เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นในค่ำคืนนั้น...
"พี่ แอบเข้าเมืองแบบนี้ไม่กลัวแม่ใบบัวดุหรือ"
"เอ๊ะ!" คนถูกถามเท้าสะเอว ตาเขียวปั๊ด "ถ้าเอ็งกลัวนักก็กลับไปไอ้ปื๊ด เสียเวลาข้า"
"โธ่พี่หนูนา ปื๊ดก็แค่เป็นห่วง" ปื๊ดหัวหด ไม่กล้าต่อปากต่อคำเพราะกลัวถูกเบิ๊ดกระโหลกไม่ก็ถูกทิ้งไว้ข้างทาง
หนูนาชี้หน้าลูกกระจ๊อกจอมขลาด ปื๊ดเกิดห่างเธอเพียงปีเดียว เป็นผู้ชายตัวเล็กหน้าอ่อนหวานเหมือนเด็กผู้หญิง หนูนาไปเจอมันถูกเด็กผู้ชายรุมรังแกเพราะรูปร่างอ้อนแอ้น เพราะความเป็นคนดีในส่วนลึกจึงช่วยมันไว้ ไม่คิดว่าเลยว่ามันจะซึ้งใจจนผันตัวมาเป็นลูกน้องเดินตามตูดต้อย ๆ แบบนี้
"แม่ไม่รู้หรอกถ้าเอ็งไม่บอก ป่านนี้แม่นอนไปแล้ว กว่าจะตื่นก็คงตีสี่ตีห้า เวลานั้นเอ็งกับข้าคงกลับมาบ้านนอนตีพุงสบายไปแล้ว"
"ปื๊ดไม่บอกหรอกจ้ะ" ขืนบอก ก็คงไม่แคล้วถูกทำโทษที่หนีเที่ยวแบบนี้ แม่ใบบัวบอกเสมอว่าหากทำผิดด้วยกันก็ต้องโดนทั้งคู่ ไม่สนว่าใครเริ่มใครตาม ใครลูกในไส้ใครเด็กในบ้าน หากทำผิดจะโดนทำโทษอย่างเท่าเทียม
ข้อหาหนีออกจากบ้านกลางค่ำกลางคืนแบบนี้คงไม่แคล้วถูกกักบริเวณเป็นอาทิตย์ ไม่ก็ต้องอดกินข้าวฝีมือแม่ใบบัวเป็นเดือน ซึ่งข้อหลังเป็นข้อที่ปื๊ดกลัวที่สุด
"ดี" หนูนากอดอก เชิดหน้าขึ้นสูงอย่างคนเอาแต่ใจ "อย่างนั้นก็เงียบปาก เรารีบเที่ยวแล้วรีบกลับคงไม่มีอะไร"
หนูนา คะนึงนิจ ลูกสาวคนสุดท้องของทนายราชันและหมอสมุนไพรใบบัว น้องสาวของช้างหรือคชสารนักเลงใหญ่ที่วัน ๆ ไม่ทำเคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนอกจากมีเรื่องกับเขาไปทั่ว หนูนาเกิดหลังพี่ชายหกปีกว่า ทว่ากลับสนิทสนมเหมือนวัยเดียวกัน
หนูนาติดพี่ชายมาก ช้างเลยสอนศิลปะการต่อสู้ให้น้องสาวตั้งแต่เด็ก ๆ แม้หนูนาจะตัวเล็กเหมือนแม่ ใบหน้าสะสวยอย่างที่หนุ่มใดมาเจอเป็นต้องตกหลุมรักทุกราย ทว่านิสัยของคนสวยนั้นไม่ตรงปกเอาเสียเลย
ทั้งห่าม ปากจัด เตะต่อยไม่เป็นรองใคร ยิงหนังสติ๊กและปืนแม่น ใช้ดาบคล่อง เรื่องขี่ม้าก็นับว่าเป็นขั้นครูเพราะหัดมาตั้งแต่เด็ก ๆ
อายุเพียงยี่สิบปีทว่าเก่งรอบด้าน แต่กลับเก่งในเรื่องที่ผู้หญิงไม่ควรเก่ง ส่วนเรื่องที่ผู้หญิงควรเก่งนั้นเข้าขั้นติดลบ
งานบ้านงานเรือนทำไม่เป็น กับข้าวกับปลาก็ย่ำแย่ เย็บปักถักร้อยไม่ต้องถูกถึง แค่ใส่ด้ายยังทำไม่ได้
ใบบัวและราชันปลงแล้วว่าหนูนาคงออกเรือนไม่ได้ ผู้หญิงเหมือนม้าดีดกระโหลกทำอะไรไม่เป็นแบบนี้บ้านไหนจะต้อนรับ
"อยากกินยาดอง!" ดวงตากวางถอดแบบแม่มาเป๊ะ ๆ ทว่าเจ้าเล่ห์กว่าหลายเท่าลุกวาวเมื่อเห็นซุ้มยาดอง ในนั้นมีกลุ่มชายฉกรรจ์นั่งดวลยาดองกันนับสิบ เห็นแบบนั้นหนูนาก็เปรี้ยวปาก
อยากลองว่ายาดองในเมืองจะอร่อยเท่ายาดองที่หมู่บ้านหรือไม่
"พี่หนูนา ไม่เอา" ปื๊ดส่ายหน้ายิก ๆ ซุ้มยาดองมีแต่คนน่ากลัว พี่หนูนาแม้จะเก่งแต่ตัวเล็กจิ๊ดเดียว มันเองก็ผอมแห้งจะดูแลหนูนาได้อย่างไร
"ขี้ขลาดก็อยู่ตรงนี้แหละ"
ทว่าหนูนาไม่คิดฟังลูกน้อง ร่างเล็กสะบัดแขนจากคนตาขาว เดินดุ่ม ๆ เข้าไปใกล้ซุ้มยาดองก่อนจะวางเงินลงไป
"ลุง ขอแรงที่สุดมาสองเป๊ก"
ผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวทำให้กลุ่มชายฉกรรจ์หันมามองด้วยความสนใจ และใบหน้าแสนงดงามกว่าใครที่เคยพบเจอก็ทำให้หนุ่มกลัดมันตาวาว
ช่างเป็นผู้หญิงสวยที่หาที่ติแทบไม่เจอ เรือนกายเล็กกระทัดรัดไม่สูงไม่เตี้ย ไม่อ้วนและไม่ผอม เส้นผมดำยาวตรงถึงกลางหลัง ผิวขาวผุดผาดอมชมพูทั้งตัว ดวงหน้าหวานซึ้งสวยสะกด ดวงตาสุกสกาววาวราวกับลูกกวาง คิ้วเรียว จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากอวบอิ่ม และพวงแก้มแดงระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติ
สวยกว่าใครที่เคยเจอ คนสวยแบบนี้ไปหลบอยู่ที่ใดมาตั้งหลายปี
"น้องสาว" ผู้กล้าคนแรกเดินเข้ามาใกล้ มั่นใจว่ารูปร่างหน้าตาของตนเองคงทำให้คนสวยสนใจไม่น้อย "มาคนเดียวหรือจ๊ะ มานั่งกับพี่ดีหรือไม่"
"ไม่ เหม็นสาบ"
"เหตุใดถึงได้ปากดีเช่นนี้ พี่อยากรู้นักว่าปากดี ๆ จะหวานเพียงใด" แม้จะรู้สึกขุ่นเคือง ทว่าความสวยของหนูนาก็ทำให้ชายฉกรรจ์กัดฟันทน คอยดูเถิด ปากดี ๆ แบบนี้มันจะจับทำเมียเสียให้เข็ด
หนูนาไม่ใคร่ใส่ใจคำพูดนั้น มือเล็กกระดกยาดองเข้าคอที่เดียวหมดแก้ว เพียงแค่ลิ้นได้สัมผัสรสชาติใบหน้างดงามตราตรึงก็บิดเบ้ทันที
แหวะ ไม่เห็นอร่อย นี่แรงที่สุดแล้วหรือ จืดชืดเหมือนน้ำเปล่า กินแล้วไม่เห็นรู้สึกอะไรสักอย่าง ยาดองที่หมู่บ้านเธออร่อยกว่าไม่รู้กี่เท่า
"เอาอีกหรือไม่หนู"
"ไม่ล่ะลุง" หนูนาโบกมือ ขืนให้กระดกอีกคงได้ขย้อนออกมาตรงนี้ ถึงจะแก่นแก้วแต่เธอก็ไม่ได้ไร้มารยาท
"เดี๋ยวสิคนสวย" ทว่า ในตอนที่เธอลุกขึ้นเพื่อไปเดินเล่นในงานต่อนั้น ฝ่ามือหยาบกร้านน่าสะเอียนก็คว้าหมับฉุดรั้งไม่ให้เธอไป "จะรีบไปไหน ไม่อยากอยู่สนุกกับพวกพี่หรือ"
"ไม่ บอกแล้วว่าเหม็นสาบ" อาบน้ำบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ กลิ่นสาบแรงขนาดนี้
"สองรอบแล้วนะที่ว่าพี่แบบนี้ อยากโดนดีหรือ"
หนูนามีสีหน้าเรียบเฉยไร้ความหวาดกลัว "ไร้สาระ"
"เดี๋ยว"
"อะไรอี๊ก"
"พี่เห็นน้องกินยาดอง แรงขนาดนี้ยังไม่รู้สึกอะไรท่าทางคงจะเก่งใช่เล่น เช่นนั้นดวลกับพี่สักคราได้หรือไม่ ใครเมาก่อนคนนั้นแพ้ หากน้องชนะพี่จะไม่วุ่นวายอีก"
ได้ยินแบบนั้นหนูนาก็รู้สึกสนใจ กะอีแค่กินยาดอง เธอไม่เมาง่าย ๆ อยู่แล้ว ทว่าสิ่งที่ทำให้รู้สึกลังเลคงไม่พ้นรสชาติที่เหมือนน้ำล้างมือนั่นต่างหาก
"ลังเลหรือ เช่นนั้นพี่คงเข้าใจผิดว่าน้องเก่ง ที่แท้ก็แค่ผู้หญิงธรรมดา"
"ผู้หญิงแล้วทำไม!" หนูนาตาวาว ตะคอกถามด้วยความไม่พอใจ
ผู้หญิงแล้วอย่างไร หนักหัวใครที่ไหน!
"ก็อ่อนแอ ขี้แพ้อย่างไรเล่า"
ได้ยินแบบนั้นดวงตากวางก็วาวโรจน์ เกลียด เกลียดที่สุด เธอชิงชังสังคมชายเป็นใหญ่นี่มาแต่ไหนแต่ไร สังคมที่มองว่าผู้หญิงจะต้องเป็นเพศที่อ่อนแอกว่าผู้ชายเสมอ หรือไม่ก็เป็นเพศที่มีค่าแค่ให้กำเนิดลูก
เหอะ! หากไม่มีผู้หญิงทนอุ้มท้องเก้าเดือน ทนเจ็บเจียนตายตอนเบ่งคลอด วันนี้จะมีผู้ชายปากหมาแบบนี้หรืออย่างไร
"ตกลง!" หนูนารับคำท้า แค่ยาดองจืด ๆ กินสิบไหก็ไม่เมาหรอก
จะได้รู้กันว่าผู้หญิงไม่ใช่เพศที่ใครจะมาข่มเหงได้
"ดี" ชายตรงหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์ "เห้ยพวกมึง เตรียมยาดองให้กูกับน้องสาวคนนี้สิวะ"
"จ้ะพี่!"
.
.
ปื๊ดยืนมองลูกพี่สาวที่นั่งประจันหน้ากับชายฉกรรจ์ ทั้งคู่จ้องตากันไม่กระพริบ กระดกยาดองแก้วแล้วแก้วเล่าลงคอไม่มีท่าทีว่าจะเมามาย ไหที่หนึ่ง ไหที่สอง จนกระทั่งไหที่สามก็เริ่มมีชาวบ้านเข้ามาวางเงินพนัน และส่วนมากก็คงไม่พ้นพนันเข้าข้างผู้ชายเพราะมั่นใจว่าผู้หญิงคงไม่มีทางชนะได้
นั่นยิ่งทำให้หนูนาเดือดดาล
"เอามาอีก!"
ไหที่ห้าถูกวางลงตรงหน้า ทว่าครานี้แทนที่ผู้ชายตรงหน้าจะกินด้วยกัน มันกลับสั่งลูกน้องให้เอาอีกไหมาวางแทน
"ครานี้คนละไหเลยดีกว่า"
หนูนาหรี่ตาลง เธอมองไหตัวเองสลับกับไหของอีกฝ่าย ก่อนจะทำการสับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีใครห้ามทัน
"ทำไมทำหน้าแบบนั้นเล่า ยาดองนี่ก็เหมือนกัน สลับไหกันคงไม่เป็นไร ใช่หรือไม่"
หนูนารอบคอบเสมอ เธอไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะมีกลโกงอะไรหรือไม่ กันไว้ย่อมดีกว่าแก้
อีกฝ่ายเถียงไม่ออก ท้ายที่สุดการประลองก็เกิดขึ้นอีกครั้ง หนูนากระดกยาดองเข้าปากเรื่อย ๆ เธอยังคงไร้ความรู้สึกเมามายแม้กระเพาะจะเต็มไปด้วยยาดอง ทว่าผ่านไปไม่กี่อึดใจร่างกายก็เริ่มรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นอย่างแปลกประหลาด
ไม่ใช่อาการเมา ไม่ใช่
กึก
"ไปไหนหรือน้องสาว"
"เยี่ยว" เธอตอบเรียบ ๆ "พักสักครู่ ขอไปปลดทุกข์ก่อน เดี๋ยวมา"
"อย่านานนะ พี่รออยู่"
หนูนาไม่ได้ตอบอะไร เธอเดินดุ่ม ๆ ผ่านปื๊ดไปที่ห้องน้ำ แต่แทนที่ร่างน้อยจะเข้าห้องน้ำหญิง เธอกลับเดินเลยไปที่ห้องน้ำชายโดยที่ปื๊ดรีบวิ่งตามเข้าไปด้วยความตกใจ
"แฮ่ก!"
เมื่อเข้าลับสายตาผู้คนหนูนาหมดแรงควบคุมตัวเองทันที ร่างน้อยแทบทรุดไปกับพื้น โชคดีที่ปื๊ดไหวตัวทันเธอจึงไม่ต้องนอนกับพื้นสกปรกแบบนี้
"พี่หนูนา เป็นอะไร ทำไมตัวร้อนแบบนี้"
"ข้า อึก โดนยาปลุก" เธอตอบเสียงกระท่อนกระแท่น พยายามห้ามใจอย่างหนักไม่ให้ดึงปื๊ดเข้ามากอดจูบคลายความกำหนัด
"อะไรนะ!"
"เจ็บใจ อึก นัก ทั้ง ๆ ที่ระวังดี อื้อ แล้วแท้ ๆ" เธอแค้นใจ ไม่คิดว่าจะพลาดให้กับลูกไม้ตื้น ๆ แบบนี้
"ละ แล้วเราควรทำเช่นไร"
"ข้าต้องอยู่ในนี้ อื้อ พวกมันคงไม่คิดว่า อึก ข้าจะเข้าห้องน้ำ อา ผู้ชาย"
"พี่หนูนา"
"เอ็งออกไปก่อน อื้อ ข้าขออยู่คนเดียวสักพัก ไปตามคนที่ไว้ใจได้มาช่วย อึก ที"
"แต่..."
"ไป!" หนูนาตะคอก ทว่าเสียงที่เปล่งออกมามันช่างแหบพร่าและแผ่วเบา "ก่อนที่เอ็งจะได้ข้าเป็นเมีย"
ปื๊ดได้ยินแบบนั้นก็รีบปล่อยมือจากร่างร้อนผ่าวโดยไม่ต้องบอกซ้ำสอง "จ้ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ พี่หนูนาอดทนนะ ฉันจะรีบกลับมา"
"อืม ปะ ไป"
ปื๊ดรีบแจ้นออกจากห้องน้ำไปทันที มันชะงักกึกเมื่อเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ยืนรออยู่ที่หน้าห้องน้ำหญิง จริงอย่างที่หนูนาว่า พวกมันไม่คิดว่าหนูนาเข้าห้องน้ำชายจริง ๆ เห็นแบบนั้นปื๊ดจึงทำตัวปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อพ้นสายตาคนอื่นมันก็รีบวิ่งไปโรงพยาบาลที่อยู่ไม่ไกลนักเพื่อตามหมอตามพยาบาลมาช่วยหนูนาที่อาการกำลังย่ำแย่
ทางด้านของหนูนา ร่างเล็กวักน้ำขึ้นล้างหน้าจนเปียกไปครึ่งตัว ทว่าอาการร้อนระอุข้างในมันกลับไม่หายไป ยาที่พวกนั้นใส่แรงกว่าที่คิด ไม่รู้ว่าผิดพลาดที่ตรงไหนเธอถึงได้พลาดท่าแบบนี้
แกร๊ก
จู่ ๆ ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก หนูนาหัวใจหล่นวูบเพราะคิดว่าคงเป็นคนพวกนั้น แต่ก็ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ไม่ใช่
ร่างกำยำที่ยืนตรงหน้ามีใบหน้าที่คุ้นเคย ใบหน้าหล่อคมเข้มที่หนูนานึกหมั่นไส้ตั้งแต่แรกเจอเธอรู้จักดี อีกฝ่ายอยู่ในชุดลำลองธรรมดา ทว่าข้างกายยังคงเหน็บปืนพกติดตัวไว้ตามประสาตำรวจอวดเบ่ง
"นี่ห้องน้ำผู้ชาย" น้ำเสียงของอีกฝ่ายราบเรียบ ไม่มีท่าทีตื่นตกใจเมื่อเจอผู้หญิงคนนี้ในห้องน้ำผู้ชาย "ไม่คิดว่าคุณจะสร้างปัญหาแม้กระทั่งในห้องน้ำ"
"ไอ้... อื้อ" คนเก่งที่ตั้งท่าจะชี้นิ้วด่าทรุดตัวลงกับพื้นด้วยร่างกายที่สั่นระริก
"เป็นอะไรไป" ศิลาเห็นแบบนั้นจึงเข้าไปช่วยเหลือ โดยที่ไม่รู้เลยว่าดวงตากวางนั้นฉ่ำเยิ้มเพียงใดเมื่อถูกมืออุ่น ๆ สัมผัสร่างกาย
เธอต้องการ ต้องการคน ๆ นี้
ตอนนี้
เดี๋ยวนี้
"สารวัตร" น้ำเสียงแหบพร่าหวานจับใจ ศิลาคิดในแง่ดีว่าบางทีตัวแสบตรงหน้าอาจจะเลิกทำตัวมีปัญหาแล้วก็ได้
"ครับ"
"ช่วยหน่อย"
"ช่วยอะไร"
"พาฉัน อึก ออกไปจากที่นี่ที อา นะคะ"