มนสิชาสวมเสื้อเชิ้ตของพี่ชายนอนห่มผ้ามิดคอ เธอหลับสนิทด้วยความอ่อนเพลียปวดเมื่อยเนื้อตัว ผ่านไปพักใหญ่เสียงประตูหน้าห้องก็ดังขึ้นปลุกเธอให้ตื่นจากการหลับใหล เปลือกตาบางขยับเล็กน้อย ก่อนจะเปิดขึ้นกลอกลูกตามองไปทางเสียงเคาะประตู เธอยกมือลูบหน้าปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ ตวัดขาเหวี่ยงลงจากเตียงฝืนลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูให้พี่ชาย
ตอนนี้ตีสามผับปิดแล้ว คนที่ขึ้นมารบกวนเธอบนห้องได้ก็มีแต่พี่เท่านั้น ส่วนพวกลูกน้องในร้านก็ไม่กล้ามาทำมิดีมิร้ายเธอ เพราะพี่มนัสขาโหดนิสัยเหี้ยมเกรียม อ้าปากด่าแต่ละทีทำเอาคนอื่นสะดุ้งสะเทือนกันเป็นแถว ขืนทำร้ายน้องสาวสุดที่รักอย่างเธอ คนพวกนั้นได้เจ็บหนักปางตายนอนหยอดน้ำข้าวต้มไม่ต่ำกว่าสามเดือนแน่
นี่ถ้าพี่มนัสรู้เรื่องที่พี่น่านทำไว้กับเธอ ต้องคลุ้มคลั่งบุกไปลากคอพี่น่านมากระทืบจนกว่าจะหายโกรธนั่นแหละ
“ยายตัวดี คิดยังไงแอบหนีมาเที่ยวคนเดียวไม่ยอมบอกพี่ฮะ โทรศัพท์มีไว้ทำไม”
“คนเดียวที่ไหนกันล่ะคะ มิ้นท์พาเพื่อนมาด้วยอีกสองคน”
“แล้ววันนี้แต่งตัวแบบไหนมากันแน่ ไอ้พวกข้างล่างมันมาฟ้องพี่ว่าเราแต่งตัวเซ็กซี่มาก กลายเป็นจุดสนใจของพวกหนุ่มๆ ในผับ เราตั้งใจมาตกผู้ชายแถวนี้รึไง”
“แล้วอนุญาตให้ตกไหมล่ะคะ?”
“ไม่! แล้วนี่เป็นอะไรหน้าตาซีดเซียวเหมือนคนไม่สบาย รู้ตัวว่าป่วยยังจะมาเที่ยวอีก” มนัสกวาดตาคมกริบมองใบหน้าขาวซีดของน้องสาวอย่างจับผิด ริมฝีปากบวมช้ำ ตาแดงก่ำ สภาพเหมือนถูกรุมโทรมมากกว่าจะเป็นไข้แล้วอย่างนี้!
“มองมิ้นท์ด้วยสายตาแบบนั้นทำไม” มนสิชาขยับตัวด้วยความอึดอัด สายตาของพี่มนัสเหมือนตำรวจกำลังสืบหาความผิดของคนร้าย หรือเธอทิ้งหลักฐานอะไรไว้ให้ถูกจับได้?!
“ใครมันทำมิ้นท์บอกพี่มา สภาพเหมือนถูกข่มขืนเลย”
“บ้า! ใครจะมาข่มขืนมิ้นท์พูดเป็นเล่นไปได้! คนของพี่มีอยู่เยอะแยะ เกิดอะไรขึ้นจริงมิ้นท์ก็ต้องร้องให้คนอื่นมาช่วยแล้วสิ”
“อย่ามาโกหก ร้องไห้ตาบวมฉึ่ง ปากแตกขนาดนี้ แล้วยังนี่อีก!”
ฟรึบ
มนัสกระชากผ้าห่มออกจากตัวน้องสาวสุดที่รักอย่างรวดเร็ว ร่องรอยหลักฐานยังปรากฏเด่นชัดบนเนื้อตัวมนสิชา แทบจะทุกจุดเลยก็ว่าได้ เขากำหมัดแน่นจนเส้นเอ็นปูดโปนเต็มแขน ท่าทางก้มหน้างุดสำนึกผิดของน้องสาวทำให้เขากล้ำกลืนคำพูดต่อว่าลงท้อง ดูจากสถานการณ์ที่น้องสาวไม่อยากบอก แถมทำท่าอยากปกป้องอีกฝ่ายแสดงว่าเป็นคนรู้จักมักจี่ ผู้ชายคนไหนมากล้ารังแกน้องสาวเขา เจอตัวเมื่อไหร่จะซัดมันให้คว่ำกระทืบให้จมตีน!
“พ่อแม่เห็นสภาพคงตกใจนึกว่าลูกสาวสุดรักสุดหวงไปถูกรุมโทรมที่ไหนมา สภาพแย่มาก เจ็บมากไหม ได้ป้องกันรึเปล่า”
“เอ่อ...เจ็บนิดหน่อยค่ะ มิ้นท์ไม่เห็นรู้เลยว่าครั้งแรกจะเจ็บมากขนาดนั้น แล้วก็ไม่ได้ป้องกันด้วย…” มนสิชางึมงำคล้ายบ่นให้ตัวเองฟัง ก่อนจะกระเถิบไปซบอกพี่ชายอย่างออดอ้อนน่าสงสาร
ต่อให้พี่ชายเธอเป็นคนดุแค่ไหนก็ไม่เคยตวาดเสียงดังใส่เธอเลยสักครั้ง คราวนี้ถึงจะโกรธมากก็ยังพยายามระงับสติอารมณ์ที่เดือดดาลไว้ สอบถามอาการเธอด้วยความเป็นห่วงเป็นใย จนเธออดรู้สึกผิดไม่ได้
“เดี๋ยวพี่ให้คนไปซื้อยาคุมฉุกเฉินให้ ไอ้ผู้ชายสารเลวนั่นโคตรไร้ความรับผิดชอบเอ๊ย! อย่างน้อยมันก็ควรป้องกันสักหน่อยสิวะ”
“พี่ไม่โกรธมิ้นท์นะ”
“โกรธดิ ทำไมไม่รู้จักดูแลตัวเองดีๆ ปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ไอ้เวรนั่นมันกินสมใจแล้วทิ้งไปได้ไง บอกมาว่ามันเป็นใคร พี่จะไปลากคอมันมาด่าให้หายแค้น!” มนัสแยกเขี้ยวคำรามเสียงดัง ทำเอามนสิชาสะดุ้งเฮือกรีบส่ายหน้ารัวๆ กลัวเหลือเกินว่าจะไม่จบแค่ด่า แต่เป็นกระทืบให้ตายคาเท้ามากกว่า
“มิ้นท์จะจัดการเรื่องนี้เอง รับรองว่าต้องมีคำตอบที่น่าพอใจให้พี่แน่นอน พี่ก็รู้ว่าน้องสาวคนนี้เก่งแค่ไหน ไม่ปล่อยให้ตัวเองเสียเปรียบหรอกน่า”
“พี่รู้จักมันไหม”
“ก็…อื้ม”
“คนใกล้ตัว” มนัสหรี่ตาคมปลาบจ้องเขม็งน้องสาวอย่างคอยคำตอบ
“เอ่อ...อา”
“หล่อ รวย โปรไฟล์ดี?”
“...” มิ้นท์ผิวปากทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เพียงเท่านั้นมนัสก็สามารถจำกัดกลุ่มผู้ร้ายที่เข้าข่ายกระทำความผิดให้แคบลงได้แล้ว
เหลือกี่คนที่น่าจะเป็นไปได้ คนที่น้องสาวเขาพยายามปกป้องถึงกับไม่ยอมบอกชื่อให้รู้…
“พี่ถามอีกแค่คำถามเดียว”
“ว่า”
“มิ้นท์เต็มใจตกเป็นของมันใช่ไหม?”
“อืม มิ้นท์...เต็มใจ”
“ไอ้น่านใช่รึเปล่า” ดวงตาคู่คมสะท้อนแสงสว่างลุกวาบจนน่าหวาดหวั่น ไม่ปล่อยให้ปฏิกิริยาเล็กๆ น้อยๆ ของน้องสาวลอดผ่านสายตาไปแม้สักเศษเสี้ยวเดียว
“พี่มนัส! ระ…รู้ได้ไงคะว่าเป็นพี่น่าน!?”
“ก็เราชอบมัน ถ้าบอกว่าเต็มใจก็มีแค่มันคนเดียวไม่ใช่เหรอ ผับนี้มันก็เข้าออกประจำ จึงเป็นไปได้สูงว่ามันคือคนที่จับเรากิน ถึงที่ผ่านมามันจะไม่ค่อยแยแสน้องสาวพี่ก็เถอะ แต่พอเหล้าเข้าปากบวกกับสัญชาตญาณของผู้ชาย ใครมันจะไปอดใจไปแตะต้องของสวยๆ งามๆ ได้”
“พี่อย่าไปทำร้ายพี่น่านนะ”
“ถ้าพี่จะต่อยมันก็มีเหตุผลเดียว เพราะมันทำร้ายน้องสาวของพี่ก่อน!”
“แต่มิ้นท์เต็มใจ มิ้นท์ไม่ได้ถูกบังคับ”
“ลูกสาวมีพ่อมีแม่ มันทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง!”
“ถ้าจะโทษก็ต้องโทษมิ้นท์ที่ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับพี่น่านเอง ถ้ามิ้นท์ไม่เต็มใจร้องตะโกนให้คนช่วย พี่น่านก็ทำอะไรมิ้นท์ไม่ได้ มิ้นท์ขอร้องนะคะ พี่ปล่อยให้เรื่องนี้มันจบลงแค่นี้เถอะ” มนสิชารีบคว้าแขนพี่ชายไว้ก่อนที่จะลุกออกจากห้องไปเล่นงานน่านฟ้า ซึ่งน่าจะขับรถกลับบ้านไปนอนแล้ว
“ถ้าท้องล่ะจะว่าไง”
“มิ้นท์จะรีบกินยาคุมน่าจะยังทันอยู่”
“แล้วถ้าไม่ทัน?”
“มิ้นท์จะเลี้ยงเขาเอง เด็กคนนี้มิ้นท์จะเก็บไว้ เพราะถึงยังไงก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของมิ้นท์!”
“มันบอกไหมว่าจะรับผิดชอบ” มนัสยกมือเสยผมพ่นลมหายใจออกปาก แล้วหันมามองหน้าน้องสาวให้เต็มตา ดวงตาของชายหนุ่มแดงก่ำด้วยความคับแค้นใจ ไม่รู้จะโกรธไอ้น่านที่รังแกน้องสาวเขา หรือโกรธน้องสาวเขาที่รักมันจนไม่ลืมหูลืมตา
เสียหัวใจให้มันไปแล้วยังต้องมาเสียตัวให้มันอีกเหรอ เขาที่เป็นพี่ชายจะให้ทนดูน้องสาวเสียใจเพราะมันได้ยังไง?!
“บอก…แต่มิ้นท์ไม่ต้องการ พี่ก็รู้ว่าพี่น่านไม่ได้รู้สึกอะไรกับมิ้นท์ ให้มารับผิดชอบมิ้นท์ก็เหมือนกับการฝืนบังคับให้คนที่ไม่ได้รักเราต้องมาอยู่ด้วยกัน มีแต่จะทุกข์ใจกันทั้งสองฝ่าย ถือเป็นประสบการณ์ของลูกผู้หญิงก็ได้ นี่มันยุคไหนแล้ว ไอ้ที่เก็บพรหมจรรย์ไว้ให้สามีในคืนแต่งงาน สมัยนี้ไม่มีใครเขาทำกันแล้ว อย่างน้อยที่สุดมิ้นท์ก็มอบมันให้กับผู้ชายที่หลงรักมาตลอด มิ้นท์ไม่เสียใจหรอก”
มนสิชาเงยหน้าขึ้นสบตากับพี่ชายพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้ม เธอรู้ว่าพี่ชายผิดหวังและเสียใจกับเหตุการณ์นี้ เขาเฝ้าทะนุถนอมเธอราวกับไข่ในหิน ปกป้องไม่ยอมให้ใครมาทำร้าย หรือแค่มาพูดจาว่าร้ายให้น้อยเนื้อต่ำใจก็ไม่เคย นับประสาอะไรกับสิ่งที่พี่น่านทำ หัวใจพี่มนัสคงรวดร้าวเหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมาขยำจนแทบแหลกสลาย
“ถ้าเจอหน้ามัน เราต้องยอมให้พี่ชกมันสักหมัดตกลงไหม”
“แค่หมัดเดียวจริงๆ นะ”
“อือ หมัดเดียว ส่วนต่อจากนี้จะเป็นไง เราไม่ต้องยุ่ง ให้ผู้ใหญ่เขาคุยกันเอง ก่อนมันจะทำอะไรลงไปก็ต้องรู้ผลที่จะตามมา พี่เชื่อว่ามันเป็นลูกผู้ชายพอจะรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ”
มนัสทรุดนั่งลงบนเตียงข้างน้องสาว มองยายตัวดีที่ก่อเรื่องใหญ่อย่างอ่อนใจ เขายกมือลูบผมนุ่มสลวยทิ้งตัวยาวเหมือนม่านน้ำตก ดวงหน้ารูปไข่งดงามสะดุดตา เพียงเห็นครั้งแรกก็ตราตรึงจดจำได้ไม่ลืม รูปร่างอ้อนแอ้นเย้ายวนมีเสน่ห์อย่างที่ผู้หญิงสมควรมี แต่ที่หาแฟนไม่ได้เพราะเจ้าตัวปิดกั้นผู้ชายทุกคนที่เข้าหา ส่วนหัวใจก็มอบให้กับคนเพียงคนเดียวที่ยึดมั่นปักใจรักมาตั้งแต่สมัยมัธยมปีที่สี่ อายุสิบหกก็หลงรักไอ้น่านแบบกู่ไม่กลับแล้ว
เขากับมันก็ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันมาก รู้จักกันเพราะน้องสาวของพวกเราเป็นเพื่อนกัน
มันไม่มีประวัติเสียหายเรื่องผู้หญิง แต่ขึ้นชื่อว่าผู้ชายย่อมต้องออกหากินตอนกลางคืน ไม่คบเป็นแฟนก็ต้องมีคู่นอนไว้ระบายอารมณ์ เห็นรอยจ้ำแดงตามตัวน้องสาว มันดูช่ำชองเรื่องพวกนี้ไม่น้อยเลย
ไม่ใช่มือใหม่ แต่เป็นระดับปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเลยก็ว่าได้ น้องสาวเขาจะไปทันเล่ห์เหลี่ยมมันได้ยังไง เรื่องนี้เขาต้องออกหน้าช่วยน้องสาวจัดการมันอยู่แล้ว