไปให้เธอ แม้เธอจะไม่เห็น แต่เขาอยากจะยิ้มให้คนที่รัก
“ผู้หญิงอะไร ขนาดนอนหลับยังน่ารัก” เขาพึมพำเบาๆ จำไม่ได้ว่า นอนหลับไปตั้งแต่ตอนไหน แต่พอลืมตาตื่นอีกครั้ง เขาหันมองร่างบนเตียงทันที เธอยังหลับอยู่อย่างแสนสบาย ร่างสูงจึงลุกขึ้นบิดตัวไปมา ก่อนจะเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา ลงไปจัดการกับอาหารเช้าในห้องครัว