เมื่อไม่มีเธอ…10/1

1347 คำ
ประมาณห้าโมงปุณวริทธิ์ก็ขับรถมาจอดหน้าบันไดทางขึ้นของคฤหาสน์สิริกุลวงศ์ คุณเพทายกับแม่บ้านคู่ใจที่กำลังยืนคุยกันอยู่ที่เทอร์เรซด้านหน้าหันมามองเมื่อได้ยินเสียงรถ ลูกชายคนเดียวของบ้านเปิดประตูลงมาจากรถด้วยท่าทางเนือย ๆ ก่อนคิ้วหนาจะเลิกขึ้นเล็กน้อย “หือ คุณแม่กับป้าผ่องมารอรับผมเลยเหรอครับ” ชายหนุ่มส่งเสียงทักกึ่งเย้าเพื่อปรับอารมณ์ดิ่ง ๆ ของตน “มาแล้วเหรอคะ แม่นึกว่าลูกปุณจะมาถึงค่ำกว่านี้ซะอีก พอดีบริษัทขนส่งเอาของที่สั่งไว้มาส่ง แม่เลยออกมาดูแล้วเลยคุยกับแม่ผ่องต่อน่ะค่ะ” ชายหนุ่มยิ้มตอบคำทักทายบวกคำอธิบายของมารดา ตอนขับรถเข้ามาเขาเห็นเหมือนกันว่าบริเวณโรงจอดรถมีกล่องกระดาษจำนวนมากตั้งเรียงกันจนเต็มพื้นที่ที่ว่างอยู่ บางส่วนน่าจะอยู่ในห้องเก็บของที่อยู่ข้างกัน เพราะหน้าประตูยังมีของเรียงชิดผนังอยู่อีกจำนวนหนึ่ง “อ๋อ กล่องที่วางอยู่เต็มโรงรถนั่นน่ะเหรอครับ” “ใช่ค่ะลูกปุณ กล่องพวกนั้นแหละค่ะ” “คุณแม่สั่งซื้ออะไรมาครับ เยอะแยะขนาดนั้น” ปุณวริทธิ์ทำหน้าฉงน เพราะปกติมารดาจะไม่ช็อปของทั่วไป ของบางชิ้นที่คุณนายเพทายซื้อแม้จะมีขนาดเล็กเท่าเมล็ดถั่วเขียวแต่ราคาใหญ่กว่าบ้านขนาดร้อยตารางวาแบบฟูลฟังก์ชันครบทุกอ็อปชันด้วยซ้ำ “แม่สั่งพัดลม หม้อหุงข้าว ไม้เท้า แล้วก็ของจิปาถะกะจะเอาไปบริจาคกับถวายวัดน่ะลูก แต่ยังไม่ได้จัดแจงว่าจะเอาไปถวายวัดไหนแล้วก็บริจาคที่ไหนยังไงเลยให้เขาส่งของทั้งหมดมาไว้ที่บ้านก่อน” ลูกชายเลิกคิ้วสูงมองหน้ามารดาแบบอึ้ง ๆ ผ่องศรีแอบกรอกตาเป็นเลขแปด ทำปากขมุบขมิบ ก่อนจะแทรกขึ้นว่า “คุณผู้หญิงโดนแม่ค้าหน้าสวยจากไลฟ์สดตกมาค่ะคุณปุณเลยเอฟของมาซะเยอะเลย เล่นเอาบริษัทขนส่งมึนไปเลย” ว่าแล้วก็หัวเราะอย่างถูกใจ ก็ลูกสาวสุดที่รักขายของได้เยอะ คุณผู้หญิงก็ได้ของไปทำบุญ แถมเงินแค่นี้ขนหน้าแข้งคุณผู้หญิงไม่ร่วงสักเส้น ดีไปหมด “คุณแม่ดูอะไรพวกนี้ด้วยเหรอครับ” ชายหนุ่มถามอย่างแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าคุณนายเพทายจะดูอะไรประเภทนี้ แถมยังมือลั่นกดซื้อของมาเสียมากมายขนาดนี้ คุณเพทายหันไปพ่นลมหายใจใส่แม่ผ่อง ส่งสายตาตำหนิประมาณว่า ‘ขี้ฟ้องนัก’ ก่อนหันมาพูดกับลูกชาย “ก็ดูเพลิน ๆ น่ะลูก แม่เห็นว่าของที่เขาขายก็ไม่เลว ราคาก็ไม่แพง ถึงบ้านเราจะไม่ได้ใช้ก็สั่งไปทำบุญก็ได้” “อ่อ ครับ” ปุณวริทธิ์ไม่ได้ติดใจอะไร มารดาของเขาคงจะสั่งสมบุญมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว ชาตินี้จึงพรั่งพร้อมทั้งทรัพย์สมบัติและความสุข ไม่เคยต้องทุกข์ร้อนลำบากเรื่องอะไรใด ๆ แถมพ่อของเขายังเป็นประเภทรักเดียวใจเดียวไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงมาให้แม่ต้องร้อนใจ แถมตามใจศรีภรรยาไปหมด วัน ๆ แค่คุณนายเพทายต้องคิดว่าจะใช้เงินทำอะไรยังไงแค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว คุณเพทายควงแขนลูกชายเข้าบ้าน ระหว่างนั้นก็บอกเขาว่า “นี่ลูกปุณ วันนี้แม่ให้แม่บ้านทำข้าวเหนียวทุเรียนไว้ให้ด้วยนะ เห็นวันก่อนไปทานที่โรงแรมแล้วชอบวันนี้แม่เลยจัดให้เลย” ได้ยินว่าข้าวเหนียวทุเรียนร่างสูงเกินร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรของลูกชายที่กำลังก้าวเดินถึงกับหยุดชะงัก สีหน้าเปลี่ยน ทำเอามารดาย่นคิ้วถามอย่างแปลกใจ “มีอะไรรึเปล่าคะลูกปุณ” “ผมไม่ได้อยากกินข้าวเหนียวทุเรียนนะครับคุณแม่ ผมไม่ชอบคุณแม่ก็รู้” “อ้าว!” คุณเพทายทำหน้าเลิ่กลั่ก หันไปมองแม่บ้านใหญ่ก็ได้รับสายตาตอบกลับพร้อมความหมายว่า ‘ก็ผ่องบอกแล้วคุณผู้หญิงไม่เชื่อ’ “เห็นมั้ยคะคุณผู้หญิง ผ่องบอกแล้วว่าคุณปุณก็ไม่ทานข้าวเหนียวทุเรียน” “แต่วันก่อนลูกปุณกินนี่ลูก แล้วยังสั่งกลับไปกินที่คอนโดด้วย” “วันนั้นผมแค่นึกอยากลองน่ะครับ ผมบอกคุณแม่แล้วนี่ สรุปก็คือแค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว ไม่ต้องเอาขึ้นโต๊ะนะครับมันเหม็น แค่นึกถึงก็ไม่ไหวแล้ว” พูดจบคนลูกก็เดินไปหาบิดาเพื่อจะคุยเรื่องงานกันปล่อยให้มารดามองตามอย่างไม่เข้าใจอารมณ์ที่เปลี่ยนไปมารวดเร็วของลูกชาย หันมาอีกทางก็เจอกับแม่บ้านคู่ปรับที่ปิดปากขำ “ขำอะไรแม่ผ่อง นี่ถ้าลูกปุณมีเมียฉันฟันธงได้เลยว่าลูกปุณต้องแพ้ท้องแทนเมียเหมือนที่คุณวัฒน์เป็นตอนฉันท้องแน่ ๆ” คนเป็นแม่ยังติดใจไม่หาย “ไม่หรอกค่ะ คุณผู้หญิงน่ะคิดมาก ผ่องว่าคุณปุณเธออาจจะเล่นสนุกท้าพนันกับเพื่อนไว้ก็ได้นะคะ แบบว่าถ้ากินของที่ไม่ชอบมาก ๆ ได้จะได้นั่นนี่ แบบที่เห็นจากในหนังไงคะ” แม่บ้านใหญ่เดาความน่าจะเป็น “เฮ้อ เข้าเรื่องหนังไปอีก ว่าไปเรื่อยนะแม่ผ่อง เอาเหอะ ยังไงก็อย่าเอาข้าวเหนียวทุเรียนมาขึ้นโต๊ะละกัน เดี๋ยวลูกปุณจะหงุดหงิด พักนี้ดูเหมือนลูกปุณจะลมเพลมพัด... แปลก” คุณเพทายนิ่วหน้า หลังมื้อเย็นที่ไม่มีเงาของข้าวเหนียวทุเรียนและอยู่คุยกับบิดามารดาจนเกือบสองทุ่ม ปุณวริทธิ์ก็ขับรถกลับมาคอนโด เขาสั่งเปิดเครื่องปรับอากาศจากมือถือก่อนจะมาถึงราวสิบนาที เมื่อเปิดประตูเข้ามาไอเย็นพร้อมกับความเงียบสงัดก็ปะทะเข้าร่าง มองไปมุมไหนก็ไม่เห็นความเคลื่อนไหวของคนที่เคยอยู่ด้วยกัน มันไม่ใช่ความรู้สึกที่เขาคิดไว้ หรือเพราะมันแค่ยังไม่ชินกลับการกลับมาใช้ชีวิตคนเดียวในรอบสามปี เหมือนตอนที่เขาให้แทนตาเข้ามาอยู่ในชีวิตช่วงแรก ๆ พอนานไปเข้าก็ปรับตัวเข้ากันได้ ตอนนี้เมื่อไม่มีเธอเขาจะทำอะไร ๆ ไปไหนก็ง่ายขึ้นไม่ต้องมาคำนึงถึงใครเหมือนแต่ก่อนซึ่งมันก็ดีแล้วนี่ คิดเข้าข้างตัวเอง ปุณวริทธิ์ยกมือลูบใบหน้าแรง ๆ ก่อนจะถอนหายใจยาวแล้วลุกเดินเข้าไปในห้อง ทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยก็มานอนบนเตียงที่เมื่อเช้าลุกออกไปยังไงก็ยังอยู่แบบนั้น ครั้นหันหน้าไปมองอีกฝั่งก็มีแต่ความว่างเปล่า ก็แน่สิในเมื่อตอนนี้มีเขาแค่คนเดียวในห้องจะให้มันเหมือนเดิมได้อย่างไร เขามองไปที่หน้าจอโทรศัพท์หรือจะกดหาเธอดี หรือจะรอคุยกันวันที่เธอกลับมาเก็บของ แล้วเธอจะกลับมาตอนไหน จะได้เจอกันอีกไหม ช่างใจอยู่หลายนาทีสุดท้ายก็เลือกที่จะไม่ทำอะไรเลย “อย่าบอกนะว่าได้เงินไปก็เผ่นเลย...หึ” วันต่อมา แทนตาไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งโดยมีชาช่าไปเป็นเพื่อน อายุครรภ์ประมาณสิบสัปดาห์แล้ว ช่วงที่ผ่านมาเธอค่อนข้างยุ่งจึงไม่ได้สนใจเรื่องประจำเดือนที่มักจะคลาดเคลื่อนไม่ตรงเวลา และคราวนี้มันก็ขาดไปนานกว่าปกติโดยที่เธอไม่ได้เอะใจ ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าอยู่ดี ๆ ก็อ่อนเพลียจนถึงกับเป็นลม ผู้หญิงถึกอึดทนจนอูฐเรียกพี่อย่างเธอก็คงยังไม่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ ^ ^ ^ ***อดใจรออีกนิดนะคะมี้ ebook วันเสาร์นี้น่าจะได้พบกันค่า เป็นกำลังใจและกดติดตามกันด้วยน้า ขอบคุณค่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม