"แกต้องไปเมืองไทย" มาโคเอ่ยบอกลูกชายคนเดียวที่ตอนนี้กำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะตอนนี้เขากำลังล้มแก้งค์แบล๊คดาก้อนให้หมดไปเพื่อจะได้เป็นหนึ่งเดียวในมาเก๊าและฮ่องกง เขาจึงต้องส่งลูกชายคนเดียวไปหลบที่เมืองไทยเพื่อความปลอดภัย
"ผมไม่อยากไป ผมอยากช่วยแด๊ด" ลีโอเอ่ยบอกบิดาถึงแม้เขาจะอายุแค่ยี่สิบเอ็ดแต่เขาก็เรียนการต่อสู้มาอย่างดี
"ไม่ได้ แด็ดเหลือแกแค่คนเดียวแด๊ดไม่มีทางให้แกตายแบบอาเหมยเด็ดขาด" มาโคพูดถึงภรรยาที่ล่วงลับไปเพราะถูกเจมส์ เอโรนิกส์ฆ่าตายเมื่อสิบปีก่อน จนตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะได้แก้แค้นให้ภรรยาของเขาแล้ว
"ผมก็เหลือแค่แด๊ดคนเดียวเหมือนกัน" ลิโอยังเอ่ยโต้กลับบิดา
"แกต้องไปนี่คือคำสั่งของฉันลีโอ" มาโคเอ่ยเสียงดังอย่างทรงอำนาจ
"แต่" ลีโอเอ่ยออกไปก็ทำหน้าเศร้าๆ
"แกโตแล้วนะลีโอ ต่อไปแกต้องมาสานต่อธุรกิจทั้งหมดของพ่อแกจะอ่อนแอไม่ได้" มาโคพูดออกมาจริงจัง
"ก็ได้ครับแด๊ด แล้วผมต้องไปเมื่อไหร่" ลีโอเอ่ยถามบิดา
"พรุ่งนี้ แด๊ดจะให้โทนี่ไปกับแกด้วย แล้วอีกอย่าง แด๊ดยกธุรกิจที่ไทยให้แกดูแล แต่แกห้ามเปิดเผยตัวเองกับใครทั้งนั้นจนกว่าเรื่องทางนี้จะจบ" มาโคเอ่ยบอกลูกชายเพราะเป็นห่วง จึงให้โทนี่ตามไปคอยดูแลลูกของเขา
"ครับแด๊ด" ลีโอเอ่ยออกไปก็เข้าไปกอดบิดา
ด้านแพรนลินที่กลับบ้านดึกจากการสังสรรค์กับเพื่อนๆก็ไม่ตื่นนอน จนผู้เป็นแม่ต้องขึ้นมาหาถึงที่เพราะให้ใครมาปลุกยัยลูกสาวตัวแสบก็ไม่ยอมลุก
"ตื่นได้แล้วยัยแพร เราจะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน นี่มันสามโมงแล้วนะ ลุกขึ้นมาแต่งตัวได้แล้ว เดี๋ยวต้องไปงานเลี้ยงกับแม่อีกนะยัยแพร" พรพรรณเอ่ยบอกลูกสาวก็เขย่าตัวลูกสาวไป
"โอ้ยคุณแม่ แพรขอนอนอีกแปปนึงไม่ได้เหรอคะ" แพรนลินเอ่ยบอกก็งัวเงียเอ่ยบอกมารดาไปแบบง่วงๆ
"ไม่ได้ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย ไม่งั้นแม่จะตัดเงินบัตรเคดิตเราทั้งหมด" พรพรรณเอ่ยขู่ลูกสาวไป
"ตื่นก็ได้ค่ะ อย่าตัดวงเงินแพรเลยนะคะ จุ๊บ" แพรนลินบอกไป ก็ลุกขึ้นไปอ้อนมารดาก่อนจะหอมแก้มไปหนึ่งที
"เรานี่นะ ไปอาบน้ำได้แล้วไป " พรพรรณเอ่ยออกไปเพราะกลิ่นเหล้าจากตัวลูกสาวฟุ้งกระจายเข้าจมูกจนน่าเวียนหัว
"ค่ะคุณแม่ " แพรนลินพูดออกไปก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำ พรพรรณมองตามอย่างเหนื่อยใจกับลูกสาวคนนี้
"ชุดมาแล้วค่ะคุณพรรณ" ชื่นเอ่ยบอกแล้วถือชุดราตรีไว้ในมือ
"เดี๋ยวชื่นดูยัยแพรนะ ฉันไม่ไหวแล้ว" พรพรรณเอ่ยบอกก็เดินออกไป จากนั้นชื่นก็จัดการช่วยคุณหนูที่เธอรักดังลูกสาวคนหนึ่งแต่งตัวทันที
"ป้าชื่นคะ แพรไม่อยากไปเลยงานเลี้ยงอะไรนี่เลยเลยค่ะ" แพรนลินเอ่ยออกมาอย่างไม่ชอบใจที่เธอต้องไปงานเลี้ยงพวกนี้
"ทำไมล่ะคะ เป็นงานของคุณสิตา คุณหนูยิ่งต้องไป" ชื่นเอ่ยบอกแพรนลิน
"ก็เพราะเป็นงานของพี่สิตาเนี่ยแหละค่ะ แพรเลยไม่อยากไป ป้าชื่นก็รู้นิคะว่าพี่สิตาชอบกัดแพรจะตาย ถ้าไม่ใช่ญาติกันล่ะก็ แพรจะจัดการให้เข็ด " แพรนลินเอ่ยออกไปทำหน้ามุ้ย
"ไม่พูดแบบนั้นสิคะ เดี๋ยวคุณพรรณได้ยินจะดุเอานะคะคุณหนู" ชื่นเอ่ยเตือนแพรนลินไป
"ช่างเถอะค่ะ ยังไงแพรก็ไม่เคยดีในสายตาใครอยู่แล้ว" แพรนลินเอ่ยออกมาอย่างน้อยใจเพราะพ่อกับแม่ของเธอมักจะทำงานจนลืมสนใจเธอ
"ไม่จริงนะคะ คุณหนูยังมีคุณพ่อคุณแม่แล้วก็ป้าไงคะที่รักคุณหนู" ชื่นเอ่ยบอกออกไปด้วยรอยยิ้ม
"ก็คงมีแต่ป้าชื่นแหละค่ะที่ใส่ใจแพร" แพรนลินเอ่ยออกไปแบบน้อยอกน้อยใจ
"ทุกวันนี้ท่านทั้งสองทำทุกอย่างก็เพื่อคุณหนูนะคะ อย่าคิดน้อยใจท่านเลยค่ะมันบาปนะคะ"ชื่นเอ่ยออกไปก็จับมือของแพรนลินไว้
"แพรแค่น้อยใจเท่านั้นแหละค่ะ ยังไงแพรก็รักพ่อกับแม่อยู่ดี แล้วก็รักป้าชื่นด้วย" แพรนลินเอ่ยออกไปก็เข้าไปกอดแม่นมที่ดูแลเธอมาตั้งแต่เล็กๆ
"งั้นก็ลงไปข้างล่างได้แล้วค่ะ เดี๋ยวจะไปงานไม่ทัน" ชื่นเอ่ยบอกแพรนลินก็จูงมือเธอลงไปข้างล่าง
"อ้าว พี่พิทจะไปไหนคะนั่น" แพรนลินเอ่ยถามพาทิศ หลานของป้าชื่นที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ ที่ถือกระเป๋าใบใหญ่อยู่ห้องนั่งเล่น
"เราเที่ยวจนไม่สนใจพี่เลยสินะ ถึงไม่รู้ว่าพี่จะไปต่อโทที่อเมริกา" พาทิศเอ่ยออกไปก็ทำหน้างอนๆอย่างล้อเล่น
"สนใจสิคะ แล้วจะไปวันนี้เลยเหรอคะ" แพรนลินเอ่ยถามออกไปก็เข้าไปเกาะแขนพี่ชายที่เธอรักเหมือนพี่ชายแท้ๆ
"อืม เราอยู่ที่นี่ก็อย่าทำให้คุณท่านเสียใจนะ แล้วก็ตั้งใจเรียนอย่าเที่ยวให้มาก ต่อไปพี่คงดูแลเราตลอดไม่ได้แล้ว" พาทิศพูดออกไปก็ใช้มือลูบผมของแพรนลินอย่างรักใคร่
"แล้วแบบนี้เวลาแพรเมา ใครจะไปรับแพรละคะเนี่ย" แพรนลินเอ่ยออกไปก็ทำหน้าเศร้าๆ เพราะเวลาเธอไปเที่ยวพี่ชายคนนี้จะคอยไปรับเธอเสมอ
"เราก็ไม่ต้องไปเที่ยวสิ" กำพลเอ่ยออกมาเมื่อเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นพอดี
"สวัสดีครับคุณท่าน" พาทิศเอ่ยออกไปก็ยกมือไหว้กำพลและพรพรรณที่เดินเข้ามาอย่างเคารพรัก เพราะทั้งสองส่งเสียเขาเรียนจนจบปริญญาเป็นหมอดังที่เขาฝัน แถมยังพ่วงด้วยยศผู้หมวดอีกต่างหาก
"จะไปวันนี้แล้วเหรอตาพิท" พรพรรณเอ่ยถามออกไปแบบสงสัย
"ครับคุณท่าน ทางมหาลัยที่นั่นเขาเรียกตัวแล้วครับ" พาทิศเอ่ยบอกแล้วก็ยิ้มออกไป
"ฉันล่ะภูมิใจแทนชื่นจริงๆ ดูสิตาพิททั้งเก่งทั้งฉลาดจนได้ทุนไปเรียนต่อถึงต่างประเทศ " พรพรรณเอ่ยออกมาแล้ว หันมามองลูกสาวของตัวเองแบบเหนื่อยใจ ที่ไม่เอาไหนซะเลย
"คุณพรกับคุณพลต่างหากค่ะ ที่ทำให้ตาพิทมีทุกวันนี้ได้ " ชื่นเอ่ยออกมาก็ยิ้มอย่างมีความสุข
"อ่ะเอานี่ไป" กำพลพูดออกไปก็ยื่นเช็คเงินจำนวนห้าล้านบาทให้กับพาทิศไป
"ผมขอไม่รับนะครับ ที่ผ่านมาผมก็ได้จากท่านมาเยอะแล้ว" พาทิศเอ่ยออกไป
"ถือซะว่าเป็นเงินของป้ากับลุงที่ให้เราเป็นรางวัลนะลูก กว่าเราจะกลับมาก็อีกตั้งนานเงินทุนจะไปพอใช้อะไร เอานี่ไปนะลูกไม่งั้นป้าโกธรเราจริงๆด้วย" พรพรรณเอ่ยเสริมออกไป
"ถ้าพี่พิทไม่เอา แพรเอานะคะ" แพรนลินแซวออกมา
"ก็ได้ครับคุณท่าน ขอบคุณครับ ชีวิตนี้ผมไม่รู้จะตอบแทนท่านทั้งสองยังไงแล้วครับ" พาทิศรับเช็คมาแล้วไหว้ขอบคุณผู้มีพระคุณทั้งสอง
"ไม่ต้องตอบแทนลุงกับป้าหรอก แค่เราช่วยดูแลยัยแพรแค่นี้ลุงก็พอใจแล้ว" กำพลเอ่ยออกไปเพราะเขาก็รักพาทิศไม่ต่างจากลูกชายแท้ๆ เพราะเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ
"ครับคุณท่าน ต่อไปผมจะดูแลน้องแพรเองครับ" พาทิศเอ่ยบอกออกไป จากนั้นพาทิศก็กล่าวลาทุกคนก่อนจะเดินทางไปสนามบิน
"ร้องไห้ทำไมยัยแสบ พี่เขาไปแค่สองปีเองดูสิหน้าสวยๆเลอะหมดแล้ว" กำพลเอ่ยบอกเมื่อเห็นลูกสาวร้องไห้
"แพรเปล่าสักหน่อย " แพรนลินพูดไปก็ปาดน้ำตา จนพ่อแม่และป้าชื่นหัวเราะใส่เธอที่เป็นเด็กขี้แย
หลังจากพาทิศมาลาไปเรียนต่อ กำพลก็พาภรรยาและลูกสาวไปงานเลี้ยงวันเกิดของหลานสาวต่อทันที
"กำพล พี่กำลังรอแกอยู่พอดี" กอบพลเอ่ยทักเมื่อเห็นน้องชายตัวเองเดินเข้ามา
"สวัสดีค่ะคุณอา" วาสิตาเอ่ยไหว้ผู้เป็นอาก่อนจะหันไปไหว้พรพรรณอีกคน
"ไว้พระเถอะลูก นี่จ้ะของขวัญวันเกิด" พรพรรณพูดไปก็ยื่นกล่องของขวัญให้หลานสาว
"ยัยแพร สวัสดีคุณลุงกอบสิต้องให้พ่อบอกรึไง" กำพลเอ่ยกระซิบลูกสาว
"สวัสดีค่ะคุณลุง พี่สิตา" แพรนลินไหว้อย่างไม่เต็มใจนัก เพราะแท้จริงแล้วสองพ่อลูกนี่ก็ไม่ได้อยากนับญาติกับเธอนักหรอก อีกอย่างเธอเคยได้ยินพ่อกับแม่คุยกันว่าลุงกอบพลโกงคุณพ่อของเธอไปหลายล้าน แต่คุณพ่อก็ให้อภัยเพราะเป็นพี่น้องกันจึงไม่ว่าอะไร แต่สำหรับเธอมันไม่ใช่
"ไม่มีของขวัญให้พี่เหรอจ้ะน้องแพร" วาสิตาเอ่ยถามแล้วยิ้มให้พร้อมสายตาท้าทาย
"ได้ไปก็เยอะแล้วนี่คะ จะเอาอะไรอีก" แพรนลินเอ่ยออกไป
"ยัยแพร" กำพลดูลุกสาวเสียงเข้ม
"ไม่เป็นไรหรอกน่า หลานแพรคงแค่ล้อเล่นอย่าไปดุเลย"กอบพลเอ่ยออกไปทั้งที่ในใจเกลียดแพรนลินมาก
"แพรขอตัวไปเดินเล่นก่อนนะคะ"แพรนลินไม่อยากพูดคุยต่อจึงขอตัวออกมา
"เดี๋ยวสิตาไปดูน้องเองค่ะ" วาสิตาเอ่ยออกมาก็เดินตามแพรนลินไปอย่างแค้นเคือง
"แกคิดว่าแกเป็นใคร ถึงมาว่าให้ฉันแบบนั้น" วาสิตาเอ่ยออกมา เมื่ออยู่กับแพรนลินที่สวนสองคน
"หึ ก็เป็นคนที่ทำให้พี่สิตากับลุงกอบมีเงินใช้มือเติบขนาดนี้ไงคะ เงินที่แอบโกงพ่อแพรไปคงใช้สนุกเลยสิท่า" แพรนลินพูดออกไปก็แสยะยิ้มใส่
"ยัยแพร แก" วาสิตาเอ่ยออกไปอย่างโกธรแค้น
"ทำไมคะ ที่ไม่เถียงเพราะมันเรื่องจริงสินะ" แพรนลินเอ่ยออกไปอย่างไม่กลัวแล้วเดินเฉิดออกไปทันที
"สักวันฉันจะเหยียบแกให้จมดินยัยแพร" วาสิตาเอ่ยออกมาแล้วกำมัดแน่นอย่างโกธรเคือง
พอแพรนลินออกมาจากสวนหลังจากที่ต่อปากต่อคำกับวาสิตาแล้ว เธอจึงโทรให้ปาริตาเพื่อนสาวคนสนิทให้มารับออกไปจากงานนี้
"ยัยแพรกลับมารึยังชื่น" พรพรรณเอ่ยถามเมื่อเข้ามาในบ้าน เพราะลูกสาวตัวแสบเล่นออกจากงานโดยไม่บอกไม่กล่าว
"กลับมาแล้วค่ะ แล้วก็กลับกรุงเทพไปแล้วค่ะ" ชื่นเอ่ยบอกพรพรรณ เพราะแพรนลินเรียนที่กรุงเทพ จึงเดินทางไปมาระหว่างพัทยากับกรุงเทพเสมอ
" ก่อเรื่องแล้วก็หนีกลับกรุงเทพตลอด" พรพรรณเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยใจ
"เอาน่า ลูกคงกลับไปเรียนเดี๋ยวเงินหมดยัยแพรก็กลับมาเองแหละน่า" กำพลเอ่ยออกไปเพราะลูกสาวมักจะทำแบบนี้เสมอ
"รอบนี้ใครมารับล่ะ ยัยริต้าหรือว่ายัยแพท" พรพรรณหันไปถามชื่น
"คุณริต้าค่ะ" ชื่นตอบออกไปก็ยิ้มแห้งๆให้พรพรรณ
จากนั้นพรพรรณก็โทรหาริต้าเพื่อนของลูกสาวทันที เพราะติดต่อลูกสาวตัวเองไม่ได้ และเธอก็ติดต่อปาริตาไม่ได้เช่นกัน
ด้านแพรนลินก็มาถึงคอนโดที่บิดาซื้อให้ก็บอกให้เพื่อนสาวไปเที่ยวต่อ วันนี้เธอไม่มีอารมณ์จะไปไหนทั้งสิ้น
เช้าอีกวัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ลีโอเดินออกมาอย่างสง่าพร้อมกับการ์ดที่ตามมาดูแลเขาอีกนับสิบคน จนเป็นที่สนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปมา
"โทนี่ ไม่ต้องให้คนตามฉันแบบนี้อีกแล้ว แล้วก็ไม่ต้องใส่สูทกันแบบนี้ ให้แต่งตัวให้กลมกลืนกับคนที่นี่ซะ" ลีโอเอ่ยบอกโทนี่ที่เป็นทั้งเพื่อนและพี่ในเวลาเดียวกัน
"ครับ นายน้อย" โทนี่เอ่ยบอกก็สั่งลูกน้องทันที ก่อนจะเดินทางไปยังที่พักที่เตรียมไว้ให้นายน้อย จนกระทั่งเดินทางมาถึงที่คอนโดหรูก็มีอาเทอร์เพื่อนของลีโอมารอต้อนรับถึงห้อง
"เป็นไงไอ้เพื่อนยาก ทำไมแกถึงมาไทยกะทันหันแบบนี้วะ" อาเทอร์เอ่ยถามเพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆถึงแม้จะอยู่คนละประเทศแต่เขาก็สนิทกันมาก
"ก็เรื่องแก้งค์นั่นแหละว่ะ ฉันถึงต้องมากบดานอยู่ที่นี่ อ่อ แล้วแกห้ามบอกใครเด็ดขาดว่าฉันเป็นใคร ให้บอกแค่ว่าฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องกับแกก็พอ" ลีโอเอ่ยออกไปเพราะพรุ่งนี้เขาต้องไปมหาวิทยาลัย เขาไม่อยากเป็นที่สนใจของใคร
"เออๆ แล้วหน้าตาแบบแกเนี่ย แกคิดว่าจะรอดสาวๆรึไงวะ ยังไงแกก็เป็นที่สนใจอยู่ดีแหละวะ" อาเทอร์เอ่ยบอกไปแบบนั้น เพราะหน้าตาเพื่อนเขาดีขนาดนี้คงเป็นที่สนใจแน่ๆ
"ใครบอกว่าฉันจะไปเรียนลุคนี้ล่ะ" ลีโอพูดออกมาก็ยิ้มด้วยแววตาเจ้าเล่ห์
"ครับไอ้เพื่อน แกจะทำอะไรก็ช่วยไว้หน้าฉันด้วยละกัน" อาเทอร์เอ่ยบอก เพราะยังไงเขาก็เป็นถึงลูกเจ้าของมหาลัย จึงไม่อยากมีเรื่องเสียหาย
"เออน่า แกกลับไปได้แล้วไปพรุ่งนี้ค่อยมารับฉัน" ลีโอเอ่ยบอกเพื่อน
"อะไรวะ คืนนี้ว่าจะชวนไปหาสาวๆสักหน่อยมาไล่กันแบบนี้เลยเหรอวะ" อาเทอร์เอ่ยบ่นออกไปแล้วทำหน้าเซ็งๆ
"วันอื่นเถอะว่ะ วันนี้ฉันเหนื่อยแล้ว ไปเอาสาวก็คงไม่มันส์" ลีโอเอ่ยบอกแบบขำๆ
"เออๆ งั้นพรุ่งนี้เจอกัน" อาเทอร์เอ่ยออกไปก็ออกจากห้องไป เพราะเขามีที่ที่ต้องไปต่ออีก