“ก็พอใช้ได้อยู่นี่ น่าจะพอมาเป็นของเล่นให้ฉันแก้เบื่อได้” ร้ายกาจหมอนี้จ้องมายังร่างกายฉันแล้วพูดจาร้ายกาจขนาดนี้ เขาจับฉันหันหน้าไปในทิศทางเดียวกัน แล้วเค้นมาที่หน้าอกแรงๆ
"อื้อ∼ อย่านะ" ฉันร้องห้ามแต่ไม่เป็นผล เขาบีบมาที่จุกแรงๆ แล้วใช้นิ้วสะกิดไปมา จนฉันต้อง ร้อง ครางออก มา อ๊าา∼ แน่ล่ะใครมันจะทนไหววะ ร่างกายคนนะเว้ย
“หืม เสียงครางก็ฟังดูไม่แย่นิ” ไอ้หมอนี่เล่นสนุกหนักเกินไปแล้ว เขารินรดลมหายใจลงมาข้างๆ หู แล้วจูบมาที่ต้นคอ ฉันสะดุ้งเฮือก ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาทำให้ฉันหวาบหวามอย่างแรง
“นะ นี่ เกินไปแล้วนะ ช่วย ว้าย…จะทำอะไร…อื้ออ∼” ฉันครางออกมาเบาๆ เมื่อมือเขาเลื้อยลงไปอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างขาฉัน แล้วเริ่มใช้นิ้วถูไปมา อะไรกันแล้วความรู้สึกเสียวซ่านนี้มันมาแทนที่คำว่า ฉันกำลังถูกรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวน้อยๆ ของตัวเอง สติโดนเป่ากระเจิงด้วยเรียวนิ้ว ร่างกายเริ่มผลิตน้ำใสๆ ออกมาไม่หยุด
"อะ อ๊ะ อื๊อ…"ได้โปรดหยุดสักที อย่าทำ" ฉันดันมือเขาออกแต่เขาบีบมาตรงยอดถันแรงๆ แทน และกระซิบข้างหูฉันว่า “ถ้าเธอขัดขืนฉันจะ ทำคริสต์มาร์กไว้ให้เต็มคอ ให้คนอื่นเห็น”
อึก… ฉันต่อต้านไม่ได้ หมอนี่เริ่มหนักข้อขึ้น แล้วทันทีที่นิ้วของเขาบดขยี้ฉันแรงขึ้น สติฉันก็เลือนรางไปหมด เปลี่ยนเป็นเสียงครางสุดกระเส่าแทน
“อ๊ะ อ๊าา อ๊าาา∼” ฉันเริ่มร้องครางตามจังหวะของเรียวนิ้วที่คนตัวใหญ่เร่ง เขาบดขยี้อยู่ตรงติ่งสาวน้อย และอีกมือก็บีบตรงยอดอก
“ได้โปรด∼” ฉันมองหน้าเขา หน้าตาของฉันตอนนี้คงจะแดงฉ่า ปากที่เผยอและบิดเบี้ยว ฉันพูดได้แค่คำว่าได้โปรดเมื่อเขาประกบริมฝีปากและดุนลิ้นเข้ามาในช่องปาก หัวสมองก็คิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว
เขายังบดขยี้ไม่หยุด จะด้วยอะไรก็ไม่รู้ตอนนี้ฉันหาเหตุผลไม่ได้ แต่ฉันต้องการเขา และอยากให้เขาทำให้ฉันสุขสม ฉันมองเขาด้วยแววตาอ้อนวอน เขาถอนริมฝีปากแล้วพูดว่า
“ยัยผู้หญิงลามก” แล้วบดขยี้ฉันจน อ๊าาา∼ ฉันเสร็จกระตุกอยู่ต่อหน้าเขา
หึ เขาปล่อยฉันเป็นอิสระ และยกยิ้มพอใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ไม่อยากจะเชื่อ เลวสุดอะไรสุด ฉันนั่งทรุดลงกับพื้น
แล้วก็นะพราวฟ้ากับร่างกายไม่รักดีนี้ ฉันเกลียดเธอ ฉันกร่นด่าตัวเองในใจ
ตกเย็นฉันออกจากห้อง ไม่อยากให้แม่กับคุณลุงไม่สบายใจถ้าเกิดฉันไม่ออกไปพวกท่านจะคิดมาก
“หนูพราวฟ้า มาทานข้าวเย็นกันลูก วันนี้ลูกชายลุงอยู่ที่บ้านคนหนึ่ง มานั่งทานด้วยกัน เอ้า อายาโตะ ทักทายน้องพราวสิ”
แววตาสีน้ำตาลจับจ้องมายังฉันแล้วกระหยิ่มยิ้มเยาะเย้ย ก่อนจะเอ่ยวาจา
“สวัสดีครับพราวฟ้า พี่อายาโตะ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
ฉันสะดุ้งเฮือกตัวเรก็งอยู่ต่อหน้าทุกคนและใช่ ไอ้หมอนี่ คนคนนี้ที่มาทำเรื่องแบบนั้นกับฉัน ยังมีหน้ามายิ้มหน้าตาระรื่นอีก แล้วฉันต้องทำไงล่ะ คุณกับคุณลุงกำลังมองฉันที่มีท่าทีกระอักกระอ่วน
“สะ สวัสดีค่ะ คุณอายาโตะ” ฉันต้องแกล้งทำเป็นเด็กดีไปก่อน ความอวดดีตอนก้าวเท้าเข้ามาในบ้านหลังนี้ได้หายไปหมด ฉันเริ่มคร่ำครวญในใจ
“อะไรกับครับน้องพราวฟ้า สีหน้าไม่ค่อยดีเลยให้พี่พาออกไปสูดอากาศมั้ยครับ” หมอนี่พูดแล้วยิ้มเยาะให้ฉัน ขอฉันเอาคืนสักหน่อยเถอะ ขอแค่สักนิดไม่งั้นจะเสียชื่ออีพราวฟ้าปากหมา
“ฮ่าๆๆ คุณอายาโตะกลัวว่ากำลังแย่งอากาศพราวหายใจหรอคะ อย่าคิดมากเลยค่ะ เรื่องจิ๊บจ้อย พราวไม่ติดค่ะ”
ฉันยิ้มเยาะใส่เขาที่กำลังมีสีหน้าโกรธแค้นมือที่จับซ่อมกับมีดเพื่อทานสเต๊กอยู่กำแน่นจนจิกลงไป และใช่ ถ้าเอามาจิ้มฉันได้เขาคงทำไปแล้ว สีหน้าเจ็บใจนั่นเห็นแล้วอารมณ์ดีขึ้นมาทันที
“แหมหยอกล้อกันน่ารักจังเลย ถ้าพวกลูกเข้ากันได้ดี พ่อก็โอเค” คุณลุงยิ้มให้ฉันอย่างเอ็นดู
หึ เขาแค่นขำในลำคอแล้วมองมายังฉัน ฉันเมินเขาแล้วกลอกตามองบนใส่เขา
“พ่อไม่ต้องเป็นห่วง รับรองว่าผมจะ เข้า กับน้องให้ได้และดีที่สุดเลยครับ” เขาเน้นย้ำตรงคำว่าเข้า แล้วยกยิ้มมาทางฉัน
สงครามประสาทสินะ ช่างหัวนายสิ ต่อไปนี้ฉันจะไม่เปิดช่องว่าง นายไม่มีทางได้มาเข้าใกล้ฉันอีกแน่ๆ ไอ้พี่ชาย ฉันยกยิ้มกลับไปแบบไม่เกรงกลัว
"แล้วหนูรู้มั้ยว่าอาทิตย์หน้าต้องเข้าเรียนโรงเรียนใหม่แล้วไม่ใช่หรอลูก" คุณลุงถามอ่อนโยน
"ใช่ค่ะ คุณลุง อาทิตย์หน้าก็เปิดเทอมแล้ว หนูขอบคุณคุณลุงมากนะคะที่เป็นธุระให้หนูมากมายขนาดนี้" อันนี้รู้สึกจริงนะ ไม่ได้แสดง เพราะโรงเรียนนี้ดังและค่าเทอมแพงมาก โรงเรียนพวกลูกคุณหนู
“เรื่องเล็กน้อยอย่าคิดมากพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ ว่าแต่ลูกชายลุงอีกคนก็เข้า ม.4 โรงเรียนเดียวกับหนูนะ ไม่รู้ได้อยู่ห้องเดียวกันมั้ย ถ้ายังไงลุงก็ฝากเด็กนั่นด้วยนะ”
“ฮ่าๆ คุณลุง หนูยังเอาตัวเองไม่รอดเลยค่ะ คงรับฝากใครไม่ไหวหรอกค่ะ”
“ฮ่าาๆๆ ลูกคุณพูดจาตรงดีจังที่รัก”
“ปากหมาล่ะมากกว่าค่ะ คุณอย่าถือสาแกเลยนะคะ”
พวกเราขำกลิ้งกันอยู่ตรงนั้น แต่ผู้ที่ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับพวกเราคือไอ้หมอนี่ นั่งอารมณ์บูดเจ็บใจอยู่
ช่างหัวเขาสิใครสนนายละ คนนิสัยแย่
หวังว่าลูกของคุณลุงคนอื่นจะนิสัยไม่แย่เหมือนหมอนี่นะ
.
.