(ทาร์นี)
"ฮึก! ผู้หญิงคนนั้นจะได้รับกรรมจริง ๆ เหรอฉันอยู่ห้องนี้มานานได้ยินเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของผู้หญิง รอยยิ้มของผู้หญิงคนนั้นฉันไม่เคยเห็นความเห็นหรือได้ยินความเศร้าเสียใจเลยสักครั้ง" หวานพูดกับฉัน
"จริงสิ..ฉันไม่ใช่ผีไม่ชอบหลอกหรอกนะเพราะงั้นไปเกิดดี ๆ ดีกว่าให้หมอผีจับถ่วงน้ำน่ะฉันไม่อยากให้เธอต้องเจ็บปวดแบบนั้น" ฉันสงสารหวานทั้งทีไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ผีตัวไหนจะเป็นอะไรฉันก็ไม่สนใจหรอกแค่มองผ่านไปเท่านั้นเอง แต่กับหวานฉันอาจจะเจอทุกวันก็ได้และได้เห็นความเจ็บปวดทรมานของเธอสิ่งที่ต้องเจอฉันเลยรู้สึกสงสารและไม่อยากให้เธอต้องเจ็บอีก ถ้าให้น่านฟ้าทำพิธีละก็คงจะต้องได้เจ็บอีกแน่
"เข้าใจแล้วขอบคุณนะ...ทาร์นี" เธอพูดกับฉันก่อนร่างกายจะเปลี่ยนคนธรรมดาและลอยหายไป...
"เฮ้ออ~ โชคดีที่ไม่ต้องทำพิธีอะไร" น่านฟ้าถอนหายใจเมื่อหวานยอมไปเกิดแล้วตามเวลาของเธอ
"..."
"รู้สึกยังไงบ้างที่ได้ปลดปล่อยดวงวิญญาณ?" เขาหันมาถามฉัน
"เฉย ๆ" ฉันตอบแค่นั้นความจริงมันไม่ได้เฉย ๆ ซะทีเดียวมันมีความรู้สึกบางอย่างที่ไม่เคยเจอเกิดขึ้นภายในใจ
"ปากแข็ง"
"ปากจะแข็ง จะนิ่ม จะอ่อน มันก็ปากฉันนายไม่ต้องยุ่งหรอก" ฉันหันไปมองหน้าของเขาและเพราะว่าเขาสูงกว่าฉันมากฉันเลยต้องเงยคอนิดหน่อยเพื่อมองเขาได้ถนัด
"ฉันไล่ผีไปแล้วเพราะงั้นเธอก็ต้องช่วยงานฉันแล้วละ"
"วันอื่นวันนี้เหนื่อย" ฉันพูดและเดินไปหยิบน้ำเปล่าดื่มเพราะรู้สึกคอแห้งมาก วันนี้เป็นวันที่ฉันพูดเยอะมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนถ้าช่วยผีแล้วต้องพูดเยอะขนาดนี้ก็ไม่เอาด้วยหรอก แค่ช่วยน่านฟ้าให้จบไปก็พอแล้วละ
"ตอนนี้ผีพรายมันเงียบหายไปและมันยากที่จะตามหาตัวของมันด้วย"
"ฉันไปเดิน ๆ มองเดี๋ยวก็เจอแหละมั้ง" หมับ! น่านฟ้าเดินเข้ามาและแย่งน้ำในมือของฉันไปดื่มหน้าตาเฉย
"ฮึก ๆ อ่าส์~ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกนะยัยผีนั่นฉลาดและระวังตัวตอนนี้คงจะกำลังซ่อนตัวอยู่เราต้องรอให้มันปรากฏตัวก่อนแล้วค่อยตามไปจัดการ"
"แบบนั้นมันจะไม่หนีไปก่อนหรือไง?"
"ไม่หรอกเพราะมันจะโพล่งมาดูลานเลาก่อนถ้ามีชาวบ้านพบเห็นก็จะมาบอกฉันเอง"
"อ่อ..."
"..."
"นายกลับไปได้ละ" ฉันบอกกับเขามัวแต่ยืนกินน้ำอยู่ได้
"หมดประโยชน์แล้วจะไล่เลยอ่อ?" เขายื่นหน้ามาหาฉันและฉันก็หลบได้ทัน
"แล้วจะอยู่เพื่อ?"
"นั่นสิเนอะ งั้นฉันกลับก่อนแล้วกันวันนี้จะเรียกว่าฉันช่วยเธอก็ไม่ได้หรอกนะทาร์นี..." แต่เขาก็หันกลับมาอีก
"...."
"เพราะเธอผีนั่นเลยยอมไปเกิด ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำเอาไว้หลังจากนี้ถ้าต้องการไล่ผีจริง ๆ ฉันช่วยเธอเอง"
"...." ฉันมองหน้าของเขานิ่งทำไมต้องมาช่วยด้วยที่ผ่านมาไม่มีผีตัวไหนกล้าทำร้ายฉันหรอก
"ไปก่อนนะล็อกห้องดี ๆ ด้วยละ"
"..."
"ไม่มีผีแล้วแต่ก็ยังมีคน...คนน่ะน่ากลัวกว่าผีซะอีก" เขากำลังจะเดินออกไป
"..."
"คือจะให้ฉันพูดฝ่ายเดียว?" เขาทำหน้างงเพราะฉันไม่ได้พูดกลับไปเลย ก็คนมันขี้เกียจแล้วนิ
"ไปซะ"
หมับ! ปัง! ฉันพูดและจับประตูก่อนจะปิดใส่หน้าของเขาแล้วเข้าห้องเพื่อพักผ่อนพรุ่งนี้ไม่มีเรียนช่วงเช้าเพราะงั้นก็นอนตื่นสาย ๆ เลยแล้วกันเพราะนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว...
วันต่อมา...
ก๊อก ๆ ๆ
"อือออ~~"
ก๊อก ๆ ๆ
ฉันตื่นลืมตาขึ้นมาเพราะเสียงเคาะประตู ฉันหยิบโทรศัพท์มาดูเวลาพบว่ามันเกือบเที่ยงแล้วฉันลุกจากเตียงและเดินเข้าน้ำปล่อยให้คนข้างนอกเคาะประตูอยู่อย่างนั้น ฉันไม่มีเพื่อน ไม่มีคนรู้จักที่นี่เพราะงั้นอาจจะเคาะผิดก็ได้เดี๋ยวก็ไปแหละมั้ง ฉันเข้าห้องน้ำมาล้างหน้า แปรงฟันเตรียมอาบน้ำด้วยเพื่อไปเรียนบ่าย
ปัง! ปัง! แต่จากเสียงเคาะก็กลายเป็นทุบแทนเหมือนกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่าง ฉันเลยต้องยุติการอาบน้ำของตัวเองและออกไปเปิดประตูแทน
แอดดด~
"นี่ละคะคุณตำรวจยัยนี่แหละที่ทำร้ายร่างกายของหนู!" เมื่อเปิดประตูออกมาก็พบว่าเมขลาเอาตำรวจมาที่ห้องของฉันและโวยวายว่าฉันทำลายร่างกายของเธอ เฮ้ออ~
"สวัสดีครับคุณทาร์นีใช่ไหมครับ?" ตำรวจทักทาายฉัน
"ค่ะ"
"พอดีว่าเราได้รับแจ้งความว่าคุณได้ทำร้ายร่างกายของคุณเมขลาเราเลยต้องนำตัวของคุณไปสอบปากคำเพิ่มเติมและแจ้งข้อกล่าวหาครับ" ตำรวจบอกกับฉัน
"ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันไปที่สถานีนะคะ" ฉันตอบตกลงอย่างรวดเร็ว
"เอ่อ ได้ครับ" ฉันหันไปมองหน้าของเมขลานิดหน่อยแต่ก็เข้าห้องทันทีเพื่อเตรียมตัวไปสถานีตำรวจแทนมหาวิทยาลัย
เวลต่อมา
สถานีตำรวจบึงกาฬ
"คุณทาร์นียอมรับไหมครับว่าทำร้ายร่างกายของคุณเมขลาจริง ๆ ?" ตอนนี้ฉันมาที่สถานีตำรวจแล้วและตำรวจก็กำลังแจ้งข้อหากับฉัน โดยมีเมขลานั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วย
"ไม่ค่ะ"
"ว่าไงนะ! อย่าหน้าด้านไปหน่อยเลยเธอน่ะเข้ามาทำร้ายฉันถึงในห้องแต่กลับบอกว่าไม่ได้ทำงั้นเหรอฉันจะขอดูกล้องวงจรปิดที่หอ!" เมขลาโวยวายเมื่อฉันปฏิเสธไป
"พี่เองก็รู้ดีอยู่แก่ใจนิคะว่ามันเกิดอะไรขึ้นแล้วพี่จะแจ้งความจับฉันเพื่ออะไร?" ฉันถามอย่างสงสัยเธอรับรู้ว่าฉันโดนผีเข้าและเธอกลับแจ้งความจับฉัน
"ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละที่ฉันรู้คือเธอทำร้ายฉันเข้ามาตบถึงห้อง!! ดูสิคะคุณตำรวจหนูอะยังหน้าแดงไม่หายเลยค่ะ" แล้วเธอก็หันไปทำเสียงอ้อนกับตำรวจ
"ผมว่าคุณยอมรับดีกว่านะครับมันก็แค่เสียค่าปรับเท่านั้น 5000 บาทถ้าคุณยังปฏิเสธแบบนี้และเราได้หลักฐานมามันอาจจะไม่จบแค่เสียค่าปรับนะครับ"
"ฉันโดนผีเข้าไม่ได้ทำสักหน่อย"
"ฮะ?" ตำรวจทำหน้างง
"ฉันบอกว่าฉันไม่ได้ทำคนที่ทำคือผีต่างหากมาเข้าร่างฉันและก็ไปตบพี่เขา เพราะว่าพี่เมขลาเนี่ยไปแย่งผัวเขาเลยผีตัวนั้นเลยโกรธมากมาเข้าสิงฉันไปตบเธอ" ฉันบอกความจริงไปแม้ว่าตำรวจคงจะไม่เชื่อก็ตาม
"ประสาท!!ผีไม่มีในโลกย่ะ!!อย่ามาเปลี่ยนเรื่องนะหรือว่าจะให้ฉันเปิดกล้องวงจรปิดละฮะ?!"
"เอาสิคะและก็เปิดจนถึงตอนที่พี่ส่งยากันหน้าห้องด้วยนะ"
"...!!!" ทั้งตำรวจทั้งเมขลาตาโตทันที
"กะแกพูดเรื่องอะไร?"
"พี่แจ้งความจับฉัน...ฉันเองก็จะแจ้งเหมือนกันว่าพี่มียาเสพติดไว้ในครอบครองและอาจจะต้องย้อนกับไปเมื่อสองปีก่อนที่มีคดีฆาตกรรมเพราะพี่อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับฆาตกรก็ได้..."
"กรี๊ดดดดด!!!แกพูดเรื่องอะไรฮะ?!"
"แล้วพี่...มายุ่งกับฉันทำไมก่อนละ หึ!" ฉันยิ้มมุมปากอย่างสะใจ
"แก...!!" เมขลาง้างมือจะตบหน้าฉัน
"คุณ!!ที่นี่มันสถานีตำรวจนะครับ!!ผมคุณทำแบบนี้ผมอาจจะต้องสืบเรื่องที่เด็กคนนั้นพูดด้วย"
"หนูไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นนะคะคุณตำรวจเด็กนี่มันใส่ร้ายหนู!!"
"ยังไม่หยุดก็ได้นะคะถือว่าฉันเตือนแล้ว" ฉันมองหน้าของเมขลานิ่งมากอย่างกดดัน
"ฉันไม่แจ้งความแล้วมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด!!!" และเมขลาก็เดินออกไปทันทีแต่ฉันไม่หยุดเพียงแค่นั้นหรอกนะ ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อขู่ใครทั้งนั้น
"ฝากคุณตำรวจสืบเรื่องยาเสพติดด้วยนะคะ ที่ห้องของเธอคนนั้นน่าจะมีเยอะน่าดู" พรึ่บ! ฉันลุกขึ้นและเดินออกมา
"ได้บอกตำรวจเรื่องนั้นหรือเปล่า?" กึก!! แต่เมขลายังไม่กลับและยืนรอฉันอยู่
"ไม่มีเหตุผลที่ฉันไม่จะไม่บอก..."
"อีทาร์นี!!!!"
"พี่จะได้เข้าไปให้ไอ้บิ๊กที่อยากได้นักหนาไงคะ... ไปหาคนที่พี่พยายามแย่งแทบตาย^^" เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันยิ้มแต่ยิ้มแบบสะใจและเยาะเย้ย
"มะไม่นะไม่!!กรี๊ดดดดดดดด!!!"