ชายหนุ่มนิ่งไปอึดใจ ก่อนเอ่ยเสียงขรึม
“แล้วตอนนี้อาการของคุณน้าอนงค์เป็นยังไงบ้างครับ”
“ดูภายนอกก็ยังปกติค่ะ แต่ถ้ามีเรื่องมากระทบกระเทือนจิตใจก็อาจช็อกหรือมีภาวะอื่นแทรกซ้อนได้ คุณหมอเตือนมาอย่างนั้น...พี่ปุณช่วยอรหน่อยได้มั้ยคะ อรมองไม่เห็นใครแล้วจริง ๆ แค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น คุณแม่อรชอบพี่ปุณมาก แค่พี่ปุณไปทานข้าวที่บ้านอรอาทิตย์ละครั้งก็พอแล้วค่ะ”
คุณหนูองค์อรมองด้วยสายตาเว้าวอนมีความน่าสงสารและน่าเอ็นดูในแววตา
แยกกับองค์อรแล้วปุณวริทธิ์ก็กลับมาที่คอนโดในเวลาสี่โมงเศษ ภายในห้องเงียบเพราะไม่มีคนอยู่ เขารู้ว่าเวลานี้แทนตาออกไปทำงานของเธอและจะเจอหน้าเธออีกทีก็ราวหนึ่งทุ่มเป็นต้นไปทางแพลตฟอร์มออนไลน์ที่หญิงสาวจะออกมาไลฟ์ขายของ นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยร่างสูงก็ลุกเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาของกิน แปลกทั้งที่เขาเป็นคนที่กินเป็นเวลา นอกจากเครื่องดื่มระหว่างวันก็ไม่เคยนึกอยากกินอะไรแต่ตอนนี้กลับรู้สึกหิว
ไอเย็นปะทะใบหน้าเมื่อประตูตู้เย็นถูกเปิดออก เขาสำรวจดูในช่องฟรีซก็เห็นกล่องใส่อาหารสำเร็จวางซ้อนกันไว้สี่ชั้น เป็นอาหารจากฝีมือแทนตาที่ทำแล้วเก็บแช่ฟรีซไว้ทั้งสิ้น ดูไม่นานเขาก็หยิบกล่องอาหารที่อยู่บนสุดออกมาอย่างไม่ลังเล ก่อนทำการอุ่นใส่ไมโครเวฟก็ได้เป็นอาหารร้อนมารับประทาน
มือหนาใช้ส้อมม้วนเส้นสปาเกตตีซอสมะเขือเทศหมูสับคำใหญ่เข้าปาก เคี้ยวกลืนไม่นานก็หมด เหมือนเขาจะหิวมากทั้งที่เธอทำไว้เต็มกล่องแต่เขาก็จัดการมันได้ในเวลาอันรวดเร็ว แทนตาชอบทำอาหารและเรียกได้ว่ารสมือดีทีเดียว ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา เขาเคยชินกับอาหารฝีมือเธอโดยไม่รู้ตัว และในบรรดาอาหารที่เธอทำให้เขากิน สปาเกตตีซอสมะเขือเทศเป็นเมนูที่เขาชื่นชอบมากที่สุด ไม่ใช่ไม่เคยกินที่อื่น แต่กินที่ไหนรสชาติก็ไม่เหมือนที่เธอทำ
กินสปาเกตตีหมดไปแล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่อิ่มชายหนุ่มจึงลุกไปเลือกอาหารในตู้เย็นมาอุ่นกินอีก กล่องนี้ผัดพริกขิงที่รสชาติจัดจ้านเข้มข้น มีข้าวที่หุงเสร็จแยกใส่ถุงพลาสติกปริมาณสำหรับหนึ่งที่พร้อมอุ่นด้วยไมโครเวฟไว้เรียบร้อย หลังกล่องที่สองเขาถึงรู้สึกอิ่ม จากนั้นก็ไปหาเครื่องดื่มมานั่งจิบต่อที่มุมโซฟานั่งเล่น
ปุณวริทธิ์คิดไปถึงสิ่งที่พูดกับแทนตาวันนี้ เขาหมายความตามนั้นจริง ๆ มันได้เวลาที่เขาจะต้องจบกับเธอแล้ว ชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกว่าการจบกับเธอมันยากเย็นอะไร เขาไม่ได้ผูกพันอะไรกับเธอมากมาย ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาปฏิบัติต่อเธออย่างที่สมควรทำ ไม่เคยมีคำสัญญาอะไรใด ๆ และที่สำคัญไม่มีคำว่า ‘รัก’ เพราะมันไม่ใช่ เขาและเธอวิน-วินด้วยกันทั้งคู่ เธอไม่ได้อยู่ในทูดูลิสต์ในแพลนชีวิตของเขา
ปุณวริทธิ์คิดถึงเรื่องที่คุยกับองค์อรเมื่อตอนกลางวัน เขายังไม่ได้ตอบตกลงเธอเป็นกิจจะลักษณะในทันที เพราะเรื่องแบบนี้หากฝืนไปสักวันความลับก็ต้องเปิดเผย แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่ชอบให้ใครมาจำกัดอิสระ ไม่เคยฟิกซ์ว่าในหนึ่งสัปดาห์ต้องกลับบ้านไปพบหน้ากับบิดามารดา หรือต้องคอยไปออกงานเป็นเพื่อนกับใคร หากตอบรับที่จะเล่นละครกับองค์อร แน่นอนว่าคนรอบข้างต้องเข้ามายุ่งกับชีวิตส่วนตัวเขา อีกทั้งยังต้องคอย ‘สร้างภาพคู่’ กับเธอ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกนักสำหรับเขา
ทว่าสถานการณ์ตอนนี้เรื่องขององค์อรก็น่าสนใจหากเขาจะใช้มันช่วยทำให้แทนตาตัดใจจบกับเขาได้ง่ายขึ้น ยิ่งทีเขาก็ยิ่งรู้สึกรำคาญใจเหมือนกับมีขนตาที่งอกผิดด้านอยู่ในตา ถ้าไม่ถอนออกก็จะเคืองรำคาญอยู่แบบนั้น จริง ๆ การจะเลิกกับแทนตาไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร เพราะไม่มีการผูกมัดใด ๆ เพียงแต่มันจะดีกว่าถ้าเธอถอดใจไปเอง ชายหนุ่มตัดสินใจกับตัวเองและได้คำตอบ ริมฝีปากหยักยกยิ้มดีใจไว้ล่วงหน้า ถอนหายใจให้กับชีวิตที่เหมือนได้พบแสงสว่าง องค์อรเข้ามาได้จังหวะพอดี ตกผลึกความคิดได้ชายหนุ่มก็ยืดตัวลุกเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดี
หลังจากอาบน้ำสวมชุดนอน ชายหนุ่มก็มายืนเท้าเอวอยู่กลางห้องนอน ดวงตาคมมองไปที่เตียงนอนขนาดคิงไซซ์ที่ใช้นอนอยู่ทุกวัน ข้างกายไม่เคยว่างเปล่าเพราะมีหญิงสาวอีกคนนอนด้วยมาตลอดสามปี แต่ตอนนี้เขาอยากกลับมานอนคนเดียว เขาบอกเจตจำนงไปแล้วเมื่อเช้าหวังว่าเธอคงจะเข้าใจ ถ้ายอมจากไปง่าย ๆ ก็ไม่ต้องใช้แพลนบีที่ต้องทำร้ายจิตใจกันนัก ร่างสูงบิดริมฝีปากคว่ำลงก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอน ในคอนโดที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดเกือบร้อยตารางเมตรและยังมีห้องนอนใหญ่อีกหนึ่งห้อง คืนนี้และคืนต่อ ๆ ไปเขาจะไปนอนที่ห้องนั้น เขากำลังแสดงให้เธอรู้เธอเห็นว่าเขาต้องการพื้นที่ส่วนตัวกลับคืนมา