“ไฟ..”
เธอชี้นิ้วไปที่เพื่อนร่วมคลาส เอ่ยเรียกชื่อเขา แล้วชี้นิ้วไปยังผู้ชายรูปหล่ออีกคนที่เหมือนเขาทุกกระเบียดนิ้วซึ่งน่าจะเป็นภาพสะท้อนจากกระจกเงา แต่ไหนล่ะ..กระจก
“ผมไฟถูกแล้ว แต่นั่น ฟืน พี่ชายฝาแฝดของผม”
“ฟืน พี่ชายฝาแฝดหรือ”
“ใช่”
จริงสิ เธอลืมความจริงข้อนี้ไปได้อย่างไร ก็สาวๆ ทั้งในและนอกคณะลือกันให้แซดว่าเขามีฝาแฝดที่ทั้งหล่อและเท่ไม่ต่างจากเขา ซึ่งเธอเองก็ไม่เคยได้เจอหน้าสักครั้งจนลืมเลือนเรื่องนี้ไปแล้ว
แต่ที่จะแตกต่างออกไปจนสามารถแยกฝาแฝดคู่นี้ออกและเป็นที่โจษจันไปทั่วเห็นจะเป็นความเจ้าชู้ ร้ายกาจ และดิบเถื่อนตามสไตล์หนุ่มวิศวะ ที่แค่มองเขาปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเขาเป็นเหมือนคำพูดพวกนั้นจริงๆ แค่เห็นหน้าก็ไม่ถูกชะตาเสียแล้ว
“สวัสดีครับคุณหนูของขวัญ ไม่เคยได้ยินชื่อ ฟืน วิดวะ ผู้ชายที่ฮ็อตที่สุดในโยธาหรือไง ถึงเรียกฉันเป็นไอ้ไฟ”
คนหล่อยืนกอดอกไขว้ขาเอนตัวพิงผนังห้องด้วยท่วงท่าสุดเท่ ดวงตาคมกริบดูดุดันมีเสน่ห์มองเธอไม่วางตา แถมยังยกยิ้มมุมปากอย่างกวนอารมณ์ที่สุด
ไอ้เรื่องหล่อ มันก็หล่ออยู่หรอก เพราะเขาสองคนหน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ แต่เธอสัมผัสได้เลยว่าลึกลงไปในดวงตาของผู้ชายสองคนนี้มันต่างกัน
เพื่อนร่วมคลาสของเธอ แม้ดวงตาจะคมกริบมีเสน่ห์ เหมือนฝาแฝด แต่ก็ดูอ่อนโยนกว่าหมอนั่นเยอะ ของหมอนั่นน่ะเหรอ ทั้งดูดุดันเกรี้ยวกราดและรู้สึกว่ามันดูล้ำลึกอ่านยาก น่ากลัวจนไม่อยากเฉียดกรายเข้าใกล้
แถมเขายังเรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ หนึ่งในคณะต้องห้ามสำหรับเธอ เพราะเธอไม่อยากทำความรู้จักกับใครที่เรียนคณะนี้ทั้งนั้น ลูกคุณหนูอย่างเธอไม่ชอบผู้ชายดิบเถื่อน เลวทราม และนอนกับผู้หญิงไม่เลือกเหมือนที่ได้ยินเสียงซุบซิบนินทาของสาวๆ ที่มักจะอกหักจากนิสัยแย่ๆ ของผู้ชายคณะนี้
“อ๋อ เคยได้ยินอยู่ ชื่อเสียงเน่าๆ ของนายออกจะลือกันให้กระฉ่อน แต่ฉันไม่อยากจะใส่ใจ”
เป๊ง!! เสียงระฆังบอกสัญญาณยกที่หนึ่ง เริ่มต้นขึ้น หนุ่มหล่อสาวสวยสบประสานสายตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร
คนหล่อแค่นหัวเราะในลำคอแล้วยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ ยัยคุณหนูนี่ปากดีแบบนี้นี่เอง ไอ้ไฟมันถึงบอกให้เขาคิดอีกที ว่าถ้าเธอตื่นมาแล้วเขายังจะอยากจับเธอกินอยู่ไหม
“หึ แล้วผู้ชายแบบไหนที่คุณหนูของขวัญอยากจะใส่ใจล่ะครับ”
“แบบไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่แบบนาย แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าคุณหนูเสียที อยากเป็นเบ๊ฉันหรือไง”
“ต่อให้เธออยากได้ฉันไปเป็นเบ๊ แต่ต้องเสียใจด้วยนะ ฉันไม่ชอบเป็นเบี้ยล่างใคร ยกเว้นแค่ตอนอยู่บนเตียง ถ้าอยากให้ฉันเป็นเบี้ยล่างของเธอ ก็มาขึ้นเตียงกับฉันสิ”
“ทุเรศ ผู้ชายอย่างนาย ขาอ่อนของฉันก็ไม่มีวันได้เห็นหรอก”
“ฮ่าๆๆๆ ฉันก็ไม่ได้อยากจะเห็นขาอ่อนของเธอหรอกนะ ของขวัญ”
ใช่สิ เพราะสิ่งที่เขาอยากเห็นที่สุดในร่างกายของเธอ มันไม่ใช่ขาอ่อน แต่มันคือบางอย่างที่ดูท่าจะนุ่มนิ่มล่อหน้าล่อตาเขาตั้งแต่เมื่อคืนนั่นต่างหาก
ดวงตาคมกริบวาบขึ้น มองคนตัวบางที่เพิ่งตื่นนอนราวกับลูกกวางน้อยเนื้อหวาน ที่ยิ่งแสดงความพยศออกมาเท่าไร เนื้อของเธอก็จะยิ่งหวานติดลิ้นเท่านั้น
“พอก่อน ไม่ต้องเถียงกัน ของขวัญไปอาบน้ำก่อนไหม แล้วออกไปกินข้าวต้มกัน”
แฝดน้องจำต้องลั่นระฆังบอกเวลาหมดยก เพราะขืนปล่อยให้เถียงกันไปเรื่อยๆ นอกจากเธอจะเกลียดขี้หน้าพี่ชายของเขาแล้ว เธอจะพาลมาเกลียดขี้หน้าเพื่อนร่วมคลาสอย่างเขาด้วย
“ไม่เป็นไร ขวัญกลับคอนโดดีกว่า เฮ้ย ยัยเกรซล่ะ เห็นโทรศัพท์ขวัญไหม”
“เกรซทำไมเหรอ เมื่อคืนขวัญไปกับเกรซเหรอ”
สองสาวนี่คือเพื่อนสนิทกัน ที่ทุกคนมักจะเห็นว่าตัวติดกันเสมอ จนเพื่อนผู้ชายในคลาสหลายคนที่เข้าไปจีบเธอแล้วกินแห้วกลับมาต่างสงสัยว่าเกศรินคนนี้คือแฟนตัวจริงของคุณหนูของขวัญ
“ใช่ ขวัญจะกลับไปนอนห้องเกรซ เกรซไปเข้าห้องน้ำ แต่ขวัญมารู้ตัวอีกทีก็ตอนโดนไอ้ชลัชนั่นลากออกมาแล้ว ยัยเกรซต้องตกใจมากแน่ๆ ที่กลับโต๊ะมาแล้วไม่เจอขวัญ”
ยังไม่ทันที่สองหนุ่มจะได้ถามถึงว่าไอ้ชลัชที่เธอเอ่ยชื่อมาแล้วถึงสองครั้งคือใคร โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมใบจิ๋วของเธอซึ่งวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงก็สั่นขึ้นมาเสียก่อน
อัคคีส่งโทรศัพท์ให้ ไม่วายแอบดูหน้าจอว่าใครกันแน่ที่โทรหาเธอ ก็เบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย เมื่อคำว่า My GRACE โชว์หราอยู่
“เกรซโทรมาจริงๆ ด้วย”
“ของขวัญ นี่แกอยู่ไหน ทำไมเมื่อคืนไม่รอฉัน ฉันตามหาแกแทบแย่ โทรหาจนมือจะหัก จะบุกไปที่บ้านแกแล้วนะ”
“ใจเย็นเกรซ ฉันปลอดภัยดี ตอนนี้ฉันอยู่ที่ เอ่อ..ห้อง”
“ห้อง ห้องไหน ห้องใคร”
“เอ่อ..คอนโดน่ะ”
“ฉันจะไปหาแกเดี๋ยวนี้ รอแป๊บนะ”
“เฮ้ย ไม่ต้องมาหรอก เดี๋ยวฉันจะกลับบ้าน”
“กลับทำไม วันนี้พ่อแกจะไม่อยู่ไม่ใช่เหรอ จะกลับไปให้ไอ้ชลัชมันลวนลามหรือไง แกเป็นอะไรหรือเปล่าของขวัญ ฉันว่าแกดูแปลกๆ ไปนะ”
“ไม่มีอะไร ฉันเมาค้าง ลืมไปเลยว่าพ่อไม่อยู่ ขอบใจนะที่เตือน ฉันขอนอนต่อก่อนได้ไหม เดี๋ยวเย็นๆ โทรหาอีกที”
“ต้องโทรมานะ ถ้าแกไม่โทรมา ฉันบุกถึงห้องจริงๆ ด้วย”
“อืม แค่นี้ก่อนนะเกรซ”
“อือ ฉันก็จะนอนบ้าง หลับๆ ตื่นๆ คอยแต่จะโทรหาแกเนี่ย”
“ฉันขอโทษ”
“อือ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”
เธอวางสายไปแล้วก็ลุกขึ้นยืนเตรียมตัวจะกลับคอนโดของตัวเอง แม้จะรู้สึกดีที่ได้มาอยู่ในห้องของเดือนคณะที่เธอแอบปลื้มตั้งแต่สบตากันครั้งแรกในวันปฐมนิเทศน์ แต่จะอยู่ในสภาพนี้นานๆ ก็คงไม่เหมาะ
“ขวัญกลับก่อนนะไฟ ขอบคุณมากค่ะ ที่ช่วยขวัญเอาไว้ ไม่งั้นขวัญแย่แน่ๆ”
“เดี๋ยวสิ ไม่อาบน้ำกินข้าวก่อนเหรอ เดี๋ยวผมไปส่ง เมื่อคืนขวัญมารถไอ้ฟื..เอ่อ รถผม”
“ไม่เป็นไรดีกว่า ขวัญไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน ว่าแต่ที่นี่มันอยู่ส่วนไหนของกรุงเทพฯ คะ”
“H คอนโด ใกล้มหา’ลัยของเรา”
“ไฟก็อยู่ที่นี่เหรอ”
“หมายความว่าขวัญก็อยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอ”
“ใช่ เพิ่งย้ายมาไม่นานเอง”
“บังเอิญจัง ดีเลย งั้นขวัญกลับไปอาบน้ำที่ห้องก็ได้ แล้วมากินข้าวต้มที่ห้องผมนะ ไอ้ฟืนมันอุตส่าห์ทำให้ขวัญ”
รอยยิ้มหวานๆ หุบลงทันทีเมื่อรู้ว่าคนที่ทำข้าวต้มให้เธอคือผู้ชายกวนประสาทคนนั้น แม้จะไม่อยากกิน แต่โอกาสงามๆ ที่เธอจะได้ใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมคลาสคนนี้ก็ไม่ได้มีมาบ่อยๆ จึงตอบตกลง และวันนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นให้เธอกับเขา สนิทสนมกันจนถึงวันนี้