ตอนที่ 1/1 ห้ามไม่ฟังต้องโดนดี!

2053 คำ
45 นาทีก่อนเจอกับพี่ชายเพื่อน มนสิชา หรือ มิ้นท์ ที่เพิ่งขึ้นสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศได้ถือโอกาสมาเลี้ยงฉลองย้อนหลังกับเพื่อนๆ ในคณะเดียวกัน โดยที่ไม่ได้บอกน้ำค้างเพื่อนสนิทตั้งแต่อนุบาล เพราะรู้ว่าเพื่อนรักไม่ชอบงานเลี้ยงจำพวกนี้ แถมยังดื่มไม่เป็น ส่วนเธอพอดื่มได้นิดหน่อยเลยอยากออกมาเปิดหูเปิดตาดูบ้าง ผับนี้มีชื่อพี่ชายเธอเป็นหุ้นส่วนยังพอหลับหูหลับตาเรื่องอายุได้ อีกไม่กี่เดือนเธอก็จะอายุครบยี่สิบปีแล้ว อีกแค่สิบเดือนน่ะนะ เพราะใช้ชื่อพี่ชายเป็นใบเบิกทาง เธอถึงผ่านเข้ามาได้พร้อมกับเพื่อนสาวอีกสองคน บรรยากาศด้านในค่อนข้างเสียงดังสนั่น เนื่องจากทุกวันซุกจะมีการแสดงไลฟ์สดบนเวทีจากนักร้องและวงดนตรีประจำผับ สาวๆ ที่ชอบดิ้นชอบเต้นก็ไปแดนซ์เมามันอยู่แถวหน้าสุด มนสิชาปลีกตัวมานั่งดื่มค็อกเทลหลบอยู่โต๊ะด้านข้าง มองเพื่อนสองคนเต้นพลิ้วไหวอวดลีลาอยู่กลางฟลอร์ ท่าทางสนุกสุดเหวี่ยงของพวกเธอพลอยทำให้คนรอบข้างคึกคัก เข้ามาวาดลวดลายแข่งเต้นทั้งสะบัดทั้งเหวี่ยงแขนกันใหญ่เชียว เธอเรียนคณะบริหารตามที่พ่อแม่ต้องการเพื่อสืบทอดกิจการของครอบครัว แทนพี่ชายที่หันมาจับธุรกิจส่วนตัวไม่ยอมรับช่วงต่อ ภาระหนักจึงตกอยู่ที่เธอทั้งหมด ตอนนี้เธอยังพอมีโอกาสออกมาเที่ยวเล่นตามอำเภอใจได้ แต่พอเริ่มเรียนจริงจังพ่อกับแม่คงเข้มงวดกวดขัน ไม่ยอมให้เธอทำตัวเหลวไหลแบบนี้แน่ เพราะงั้นก่อนต้องกลับไปเป็นเด็กดีเชื่อฟังพ่อแม่ เธอควรรีบทำในสิ่งที่อยาก ‘ทำ’ ซะ เธอได้มาเที่ยวผับสมใจแล้วตอนนี้ ดื่มไปสองแก้วชักเริ่มกรึ่มๆ ละ ดวงตาคมสวยฉ่ำเยิ้มหน่อยๆ ยิ่งเพิ่มเสน่ห์เย้ายวนใจ มนสิชารู้สึกตัวร้อนวูบน่าจะเกิดจากฤทธิ์แอลกอฮอล์กำลังไหลเวียนไปทั่วร่างกาย เธอไม่ถึงกับคอแข็ง แต่ก็ไม่ใช่พวกคออ่อนดื่มแก้วสองแก้วก็คอพับฟุบกับโต๊ะ สงสัยเพราะดื่มตอนท้องว่างถึงเมาเร็วขนาดนี้ ขณะที่กำลังคิดว่าควรพอแค่นี้หรือดื่มต่อ เสียงเพลงจากสมาร์ตโฟนก็ดังขึ้นเรียกความสนใจจากหญิงสาว มนสิชาดูชื่อบนหน้าจอพลันสะดุ้งวาบในใจ ขนลุกชันไปทั้งตัว พี่ชายสุดโหดโทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย หรือว่าการ์ดที่เฝ้าหน้าประตูเป็นคนโทรไปรายงาน ใจเต้นตึกตักอยู่หนึ่งนาที มนสิชาถึงยอมปัดนิ้วรับสายสุดสยองด้วยใบหน้าซีดเผือด เม้มปากแน่นรอฟังคำแรกที่พี่ชายกรอกเสียงลงมาจากปลายสาย [ก๋ากั่นใหญ่แล้วนะเรา ถึงกับกล้าหนีไปเที่ยวผับทั้งที่อายุไม่ถึง อยากให้พี่ฟ้องพ่อกับแม่ไหมฮะ?!] “อย่านะคะ! มิ้นท์เพิ่งมาถึงยังเที่ยวได้ไม่ทันครบชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ พี่มนัสก็จะฟ้องพ่อกับแม่ให้มาลากตัวมิ้นท์กลับบ้านแล้วเหรอ ใจร้ายที่สุด รู้ไหมว่ามิ้นท์กำลังกลุ้มใจอยู่นะ” มนสิชาตัดพ้อ น้ำเสียงฟังชัดว่ากำลังน้อยใจ มนัสใช่ว่าไม่รู้ว่าน้องสาวกำลังกลุ้มใจเรื่องอะไร ถึงมิ้นท์จะเข้ามหาวิทยาลัยที่ใฝ่ฝันไว้ได้ แต่กลับไม่ได้ในคณะที่อยากเรียน ความผิดทั้งหมดก็มาจากเขาที่ไม่ยอมรับช่วงธุรกิจของครอบครัวต่อ เขาสนใจเปิดผับร่วมหุ้นกับเพื่อน กว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์เก็บไว้เพื่อขายเก็งกำไร ยังมีห้องชุดตึกแถวที่ปล่อยให้คนเช่า เขารักอิสระ ชอบเคลื่อนไหวไปมา จะให้ไปนั่งทำงานอยู่กับที่ทนหลังคดหลังแข็งหน้าเครียดในบริษัทก็ไม่ไหว ดังนั้นคนที่รับภาระหนักจากการปฏิเสธของเขาจึงเป็นน้องสาวเพียงคนเดียว ลูกคนเล็กของตระกูลเกียรติกรชัย ทั้งแรงกดดัน และแรงบีบคั้นของคนรอบข้าง มิ้นท์ต้องทนแบกรับไว้ทั้งหมด [พี่ไม่ฟ้องก็ได้ แต่เราต้องกลับไปพักที่ห้องชั้นสอง พี่เสร็จธุระจะไปรีบกลับบ้าน] “มิ้นท์ขอดื่มต่ออีกหน่อย อีกนี้ดเดียว แล้วจะรีบทำตามคำสั่งของพี่เลย” มนัสมุ่นหัวคิ้วเข้าหากัน ฟังจากน้ำเสียงสดใสต่อปากต่อคำได้อยู่ก็พอเดาได้ว่ายายตัวแสบยังไม่เมา แต่ถึงยังไงเป็นผู้หญิงไปเที่ยวในผับให้ดื่มจนเมามายอาจเกิดอันตรายได้ ทางที่ดีรีบไล่ให้ไปนอนพักข้างบน เขาถึงจะวางใจ [ให้ดื่มได้อีกแค่แก้วเดียวแล้วไปนอนพักซะ พี่จะให้ลูกน้องดูว่าเราทำตามคำสั่งไหม อีกสิบนาทีถ้ายังไม่ไปห้องข้างบน พี่จะโทรหาพ่อให้ลากตัวเรากลับบ้าน] “รับทราบค่ะ พี่ชายของมิ้นท์ใจดีที่สุดในโลก~ รักค่ะ จุ๊บๆ” [อืม ดูแลตัวเองด้วย] สายถูกตัดไปแล้ว มนสิชาถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่โล่งอกไปที ตอนนี้รีบดื่มอีกแก้วแล้ววิ่งขึ้นห้องพักดีกว่า เธอเคยมาผับนี้ตอนกลางวันแล้วครั้งหนึ่ง พอรู้อยู่ว่าห้องพี่มนัสอยู่ตรงไหน นาฬิกาเดินเร็วจะตาย สิบนาทีที่เหลือเธอรีบแหวกฝูงชนไปบอกเพื่อนสาวที่ยังแดนซ์อยู่ ก่อนจะเดินไปที่บันไดข้างก้าวขึ้นสู่ชั้นสองด้วยความรีบร้อนลนลาน เธอไม่โง่พอจะยั่วให้พี่ชายโกรธหรอก เวลาพี่มนัสอารมณ์เสียน่ากลัวจะตาย เหมือนอสุรร้ายกลายร่างไม่มีผิด! หลังจากปิดประตูล็อกห้องเรียบร้อยแล้ว มนสิชาก็ทิ้งร่างนอนบนเตียงพลางหายใจหอบเหนื่อย ป่านนี้ลูกน้องของพี่มนัสคงรายงานไปแล้วว่าเธออยู่ในห้องปลอดภัยหายห่วงได้ เรื่องที่จะตามพ่อแม่มาลากเธอกลับบ้านเป็นอันยุติ เปลือกตาบางกะพริบๆ มองเพดานข้างบนใจลอย คิดไปถึงตอนที่คุยกับพ่อแม่เรื่องคณะที่อยากเรียน ความฝันของเธอหลุดลอยออกจากมือไปในวันนั้น เส้นทางนี้ที่เดินอยู่มาจากการตัดสินใจของพ่อแม่ ชีวิตของเธออีกครึ่งหนึ่งถูกพวกท่านบงการ ถึงรู้สึกน้อยใจและโกรธอยู่บ้าง สุดท้ายเธอก็ไม่ปฏิเสธว่าพวกท่านทำทุกอย่างเพื่อเธอ ปังๆๆ ขณะที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เสียงทุบประตูหน้าห้องดึงสติของหญิงสาวให้กลับเข้าร่าง มนสิชากะพริบพร้อมขมวดคิ้วแทบเป็นปมมองไปยังต้นเสียง เป็นไปได้ไหมว่าพี่มนัสจะมาหาเธอตอนนี้เลย...ก็อาจเป็นไปได้ เธอเป็นน้องสาวคนเดียวนี่นะ พี่ชายจะเป็นห่วงก็ไม่แปลก เธอถอนหายใจยาวเหยียดทะลึ่งตัวขึ้นนั่งแล้วลุกเดินไปเปิดประตูให้พี่ชาย ทว่าทันทีที่เห็นว่าใครอยู่หลังประตู เธอก็ทั้งตกใจทั้งฉงน ทำไมพี่น่านถึงมาอยู่ตรงนี้ได้? น่านฟ้าเป็นพี่ชายของน้ำค้างเพื่อนสนิทเธอเอง พลั่ก ร่างเธอถูกผลักจนเซถอยหลัง ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะก้าวตามเข้ามาแล้วหันไปปิดประตูล็อกห้อง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างแทบถลน สัญชาตญาณกู่ก้องร้องเตือนในใจ ชายหญิงอยู่ด้วยกันแค่สองคนในห้องต้องเกิดเรื่องไม่ดีแน่ คิดได้อย่างนั้น สองขาเรียวยาวก็วิ่งไปจะออกจากห้องด้วยใจระทึก มือใกล้จะเอื้อมคว้าลูกบิดประตูได้อยู่แล้วเชียว กลับถูกวงแขนแข็งแรงตวัดรัดเอวกระชากตัวกลับมา แผ่นหลังปะทะกับผนังห้องจนเจ็บร้าวหลุดเสียงครางแผ่ว มนสิชาหน้าซีดเผือดถลึงตามองผู้ชายตาฉ่ำเยิ้มแดงก่ำคล้ายคนเมา รอยยิ้มร้ายกาจกระตุกขึ้นตรงมุมปาก ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มดูอันตรายขึ้นอีกเป็นกอง “พะ...พี่น่าน ปล่อยมิ้นท์นะคะ!” เธอทั้งทุบตีทั้งผลักไสร่างสูงกำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นหนั่นให้ถอยออกห่าง แต่ยิ่งทุบยิ่งตีเขากลับยิ่งบดเบียดเข้ามาจนแทบหายใจไม่ออก สองมือถูกยึดไปกดไว้เหนือศีรษะ สะบัดยังไงก็ไม่หลุด “ทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้” เสียงเข้มลึกกดต่ำกระซิบอยู่ข้างหู ลมหายใจอุ่นจัดเป่ารดข้างแก้มนวลใส ลำคอขาวเนียน มนสิชาถึงกับกลั้นหายใจรู้สึกแปลกๆ กับความใกล้ชิดสนิทสนมเกินขอบเขตนี้ เมื่อก่อนพี่น่านแทบไม่สนใจเธอเลยด้วยซ้ำ เขาทำตัวเป็นสุภาพบุรุษดีกับเธอ เพราะเธอเป็นเพื่อนกับน้ำค้างเคยพูดกันเพียงไม่กี่ประโยคเอง เธอเฝ้ามองเขามาตลอด แต่เขากลับเมินเฉยไม่เห็นเธออยู่ในสายตา แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาเข้าใกล้เธอเล่า “มิ้นท์จะแต่งตัวยังไงแล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่น่าน พี่น่านไม่ใช่พี่ชายของมิ้นท์ อย่ามาเจ้ากี้เจ้าการได้ไหมคะ” เธอตอบเสียงสะบัดหงุดหงิดใจเล็กๆ ที่ผ่านมาเขาก็ไม่สนใจไยดีเธอเลยแล้วตอนนี้จะมายุ่งอะไรด้วย “พี่ถามดีๆ นะมิ้นท์ ตอบมาว่าทำไม อย่าให้พี่ต้องทำโทษเราที่ปากแข็งยั่วโมโหพี่” “มิ้นท์โตแล้ว จะแต่งตัวแบบไหนก็ได้ มันเป็นสิทธิส่วนบุคคล!” “มันโป๊เกินไป” เขาคำรามอย่างอึดอัดใจ น่านฟ้าไม่ชอบให้เธอแต่งตัวโชว์เนื้อหนังมังสามาอยู่ในสถานที่อโคจร “คนอื่นก็แต่งตัวแบบนี้ มิ้นท์ไม่เห็นว่ามันจะโป๊ตรงไหน พี่น่านคิดมากเกินไปแล้ว” ดวงตาเรียวรีถลึงมองด้วยความไม่พอใจ เขาถือดีอะไรมาวิพากษ์วิจารณ์การแต่งตัวของเธอ “พี่ไม่ชอบ มันไม่ดีกับตัวมิ้นท์เอง คราวหลังห้ามใส่ชุดนี้มา ห้ามมาเที่ยวผับอีก” “ชอบหรือไม่ชอบก็ไม่เกี่ยวกับมิ้นท์ค่ะ ปล่อย ปล่อยมือสิ พี่น่าน!” “พี่ไม่ปล่อยจนกว่ามิ้นท์จะรับปากพี่!” เสียงตวาดแข็งกร้าวของน่านฟ้าเจืออารมณ์คุกรุ่นไม่สบอารมณ์ ใบหน้าคมคายแข็งกระด้างเย็นชาขึ้นมาฉับพลัน แม้จะกลัวจนตัวสั่นปากสั่น แต่มนสิชาก็ยังพยศตะโกนกลับไปเสียงแข็งไม่แพ้กัน “ไม่! มิ้นท์จะแต่งตัวแบบวันนี้อีก พี่น่านไม่มีสิทธิ์มาบังคับฝืนใจมิ้นท์ให้ทำนั่นทำนี่! พี่ไม่ใช่เจ้าของชีวิตมิ้นท์!” “มิ้นท์...” เขาคำรามเสียงต่ำน่าขนลุก ดวงตาดำสนิทวาววับดุจคมมีดที่จ่ออยู่ตรงลำคอระหง ทำเธอหวาดเสียวกลืนน้ำลายดังอึก ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องโกรธมากมายขนาดนี้ด้วย น้องนุ่งก็ไม่ใช่ ทำไมจะต้องมาสนใจว่าเธอจะแต่งตัวแบบไหนยังไงมาเที่ยวผับ “โอ๊ย มิ้นท์เจ็บ ข้อมือมิ้นท์จะหักคามือพี่อยู่แล้ว ปล่อยสักที!” มนสิชาน้ำตาคลอ ข้อมือที่เขากำอยู่ร้อนผ่าวเจ็บจนทนไม่ไหวแล้ว “พี่ถือสิทธิ์อะไรมาสั่งมิ้นท์เหรอ เหอะ ต่อไปอย่าให้พี่เห็นมิ้นท์แต่งตัวยั่วผู้ชายแบบนี้อีก ไม่งั้นพี่จะฉีกออกให้หมด ให้เราโป๊เปลือยจนออกไปพบหน้าใครไม่ได้!” คำพูดเผด็จการของน่านฟ้ายังไม่น่ากลัวเท่าการกระทำของเขา! ฝ่ามือใหญ่กอบกุมทรวงเต้าอวบหยุ่นเคล้นคลึงขยี้ขยำเต็มแรงเหมือนอยากจะบีบให้แหลกเหลวคามือ ใบหน้าหล่อเหลาขึ้งโกรธโน้มต่ำลงมาประทับริมฝีปากจุมพิตกลีบปากเย้ายวน ขบเม้มดูดดุนอย่างจาบจ้วงกักขฬะจนมนสิชาตัวสั่นสะท้านตื่นตกใจ ดวงตาเบิกกว้างมองสบดวงตาสีนิลแดงก่ำวาวโรจน์ด้วยความสับสนงงงวย ทำไมเขาต้องจูบเธอด้วย เพราะเธอยั่วเขาให้โกรธงั้นเหรอ ถึงต้องปราบพยศเธอด้วยวิธีนี้?
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม