“ว้าย..โอ๊ย..อ๊าย..”
คือเสียงที่ดังออกมาจากห้องครัวเป็นระยะ นริศรามองไปยังหนุ่มสาวที่แทบจะหยุมหัวกันตลอดเวลา แต่แววตาของเพื่อนรักเธอที่ใช้มองไปยังผู้หญิงคนนั้นกลับอ่อนโยนอย่างที่เธอไม่เคยเห็นเขาใช้มองใครมาก่อน..แม้แต่เธอ
ริมฝีปากจิ้มลิ้มเม้มแน่น หัวใจดวงน้อยปวดหน่วงแปลกๆ เธอรู้ว่าเขาไม่เคยมองเธอเป็นอย่างอื่นนอกจากเพื่อนสนิท ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเคยมองเธอเป็นผู้หญิงบ้างหรือเปล่า แต่เธอกลับแอบชอบเขาจนเต็มพื้นที่ของหัวใจ
“ไอ้ฟืนมันชอบผู้หญิงสวย”
เสียงทุ้มของคนที่กำลังรัวนิ้วบนแป้นพิมพ์ดังขึ้น สายตาของเขาไม่ได้ละจากหน้าจอมามองเธอเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรู้ว่าเธอกำลังทำและกำลังคิดอะไรอยู่
“แล้ว..”
“คนไม่สวยแถมยังกระโดกกระเดกเหมือนทอมก็ต้องทำใจนะ”
“หุบปาก ฟืนมันจะชอบใครไม่ชอบใครก็เรื่องของมัน ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน”
“หึ มองพี่ชายฉันซะตาปรอยขนาดนั้น อันที่จริงถ้าชอบคนหล่อๆ อย่างไอ้ฟืน ฉันก็พอแทนได้นะ เพราะหน้าเราเหมือนกัน ฉันจะหลับหูหลับตาทำให้ก็แล้วกัน ที่ห้องฉันหรือที่ห้องเธอดีล่ะ ยัยทอม”
“ไอ้ทุเรศ ของขวัญน่าจะได้เห็นนะ ว่านายมันทุเรศ ไม่เหมือนภาพลักษณ์สุภาพบุรุษที่สร้างขึ้นมาบังหน้าเอาไว้ตกผู้หญิง”
“ขวัญจะรู้หรือไม่รู้ ก็ไม่เกี่ยวกับฉันและไม่ใช่เรื่องของเธอ ไม่ต้องยื่นจมูกแบนๆ มายุ่ง”
มือใหญ่ละจากแป้นคีย์บอร์ดมาดึงจมูกที่เขากล่าวหาว่าแบน ทั้งที่จริงมันก็ออกจะโด่งกำลังดี รับกับใบหน้าจิ้มลิ้มแลดูน่ารัก
“อย่ามายุ่ง เอามือออกไปนะ”
เธอกระถดถอยหนี แต่เขากลับรั้งตัวเธอให้เซถลามากระแทกอก แล้วถือวิสาสะหอมแก้มเธอแรงๆ ฟอดหนึ่ง ข้อหาหมั่นไส้ที่ชอบทำหน้าทำตาอวดดีกับเขานัก
“ไอ้ไฟ แก..”
“เรียกฉันไอ้เลยเหรอ ยัยทอม”
“ทีนายยังเรียกฉันยัยทอมได้เลย”
“ก็เธอเหมือนทอมจริงๆ”
“ฉันจะเป็นอะไรก็เรื่องของฉัน ไม่ต้องมายุ่ง ปล่อย”
เขาฉวยโอกาสหอมแก้มเธอแรงๆ อีกครั้ง แล้วยอมปล่อยเธอออกจากอ้อมกอด ไม่ใช่เพราะคำขู่ฟ่อๆ นั่นหรอกนะ แต่เป็นเพราะสองคนที่อยู่ในครัวพากันเดินถือจานอาหารมาจัดโต๊ะแล้วต่างหาก
ดวงตากลมโตตวัดมองเขาอย่างเอาเรื่อง ยกมือขึ้นมาถูไถแก้มนวลด้วยความขยะแขยงจนแดงเถือกไปหมด ก่อนจะลุกขึ้นเดินเร็วๆ ไปช่วยสองคนนั้นจัดโต๊ะอาหารเพราะไม่อยากอยู่ใกล้คนฉวยโอกาสอีก
“หึ เป็นทอมประสาอะไร แอบชอบผู้ชาย”
คนหล่อกดเซฟงานที่พิมพ์เสร็จแล้ว ก่อนจะเดินไปร่วมวงเมื่อสามคนนั้นจัดโต๊ะเสร็จพอดิบพอดี
“ไฟลองชิมสิ ฝีมือขวัญเอง”
เชฟสาวแสนสวยตักผัดผักสีสันน่ากินใส่จานให้เพื่อนรัก เขาเอ่ยขอบคุณแล้วตักผักชิ้นนั้นเข้าปาก แล้วก็ต้องทำหน้าตาเหยเกเพราะมันทั้งหวานและเค็มปี๋ แต่จะคายทิ้งก็สงสารเพื่อน จึงตักข้าวเปล่าใส่ปากสองคำโตๆ
“ไม่อร่อยเหรอไฟ ทำไมทำหน้าแบบนั้น”
“เอ่อ คือ..”
แฝดพี่แค่นหัวเราะขำ แล้วเป็นหน่วยกล้าตายตักอาหารที่น่าจะรสชาติแย่นั่นเข้าปาก สัมผัสแรกอยากจะคายทิ้งเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่กลับเคี้ยวมันตุ้ยๆ ราวกับไม่รู้สึกรู้สาในรสชาติสุดห่วยนั่น
“โคตรหวาน แล้วก็โคตรเค็ม ไหนคุณหนูของขวัญคุยโวว่าตัวเองทำอาหารเป็นไง ทำไมรสชาติมันห่วยแบบนี้ล่ะ”
คนตัวบางหน้าตาเหรอหรา ตักผัดผักของตัวเองชิมเพื่อยืนยันว่ามันไม่ได้แย่ แต่กลับต้องคายทิ้งในกระดาษทิชชูทันทีที่ความเค็มปี๋และหวานแหลมแทรกซึมลงสู่ลิ้น
“อี๋ ไม่อร่อยเลย ขวัญขอโทษนะไฟ เอ่อ..พอดีไม่ค่อยได้เข้าครัว เลยกะเครื่องปรุงพลาดไปหน่อย คราวหน้าไม่เป็นแบบนี้แน่”
ทั้งเสียหน้าและอับอาย ที่ทำอาหารรสชาติไม่เอาไหนให้คนที่ตัวเองแอบชอบชิม แถมยังเสียฟอร์มเป็นเท่าตัวเมื่อคนที่ได้ชิมอีกคนคือผู้ชายปากร้ายใจทรามคนนั้น
“ไม่เป็นไรขวัญ ฝึกไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ดี”
“งั้นขวัญเอาไปเททิ้งนะ”
“ไม่ต้อง มันสิ้นเปลือง เห็นไหมว่ากุ้งตัวโตๆ ทั้งนั้น คุณหนูของขวัญบ้านรวยจนกินทิ้งกินขว้างเหรอ”
คนปากร้ายใจทรามเอ่ยห้าม ทั้งยังจิกกัดเธอเล็กน้อยให้แสบๆ คันๆ เล่น
“แต่มันกินไม่ได้ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ก็ได้”
“หึ ไม่ต้อง แต่เธอต้องมาทำอาหารที่นี่ทุกเย็น จนกว่าจะได้เรื่อง ฉันจะสละเวลาเดตกับผู้หญิงมาสอนเธอเอง”
“แล้วทำไมฉันต้องทำแบบนั้น”
“อ้าว ก็ไอ้ไฟมันเพิ่งบอกให้เธอฝึกทำบ่อยๆ”
เธอเหลือบมองเพื่อนรักก็เห็นว่าเขายิ้มให้เธอนิดหนึ่งจึงยอมรับปากว่าจะมาฝึกทำอาหารที่นี่ทุกวัน เข้าทางเชฟหนุ่มผู้ต้องทำหน้าที่เป็นคนฝึกสอน
“อือ ก็ได้”
คนตัวโตที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอยกยิ้มอย่างชอบใจ แล้วตักผัดผักที่มีสรรพคุณทำลายตับและไตเข้าปาก แม้รสชาติมันจะขาดๆ เกินๆ แต่พอเป็นฝีมือของยัยคุณหนูจอมหยิ่งนี่ มันกลับทำให้เขาเจริญอาหารแปลกๆ
“ไอ้ฟืน มึงมันร้าย”
แฝดน้องสรรเสริญพี่ชายทันทีที่สองสาวแยกย้ายกันกลับบ้าน
“กูร้ายอะไร กูยังไม่ทันได้ทำอะไรยัยคุณหนูเพื่อนรักของมึงเลย”
“กูเห็นนะ ว่ามึงแอบแต๊ะอั๋งของขวัญ”
“หึ กูก็เห็นนะว่ามึงแอบหอมแก้มไอ้นุ๊ก มึงขาดของหรือไง กับทอมมึงก็ไม่เว้น ทะเลาะกันมาตั้งหลายปี พอขึ้นปีสี่เสือกเห็นว่าทอมสวยแล้วเหรอ”
“กูแค่แกล้งยัยทอมนั่น ทั้งปากดี ทั้งกวนตีน หมั่นไส้ว่ะ”
“อยากเปลี่ยนทอมให้เป็นเธอ ว่างั้น”
“หึ มึงไม่หวงไม่ห่วงเพื่อนมึงเลยหรือไง ถึงมาแซวกูเนี่ย”
“ห่วงทำไม กูต้องห่วงมึงมากกว่า ไอ้นุ๊กมันธรรมดาที่ไหน ถ้ามึงจะหน้ามืดปล้ำมันจริงๆ มึงสลบคาตีนมันแน่ เห็นตัวเล็กๆ แบบนั้นเถอะ แล้วกูบอกก่อน กูไม่ช่วยมึงนะ จะซ้ำให้ด้วย”
“เออ กูก็ไม่ได้คิดจะปล้ำยัยนั่นจริงๆ สักหน่อย ของขาดอะไร กูยังมีอีกเยอะ ว่าแต่มึงเหอะ แผนสูงนะ หลอกล่อของขวัญมาเรียนทำกับข้าวกับมึงได้”
“ก็ยากนักนี่หว่า หยิ่งฉิบหาย ลองมาอยู่ใกล้ๆ กูดูสิ จะไม่หวั่นไหวให้มันรู้ไป”
“ที่ผ่านมามึงก็ไม่ได้จีบนี่”
“โถ่ หน้ากูยังไม่อยากจะมอง แถมเกาะติดมึงแจ จะให้กูเข้าไปแทรกตอนไหนครับไอ้ไฟ”
“แล้วให้มาเรียนทำอาหารที่ห้องมืดๆ ค่ำๆ จะเอากูไปไว้ที่ไหนครับพี่ชาย”
“อยากไปไหนก็ไปเถอะ ไปที่ชอบที่ชอบนะ ช่วยหายหน้าไปบ่อยๆ กลับดึกๆ หรือกลับเช้าเลยก็ได้ จะเป็นพระคุณมาก”
“นี่มึงกะจะเล่นเพื่อนกูถึงเช้าเลยเหรอ”
“เออ ถ้ามีโอกาส กูเล่นแน่”
“แต่กูขอสั่งห้าม ถ้าขวัญไม่ยอม มึงอย่าเสือกข่มขืนเพื่อนกูเด็ดขาด ไม่งั้นกูกระทืบมึงม้ามแตกแน่ไอ้ฟืน”
“เออ กูไม่ได้เลวขนาดนั้น”