“อย่ามองค่ะ มิ้นท์อาย อายจริงๆ”
“มิ้นท์สวยมากมีอะไรให้ต้องอาย ต่อหน้าพี่มิ้นท์จะเปิดเผยแค่ไหนก็ได้ ทำตัวน่ารักออดอ้อนหรือร้องขอสิ่งที่ต้องการก็ยังได้ แค่ให้พี่ได้เอ็นดูเรา” เขาครางเสียงแหบพร่าพลางมองจ้องตาเธอด้วยสายตาเร่าร้อนเจือความปรารถนาแรงกล้า
ใบหน้าคมคายหล่อเหลาปานเทพบุตรโน้มเข้าหาใบหน้าอ่อนใสแดงระเรื่อเหมือนลูกตำลึงสุกก่ำ ลมหายใจระอุร้อนผสานเข้าด้วยกันเมื่อริมฝีปากของทั้งสองคนประกบแน่น น่านฟ้าดูดดึงขบกัดเรียวปากเผยออ้า ระหว่างฉกลิ้นชอนไชกวาดต้อนไปทั่วอุ้งปากของมนสิชา ดื่มด่ำรสหวานล้ำของน้ำผึ้งเดือนห้าอย่างเมามายเคลิบเคลิ้ม เขาลงมือปลดปลดตะขอรูปซิปปลดปล่อยท่อนเนื้อแข็งขึงทว่าไร้กระดูกให้เป็นอิสระ
ชายหนุ่มลมสูดหายใจลึกสุดปอด หยัดสะโพกแกร่งจ่อแท่งร้อนดุนดันส่วนหัวบานหยักชำแรกแหวกกลีบผกาสั่นริกให้อ้าออก แล้วกระทุ้งสอดลึกมิดลำอย่างรวดเร็วไม่ให้ตั้งตัว เสียงหวานหวีดแหลมสะดุ้งตกใจ ทั้งเจ็บทั้งจุกระคนเสียวกระสัน มนสิชาข่มกลั้นเอาไว้ไม่ไหวปล่อยให้น้ำหวานราดใส่หน้าขาของเขา น้ำหล่อลื่นหลั่งไหลออกมามากมายจนนึกว่าเผลอฉี่ราดแต่ก็ไม่ใช่
“มะ มิ้นท์ไม่เอาแล้ว น่าอายเหลือเกิน อื้อ!”
“ไม่เห็นน่าอายเลย ยิ่งน้ำไหลออกมาเยอะ พี่จะได้เข้าออกง่ายๆ ไงคะ มิ้นท์จะได้ไม่เจ็บด้วย”
“ถะ...ถ้างั้น...พี่น่านช่วยทำเบาๆ หน่อย มิ้นท์ยังปรับตัวไม่ได้”
เธอออดอ้อนเอามือคล้องคอเขา ตอนกระแทกเข้ามาเมื่อกี้เล่นเอาเธอเสร็จคาตักเขาไปหนึ่งรอบ คงจะอารมณ์ค้างตั้งแต่อยู่ในลิฟต์ เธอถึงจุดสุดยอดทันทีที่เขาสอดใส่
“เด็กดี ทำบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชินไปเอง ไม่ต้องกังวลว่าพี่จะทำให้มิ้นท์มีความสุขไม่ได้ เชื่อใจพี่ พี่จะพาน้องมิ้นท์สัมผัสประสบการณ์เสียว”
น่านฟ้าคลี่ยิ้มใจดีกล่อมคนสวยบนตัก วูบหนึ่งที่เขานึกหยันตัวเอง คำพูดแบบนี้ก็กล้าพ่นออกมาได้ ฟังคล้ายกับผู้ใหญ่หลอกกินตับเด็ก ถึงอายุจะห่างกันแค่หกปี แต่เขาคือผู้ชายวัยทำงาน ส่วนเธอยังเพิ่งเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง
พร้อมใช้สองมือขยุ้มบั้นท้ายเชิดงอนเล็กน้อยกดแนบกับอาวุธแข็งขึงเหยียดลำตั้งตรงทรงพลัง บังคับให้สะโพกผายขย่มตัวขึ้นลงควบขี่เขา เธอผวาเฮือกโผกอดเขาไว้แน่นครวญครางกระเส่าปนเสียงหอบหายใจถี่รัว
มนสิชากำลังล่องลอยสู่ดินแดนแห่งใหม่ที่สวยงามน่าค้นหา เส้นทางนี้มีน่านฟ้าช่วยจับจูงให้ได้ไปสัมผัสกับความแปลกใหม่ ยิ่งได้ลิ้มลองก็ยิ่งติดใจจนหลงเพริด เธอเอาแขนคล้องลำคอเขาดันหน้าออกจากไหล่แกร่งหลุบตามองสีหน้าเปี่ยมสุขของหมาป่าตอนล่าเหยื่อได้
พี่น่านกัดฟันแหงนหน้าเปล่งเสียงครางต่ำพร่าแฝงด้วยอารมณ์รักลึกซึ้ง ทุกครั้งที่เขาสอดเข้ามาเหมือนเอาความรู้สึกอัดอั้นทั้งหมดถาโถมใส่ตัวเธอ เธอตกอยู่ในทะเลทรายระอุร้อน เหงื่อไหลโชกชุ่มเสื้อสีขาวจนแนบเนื้อ เธอกัดปากชั่งใจ ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อ ปลดตะขอบราเซียร์ออก หน้าอกหน้าใจดีดผึงกลมกลึงกระเพื่อมขึ้นลง บางครั้งก็ตีกระทบกันเอง เธอเหวี่ยงเหวี่ยงเสื้อกับบราทิ้งไปที่พื้น
หญิงสาวสูดหายใจเข้าข่มกลั้นความอาย ฝ่ามือสอดเข้าท้ายทอยหนุ่มหล่อหน้าตาเคร่งขรึมให้เขาครอบริมฝีปากดูดกลืนปลายยอดชูชันสั่นระริก เธอครางเสียงแหบพอใจกับการปรนเปรอของเขา ทรวงอกอวบอิ่มถูกเอ็นดูด้วยปากและลิ้นสาก เลียชิมรสหวานจนชุ่มน้ำลาย มีรอยดูดแดงเป็นจ้ำๆ บั้นเอวน้อยคลื่อนไหวโยกคลึงครอบครองลำลึงค์หยักขอด แท่งใหญ่ร้อนลวกดุจเหล็กกล้าทะลวงฝ่าแนวป้องกันชำเรากลีบดอกไม้จนบอบช้ำ
มนสิชาเจ็บปลาบระคนเสียวซ่าน เธอไขว่คว้าความสุขอย่างร้อนรน ยอมทำตามใจเขาทุกอย่าง นั่งอยู่ดีๆ เขาก็ลุกขึ้นยืน สองแขนสอดใต้ข้อพับขา พี่น่านเดินไปยังเตียงนอนผ่อนร่างให้เธอนอนหงายบนฟูกโดยที่สะโพกสอบไม่เว้นช่วงหยุดพัก เขากระแทกกระทั้นอัดความร้อนรุ่มเข้ามาได้เรื่อยๆ ราวกับเพลิดเพลินจนหยุดยั้งไม่ได้
น่านฟ้าโน้มตัวลงจุมพิตกลีบปากบวมเจ่อของสาวน้อยใต้ร่าง ยังคงหลงใหลชื่นชอบความสดใหม่เหมือนผู้ชายทั่วไป เขาและเล็มดูดเม้มริมฝีปากน่าสัมผัสของมนสิชา ฟังเสียงครางระงมลั่นห้อง เสียงของเพื่อนน้องสาวไพเราะจับใจ ถึงจะดังไปหน่อยกลับไม่ทำให้เขารู้สึกรำคาญ
ใบหน้าคมเข้มบิดเบ้เมื่อดอกไม้งดงามตอดรัดถี่ขึ้น ชายหนุ่มตวัดเรียวลิ้นม้วนกลืนลิ้นน่ารักอย่างเผด็จการ จูบแน่นหนึบด้วยความกระหาย ร้อนแรงแทบพรากวิญญาณของหญิงสาว ตอนมนสิชาส่งป้อนเต้าอวบให้เขาดูดดึง แสดงออกว่าต้องการเขาอย่างแท้จริง น่านฟ้าถึงกับหมดความอดทน เขาคับเขี่ยวเธอราวกับวัวกระทิงเห็นผ้าแดง เรี่ยวแรงมหาศาลถั่งโถมไหลบ่าเข้ามาไม่ขาดจนเธอครางเจ็บ
“โอ๊ย! พี่น่าน เจ็บๆ มิ้นท์เจ็บ อ๊าา” มนสิชาหน้าตาเหยเก ถึงจะเสียวมาก แต่เขากระแทกเข้ามาเร็วแรงจนท้องน้อยปวดหน่วงด้วยความจุก
“เจ็บเหรอ พี่ขอโทษค่ะ” น่านฟ้าพูดเสียงเบา สะโพกสอบยอมลดความแรงลง เคลื่อนไหวนุ่มนวลขึ้น ใส่ใจดูสีหน้าของสาวน้อยใต้อาณัติที่ปรือตามองเขาด้วยความขวยเขิน เปลือกตาหลุบลงเห็นขนตางอนยาวเป็นแพกระพือหวั่นไหวเคลิ้มฝัน
มนสิชาครางเสียงกระเส่าเหมือนลูกแมวขี้เซาออดอ้อนเจ้านายให้ลูบหัวเกาพุงให้ ดวงตาเรียวคมสวยมีประกายอ่อนหวานแฝงความรักลึกซึ้งอย่างปิดไม่มิด หลายปีที่เฝ้ารอให้เขาหันกลับมามอง แต่เขากลับไม่เคยหันมาสักครั้ง เธอไล่ตามเขาเรื่อยๆ ด้วยความเหนื่อยล้าทว่าคาดหวังว่าในสักวันเขาจะมองเธอในฐานะอื่นบ้าง
ความสัมพันธ์ของพวกเราในตอนนี้ได้มาเพราะความบังเอิญ พี่น่านแค่อยากรับผิดชอบ แค่ลุ่มหลงร่างกายของเขา เมื่อไหร่ที่เขาเสพสุขจนพอใจแล้ว เบื่อที่จะเล่นกับเด็กน้อยอย่างเธอ เขาก็คงทิ้งไปหาผู้หญิงที่เพียบพร้อมกว่า เป็นสาวสวยวัยทำงานเหมือนกับเขา
“ทำไมจู่ๆ ถึงทำหน้าเศร้า”
ดวงตาสีดำทอแววลึกล้ำคร่ำเคร่งจ้องใบหน้านวลกระจ่างสดใสหม่นหมองวูบหนึ่ง พอถูกเขาทวงถามถึงเปลี่ยนสีหน้ากะทันหัน ริมฝีปากอิ่มเอิบสีส้มอ่อนยกยิ้มบาง เธอแสร้งยิ้มหวานโอบแขนรอบลำคอเขาพลางซบหน้ากับไหล่ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม เขายิ้มเหี้ยมถอยสะโพกออกห่างเอวน้อยจนท่อนเนื้อเกือบหลุดจากกลีบผกา สะโพกขาวนุ่มขยับตามอย่างลืมตัว พอเขาไม่ยอมเข้ามาสักทีจึงหลุดเสียงครางประท้วง
“มิ้นท์คิดอะไร” เสียงทุ้มต่ำมีอำนาจลึกลับบางอย่างทำให้คนฟังรู้สึกกดดัน ถึงไม่เต็มใจตอบก็ยังต้องตอบอยู่ดี
เธอลูบไล้แผงอกหนั่นแน่นด้วยท่าทีออดอ้อนกึ่งขลาดกลัว ได้แต่จ้องมองอกของเขาพูดเสียงแผ่วเบาราวยุงบิน
“อีกไม่นานพี่น่านคงเบื่อมิ้นท์”
“แต่ตอนนี้ยัง พี่ไม่คิดจะปล่อยน้องมิ้นท์ไปไหนทั้งนั้น อยู่กับพี่ตรงนี้ มีความสุขที่พี่ปรนเปรอให้ น้องมิ้นท์เป็นผู้หญิงของพี่แล้ว พี่จะดูแลอย่างดีค่ะ”
“พี่น่านจะไม่มีใครระหว่างที่เราคบกัน”
“พี่ไม่ชอบคบซ้อน”
ปึก
“อ๊าา!”
“แค่ดูแลผู้หญิงคนเดียวก็เหนื่อยแล้ว” เสียงหยอกเย้าแหย่สาวสวยตาฉ่ำหวานใต้ร่าง หลังจากอัดท่อนเอ็นใหญ่กระแทกกลับเข้าไปในกลีบผกาเต็มกำลัง ทำเอามนสิชาหวีดร้องเสียงแหลมตัวสั่นเทา
น่านฟ้าหัวเราะเสียงกระเซ้าก้มลงหอมแก้มใสแดงระเรื่อ ร่างกายสูงใหญ่เคลื่อนไหวไปตามความเสน่หา จัดแจงทวงท่าเหมาะสมต่อการรุกรานดอกไม้ช่องาม ระรานรุกล้ำพาเพื่อนน้องสาวไปสู่เวิ้งว้างของความหฤหรรษ์ ดวงตาคมกริบฉายแววเจ้าเล่ห์เหมือนราชสีห์แหย่หนูตัวเล็กๆ ตะปบเล่นสร้างความสนุกให้ตัวเอง
เป็นเวลานานกว่าทั้งสองคนจะตะกายแตะขอบฟ้าอันพร่างพรายงดงาม มนสิชาหลับตาลงด้วยความอ่อนเพลีย ปล่อยให้น่านฟ้าตระกองกอดด้วยความเอ็นดู เฝ้าวนเวียนจูบซับผิวกายชื้นเหงื่ออย่างหลงใหล