4
ฉันพาตัวเองวิ่งออกมาจากโรงเรียนมัธยมปลายอันธพาลอย่าง Tanggen แทบไม่ทัน พวกลูกสมุนของฟอลคอนต่างก็ยืนจ้องหน้าฉันด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความแค้นเคือง แต่ก็ทำอะไรฉันไม่ได้ เพราะฟอลคอนยังไม่ออกคำสั่ง ฉันถึงรอดชีวิตออกมาได้อย่างหวุดหวิด T^T
แต่ว่า! รอดจาก Tanggen ใช่ว่าจะรอดจาก Midori I สักหน่อย! เพราะข้อแลกเปลี่ยนของฟอลคอนที่ฉันตัดสินใจเลือกก็คือ...ตบหน้าทาเฟลพร้อมกับถ่ายรูปมาให้เขาดู T^T
“ทำยังไงดีล่ะ จู่ๆ จะเดินเข้าไปขอตบหน้าเขาก็คงไม่ได้ ไม่มีใครเสียสติพอที่จะยอมให้คนที่เพิ่งรู้จักกันตบหน้าหรอก T_T;;”
ฉันยืนตัวลีบเหงื่อแตกพลั่กๆ เป็นน้ำตกอยู่ที่หน้าโรงเรียน Midori I นี่ฉันคิดผิดหรือเปล่านะที่เลือกข้อบ้านี่ T^T ทาเฟลเป็นถึงหัวโจกของโรงเรียนนี้ แถมยังเป็นลูกสุดที่รักของมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลอีก มันทางเดินลงนรกชัดๆ เลยนะยัยเฟรย่า โฮ TOT
“เธอ...”
“!!!” ฉันผวาเฮือกและสะดุ้งสุดตัวเหมือนโจรเพิ่งปล้นธนาคารมาหมาดๆ แล้วถูกสกัดจับได้โดยคุณตำรวจที่ชื่อละม่อม (จับได้โดยละม่อมนั่นเอง -.,-) ก่อนจะค่อยๆ หันกลับไปทางต้นเสียงทั้งๆ ที่ตัวยังแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้
“มาทำอะไรที่นี่น่ะ”
ฉันไม่ตอบคำถามของทาเฟล ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอเอื๊อกๆ ไม่ใช่ว่าฉันกลัวอำนาจหรือฝีมือการต่อสู้ของเขาหรอกนะ แต่สิ่งที่ฉันคิดจะทำหลังจากนี้มันเป็นการกระทำที่ค่อนข้างจะอุกอาจอยู่ไม่น้อยน่ะสิ TOT!
“หรือว่า...มาหาฉัน ^^”
รอยยิ้มที่ถูกส่งมาโดยที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัวของทาเฟลเหมือนสายฟ้าฟาดลงมากลางหน้าของฉันไม่มีผิด เล่นเอาชาวาบไปทั้งหน้าเลย...
“ฉัน...”
“นี่ครับ ^^”
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดธุระของตัวเอง ทาเฟลก็หยิบบางสิ่งที่ทัดอยู่ที่ใบหูของเขาออกมาแล้วส่งให้ฉัน มันคือดอกกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์เหมือนที่เขาเคยให้ฉันในครั้งก่อน
“ฉันชอบเวลาที่เธออยู่กับดอกกุหลาบที่ฉันมอบให้ ^^”
เอาล่ะสิ =////=! ฉันตั้งใจจะมาพูดอะไรกับเขานะ! หัวมันตื้อไปหมดแล้ว
“แล้วตกลง...มาทำอะไรที่หน้าโรงเรียนฉันเหรอ”
“ทาเฟล! ทำอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะ ทำไมไม่เข้าไปข้างในล่ะ ทุกคนรอประชุมอยู่นะ”
เสียงหวานใสแต่แอบห้าวดังมาจากในโรงเรียน ฉันมองผู้หญิงคนนั้นด้วยความงุนงง เธอซอยผมสั้นเหมือนผู้ชาย แถมยังระเบิดหูอีกต่างหาก ให้ตายสิ! เธอเท่เป็นบ้าเลย นี่ถ้าเธอไม่ใส่กระโปรงหนังสั้นๆ กับเสื้อสายเดี่ยวรัดหุ่นฮอตๆ ของเธอ ฉันคงจะคิดว่าเธอเป็นผู้ชายแน่ๆ แต่ว่า...นี่มันโรงเรียนชายล้วนไม่ใช่เหรอ ละ...แล้วมีผู้หญิงได้ยังไง =O=?
“ฉันมีธุระนิดหน่อยน่ะ อาธีน่า เธอเข้าไปก่อนเลย ไม่ต้องรอฉัน” ทาเฟลตอบ
ชื่ออาธีน่างั้นเหรอ...ถ้าจำไม่ผิด อาธีน่าคือหนึ่งในเทพเจ้ากรีก-โรมัน แห่งเทือกเขาโอลิมปัสนี่นา ตามตำนาน...อาธีน่าคือเทพีแห่งความเฉลียวฉลาด เก่งทุกด้านไม่เว้นแม้แต่ศิลปะการต่อสู้
“ก็ได้ๆ รีบตามเข้าไปก็แล้วกัน”
สายตาเฉียบคมของอาธีน่าตวัดมาทางฉัน ก่อนจะเดินเชิดหน้าหายเข้าไปในตึกเรียนที่สภาพเหมือนตึกร้าง พวกเขาทนเรียนไปได้ยังไงกันนะ แค่มองจากนอกโรงเรียนฉันยังผวาเลย =__=;;
“ตกลงเธอมีธุระอะไร ถ้าไม่บอก ฉันจะเข้าโรงเรียนแล้วนะ ^^”
เอาวะ! ยัยเฟรย่า เธอต้องทำได้! ก็แค่ตบหน้าหมอนี่แล้วก็ถ่ายรูปเก็บไว้ มันไม่ยากเกินความสามารถของเธอแน่นอน T^T
“ฉัน...คือฉัน...”
“.....”
“ฉันขอตบหน้านายได้มั้ย!”
“.....”
“T^T”
“.....”
“T_T”
“ได้สิ ^^”
“หา!” ฉันร้องเสียงหลง พลางมองทาเฟลที่ยังยืนยิ้มหน้าแป้นแล้นด้วยความงุนงง
“แต่มีข้อแม้นะ”
“ขะ...ข้อแม้อะไร -_-;” คงไม่ใช่ว่าฉันตบหน้านายหนึ่งที แต่นายก็เอาคืนกลับเป็นสิบเท่าหรอกนะ YOY
“เธอต้องรับดอกไม้จากฉันทุกวัน ^^”
เขาชี้มาที่ดอกกุหลาบซึ่งอยู่มือฉัน เนี่ยอะนะข้อแม้! ทำไมมันดูไม่ค่อยเหมือนข้อแม้สักเท่าไหร่เลย ออกแนวขอร้องซะด้วยซ้ำ -*-
“แค่นั้นแน่นะ”
“แน่สิ เห็นฉัน...”
“.....”
“หลบ!”
เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ทาเฟลใช้มือขวากดหัวฉันให้ก้มต่ำ แล้วมือซ้ายของเขาก็รับเอาลูกบอลที่พุ่งมาด้วยความเร็วจากข้างหลังของฉัน!
“ทะ...ทาเฟล” ฉันรีบหันไปทางด้านหลังทันทีที่ทาเฟลเลิกกดหัวฉัน นักเรียนชายในโรงเรียน Midori I สองคนยืนหน้าซีดอยู่ด้านในโรงเรียน
“ใครเป็นคนเตะลูกบอลนี่...”
เสียงของทาเฟลทุ้มต่ำจนน่ากลัว ฉันค่อยๆ หลบฉากมายืนข้างๆ เพราะไม่อยากไปยืนขวางกั้นระหว่างทาเฟลและนักเรียนชายสองคนนั้น
“ฉันถามว่าใคร!”
อึ๋ย! แน่ใจนะว่าหมอนี่คือเจ้าของรอยยิ้มแสนมีเสน่ห์และอบอุ่นคนเมื่อกี้ ฉันว่าไม่น่าจะใช่น้า TOT
“ผะ...ผมครับ”
“เอาคืนไป...”
สิ้นคำพูดอันสุดแสนจะเรียบนิ่งของทาเฟล เขาก็ปาลูกบอลไปที่นักเรียนชายที่ยกมือขึ้นยอมรับผิด ลูกบอลพุ่งไปด้วยความเร็วและแรงราวกับพายุทอร์นาโด และเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ลูกบอลที่เกือบจะพุ่งใส่หัวฉันก็พุ่งเข้าใส่หน้านักเรียนชายที่รับผิดเต็มๆ จนหงายหลังล้มตึงไป เลือดมากมายพุ่งออกมาจากจมูกและปากของเขา ก่อนที่คนอื่นๆ ที่เล่นฟุตบอลด้วยกันจะมาช่วยลากเขาหายไปอีกทาง
อึก!
ทำไมน้ำลายมันถึงเหนียวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุล่ะ TOT!
“เป็นอะไรหรือเปล่า ^^”
ทาเฟลหันมาถามด้วยรอยยิ้มที่ทำเอาหัวใจฉันเกือบหยุดเต้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ให้ตายสิ...หมอนี่อันตรายชะมัด ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มใจดีราวกับเทพบุตร แต่ข้างในกลับโหดร้ายและไร้ความปรานี!
“วันนี้หกโมงเย็น เจอกันที่สวนน้ำซอยสาม ห้ามผิดนัดล่ะ!”
“^^”
“ขะ...เข้าใจมั้ยเนี่ย!”
“ทำไมต้องเสียงดังด้วยล่ะ เป็นผู้หญิงน่ะต้องอ่อนหวานนะ ถึงจะมัดใจผู้ชายได้อยู่หมัด ^^”
“ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้แหละย่ะ! ใครรับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ไม่ต้องรับ!”
“จริงเหรอ ^^”
“นะ...นี่!” ฉันเอนตัวไปข้างหลังเมื่อทาเฟลโน้มหน้าลงมา ใบหน้าขาวเนียนไร้สิวกับรอยยิ้มมีเสน่ห์ของเขากำลังจะทำให้ฉันหัวใจวายตาย T////T
หมับ!
“O////O!”
ฉันเบิกตากว้างสุดๆ จนลูกตาแทบจะถลนออกมา ทาเฟลจับมือข้างที่ฉันถือดอกกุหลาบไว้ขึ้นมา ก่อนจะดันเข้ามาทางฉันจนกลีบของดอกกุหลาบแปะลงมาที่ริมฝีปากเบาๆ
“ดอกไม้คือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ...”
“.....”
“และเธอ...ก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฉัน...”
“!!!”
สิ้นคำ ทาเฟลก็ประกบปากลงมา แต่เพราะมีดอกกุหลาบกั้นไว้ สิ่งที่เขาได้สัมผัสก็มีเพียงแค่กลีบสีขาวนวลของดอกกุหลาบเท่านั้น แต่ทว่า...มันกลับทำให้หัวใจของฉันเต้นรัวจนแทบจะระเบิดเลย
ทำบ้าอะไรของเขากันเนี่ย =////=!!!
“เฟร! เฟร! เป็นอะไรไปลูก”
ฉันสะดุ้งตัวลอยคล้ายกับคนเพิ่งหลุดจากภวังค์ ก่อนจะมองหน้าแม่ที่มาเขย่าตัวเรียกฉันด้วยความเป็นห่วง หมดกัน ฝันกลางวันของฉัน T^T
“ปะ...เปล่าค่ะแม่ หนูไม่ได้เป็นอะไร”
“ไม่เป็นอะไรได้ยังไง แม่เห็นลูกเอาแต่เหม่อลอยตั้งแต่กลับมาแล้วนะ แถมยังเอาแต่นั่งลูบดอกกุหลาบนี่อีก มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
ฉันรีบโยนดอกกุหลาบในมือทิ้งลงบนโต๊ะ นะ...นี่ฉันเผลอนั่งลูบมันตอนไหนล่ะเนี่ย T////T
“อาการเหมือนคนมีซัมธิงเลยนะ”
แม่ฉันรู้จักคำว่าซัมธิงด้วยล่ะ =.,=
“ซัมธิงซัมเธิ้งอะไรล่ะแม่ ไม่มีหรอก”
ฉันบอกปัดแล้วเบือนหน้าหนีไปอีกทาง แต่ในหัวกลับคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อชั่วโมงที่แล้ว เหตุการณ์ที่คล้ายๆ กับจะเป็นจูบแรกแต่ก็ไม่เชิงนั่นน่ะ T///T!
“แม่ล่ะอยากจะรู้จริงๆ ว่าใครกันนะที่ทำให้ลูกสาวผู้แข็งแกร่งของแม่เป็นได้ถึงขนาดนี้ ^3^”
แม่ยืดแก้มฉันเล่นอย่างหยอกล้อ เพราะแก้มฉันเนียนนุ่มเหมือนก้นเด็กล่ะสิ >.,_<”
ฉันหันไปกอดเอวแม่อย่างออดอ้อน ขอแค่มีแม่ที่แสนน่ารักคนนี้กับร้านบะหมี่เล็กๆ แสนสงบสุข ฉันก็พอใจแล้ว สิ่งที่ฉันต้องการก็แค่ชีวิตที่เรียบง่าย ได้ใช้ชีวิตในแต่ละวันให้คุ้มค่า ได้ทำทุกอย่างเพื่อแม่ที่ฉันรัก แล้วก็เป็นยัยแม่ค้าบะหมี่ต่อไป ฉันต้องการแค่นี้เท่านั้น...
“ไอ้ดีมันก็ดีนะ แต่เฟรลืมไปหรือเปล่าว่าสักวัน...ไม่แม่ก็เฟรที่จะต้องจากไป ไม่มีทางที่เราสองคนแม่ลูกจะอยู่ด้วยกันตลอดไปได้หรอกนะ เฟรก็รู้เรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ...”
ฉันพยักหน้าในอ้อมกอด แม่สอนฉันเรื่องนี้เสมอตั้งแต่จำความได้ แต่สำหรับฉัน...การที่ต้องเสียคนที่รักไป ไม่ว่าจะยังไงฉันก็ทำใจไม่ได้อยู่ดี และฉันก็ไม่มีทางเข้าใจด้วยว่าทำไมถึงต้องถูกพรากจากกัน ไม่มีวันเข้าใจ...
“ถ้าเฟรของแม่จะมีใครสักคนมาคอยดูแลแล้วก็ปกป้อง แม่คงสบายใจ เพราะเฟรจะไม่อยู่คนเดียว”
“ไม่เอาน่าแม่ อย่าพูดแบบนั้นสิ แค่มีแม่ หนูก็พอใจแล้ว หนูต้องการมีชีวิตที่สงบสุขเท่านั้น กับแม่แค่สองคนไงคะ”
ฉันซุกหน้าลงในอ้อมกอดของแม่ ความสุขเดียวในชีวิตที่ฉันต้องการคือการที่แม่อยู่กับฉันตลอดไป เรื่องอื่นฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น