18.40 น.
“ ทำไมพี่ชอบผิดคำพูดอยู่เรื่อย...” ฉันมองท้องฟ้าที่เริ่มมืดลงเรื่อยๆ ก่อนจะลุกขึ้น พร้อมกับตัดสินใจแล้วว่าจะไม่รอพี่เขาแล้ว...
ฉันเดินมายืนรอรถแท็กซี่ก่อนจะโบกรถคันที่ว่างแล้วขึ้นไป..ในใจมันก็รู้สึกน้อยใจที่พี่เขาทำกับฉันแบบนี้ ฉันเพียงแค่อยากให้พี่เขารักษาคำพูดบ้าง นี่ถ้าเป็นครั้งแรกฉันก็ไม่เป็นไรหรอก แต่นี่มันหลายครั้งแล้ว
มันไม่มีใครชอบโดนทิ้งให้รอแบบไร้จุดหมายแบบนี้หรอก...
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดโหลดแอพที่พี่วาแนะนำพร้อมกับสมัคร User...
ในใจมันก็คิดแค่ว่า เอาวะ ! ฉันต้องให้โอกาสตัวเองเจอคนอื่นบ้าง ต้องมั่นใจในตัวเองบ้าง มันต้องมีสักคนดิที่รักฉันในแบบที่ฉันเป็น...
ครืนนน ครืนนน
ในขณะที่ฉันกำลังสมัครแอปอยู่หน้าจอฉันมันก็ปรากฎชื่อของคนที่กำลังโทรเข้ามาพอดี นั่นก็คือพี่ขุน
พึ่งนึกได้หรือไงว่าต้องมารับฉัน...ฉันกดตัดสายพี่เขาก่อนจะกดเข้าไลน์
Eve.e : อีฟจะบอกแม่ว่า อีฟขอกลับมาก่อน
JKhun : อีฟพี่ขอโทษ อีฟอยู่ไหน
Eve.e : อีฟกลับมาแล้วค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ
JKhun : โกรธพี่ใช่มั้ย
Eve.e : ไม่ค่ะ
ฉันพิมพ์ตอบพี่เขาเสร็จก็เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าทันที ไม่โกรธงั้นหรอ ฉันโกรธมากต่างหาก โกรธจนมันจะร้องไห้อะ แต่ฉันก็ต้องบอกพี่เขาไปอย่างนั้น บอกไปทั้งๆ ที่มันรู้สึกตรงกันข้าม
แต่ก็ช่างมันเถอะ ยังไงฉันกับพี่เขามันก็ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้
นอกจากพี่น้อง...
หลายวันต่อมา..
@มหาลัย
“ มึงงั้นเดี๋ยวเจอกันที่ห้องกูเลยนะ...” นาราหันมาพูดกับพวกฉันหลังจากที่เดินออกจากลิฟท์คณะมา เย็นนี้พวกฉันมีนัดกินชาบูที่ห้องนารามัน รายนั่นตั้งแต่โสดก็ลากพวกฉันไปห้องมันทุกวัน แต่ฉันก็เข้าใจมันแหละปกติมันจะมีพี่เหนืออยู่ด้วยตลอดพอเลิกกันมันก็ต้องเคว้งเป็นธรรมดา
“ โอเคมึง...” ซอลตอบ
พวกฉันพยักหน้ารับรู้กัน เพลงมันก็ไปกับนารา ฉันกับซอลแยกกันเพราะเอารถมา...ฉันเดินมาที่รถตัวเองที่จอดอีกฝั่งของตึกคณะ
แล้วคือที่ลาดจอดฝั่งนี้มีรถจอดนับคันได้เลยอะ อาจจะด้วยความที่มันเป็นคลาสเย็นด้วยคนก็มีเรียนน้อย เผลอๆ อาจจะมีแค่คลาสฉันหรือเปล่าก็ไม่รู้
ฉันเดินมาถึงรถก่อนจะล้วงมือเข้าไปหากุญแจรถในกระเป๋า แต่หาเท่าไหร่ก็ยังหาไม่เจอ
กระเป๋านฉันค่อยข้างรกน่ะ แฮร่...
“ เจอแล้ว...” ฉันพูดออกมาก่อนจะรีบหยิบกุญแจขึ้นมาพร้อมกับกดปลดล็อครถ แต่เดี๋ยวนะ จริงๆ ฉันไม่ต้องใช้รีโมทรถก็ได้นี่
โง่อีกละ ชารดา - -‘
หมับ !
ปึก !!
“ โอ๊ยย ! ” ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บ เพราะในขณะที่ฉันกำลังจะเปิดประตู่รถ จู่ๆ ก็โดนมือหนาคว้าเข้าที่ข้อมือพร้อมกับดึงตัวฉันให้หันหน้าไปหาเขาก่อนจะดันตัวฉันให้ติดกับประตูรถ
ฉันมองหน้าร่างสูงตรงหน้าด้วยความตกใจ เพราะฉันไม่คิดว่าพี่เขาจะมาอยู่ตรงนี้
“ นี่พี่ทำบ้าอะไร อีฟเจ็บนะ ! ”
“ ก็เราไม่รับสายพี่...” พี่ขุนพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดพร้อมกับมองหน้าฉัน
“ ก็เรียนอยู่...”
“ เลิกเรียนแล้วก็โทรกลับได้...”
“ ลืม...” ฉันพูดพร้อมกับพยายามบิดข้อมือตัวเองออกจากมือพี่เขา แต่พี่เขาก็ไม่ยอมปล่อยสักที
“ พี่โทรหาอีฟตั้งแต่เมื่อวันนั้นแล้วนะ...”
“ ก็บอกว่าลืมไง ปล่อยอีฟได้แล้ว อีฟเจ็บข้อมือ...” ฉันพูดพร้อมกับมองไปที่ข้อมือตัวเอง พี่ขุนก็ยอมปล่อยแต่พี่เขาก็ยังไม่ขยับตัวถอยห่างไปจากฉันอยู่ดี
“ อย่าโกหกดิ พี่รู้ว่าอีฟโกรธ"
" พี่ขอโทษ... ”
“ ช่างมันเถอะ อีฟต้องไปห้องนามัน พี่ขุนกลับไปได้ละ...” ฉันพูดพร้อมกับดันตัวพี่ขุนให้ออกห่างไปจากตัวฉันเพื่อที่ฉันจะหันตัวไปเปิดประตูรถได้ แต่พี่เขาก็ไม่ยอมอยู่ดี
“เมื่อวานรอพี่นานมากไหม...” พี่ขุนถามพร้อมกับสบตาฉัน ฉันเมินสายตาหนีพี่เขาก่อนจะตอบ
“ พี่คิดว่านานไหมละ แต่อีฟก็ชินแล้ว...เพราะมันไม่มีครั้งไหนที่พี่จะไม่ปล่อยให้อีฟรอเลยสักครั้ง”
“.................”
“ แต่ช่างมันเถอะพี่ขุน เดี๋ยวอีฟก็หาย...” ฉันพูดพร้อมกับฝืนยิ้มให้พี่เขาบางๆ ใจลึกๆ มันก็แอบดีใจนะที่พี่เขามาง้อฉันแบบนี้ แต่อารมณ์นอยด์มันก็มีมากกว่าอยู่ดี
“ อ้วนพี่ขอโทษจริงๆ...ต่อไปนี้พี่สัญญาเลย พี่จะไม่ปล่อยให้เราต้องรอนานแบบวันนั้นอีก..”
“……………..”
“ หายโกรธพี่เถอะนะ พี่ยอมรับผิดทุกอย่างเลย ถ้าเราไม่หายโกรธพี่ พี่ก็ไม่รู้จะหาเรื่องออกจากบ้านได้ยังไงแล้วอะ ”
ฉันมองหน้าพี่ขุน ก่อนจะรู้สึกนอยด์พี่เขาเข้าไปอีก สรุปที่พี่เขามาหาฉันวันนี้ที่เขามาตามขอโทษฉันถึงมหาลัยก็เพราะพี่เขากลัวจะไม่มีคนช่วยทำให้พี่เขาได้ออกจากบ้านสินะ
“ ถอยไปเลย ! อีฟจะกลับ ! ” ฉันพูดแค่นั้นก่อนจะผลักพี่เขาออกไปจนตัวพี่เขาเซเกือบจะล้ม
แหงละ ! ฉันผลักเพราะความโมโหล้วนๆ
“ อ้วน ”
“ หยุดเลยนะ ถ้าแตะตัวอีฟอีกรอบ...อีฟจะบอกคุณป้าว่าทุกครั้งที่พี่ขุนบอกว่ามารับอีฟหรือไปไหนกับอีฟ มันคือเรื่องที่พี่ขุนโกหก ! ” ฉันพูดเสียงแข็งพร้อมกับมองหน้าพี่เขาอย่างเอาจริงเอาจัง พี่ขุนมองหน้าฉันด้วยสายตาอึ้งๆ ก่อนที่พี่เขาจะยกมือขึ้นชาๆ พร้อมกับก้าวถอยหลังออกห่างจากฉันไป
ฉันมองหน้าพี่เขาอีกครั้งก่อนจะรีบขึ้นรถและสตาร์ทรถออกไปเลย
ฉันรู้สึกหงุดหงิดมากถึงมากที่สุด ตอนแรกฉันดีใจนะ ดีใจมาก ที่เจอหน้าพี่เขา แต่ดูสิ่งที่พี่เขาพูดออกมาดิ
ฉันไปคาดหวังอะไรจากคนอย่างพี่ขุนวะ ??
ทำไมฉันต้องชอบผู้ชายบ้าๆ คนนี้ด้วยก็ไม่รู้ !!
พอฉันกลับมาถึงบ้าน ฉันขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนที่ห้องของตัวเองก่อนจะลงไปหาอะไรกินแล้วกลับขึ้นมาบนห้องใหม่
" ฮึ !! หายโกรธพี่เถอะนะ ถ้าเราไม่หายโกรธพี่ พี่ก็ไม่รู้จะออกจากบ้านยังไง ? " ฉันนั่งทวนคำพูดที่พี่ขุนพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงยียวน ปนหมั่นไส้ ออกจากบ้านไม่ได้ก็ไม่ต้องออก !
คิดแล้วก็หงุดหงิด !!
ฉันตักไอติมเข้าปากหลายต่อหลายคำ เวลาฉันหงุดหงิดหรือฉันโมโหอะไรฉันต้องหาของหวานกินมันทุกที..และมันก็ช่วยได้เยอะเลยละ
ไม่ต้องผอมมันหรอกชาตินี้ !
ฉันนั่งกินไปเรื่อยๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาแล้วสายตามันก็ไปสะดุดเข้ากับแอปที่ฉันโหลดมาเมื่อหลายวันก่อน
ฉันลองกดเข้าแอปไป ก่อนที่ในแอปมันจะเด้งขึ้นมาเป็นหน้าฟิลข่าวคล้ายๆ กับเฟสบุ๊คให้คนได้โพสระบายอะไรก็ได้ และถ้าจะคุยแยกก็ทักแชทไปหาเขาได้
มันก็ดีเหมือนกันเนอะ...
ฉันไล่ดูโพสของคนอื่นไปเรื่อยๆ ถูกใจข้อความไหน ฉันก็แค่กดหัวใจไป...จนฉันไปสะดุดเข้ากับข้อความของใครก็ไม่รู้ซึ่งโปรไฟล์เขาเป็นรูปวิวภูเขา และชื่อที่เขาใช่เล่นก็คือ WAYAR (เวอาห์)
“ บางอย่างที่หายไป....” ฉันอ่านข้อความที่เขาโพส และก็ไม่รู้ว่านึกอะไรฉันถึงทักแชทแยกไปหาเขา
CHAEVx : ความสุขหายไปหรอคะ ?
WAYAR : รู้ด้วยหรอ
CHAEVx : ก็คนเรา มีไม่กี่อย่างหรอกคะที่จะทำให้ตัวเองรู้สึกว่ามีบางอย่างหายไป
CHAEVx : ถ้าเป็นสิ่งของ หรือคนที่สำคัญยังไงเราก็จำได้อยู่แล้ว
CHAEVx : แต่นี่เธอตั้งคำถามว่า มันเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป ซึ่งเราก็คิดว่านั่นก็คือความสุขที่มันขาดหายไปสำหรับเธอ
WAYAR : แล้วถ้าไม่ใช่ละครับ ?
CHAEVx : เราก็หน้าแตกไง เพราะพิมพ์ไปแบบมั่นหน้าสุดๆ (ฉันหลุดหัวเราะให้หับตัวเองออกมาเบาๆ เพราะมั่นใจในคำตอบตัวเองสุดๆอะ ทั้งๆที่อาจจะผิดก็ได้อะ)
WAYAR : แล้วนี่ชื่ออะไร ?
CHAEVx : ไม่สิ เธอยังไม่ตอบเราเลย ว่าเราพูดถูกมั้ย
WAYAR : แล้วเธอคิดว่าไงอะ
CHAEVx: เราคิดว่าถูก ถูกมากด้วย
WAYAR : ก็ตามนั้นเลยครับ..
WAYAR : แล้วจะบอกได้ยังว่าชื่ออะไร ?
CHAEVx : เดี๋ยวเดือนหน้าบอกนะ...
WAYAR : เดือนหน้า ? คือยังไง...
CHAEVx : ก็ถ้าเรายังติดต่อครบเดือน เราจะบอกว่าเราชื่ออะไร..
WAYAR : เล่นตัวเก่งจังอะ..
CHAEVx : ไม่ๆ ในโลก social เราไม่ควรเปิดเผยตัวตนให้ใครรู้ ถ้าเรายังไม่รู้จักกันดีพอ...
WAYAR : โอเค งั้นก็ตามนั้น..
ฉันอมยิ้มให้กับอิโมจิที่เขาส่งกลับมาหาฉัน...มันก็สนุกดีเหมือนกันที่มีคนสนใจที่จะคุยกับเรา
ข้อดีของการคุยแชทกับคนที่เราไม่รู้จักคือ เรากล้าที่จะพูดหรือทำอะไรไปในขณะที่ชีวิตจริงเราไม่กล้าทำ
แต่ข้อเสียก็คือ เราไม่ควรรู้สึกอะไรกับคนนั้นแอป เพราะอย่างคนที่เคยชอบฉัน ชอบฉันทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นหน้า แต่เขาบอกว่า เขาชอบที่ฉันเป็นฉัน ชอบการพูดคุย ทัศนคติ ชอบในความเข้าใจทุกอย่างรอบตัว แต่พอเขารู้ว่าฉันอ้วน เขาก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย
น่าตลกดีมั้ยละ ?
แต่ก็นั่นแหละ ฉันไม่ได้อะไร ฉันไม่ได้ชอบคนพวกนั่นที่เจอในโลก social อยู่แล้วก็แค่หาเพื่อนคุยเวลาที่ตัวเองเหงาเฉยๆ
อย่างคนที่ฉันคุยเมื่อกี๊ ถ้าเขารู้ว่าฉันอ้วนเขาก็คงเลิกคุยเหมือนเดิม..ฉันถึงไม่ค่อยอยากเปิดเผยอะไรสักเท่าไหร่