ตอนที่ 1 เท่ฉิบหาย!

1497 คำ
เสียงเพลงในผับหรูใจกลางเมืองดังกระหึ่ม วัยรุ่นหนุ่มสาวจากคณะวิศวกรรมศาสตร์กำลังร่อนเอวเต้นไปตามจังหวะเสียงดนตรีอย่างสนุกสนาน กลิ่นแอลกอฮอล์ผสมกับกลิ่นประจำโซนวีไอพีปนกันจนชวนเวียนหัว หากแต่คนส่วนใหญ่กำลังเมามันกับเสียงเพลงซึ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจ เมื่อบีตดนตรีเปลี่ยนแสงสีจัดจ้านตามจังหวะเพลงยิ่งส่งให้บรรยากาศในร้านเต็มไปด้วยความสนุกสนานและเร่าร้อน มุมหนึ่งของโซนวีไอพีคือโต๊ะที่มีกลุ่มเพื่อนห้าคนยืนเฝ้าอยู่ ชายหนุ่มหญิงสาวที่เป็นคู่รักต่างก็นัวเนียกันอย่างมีความสุข เจ้าของร่างกายที่สูงกว่าร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรในชุดเสื้อครอปสีขาว และกางเกงยีนสีฟ้าซีดยืนเท้าคางกับโต๊ะบาร์ทรงสูงอย่างเบื่อหน่าย เมื่อหันไปทางซ้ายก็พบว่าเพื่อนสนิทสองคนที่เป็นแฟนกันกำลังนัวเนียและกอดกันอย่างมีความสุข และเมื่อหันไปทางขวาเพื่อนสนิทอีกคนก็กำลังจู๋จี๋กับแฟนสาวของเขา เพื่อนร่วมโต๊ะอีกคนก็ขอแยกตัวไปเข้าห้องน้ำ ในขณะที่โต๊ะใกล้ๆ ต่างก็หัวเราะกันอย่างเริงร่า ใบหน้าสวยหวานที่ถูกแต่งอย่างประณีตงอง้ำ เดิมทีมันควรจะเป็นวันฉลองการเรียนจบที่มีความสุข แต่กลายเป็นว่าคนโสดอย่างเธอต้องมาเป็นพยานรักให้เพื่อนตัวดีทั้งหลายเสียอย่างนั้น เมื่อหวนนึกถึงชีวิตโสดตลอดสีปีที่ผ่านมา ไอ้คำว่าสาววิศวะเป็นสมบัติของคณะนั้นไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะเป็นได้แค่สมบัติที่บรรดาผู้ชายปกป้องราวกับไข่ในหิน แต่ไม่ได้สัมผัสกับหินก้อนอื่นด้วยตัวเองเลยนี่สิ ไม่ว่าจะใครหน้าไหนเดินหน้ามาจีบ เพื่อนของเธอก็จะกรองออกไปอย่างอุกอาจ ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะเล่นหูเล่นตาหรือคุยกับใครเลย กระนั้นแล้วชีวิตในมหาวิทยาลัยของจีนก็ไม่ได้น่าเบื่อมากนัก แต่เมื่อเห็นธันวาผลักมะนาวไปที่มุมหนึ่งของซอกหลืบ จีนก็กระดกเหล้าอย่างเก้อกระดาก สองคนนี้กว่าจะได้คบกันจริงจังก็กินเวลาไปพักใหญ่ ไหนจะเรื่องการฟ้องร้องที่มีคนแอบปล่อยคลิปหลุดของทั้งคู่ จนเธอเองที่ทนไม่ไหวและบุกไปหากหน้าผู้หญิงอีกคนถึงที่ด้วยความโกรธ แม้ว่าคู่จิ้นที่เธอคิดจะไม่ใช่คู่จริง แต่จีนซึ่งแอบคิดว่าบีมกับธันวามีซัมติงกันก็ยังคงรู้สึกแปลกๆ เพราะสี่ปีมานี้บีม หนุ่มหล่ออีกคนในกลุ่มกลับไม่มีแฟน จนเธอคิดไปแล้วว่าเขาอาจจะอกหักจากธันวาจริงๆ ก็ได้ เมื่อคิดถึงเพื่อนสนิทอีกคน สายตาก็สอดส่ายหาอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง เขาหายไปนานมากแล้ว ไม่รู้ว่าจะโดนใครฉุดไปหรือเปล่า “จีน บีมไปไหน” เพื่อนร่วมคณะคนหนึ่งทักขึ้นและเดินมาหาจีนซึ่งเฝ้าโต๊ะอยู่คนเดียว อีกฝ่ายสวมเดรสรัดรูปสีครีม ใบหน้าแต่งอย่างสวยงาม ผมยาวสยายดัดลอนเต็มแผ่นหลัง กลิ่นน้ำหอมแบรนด์เนมลอยฟุ้งเต็มจมูกจนจีนต้องถอยกลับเล็กน้อยและตอบอีกฝ่าย “มันไปเข้าห้องน้ำน่ะ” “อ้าวเหรอ แย่จัง” อีกฝ่ายพูดอย่างเสียดาย ใบหน้าสวยเฉี่ยวมองจีนอย่างไม่ได้ตั้งใจก่อนจะพูดว่า “ตอนแรกจะเอาพันช์มาให้บีม เธอดื่มพันช์มั้ย” จีนเลิกคิ้ว มองไปตามทาวเวอร์น้ำพันช์ที่มาจากงบประมาณกองกลางของชั้นปี “ก็ได้ ขอบคุณนะ” อีกฝ่ายฉีกยิ้มหวาน “ไม่เป็นไร” ก่อนจะเดินจากไป จีนไม่ได้คิดอะไรมาก เธอดื่มพันช์รวดเดียวจนหมดแก้ว เมื่อเห็นว่ามาร์ทเลิกจู๋จี๋กับแฟนแล้วจึงบอกอีกฝ่ายเพราะเริ่มปวดท้องเบา “มาร์ทแกเฝ้าโต๊ะนะ ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ” “ให้ไปส่งหรือเปล่า” มาร์ทถาม “ไม่ต้อง ไปเองได้” “รีบไปรีบกลับนะ” “อือ” เท้าที่สวมผ้าใบสีขาวเดินแทรกผ่านกลุ่มคนที่เต้นกันอย่างสนุกสนาน เสียงดนตรีดังกระหึ่มจนหูแทบแตกนั้นทำให้หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุ เนื่องด้วยผับแห่งนี้เป็นของพี่ชายบีม จีนจึงค่อนข้างคุ้นเคยกับเหล่าพนักงานและพื้นที่ ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาอะไรเธอก็มั่นใจว่าเอาตัวรอดได้จึงไม่กังวลมากนัก น่าเสียดายที่โซนห้องน้ำที่อยู่ใกล้กับโซนวีไอพีนั้นเต็มไปด้วยผู้คน หญิงสาวจึงจำเป็นต้องแยกไปเข้าห้องน้ำในโซนที่พักซึ่งมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์และอากาศที่ร้อนอบอ้าวทำให้ใบหน้าของเธอแดงก่ำจนอดไม่ได้ที่จะล้างหน้าล้างตา ทว่าน้ำเพียงเท่านี้กลับไม่ช่วยให้ร่างกายของเธอเย็นขึ้น มิหนำซ้ำยังรู้สึกร้อนวูบวาบยิ่งกว่าเดิมเสียอีก “อะไรวะเนี่ย” จีนสบถด้วยความแปลกใจ เธอเดินออกจากห้องน้ำหมายจะกลับไปยังผับโซนวีไอพี ทว่าเดินไปได้เพียงสามก้าวก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีชายฉกรรจ์สามคนยืนขวางอยู่หน้าทางเดิน “ขอทางหน่อยค่ะ” เธอบอก พยายามเดินเลี่ยง ทว่ากลับไม่เป็นผลเพราะคนเหล่านั้นขยับตามและล้อมจีนไว้หมดแล้ว ถึงแม้จะสูงกว่าร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเทียบกับชายฉกรรจ์สองสามคนได้ คิ้วเรียวขมวด ยังคงรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งตัว เริ่มเอะใจกับอาการที่เกิดขึ้นทีละนิด แต่เธอพยายามไม่แสดงอาการอะไรออกมา “ไปกับพวกเราดีๆ หรือจะให้ฉุด” หนึ่งในสามพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ “น้องสาว อยากนอนกับพวกพี่มั้ยจ๊ะ” เมื่อได้ยินดังนั้นโทสะในใจของจีนก็พลุ่งพล่าน “ถอยไป!” “ไม่น่า ไปกับพวกเราเถอะสาวน้อย” อีกคนพูดกลั้วหัวเราะ ยกมือขึ้นจับแขนของจีนอย่างสนิทสนม “ปล่อย!” จีนผลักมือของอีกฝ่ายออกด้วยความรังเกียจ “อีนี่ กูพูดดีๆ แล้วนะ!” พูดจบก็ช่วยกันดึงแขนจีนไว้แน่นและพยายามลากเธอไปยังโซนห้องพักแขก ด้วยความตกใจจีนพยายามตั้งสติ สะบัดตัวหนีออกจากการเกาะกุม หากแต่เรียงของคนเหล่านั้นเยอะมากจนเธอแทบสู้ไม่ไหว อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายชะล่าใจเอี้ยวตัวลอดไปใต้แขนและดิ้นหลุดอย่างรวดเร็ว “เฮ้ย! จับมัน!” จีนพยายามประคองสติวิ่งกลับไปทางเดิม ใจเต้นแรงจนแทบทะลุกับสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็รู้สึกเวียนหัวอย่างบอกไม่ถูก ในใจได้แต่ภาวนาให้มีใครก็ได้มาช่วยเธอทัน “อ๊ะ ปล่อย!” เธอร้องเสียงหลงเมื่อคนทั้งสามวิ่งมาจับแขนและช่วยกันอุ้มตัวไว้ พยายามดิ้นพล่านสุดแรงด้วยความกลัว “ปล่อยกู!” “ปล่อยก็โง่แล้ว หุ่นดีขนาดนี้มาเป็นเมียพวกกูเถอะ” เสียงพูดหื่นกระหายแสนน่าขยะแขยงดังขึ้น จีนพยายามกัดลิ้น เหวี่ยงตัวสุดแรงและเกี่ยวขาเข้ากับคอของชายอีกคนที่อยู่ใกล้สุด อาศัยจังหวะที่มันตกใจพลิกขาจนผู้ชายคนนั้นเสียศูนย์ถ่วง ทำกับใครไม่ทับ มาทำกับลูกสาวเจ้าพ่อ ถึงจะมึนแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวิชาที่เรียนมาจะหายไปเสียหน่อย “อ๊า!” เสียงลั่นกร็อบเหมือนคอของคนจะหัก แต่จีนกลับไม่สนใจแล้ว เธอล้มลุกคลุกคลานและพยายามวิ่งหนี ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังขึ้น ปุ! ปุ! ปุ! “อ๊า!!!” เสียงของชายสามคนร้องลั่น หญิงสาวสะท้านเยือก หันกลับไปมองด้านหลัง ปรากฏว่าที่เข่าของคนทั้งสามมีรูสีแดงปรากฏขึ้น และเมื่อหันกลับมาที่ต้นเสียง ชายหนุ่มร่างสูงที่สวมแว่นตาไร้กรอบยืนมองอย่างเย็นชา ด้านหลังของเขาคือการ์ดสามสี่คนที่เดินตามมา คนเหล่านั้นเดินผ่านจีนไปและลากคอคนที่ร้องโอดโอยด้านหลังไปอย่างเงียบเชียบ ขณะที่จีนยืนตัวสั่นมองคนที่มีสีหน้าน่ากลัวด้วยความรู้สึกยากจะบรรยาย เสื้อเชิ้ตสีดำสนิทเข้ากับกางเกงสแลกสีดำ แว่นตาไร้กรอบทรงสี่เหลี่ยมกลับทำให้ใบหน้าหล่อร้ายดูนุ่มนวลกว่าเดิมหลายส่วน ขณะเดียวกันวัตถุอันตรายสีเงินประเป็นประกายซึ่งมีปลอกเก็บเสียงยังคงอยู่ในมือของเขา ลมแล้งพัดโชย กลิ่นหอมเหมือนสนไซเปรสลอยมาตามลม ผู้ชายตรงหน้าเหมือนมีอีกตัวตนหนึ่งที่เธอไม่รู้จัก ในใจมีเพียงคำจำกัดความเดียวที่ปรากฏ เท่ฉิบหาย! ก่อนที่เธอจะหมดสติไป...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม