ตอนที่ 3 กลบเกลื่อน (1)

1082 คำ
ตอนที่ 3 กลบเกลื่อน (1) วันหยุดสุดสัปดาห์คราวนี้ ดูท่าทางสมาชิกของทั้งสองบ้านอันได้แก่ ครอบครัวบดินทร์ธรารักษ์ของคุณธินรัตน์และคุณหญิงลัดดา พร้อมทั้งครอบครัวกฤตาอภินันท์ โดยการนำของคุณอรรถพลและคุณอรนภา จะครึกครื้นและสนุกสนานเป็นพิเศษ เมื่อทั้งหมดต่างชักชวนกันไปเที่ยวที่บ้านสวนของคุณแม่คุณอรรถพลที่อยู่จังหวัดสระบุรี ซึ่งก็คือบ้านคุณย่าของอิงอรนั่นเอง คนที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนครั้งนี้ ก็คือ คุณหญิงลัดดา มารดาของธันย์ธาดานั่นแหละ ที่ให้เหตุผลว่าไม่ได้ชวนกันไปเที่ยวแบบนี้นานแล้ว และอยากไปเยี่ยมคุณแม่ของคุณอรรถพลด้วย ซึ่งแท้จริง สิ่งที่แอบหวังมากกว่านั้นก็คือ การจะได้เห็นสองหนุ่มสาววัยรุ่นที่นั่งเงียบอยู่บนรถตู้เคียงข้างกัน ได้มีโอกาสใกล้ชิดและสนิทสนมให้ดูเหมือนคนที่เป็นคู่หมั้นกันหน่อย กลุ่มผู้ใหญ่ของทั้งสองครอบครัวอดที่จะเป็นห่วงสถานการณ์ระหว่างหนุ่มสาวคู่นี้ไม่ได้ เพราะหลังจากวันเปิดภาคเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยได้ไม่นาน พิธีหมั้นระหว่างธันย์ธาดาและอิงอรอันเรียบง่ายและเชิญเฉพาะกลุ่มญาติๆ ก็ถูกจัดขึ้น ท่ามกลางความปลื้มปีติยินดีของผู้หลักผู้ใหญ่ ที่สมใจในการจับคู่คนที่ตนคิดว่าคู่ควรให้หนุ่มสาว ตั้งแต่ยังไม่พ้นวัยทีน แต่ดูสองคนนี้สิ แม้ไม่ได้แสดงออกอย่างชัดเจนด้วยคำพูดว่าต่อต้านหรือไม่ยอมรับการหมั้นหมาย แต่จากการที่ธันย์ธาดาและอิงอรไม่ยอมสวมแหวนหมั้น ก็เพียงพอแล้วที่จะทำความเข้าใจ ซึ่งผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายก็ได้แต่ส่ายหน้าไปตามๆ กัน คงมีแต่คุณหญิงลัดดาเท่านั้น ที่ยืนยันหนักแน่นว่าทั้งคู่ต้องลงเอยกันได้อย่างที่พวกท่านตั้งใจไว้แน่นอน เมื่อถึงที่หมาย ทุกคนได้แต่ขยับตัวไล่ความเมื่อยขบที่นั่งอยู่บนรถเป็นชั่วโมง ก่อนจะเดินตามการเชื้อเชิญของเจ้าของบ้าน คือคุณอรรถพล ขึ้นไปบนบ้านไม้สักทองเรือนไทยที่สวยเด่นเป็นสง่ากว่าบ้านปูนกึ่งไม้หลังอื่นๆ ในละแวกเดียวกัน เพื่อไปพบกับคุณย่ามะลิที่รอต้อนรับอยู่บนเรือนก่อนแล้ว หลังจากลูกชายโทรมาแจ้งข่าวว่าจะพาครอบครัวของคู่หมั้นหลานสาวมาเยี่ยม… “จะไปไหนหรือลิน” เสียงทุ้มของพี่ชายที่เรียกอยู่ข้างหลัง ทำให้เท้าเล็กบางของเด็กหญิงตัวขาว รูปร่างผอมสูง ใบหน้าเรียวจิ้มลิ้มสดใส และดวงตาเรียวได้รูปที่เปล่งประกายในตัวเอง ต้องชะงักกึกนิ่งอยู่กับที่ เด็กหญิงลินลดา บดินทร์ธรารักษ์ หรือ ลิน หนูน้อยวัย 13 ปี หันไปยิ้มหวานส่งให้พี่ชาย ก่อนจะกระโดดเข้าไปเกาะแขนแกร่งอย่างอ้อนๆ “ลินจะไปเดินเล่นตรงนู้นค่ะพี่ธันย์ พี่ธันย์ไปเป็นเพื่อนลินหน่อยนะ” “ไม่เอาอ่ะ พี่ไม่อยากปวดหัวกะเรา จะไปเดินเล่นก็ไป แต่อย่าไปไหนไกลนักล่ะ เดี๋ยวคุณแม่เรียกหาไม่เจอก็โดนอีกหรอก” สิ้นเสียงพี่ชายเรียกสีหน้าหงอยๆ ให้เกิดขึ้นกับหนูน้อยลินลดาทันที “ใช่สิ ก็คุณแม่ไม่รักลินนี่ อะไรๆ ก็ดุแต่ลิน” เสียงเครือๆ เอ่ยขึ้นอย่างน้อยใจ พร้อมๆ กับดวงตาเรียวหวานที่ปริ่มไปด้วยน้ำตา และเจ้าตัวก็ปล่อยให้มันไหลในที่สุด ขี้เกียจพยายามสะกดกลั้นห้ามมันไว้ อยากจะร้องนักก็ร้องไปเลย “ลิน ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูกหรอกนะ ที่คุณแม่เค้าดุเรา ก็เพราะเค้าเป็นห่วง เราก็เพลาๆ ลงมั่ง ไอ้ความชอบเถียง ชอบดื้อน่ะ คุณแม่จะได้สบายใจ อย่าร้องไห้ เชื่อพี่ คุณแม่รักเราที่สุด” พี่ชายเอ่ยปรามพร้อมปลุกปลอบด้วยเสียงจริงจังไปด้วย ก็น้องสาวเขามันแก่นแก้วเปรี้ยวซ่า เป็นธรรมดาที่แม่ต้องกำราบบ่อยๆ ซึ่งลินลดาก็น้อยอกน้อยใจไปเรื่อย “จริงนะ” เสียงใสๆ พร้อมกับสีหน้าที่เริ่มจะดีขึ้นมานิดๆ ถามกลับ ก่อนจะยกมือปาดน้ำตาป้อยๆ “จริงสิ” เขาบอกก่อนจะยกมือขึ้นขยี้ศีรษะเล็กๆ นั้นด้วยความเอ็นดู “อื้อ พี่ธันย์อ่ะ หัวเค้ายุ่งหมดแล้ว ปล่อยนะ ลินจะไปเดินเล่นคนเดียว ไม่อยากคุยกับคนแก่ขี้บ่นอย่างพี่ธันย์แล้ว ฮ่าๆๆ” ลินลดาโวยวาย ก่อนจะล้อเลียนพี่ชายเสียงระรื่น พร้อมกับกระโดดเหยงๆ หนีมะเหงกของมือหนาที่ยื่นมาหวังตะปบลงบนหน้าผากโหนกซักป้าบ แต่ชายหนุ่มก็ทำได้แค่คิด เมื่อตอนนี้แม่น้องน้อยตัวดีของเขา เผ่นแน่บหนีเข้าไปในสวนผลไม้เรียบร้อยแล้ว “คิกๆ พี่ธันย์ ฮิๆ” สาวน้อยลินลดาหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดีที่ได้หยอกล้อกับพี่ชายสุดหล่อ ก่อนจะนิ่วหน้าน้อยๆ เมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากจุดที่เธอยืนนัก “โอ๊ย!” “เสียงใครอ่ะ” เด็กสาวค่อยๆ ก้าวเดินช้าๆ ตรงไปยังต้นเสียงอย่างแผ่วเบา มือน้อยหยิบกิ่งไม้แห้งเรียวยาวขนาดเหมาะมือยึดไว้มั่น ลินลดาเบิกตากว้างอย่างตกใจที่เห็นเด็กผู้ชายตัวขาวผอมบางคนหนึ่ง กำลังโดนเด็กผู้ชายตัวเล็กผิวเข้มสองคนที่หน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบ ซึ่งคาดว่าคงเป็นฝาแฝดแน่ๆ กำลังประเคนกำปั้นรัวใส่คนตัวโตกว่าอย่างเอาเป็นเอาตาย ด้วยความที่สองรุมหนึ่งจึงทำให้เด็กชายที่ตัวโตกว่าเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด ได้แต่ปัดป้องมือสี่ข้างของสองแฝดนั้น โดยที่ตอบโต้อะไรไม่ได้ นอกจากครางโอ๊ยๆ ด้วยความเจ็บปวด “ไอ้เด็กเวร เล่นหมาหมู่หรอ นี่แน่ๆๆ” กิ่งไม้แห้งฟาดป้าบๆ ลงไปที่ก้นเล็กๆ นั้นสามครั้งซ้อน เรียกความตกใจให้แก่เด็กแฝดคนแรก ก่อนที่มันจะกระโดดหนี เด็กแฝดอีกคนหันมาเห็นจึงละมือจากเด็กชายตัวโต ยกกำปั้นขึ้นหมายจะทุบเด็กสาวที่บังอาจมาทำน้องชายเขา แต่ก็ต้องโดนมือบางของเด็กหญิงที่ตัวสูงอย่างคนที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างอุดมสมบูรณ์ยึดข้อมือเล็กๆ ดำๆ นั้นไว้ ก่อนที่มืออีกข้างที่ถือกิ่งไม้อยู่จะฟาดลงไปที่ก้นของอีกฝ่ายอย่างไม่ออมแรง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม