ตอนที่ 6 เข้าใจผิด

3239 คำ
หลายวันต่อมา คลับGQ วันนี้พวกเพื่อนตัวดีของฉันชวนกันมาปาร์ตี้ที่คลับ GQ ตอนแรกฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนตัวดีมันเร่งฉันยิก ๆ พอได้มาเท่านั้นแหละ ผู้คืองานดีมาก ๆ ดีจริงไรจริง แต่ไม่มีใครทำให้ฉันหวั่นไหวสักคน วันนี้ฉันมากันแบบสามสาวโสด ปกติเวลามาที่นี่พวกธันจะมาด้วย แต่พักหลัง ๆ ไม่ค่อยมาหรอก เพราะต่างคนต่างมีเด็กของตัวเอง ส่วนธันยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะตั้งแต่ธันตกลงคุยกับเกรซจนตอนนี้เริ่มคบกัน ธันก็ไม่ค่อยมีเวลามาหาฉันสักเท่าไหร่ เรียกง่าย ๆ ก็คือเขาลืมฉันไปแล้วล่ะ เขาก็ดูมีความสุขดีเวลาที่อยู่กับเกรซ… “ไม่เมาไม่กลับ ตกลงมะ” เจ้าจอมพูดพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นเพื่อเตรียมชนแก้ว “ตามนั้น ชนเลยค่า” ฉันกับมิรินพูดพร้อมกันแล้วก็ชนแก้วกับเจ้าจอม บรรยากาศภายในคลับเต็มไปด้วยนักท่องราตรีที่ออกมาเที่ยวกัน ทุกคนต่างโยกไปตามจังหวะเพลง บางคนนี่เต้นลืมสวยเลย “คุณผู้หญิงครับ…” ในจังหวะที่ฉันกำลังจะหันไปคุยกับเพื่อน จู่ ๆ พนักงานก็เดินมาสะกิดไหล่ฉันพร้อมกับยื่นแก้วอะไรสักอย่างมาให้ “คะ” ฉันถามพลางขมวดคิ้วสงสัย “คุณผู้ชายโต๊ะนั้นฝากมาให้ครับ” พนักงานพูดพร้อมกับชี้ไปที่โต๊ะผู้ชายกลุ่มใหญ่กลุ่มนึง ซึ่งในกลุ่มมีแต่ผู้ชาย และแต่ละคนก็ดูดีทั้งกลุ่มเลย แล้วสายตาฉันก็ไปสะดุดเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งที่เขากำลังมองฉันอยู่ “ฝากบอกเขาว่าขอบคุณค่ะ” ฉันพูดกับพนักงานพร้อมกับหันไปยิ้มให้ผู้ชายโต๊ะนั้น ทำไมหน้าคุ้น ๆ จังนะ “ไม่เบาค่ะ ไม่เบาเลย ผู้ชายสั่งมาให้กินด้วย” เจ้าจอมพูดพร้อมกับใช้ข้อศอกสะกิดที่แขนฉัน “แต่กูคุ้น ๆ ผู้ชายคนนั้นว่ะ” ฉันพูดตามที่ตัวเองสงสัย “คนไหนวะมึง กูยังไม่มองไม่เห็นเลย” เจ้าจอมพูดพร้อมกับพยายามมองหา “พี่นำทัพที่เรียนอยู่คณะแพทย์ไงมึง” ในระหว่างที่ฉันกำลังจะยกแก้วที่ได้มาจากผู้ชายคนนั้นขึ้นมาดื่ม แต่พอได้ยินสิ่งที่มิรินพูด ฉันรีบวางแก้วทันที “เชี้ย! พี่นำทัพที่มึงชอบอะนะ!!” เจ้าจอมถามด้วยความตกใจ “ใช่มึง…” มิรินพูดพร้อมกับพยักหน้าเบา ๆ “มึง...คือกู” ติดอ่างเลยค่ะ ฉันพูดไม่ออก “เห้ย มึงไม่เป็นไร พี่เขาให้มึงก็กิน ๆ ไปเถอะ” “ไม่ กูไม่เอา…กูเข้าใจความรู้สึกมึงดี” ฉันพูดพร้อมกับเลื่อนแก้วที่พี่นำทัพให้ไปวางตรงอื่นแทน ฉันเข้าใจความรู้สึกนี้ดี ฉันไม่อยากให้เพื่อนที่ฉันรักต้องรู้สึกเหมือนที่ฉันเคยเป็น “ไปเต้นกัน!!” ฉันพูดพร้อมกับลากเพื่อนไปเต้นข้างหน้า มีหรอที่เพื่อนฉันมันจะปฏิเสธ มันยิ่งเป็นสายแดนซ์กันอยู่ หมับ “อ๊ะ!” แต่ในระหว่างที่ฉันกำลังเต้นอยู่ จู่ ๆ ก็มีมือหนามาโอบเอวฉันไว้แล้วรั้งตัวฉันเข้าไปชิดตัวเขา ฉันเงยหน้าไปมองเจ้าของมือก่อนจะตกใจพอรู้ว่าคนที่โอบเอวฉันเป็นใคร “ใจร้ายจัง” พี่นำทัพพูดประชิดที่ข้างหูฉัน ฉันผลักพี่นำทัพออกไปก่อนจะรีบหันไปมองมิรินที่ตอนนี้ยืนมองอยู่ “ขอโทษนะคะเราไม่เคยรู้จักกัน เพราะฉะนั้นก็ไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวคนอื่นโดยที่เขาไม่อนุญาตินะคะ” ฉันพูดเสียงแข็ง ฉันไม่ชอบให้ใครมาโดนตัวฉันแบบนี้ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยรู้จักกัน ถึงฉันจะรู้จักพี่เขาก็เถอะ “โอเค ๆ พี่จะจำไว้นะครับน้องเบลล์…” พี่นำทัพพูดพร้อมกับล้วงกระเป๋ากางเกงไว้ข้างนึง แต่ที่อึ้งไปกว่านั้นคือพี่เขารู้จักฉัน “งั้นขอตัวนะคะ ไปมึง” ฉันพูดพร้อมกับรั้งแขนเพื่อนทั้งสองให้เดินออกมา พอมาถึงโต๊ะฉันรีบหันไปถามเพื่อนตัวเองทันที “มึงกลับกันมั้ย กูหมดสนุกแล้วอะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง คือมันหมดสนุกแล้วอะ แล้วฉันก็รู้ว่าตัวมิรินก็เซ็งแล้วด้วย “เออกลับกัน” เจ้าจอมพูดเสริม “มึง กูโอเคเว้ย ไม่ต้องห่วงกู” มิรินพูดพร้อมกับมองหน้าฉัน “ไม่เอา กูไม่โอเลย กลับเถอะ” ฉันพูดพร้อมกับคล้องแขนมิริน มิรินยิ้มให้ฉันก่อนจะผลักหัวฉันเบา ๆ “มึงนี่นะ ขอบคุณนะมึงที่เป็นห่วงความรู้สึกกูอะ มึงด้วยอิเจ้าจอม” “ก็มึงเพื่อนกูปะ” ฉันกับเจ้าจอมประสานเสียงกันพูด มิรินยิ้มก่อนจะพยักหน้าให้พวกฉัน พวกฉันเรียกพนักงานมาคิดเงิน พอจ่ายเสร็จฉันกับเพื่อนก็เดินไปที่ลานจอดรถเพื่อขึ้นรถกลับคอนโดของตัวเอง แต่ในจังหวะที่ฉันเดินไป สายตาฉันกลับไปสะดุดเข้ากับคู่ชายหญิงที่เดินคล้องแขนกันออกมาจากรถเบนซ์ ฉันจะไม่คิดอะไรเลย ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่...อิหัวขโมย! “มึง นั่นมัน” มิรินพูดด้วยสีหน้าตกใจ “กูเห็นแล้ว” ฉันพูดพร้อมกับเดินตรงดิ่งไปหาเกรซที่มากับผู้ชายที่ท่าทางจะมีฐานะพอสมควร “อ้าวเกรซ!!” ฉันจงใจเรียกเกรซเสียงดัง เกรซหันมามองฉันด้วยสีหน้าตกใจ ก่อนจะรีบปล่อยมือจากแขนผู้ชายคนนั้น “บะ เบลล์” เกรซเรียกชื่อฉันก่อนจะรีบหันซ้ายหันขวาไปมองทางอื่น คงกลัวว่าธันจะมาด้วยสินะ “มากับใครอะ” เจ้าจอมถามเสียงดัง ก่อนจะมองไปที่เกรซอย่างไม่วางตา “คือ…” “ใครหรอเกรซ” มิรินถามกดดันอีกคน “หวัดดีครับ ผมเป็นแฟนเกรซครับ” ผู้ชายคนนั้นแนะนำตัวพร้อมกับยิ้มให้พวกฉัน ส่วนเกรซน่ะหรอ หน้าซีดเป็นไก่ต้มเลยล่ะ “อ่อออ...แฟนหรอ?” ฉันจงใจพูดเน้นเสียงดังก่อนจะมองไปที่เกรซอย่างไม่วางตา “แล้ว ธะ…” “เอ่อ พีท พีทเข้าไปหาเพื่อนก่อนก็ได้ เกรซขอคุยกับเพื่อนแป๊บนึงนะ” เกรซรีบหันไปบอกให้คนชื่อพีทเดินเข้าไปข้างในทันที “มึงต้องการอะไร?” พอพ้นสายตาผู้ชายคนนั้นเกรซรีบหันมาพูดกับพวกฉันทันที “กูต้องถามมึงมากกว่า มึงทำแบบนี้ได้ไง!!” ฉันตะคอกใส่เกรซเสียงดัง “ก็แล้วยังไง กูพอใจ เดี๋ยวคนนี้กูก็เขี่ยทิ้งแล้วก็ไปคบธันคนเดียว!!” “มึงฝันไปเถอะค่า!!” เจ้าจอมพูดเสริมฉัน “กูอยากจะรู้ว่าถ้าธันรู้เรื่องนี้ มันยังจะคบกับผู้หญิงแบบมึงอยู่ไหม” ฉันพูดเสียงเรียบ “มึงอย่านะ ถ้ามึงบอกธัน กูก็จะบอกธันว่ามึงแอบชอบธัน!!” เกรซพูดเสียงตื่น “เอาสิ บอกเลย ดีเหมือนกัน กูจะได้ทำอะไรสะดวกขึ้น!” ฉันพูดพร้อมกับแสยะยิ้มใส่เกรซ “เอาไงดีมึง จะโทรบอกธันตอนนี้หรือไปหามันที่คอนโดเลย” มิรินพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมา “หยุดนะ!! โอเค! พวกมึงต้องการอะไร!” เกรซรีบพูดทันที “แล้วมึงคิดว่ามึงต้องทำยังไงล่ะ” มิรินพูดพร้อมทำหน้ายียวนใส่เกรซ “ก็ได้!! กูจะบอกเลิกธันเอง โอเคนะ” “มึงพูดเองนะ พวกกูไม่ได้บังคับ” เจ้าจอมพูดพร้อมกับมองเกรซด้วยสายตาเหยียด ๆ “เออ เดี๋ยวกูบอกธันเอง!” “มึงพลาดเองนะเกรซ” มิรินพูดพร้อมกับเดินไปตบไหล่เกรซเบา ๆ “ไปเถอะมึง” ฉันพูดพร้อมกับดึงแขนเพื่อนทั้งสองให้ไปขึ้นรถ ถ้าฉันไม่มาวันนี้ฉันคงไม่รู้ว่าเกรซมันคบซ้อน ทำกับฉัน ฉันยอมได้ แต่ถ้ามาทำคนที่ฉันรักฉันไม่ยอม เช้าวันต่อมา Line! ในระหว่างที่ฉันกำลังจะสตาร์ทรถเพื่อขับไปมหาลัย จู่ ๆ เสียงไลน์ก็ดังขึ้น ฉันเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาดู Gr.: มึงวันนี้มาหากูหน่อยที่โต๊ะประจำ กูมีเรื่องจะบอก ฉันอ่านข้อความด้วยความสงสัย เกรซมีอะไรจะบอกฉันงั้นหรอ ฉันชั่งใจก่อนจะตอบเกรซไป SnowB: อื้ม เจอกัน ฉันตอบเกรซก่อนจะไลน์ไปบอกเจ้าจอมกับมิริน เจ้าจอมกับมิรินก็บอกจะรีบตามมา แต่ฉันล่ะกลัวรถติดจริง ๆ มหาวิทยาลัย (Princeton University) พอมาถึงมหาลัยฉันก็เดินไปที่ที่เกรซนัดเจอ ส่วนเจ้าจอมกับมิรินยังมาไม่ถึงเพราะรถติด พอเดินมาถึงที่นัดฉันก็เจอเกรซนั่งรออยู่ก่อนแล้ว พอเกรซเห็นฉันก็ลุกยืนขึ้นแล้วเดินมาหา “มาแล้วหรอ” เกรซพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป ฟังแล้วมันดูแปลกหูแปลก ๆ “มึงมีไรจะบอกกู?” ฉันถามด้วยความสงสัย “คือ คือเมื่อคืนกูพยายามบอกเลิกธันตามที่มึงบอกแล้ว แต่ธันไม่ยอมเลิก แล้วกูก็ทำไม่ได้จริง ๆ เบลล์ กูรักธัน รักธันจริง ๆ” “มึงพูดอะไร กูไม่เข้าใจ” ฉันถามเกรซอย่างไม่เข้าใจ “มึงอย่าพยายามทำให้กูเลิกกับธันเลยนะ กูขอร้อง กูรักธันกูรักเขามากจริง ๆ” เกรซเดินมาจับมือฉันไว้พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน “ถ้ามึงรักธันจริง มึงจะไม่ทำแบบนั้น มึงจะไม่!” ฉันสะบัดมือออกจากมือเกรซ ก่อนจะพูด “คนเมื่อคืนมึงก็จ้างเขาให้มายุ่งกับกูอะเบลล์ มึงอย่าทำแบบนี้อีกเลยนะ กูรู้ว่ามึงรักธัน แต่ธันเขาเลือกกูแล้วอะเบลล์” ฉันยืนมองเกรซ อึ้ง ๆ สิ่งที่เกรซพูดมันทำให้ฉันงงไปหมด “มึงพูดอะไร” ฉันขมวดคิ้วถาม ตอนนี้ฉันงงไปหมดแล้วอะ “มึงอย่าโกรธอย่าเกลียดกูเลยนะ กูเลิกกับธันไม่ได้ กูรักธัน กูรักเขา มึงอย่าพยายามทำให้กูหายไปจากชีวิตธันเหมือนที่มึงทำให้นับดาวหายไปจากชีวิตธันเลยนะ กูขอร้อง” เกรซพูดพร้อมกับทรุดตัวลงตรงหน้าฉันแล้วกอดขาฉันไว้พร้อมกับร้องไห้ นี่มันอะไรกัน “มึงทำอะไรของมึงเกรซ ปล่อยขากู!!” ฉันพูดพร้อมกับพยายามดึงเกรซให้ลุกขึ้น แต่กลายเป็นว่าเกรซจับมือฉันแล้วฟาดไปที่หน้าตัวเองเต็มแรง เพี้ยะ! “หยุดนะเบลล์!!!” ฉันชะงักตัวทันที ตัวมันเริ่มชาขึ้นเรื่อย ๆ พอได้ยินเสียงคนที่เข้ามาห้าม “ธัน…” ฉันมองธันอึ้ง ๆ เขามาตั้งแต่ตอนไหน มาตั้งแต่เมื่อไหร่ “ธัน เกรซกลัว...ฮึก” เกรซพูดพร้อมกับกอดธันแน่น ธันหันมามองหน้าฉันด้วยสายตาที่ผิดหวัง “มึงทำแบบนี้ได้ไงวะเบลล์” ธันถามฉันเสียงนิ่ง สายตาที่ธันมองฉันมันดูผิดหวังและว่างเปล่ามาก ๆ “อิเบลล์!” เจ้าจอมกับมิรินรีบวิ่งมาหาฉันพร้อมกับจับแขนฉันไว้ “กูไม่ได้บอกให้เกรซไปบอกเลิกมึงนะธัน” ฉันพยายามอธิบาย “แล้วเรื่องที่มึงชอบกู! เป็นต้นเหตุที่ทำให้นับดาวบอกเลิกกู มึงจะอธิบายว่ายังไง!!” ธันตะคอกใส่ฉันเสียงดังลั่นจนฉันสะดุ้ง “กู...” ฉันจุกจนพูดไม่ออก “ธัน มึงอย่าใส่อารมรณ์ดิวะ!!” เจ้าจอมพูดพร้อมกับเลื่อนมือมาจับมือฉันไว้ “กูแม่งโง่เองว่ะ” ฉันยืนนิ่งไม่รู้จะพูดอะไรออกไป ธันมองหน้าฉันก่อนจะเดินไปโอบไหล่เกรซไว้พร้อมกับหันมาพูดกับฉันอีกครั้ง “กูไม่เคยคิดอะไรกับมึงนอกจากคำว่าเพื่อน ไม่เคยคิด!! จำใส่สมองมึงไว้ซะ!” ธันตวาดใส่หน้าฉันก่อนจะเดินประคองเกรซผ่านหน้าฉันไป ฉันพลาดเอง...ธันรู้แล้วว่าฉันชอบเขา แล้วสิ่งที่ได้รับกลับมาคือคำพูดที่แสนเจ็บปวด “มึง…” เจ้าจอมเรียกฉันเสียงเบา มิรินเองก็เข้ามากอดฉันไว้ ฉันจะทำยังไงดี หน้าฉันธันยังไม่อยากจะมองเลย “มึง กูจะทำยังไงดี เมื่อกี้สายตาที่ธันใช้มองกูมันแบบ ฮึก…” ฉันพูดได้แค่นั้นก่อนจะร้องไห้ออกมา ฉันไม่ได้อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ ฉันไม่อยากให้ธันเกลียดฉัน ฉันนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ก็มีเจ้าจอมกับมิรินที่คอยเตือนสติและคอยปลอบ จนสักพักฉันตั้งสติได้ถึงขึ้นไปเรียน เพราะวิชานี้มีสอบเก็บคะแนนตอนท้ายคาบ ฉันก็ไปเรียนทั้ง ๆ ที่ตาบวมแบบนั้นแหละ ส่วนเกรซนั้นธันคงจะพากลับไปแล้วเพราะไม่เจอในห้อง หลังเรียนเสร็จฉันก็ขอตัวแยกกลับคอนโดเลย แต่มีหรอเพื่อนฉันมันจะยอม มันก็ขอตามไปเฝ้าที่คอนโด ซื้อนู่นซื้อนี่ไปกิน ฉันก็โอเคเพราะเข้าใจว่าพวกมันเป็นห่วง ส่วนฉันก็พยายามไลน์หาธัน แต่ธันก็ไม่ตอบ ฉันอยากอธิบายเรื่องนับดาว ฉันไม่อยากให้ธันเข้าใจฉันผิดไป “มึง เดี๋ยวพวกกูต้องกลับแล้วนะ มึงอยู่ได้ใช่ไหม” เจ้าจอม​หันมาพูดกับฉัน ฉันหันไปมองนาฬิกาที่ตอนนี้มันบอกเวลาว่าสามทุ่มกว่าแล้ว “กูอยู่ได้ มึงอยู่กับกูมา 8 ชั่วโมงแล้ว กูโอเค” “แน่นะ” มิรินถามย้ำ “เอ้อ สบาย ๆ” “มีอะไรต้องรีบโทรมานะ” ฉันพยักหน้าให้เพื่อนทั้งสอง ก่อนจะเดินไปส่งเจ้าจอมกับมิรินที่หน้าประตูห้องก่อนจะโบกมือลา พอเพื่อนไปฉันก็มานั่งจมกับความรู้สึกของตัวเองเหมือนเดิม มันแย่เนอะ โคตรจะแย่เลยแหละ การแอบชอบเพื่อนตัวเองเป็นอะไรที่แบบถ้าโชคดีก็ได้คบกัน แต่ถ้าโชคร้ายก็มองหน้ากันไม่ได้อีกเลย ฉันหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาดูไอจีก่อนจะไปสะดุดเข้ากับโพสต์ของธันที่พึ่งโพสต์ไปเมื่อ 15 นาทีที่แล้ว ฉันมือสั่นกับโพสต์ตรงหน้า ถ้าเดาไม่ผิดตอนนี้ธันน่าจะอยู่คอนโด ฉันรีบคว้ากุญแจรถ แล้วตรงไปหาธันที่คอนโดของเขาทันที ฉันไม่อยากให้ธันเข้าใจฉันผิด ฉันอยากอธิบาย ถึงเขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร เป็นไงเป็นกัน คอนโด W พอฉันมาถึงคอนโดของธัน ฉันก็รีบกดลิฟต์แล้วขึ้นไปยังชั้นที่ธันอยู่พร้อมกับเดินไปกดกริ่งหน้าประตูห้อง ยืนรอสักพักประตูห้องธันก็เปิดออก “มาทำไม?” ธันมองฉันพร้อมกับถามเสียงเรียบ “ธัน...” ฉันกำลังจะพูดแต่ธันก็ผลักประตูจะปิดใส่หน้าฉัน แต่ฉันใช้มือดันประตูไว้แล้วแทรกตัวเข้าไปข้างในห้องธัน เกือบโดนประตูหนีบแล้วเชียว “กลับไป!!” ธันตะคอกฉันเสียงดังพร้อมกับชี้ไปที่ประตู กลิ่นเหล้ามันคลุ้งเต็มห้องไปหมด “ฟังกันก่อนได้ไหม!” ฉันเดินไปจับแขนธันไว้ ธันสะบัดออกอย่างแรงจนฉันเกือบล้ม ฉันมองธันก่อนจะรู้สึกว่าขอบตาฉันเริ่มร้อนขึ้นมาเรื่อย ๆ และสุดท้ายน้ำตาฉันมันก็ค่อย ๆ ไหลออกมา “งั้นมึงพูดมาสิ พูดมา!! เอาเรื่องที่มึงชอบกูก่อนเลย!!” ธันกระชากแขนฉันพร้อมกับตะคอกใส่ฉันเสียงดังลั่น “กูขอโทษ กูพยายามแล้วที่จะไม่รู้สึกกับมึงเกินเพื่อน แต่กูทำไม่ได้…” ฉันพูดพร้อมกับใช้มือเช็ดน้ำตาตัวเองออกไปอย่างลวก ๆ “แล้วเรื่องนับดาว?” ธันถามฉันเสียงนิ่งเรียบพร้อมกับปล่อยแขนฉันแล้วเดินไปคว้าแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มจดหมดรวดเดียว “กูไม่รู้ว่าเกรซบอกอะไรมึง แต่กูไม่เคยขอให้นับดาวไปจากชีวิตมึง นับเขามาบอกกูว่าเขาไม่ได้รู้สึกกับมึงแบบนั้น แล้วเขาก็บอกว่าเขาจะหลีกทางให้กู แต่กูไม่เคยต้องการแบบนั้น มะ…” เพล้ง!!! ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ ร่างสูงตรงหน้าก็ปาแก้วลงพื้นจนเศษแก้วกระจายไปทั่ว “ยิ่งกูฟังมึงพูด กูยิ่งรู้สึกขยะแขยงผู้หญิงแบบมึง” ฉันหน้าชากับสิ่งที่ธันพูดออกมา “ไหนมึงบอกว่าต่อให้มีเรื่องอะไร มึงจะฟังจากปากกูไง!” ฉันพูดพร้อมกับมองตาธัน “นั่นมันเมื่อก่อนที่กูไว้ใจมึง เพราะเห็นมึงเป็นเพื่อนสนิทของกู แต่ตอนนี้เพื่อนกูคนนั้นมันตายไปแล้ว มันตายไปจากชีวิตกูเมื่อกูรู้ว่ามันทำให้นับดาวหายไปจากชีวิตกู!!” “กูไม่ได้ทำ!!” “ถ้ามึงไม่ได้เป็นคนขอให้นับไปจากกู ถ้ามึงไม่ได้บังคับเกรซให้มาเลิกกับกู แล้วมันจะเป็นใคร! ใครกัน!แล้วคงสมใจมึงแล้วสินะ เพราะตอนนี้กูเลิกกับเกรซแล้ว สะใจมึงยัง แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกรซหรือเรื่องนับกูยังไม่เจ็บเท่ากับสิ่งที่มึงทำกับกู!!” ธันตะคอกใส่หน้าฉันพร้อมกับบีบต้นแขนฉันอย่างแรง “ปล่อยกู! กูเจ็บ!!” ฉันพูดพร้อมกับพยายามแกะมือออก แต่มันก็ทำได้ยาก “มึงบอกมาดิว่าใครทำ ถ้าไม่ใช่มึง!!! บอกมา!!” “เออ! กูเอง กูเองที่ทำให้คนที่มึงรักหายไปจากชีวิตมึง กูเองที่พยายามผลักทุกคนออกไปจากชีวิตมึง กูอิจฉาที่นับดาวได้มึงไป กูเลยขอให้นับไปจากชีวิตมึง! ชัดพอไหม!” ฉันตะโกนใส่หน้าธันอย่างเหลืออด ฉันใช้มือตัวเองปาดน้ำตาออกอย่างลวก ๆ ก่อนจะเมินหน้าไปอีกทาง “มึงได้ยินแบบนี้แล้วพอใจมึงแล้วใช่ไหม สบายใจมึงแล้วนะ งั้นกูขอตัว!!” ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจจะมาอธิบายกันดี ๆ แต่ธันก็ไม่ฟังอะไรฉันเลยสักอย่าง พอกันทีถ้ามันจะจบแบบนี้ก็ให้มันจบไป ฉันยอม... หมับ!! “มึงคิดว่ามึงทำเหี้ย ๆ ใส่กูแล้วมึงจะไม่โดนอะไรเลยงั้นหรอเบลล์!!” ธันกระชากแขนฉันไว้พร้อมกับถาม “ปล่อย! กูจะกลับห้อง!!” ฉันพยายามสะบัดแขนออกจากมือธัน แต่ธันยิ่งบีบแขนฉันแรงขึ้น “ฮึ! กูปล่อยแน่ แต่ปล่อยนอกหรือปล่อยในค่อยดูอีกที!!!” พูดจบธันก็ออกแรงกระชากแขนฉันให้เดินเข้าไปที่ห้องนอนของธันก่อนจะเหวี่ยงตัวฉันลงไปที่เตียงอย่างแรง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม