(น่านฟ้า)
"แหะ ๆ อะอาจารย์มันใกล้ถึงหรือยังละผมจะตายอยู่แล้วเนี่ย~~" เสียงไอ้รบมันถามผมขณะที่กำลังเดินขึ้นหอพักยายจันทร์เพราะว่าไม่มีลิตฟ์เลยต้องเดินนี่ไงอยากจะบ้าตาย
"ถึงแล้วกูบอกแล้วว่าอย่ามา ๆ แล้วก็มาบ่นแบบนี้" ผมบ่นมันเพราะว่าผมเตือนมันแล้วว่าไม่ต้องแต่พอมันรู้ว่าผมมาปราบผีมันก็อยากจะมาด้วยร่วมสถานการณ์
"ก็ผมอยากเห็นอยากดูด้วยนี่~~"
"เฮ้ออ~ ไป ๆ ถึงแล้ว" ผมเดินนำมันไปที่ห้องของทาร์นีซึ่งระหว่างที่เธอเข้าห้องน้ำไปผมก็นึกขึ้นได้ว่าต้องไปเอาของที่บ้านก่อนเพื่อประกอบพิธีตอนแรกก็กะว่าจะมาดูท่าทีไว้ก่อนแต่ยัยปากดีจัดหาว่าผมกากเลยต้องจัดการวันนี้เลยเวลาเที่ยงคืนตอนนี้ก็ใกล้เวลาแล้วละ
ห้องทาร์นี
"ทำไมประตูเปิดไว้วะ?" ผมมาถึงก็พบว่าห้องของทาร์นีเปิดประตูเอาก่อนจะเดินเข้าห้องก็พบว่าสร้อยที่ผมให้เธอโดนถอดเอาไว้
"อาจารย์ไหนเจ้าของห้องอะ?"
"ยัยเด็กบ้า!"
"อาจารย์ด่าผมเหรอ?" ผมมองหาเธอทั้งนอกระเบียงทั้งห้องน้ำแต่ก็เจอเลยไปไหนวะ?
"กรี๊ดดดดดดดดด!!" ขวับ! ผมได้ยินเสียงกรี๊ดร้องมาจากห้องของเมขลาเลยทำให้ผมต้องรีบไปที่นั่นทันที
แกร๊ด ๆ แต่ประตูกลับล็อกเอาไว้
"ไอ้รบถีบ!!" ผมบอกมัน
"ถะถีบอะไรอะอาจารย์?" มันทำหน้างง
"ถีบกูมั้ง! ถีบประตูสิเว้ย!" ปัง! ผมบอกมันจะพยายามถีบประตูให้เปิดออกแต่แม่งโคตรแน่นเลย!!!
ปัง!! ปัง!! โครม!! แต่มันก็ไม่ได้ยากเกินไปหรอกถีบไม่กี่ทีประตูห้องของเมขลาก็เปิดออกมา ผมกับไอ้รบรีบเข้าไปข้างในก่อนจะพบว่าทาร์นีกำลังบีบคอของเมขลาอยู่
"ทาร์นี!!เธอทำบ้าอะไรวะ?!"
"อย่ามาเสือก!!" เธอหันมาและหันกลับไปอย่างรวดเร็วตอนนั้นผมรับรู้ได้ทันทีว่านั่นไม่ใช่ทาร์นีแต่เป็นผีที่กำลังเข้าสิงร่างของเธอ
"ฮึก! นะน่านช่วยด้วยเมยะยังไม่อยากตาย" เมขลาพยายามอ้าปากขอร้องให้ผมช่วย
"คนอย่างมึงต้องตาย!!ต้องตายเท่านั้นเหมือนกับที่กูตาย!!เพราะมึงเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นก็เพราะว่ามึงอยากได้ผัวกู!!!"
"ฮึก!!!"
"ไอ้รบเอาประคำมา!!" ผมแบมือรอประคำจากไอ้รบ
"นี่ครับจารย์!" หมับ! ผมรับมาก่อนจะสวดมนตร์บูชาประคำ
"นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โยจามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุฯ ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โยจามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท!!!!!!!!" ท่องจบผมก็เอาประคำสีดำเส้นใหญ่คล้องคอของทาร์นีทันที
สวบ!
"กรี๊ดดดดดดด!!!" พรึ่บ!! วิญญาณผีออกจากร่างทาร์นีและกลับไปที่ห้องเดิมตัวเองทันทีถ้าไม่มีสื่อกลางผีไม่มีทางออกจากสถานที่ที่ตัวเองตายได้หรอก
หมับ!
"ทาร์นี! ทาร์นี!" ผมเข้าไปจับตัวของทาร์นีเอาไว้และพยายามปลุกเธอ
"ฮึก!! น่านเมกลัวว~~" เมขลาจะเข้ามากอดผมแต่ผมไม่ว่างเพราะตอนนี้ผมต้องดูทาร์นีก่อนเนื่องจากเธอโดนผีเข้า
"อยู่แต่ในห้องอย่าออกไปไหนละไม่อย่างนั้นผีตัวนั้นคงได้มาบีบคอเธออีกรอบแน่" ผีตัวนั้นแค้นเมขลามาก
"แต่.."
"ไอ้รบอยู่เป็นเพื่อนเมขลาแล้วกันกูจะไปจัดนังผีนั่นหน่อย"
"นาย.." และทาร์นีก็ฟื้นขึ้นมาพอดีและรีบผละออกจากผมจะรังเกียจกันอะไรขนาดนั้น -_-
"ถอดสร้อยทำไมวะ?"
"ก็ผีบอกให้ถอด" เธอตอบหน้าซื่อตาใส
"เธอนิแม่งเอ๊ย!" ผมละอยากจะเขกกะโหลกของเธอจริง ๆ เลยวะ
"เกิดอะไรขึ้น?" ยังมีหน้ามาถามอีกเนอะเรื่องมันเกิดเพราะว่าตัวเองนั่นแหละนี่ถ้าผีตัวนั้นมันฆ่าเมขลาขึ้นมาจริง ๆ ละก็ยัยเด็กนี่แหละที่จะเดือดร้อนเพราะตำรวจเขาคงไม่ตามจับผีไปเข้าคุกหรอก
"ผีเข้าเธอ...และก็มาทำร้ายเมขลา"
"อ่อ.." เธอตอบแค่นั้นก่อนจะหันไปมองเมขลา
"มองอะไรย่ะ?!" เมขลาก็เลยถามเธอกลับมาด้วยความไม่พอใจเท่าไหร่ที่โดนมองแบบนั้น
"รู้ไหมผีตัวนั้นคือใคร?" ทาร์นีถามเมขลา
"เอ่อ กะก็ไม่รู้สิย่ะ!" แต่เมขลากับมีท่าทางเลิ่กลักไม่หยุดแบบนี้โกหกเด็ก ๆ ยังไม่เชื่อเลย
"เธอชื่อหวานเป็นแฟนของผู้ชายที่บิ๊ก ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นติดคุกเพราะฆ่าแฟนตัวเองตายจากเรื่องหึงหวง" ทาร์นีพูดขึ้นมาและแน่นอนว่าเธอคงรู้อะไรมาบ้างแล้วละ
"ละแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันละฮะ?!" เมขลาถามเสียงดัง
"แต่ที่ผู้ชายคนนั้นหึงหวงเป็นบ้าเป็นหลังนั่นก็เพราะว่าโดนเป่าหูและปั่นประสาจนทำให้ผู้ชายคนนั้นเกิดอาการระแวงไม่เชื่อใจแฟนตัวเอง สุดท้ายก็เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นมา" ทาร์นีพูด
"อ่อ เมื่อสองปีก่อนผมได้ยินเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน" ไอ้รบพูดขึ้นบ้างเพราะมันชอบเสือกอยู่แล้ว
"ลำพังน่ะคนเราคงจะระแวงจนเกิดเหตุไม่ได้หรอกถ้าไม่ได้มีสารกระตุ้นอะไรจนทำให้หลอนน่ะ..." ทาร์นีเดินที่หน้ากระจกในห้องของเมขลาและหยิบบางอย่างที่วางอยู่ออกมา
"...!!"
"เมื่อสองปีก่อนเธออยากได้ผู้ชายคนนั้นมากๆ ไม่ได้สนใจว่าเขาจะมีแฟนอยู่แล้วหรือเปล่าเธอเลยใช้วิธีวางยาเขาทีละนิด"
"อย่ามากล่าวหาฉัน!!ฉันไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นผู้ชายคนนั้นเมาและมามีอะไรกับฉันเอง!"
"ฉันยังไม่ได้พูดเลยนะว่าเธอมีอะไรกับเขาแต่ช่างเถอะ...เพราะว่าฉันรู้อยู่แล้ว ผู้ชายคนนั้นแค่เมาและหลงผิดไปมีอะไรกับเธอ เธอที่ต้องการเขาอยู่แล้วก็เลยใช้ชีวตนี้...มนุษย์จะโดนปั่นหัวง่ายขนาดนั้นเลยเหรอเธอที่พึ่งกับแฟนที่คบกันมานานอะไรมันน่าเชื่อถือกว่ากันละ" ก็คือ...เมขลาอยากได้แฟนคนอื่นมากจนทำผิดไปสินะ
"ฉันแค่พูดตามที่เห็น!!ยัยมีผู้ชายมาหาที่ห้องจริง ๆ ฉันเลยเล่าให้บิ๊กฟัง! และเขาก็เชื่อไปเองฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้นแหละ"
"พอเขาฆ่าตัวเองแล้วก็โดนจับทันทีแต่ว่าความแค้นของหวานยังไม่หมดแม้แฟนจะโดนแต่ต้นเหตุจริง ๆ ก็คือเธอต่างหากที่ปั่นหัว สร้างเรื่องวุ่นวายขึ้น ส่วนเรื่องวางยามันเป็นข้อสันนิฐานของฉันเท่านั้นจะเป็นจริงหรือไม่จริงนั่นให้มันเป็นกรรมของเธอ เพราะตอนนี้คดีปิดไปแล้วคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะรื้อฟื้นขึ้นมา"
"ฮึก! ผะผีนั่นคือยัยหวานจริง ๆ เหรอ?" เมขลาเริ่มตัวสั่นด้วยความกลัว
"ฉันจะหลอกเพื่อ?"
"นะน่าน! น่านต้องจัดการผีนั่นน่ะอย่าให้มันมาทำร้ายเมอีก เมกลัวอะน่านนน~" หมับ! เธอเข้ามากอดแขนและขอร้องผม
"ฉันก็ตั้งใจมาจัดการอยู่แล้วแต่บางทีอย่างมันอาจจะง่ายขึ้นเพราะผีนั่นได้ปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเองไปแล้ว" ผมบอกบางทีการไล่ผีอาจจะไม่ใช่การทำลายดวงวิญญาณ จับใส่สหม้อเพียงแค่นั้นแต่การไล่อีกอย่างคือการปลดปล่อยให้ผีตัวนั้นไปได้หลุดจากบวงความทุกข์ต่างหาก
"นะน่าน..."
"ฉันขอตัวไปจัดการก่อนแล้วกันเธอก็พักผ่อนเถอะเพราะหลังจากนี้อาจจะมีกรรมให้เธอได้ชดใช้อย่างต่อเนื่องจากการกระทำที่เธอทำลงไป" ผมพูดกับเธอจบก็ออกจากห้องมาและเข้าไปที่ห้องของทาร์นีเพื่อจัดการดวงวิญญาณนั่น
ห้องทาร์นี
"โอมมะ โอมมะ ขะหะขะหะโต" ผมสวดบทให้ตัวเองสามารถมองเห็นวิญญาณได้
"ฮึก!" และก็เห็นว่าผีหวานกำลังร้องไห้อยู่
"ได้ปลดกปล่อยอารมณ์แล้วเป็นยังไงบ้างละ?" ผมถามเธอออกไปอย่างใจเย็นตอนนี้เธอไม่มีพลังอะไรมากแล้วเพราะเลยเวลาเที่ยงคืนมาแล้ว
"ฮือออออ~~"
"เลิกร้องไห้แล้วในเมื่อเธอเอาคืนเมขลาไปแล้ว"
"ฮือออออออออออ~~~" แล้วทำไมร้องไห้มากกว่าเดิมวะ -0-
"กล้าดียังไงมาเข้าร่างกายฉัน" เสียงของทาร์นีพูดด้วยน้ำเสียงดุ ๆ ขนาดผีก็ยังไม่เว้นเหรอ?
"ฮืออออ ๆ ๆ ก็ฉันอยากตบผู้หญิงคนนั้นด้วยตัวเองให้เธอตบให้จะไปสะใจอะไรละ?!" คู่นี้ไปตกลงอะไรกันไว้วะ??
"แต่เธอเกือบฆ่าเมขลาถ้าผู้หญิงคนนั้นตายเธอตกนรกส่วนฉันติดคุกสถานการณ์ใครเลวร้ายกว่ากัน?" ทาร์นีถามซึ่งนั้นก็เป็นความจริง
"ฮึก! ขอโทษ~~~~"
"ถ้าจะไม่ทำอะไรรุนแรงถ้าเธอยอมปลดปล่อยและไปเกิดซะ" ผมบอกกับเธอ
"ฮึก ๆ"
"ไปเกิดในภพภูมิที่ดีเถอะ" ผมมองทาร์นีให้เธอช่วยพูดให้หน่อยเพราะผมไม่อยากใช้คาถารุนแรง
"ไปซะอยู่ไปก็รกโลกนี้เปล่า ๆ ไปเกิดโลกนู้นเจอคนใหม่ ๆ ที่ดีกว่าเดิมยัดติดไปไม่ช่วยอะไรนอกจากทำให้ทุกข์" สาบานว่านั่นคือคำปลอบ?
"...." หมดคำจะพูดดดดดด
"แต่ผู้หญิงคนนั้น..."
"ไม่นานเดี๋ยวก็ได้รับกรรมเองนั่นแหละไม่ต้องห่วงหรอก ไปเถอะหวาน...อย่าอยู่บนโลกที่แสนเจ็บปวดนี้เลย" คำพูดนั้นทำให้ผมหันไปมองหน้าเธอ...แววตาที่เจ็บปวดฉายออกมาอย่างชัดเจน