7

2029 คำ
หรันอันเจียวได้ฟูกกับผ้าห่มมาที่ห้องเล็กๆ ซึ่งอยู่ข้างห้องครัว มันสะอาดอยู่หรอก แต่แคบ ทั้งมีกลิ่นอาหารอบอวลไปหมด ทว่าหรันอันเจียวกลับรู้สึกสงบเมื่อเข้ามาในห้อง และนางไม่เชื่อว่าตนจะได้ที่พักพิงจริงๆ เสียที หลังจากใช้ชีวิตเร่ร่อนมานาน ซึ่งทั้งหมดคงเป็นเพราะภาพในหัวที่มองเห็น นางจึงขอให้ท่านลุงช่วยเขียนป้ายขายตัวเองที่ตลาดเมืองฉิน ยามนั้นก็เชื่อมั่นอยู่ลึกๆ ว่า นางจะได้พบบุรุษสักคน ที่ช่วยฉุดให้นางพบกับชีวิตใหม่ ในขณะที่กำลังจะงับประตูบานเล็ก ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาในครัว และส่งเสียงบอกให้นางรู้ “เข้าไปได้หรือไม่” “หัวเกอหรือเจ้าคะ เชิญเข้ามาได้เลย ข้าพึ่งจัดที่นอนเรียบร้อย” ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปดูฟูกที่นางปู และกวาดตามองทั้งด้านนอกและด้านใน ก่อนเอ่ยว่า “อารุ่ย... หากห้องเก็บของนี้คับแคบไป เจ้าก็นอนกับลูกโฉวดีหรือไม่ เมื่อครู่ข้า ให้ลูกหยานจัดที่นอนเพิ่มไว้แล้ว” “เกรงว่า จะเป็นการรบกวนเกินไป โฉวเกอนอนแล้ว อีกอย่างข้าคงต้องลุกขึ้นแต่เช้า เพื่อเตรียมอาหาร” “เชื่อข้า นอนกับลูกโฉวดีที่สุด ข้าอยากให้เขามีคนเฝ้าตอนกลางคืน เพราะเขาชอบละเมอ ส่วนตัวข้าเข้านอนไม่เป็นเวลา พักหลังยิ่งต้องเตรียมยา และสมุนไพร เพื่อใช้ในการรักษาทหารเมื่อต้องออกรบ” ซ่งเฟิงหัว ไม่เหมือนพระเอกคนใดในนิยายที่นางเคยอ่านผ่านตา หรือตัวละครในซีรีย์ดังๆ ที่ส่วนมาก มักจะอำมหิต เผด็จการ ทำตัวแบดบอย ชอบทำร้ายจิตใจ หรือร่างกายนางเอก บุรุษผู้นี้ เปี่ยมด้วยความเมตตา รักบุตรของตนยิ่ง สิ่งนี้ทำให้หรันอันเจียว มองเขาให้แง่ดี ถามว่านางชอบเขาหรือไม่ แน่นอนจิตใจเอนเอียงไปมาก ทว่าเรื่องอื่นๆ ต่อจากนั้น ยังตอบไม่ได้ เพราะมันอาจเร็วเกินไป ที่สำคัญนางเป็นหญิงหม้าย ใครจะมารักสตรีที่มีมลทิน ทั้งอดีตนางก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม เพียงแต่ว่า ผู้ที่มาสวมร่างนี้ จดจำเรื่องราวแต่ภายหลังยังไม่ได้ อีกไม่นาน คนที่รู้จักนางกำลังจะทยอยปรากฏตัว พวกเขามีเจตนา ทั้งดีและร้าย และหรันอันเจียวย่อมต้องเตรียมรับมือให้ดี “นอนกับลูกโฉวเถิด อย่างน้อยที่สุด ก็ทำให้ข้าสบายใจ” คำพูดชายหนุ่ม มีเลศนัยแอบแฝงอย่างแน่นอน และสายตาเขากลับมาซุกซนอย่างซ่อนเร้นไม่มิด หญิงสาวไม่กล้าสู้สายตาเขาตรงๆ นางตอบกลับว่า “เช่นนั้น ข้าจะทำตามที่หัวเกอบอก” “ดี คืนนี้นอนกับลูกโฉวก่อน ต่อไป ข้าจะขยับขยายห้องใหม่ให้เจ้า” “ขอบคุณหัวเกอ ข้าช่างโชคดียิ่งนัก เดินทางนับพันลี้ พบผู้คนมากหน้า และครอบครัวท่านทำให้ข้า จิตใจสงบสุข... แม้เพิ่งมาอยู่ได้ไม่ถึงวัน ข้ากล้าพูดได้เลยว่า เหมือนคุ้นเคยที่นี่ เป็นอย่างดี” ชายหนุ่มยิ้ม แล้วบอกนางว่า “อารุ่ย... เจ้าทำให้ข้า ได้หันกลับมาใส่ใจเด็กๆ ทั้งสองคนมากกว่าเดิม ลูกโฉวยังเล็ก เขาอ่อนไหวง่าย หากไม่ใช่เด็กอ่อนแอ ส่วนลูกหยาน นางเอาแต่ใจอยู่สักหน่อย เพราะติดท่านย่า เรื่องพวกนี้เจ้าคงพอมองออก” “ท่านเชื่อใจได้ ข้าจะช่วยดูแลพวกเขา ให้มากกว่าเงินห้าตำลึงฯ ที่ท่านจ่ายแน่นอน” ชายหนุ่มหัวเราะ ก่อนพูดเป็นเชิงทีเล่นทีจริง “อืม ข้าเพิ่งนึกขึ้นได้ ลูกโฉว เรียกเจ้าว่า แม่รุ่ย...เอ่อ เป็นฮูหยินห้าตำลึงเงิน ตัวข้าเชื่อเสมอมาว่า เด็กมักพูดแต่ความจริง และเรื่องนี้ทำให้เจ้าลำบากใจหรือไม่” ยามนั้นหรันอันเจียวฉงนใจอยากหนัก ซ่งเฟิงหัว ถามนางเช่นนี้ ผู้ชายตัวโต ที่ดูเหมือนงูไร้พิษสง เขาต้องการคำตอบแบบใดกันแน่ ! และหญิงสาวอยากใช้วิธีของซ่งโม่โฉว พร้อมแกล้งง่วงนอน ทว่าคนตัวโตกลับส่งสายตาทอแสงอ่อนๆ ละม้ายอยากได้ยินคำตอบจากปากนาง กระทั่งนางไม่พูดสิ่งใด เพื่อเฉลยความในใจให้รู้ เขาก็หมดความอดทน แสดงท่าทางคล้ายเด็กน้อยผู้หนึ่ง “หากอารุ่ย ชอบเก็บความลับ เพื่อทรมานใจผู้อื่น ข้าก็ไม่อาจเค้นคำตอบใดๆ ได้ หวังเพียงว่า คืนนี้เจ้าจะนอนฝันดี ส่วนตัวข้า คงตรงกันข้ามกับเจ้าแน่นอน และหากถึงขั้นฝันร้าย ก็เป็นอารุ่ยที่สงเสริมให้เกิดเรื่องเช่นนี้กับคนแซ่ซ่ง...” ชายหนุ่มว่าจบ หรันอันเจียวก็อดขำไม่ได้ เขามีมุมเช่นนี้ด้วยหรือ ซ่งเฟิงหัว ผู้เป็นถึงหมอเทวดานี่นะ! “เอาไว้ข้านอนหลับเต็มอิ่ม และฝันหวานสักสองสามคืน หากได้คำตอบที่ดี อาจจะเปิดปากบอกหัวเกอนะเจ้าคะ” กล่าวจบนางจึงพยักหน้าให้เขา พร้อมผายมือเชิญอีกฝ่าย นำทางเพื่อไปนอนกับซ่งโม่โฉว “เออ ลูกโฉวชอบนอนดิ้น ข้าอาจต้องอยู่เฝ้าเขาสักหนึ่งชั่วยาม ส่วนเจ้าไปถึงก็นอนได้เลย อย่ากังวลเรื่องใด” เขาพูดเช่นนั้น แน่นอนเป็นการออกคำสั่งของเจ้าของเรือน หรันอันเจียวจึงไม่อาจโต้แย้งคนตัวโต ดูเถิดดีได้เพียงประเดี๋ยวเดียว ก็ออกลายของคนเจ้าเล่ห์ให้นางเห็นเสียแล้ว เวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน และเข้าวันที่ห้าแล้วในการมาอาศัยเรือนซ่งของหรันอันเจียว ซึ่งนางจัดการสิ่งต่างๆ ที่ซ่งเฟิงหัวสั่งได้อย่างดี ไม่มีข้อบกพร่อง การต่อเติมเรือนใหม่ที่เขาบอกไว้เพื่อทำห้องส่วนตัวให้หญิงสาว ก็เป็นนางที่ออกปากห้ามไว้ ด้วยอยากอยู่กับซ่งโม่โฉว ต้องการดูแลเขาใกล้ชิด เมื่อเขารักนาง ออกปากเรียกว่าแม่รุ่ย ชีวิตนี้นางก็ปรารถนาเป็นแม่ที่ดีของเด็กชาย กระทั่งเป็นยามสายของวันที่อากาศดี นางได้รู้ว่าซ่งเฟิงหัวเป็นบุรุษคออ่อนอยู่สักหน่อย หากชอบดื่มสุรายิ่งนัก นั่นเป็นเพราะสหายของเขา ทั้งแม่ทัพปู้ และขุนนางอีกหลายคนที่เดินทางมาจากเมืองหลวง นัดอีกฝ่ายออกไปสังสรรค์ซึ่งเขาเถลไถลมาก แน่นอนไม่ใช่หน้าที่ซึ่งนางต้องไปตามอีกฝ่าย ทว่าเป็นเติ้งซีที่มาบอกนางว่า ชายหนุ่มต้องการให้หรันอันเจียวไปเลือกผ้าแพร และของใช้บางอย่างที่มาพร้อมกับรถม้าซึ่งเดินทางมาจากเมืองหลวง “หมอหัวสั่งเช่นนั้นขอรับ และบอกให้แม่นางรุ่ยรีบไปเดี๋ยวนี้ หากช้าเขาจะเรียกค่าปรับหลายตำลึงด้วย” หรันอันเจียวแปลกใจอยู่สักหน่อย พักหลังซ่งเฟิงหัว ชอบหาข้ออ้างวอแวนาง และถามว่าชอบไหม หัวใจนางพองฟูเชียวล่ะ ทว่าอุปสรรคมีทุกด้าน ทั้งแม่สามี แล้วก็ลูกสาวของเขา รวมถึงชาติกำเนิดนางที่ยังไม่แน่ชัด (หรันอันเจียวจดจำเรื่องภายหลังของตนยังไม่ได้ทั้งหมด) “โฉวเกอเพิ่งกินข้าวอิ่ม อีกสักพักคงอยากออกไปเล่นขี่ม้าไม้” หญิงสาวบอกเติ้งซี “แม่นางรุ่ย... ยามนี้มีสิ่งใดต้องสนใจเท่าคำสั่งหมอหัว ท่านช่างไม่รู้ว่า ยามเขาดื่มสุรา ห้ามผู้ใดขัดใจ แม้แต่แม่ทัพปู้ยังต้องยอมถอยให้คนผู้นี้” “ดื่มสุรา!?” นางทวนคำเติ้งซีด้วยความตกใจ “เฮ้อ แต่ตอนนี้คงเป็นการอาบไปแล้ว แม่นางรุ่ยรีบไปพาเขาออกจากตรอกชมจันทร์เสียที เขาใช้เวลาอยู่ที่หอเซียนเมารักนานเกินไปแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะติดใจสตรีสักคนที่นั่น!” เติ้งซีบอกเช่นนั้นเพราะชายหนุ่มออกจากเรือนไปตั้งแต่เมื่อวานช่วงบ่าย ตอนนี้ก็เป็นยามสายอีกวัน สุขภาพซ่งเฟิงหัวใช่ว่าจะดีนัก และยิ่งดื่มสุราครั้งใด เขาก็กลายเป็นเด็กหนุ่มที่ต้องมีใครสักคนปราม และตอนนี้เติ้งซีก็หวังว่า หรันอันเจียวจะทำหน้าที่สำเร็จ “ถ้าอย่างนั้น ข้าขอเปลี่ยนเสื้อผ้าสักหน่อย” ตอนแรกหรันอันเจียวคิดว่าคงเห็นภาพบาดตาบาดใจ ของชายหนุ่มที่มีสาวๆ คลอเคลียหน้าหลัง ทว่าสิ่งที่ประจักษ์ด้วยตาของตนคือ ซ่งเฟิงหัวยิ้มกว้าง และคุยเสียงดังกว่าปกติ ยามนี้เขารอนางอยู่ในรถม้าที่จะเดินทางไปดูสินค้า ที่เรือนรับรองของเจ้าเมืองฉิน “ข้าสนุกมากเกินไปสักหน่อย อารุ่ยคงไม่ตำหนิที่เมื่อคืนไม่ได้กลับเรือน” เขาพูดอย่างนั้น พลอยให้นางสำคัญตัวว่าเป็นฮูหยินของอีกฝ่าย “ข้าแค่เป็นห่วง และอาหารเย็นจนถึงอาหารเช้า ข้าเตรียมไว้หัวเกอ ทั้งหมดก็กินไม่ได้ สิ่งนี้เมื่อนึกถึงก็เสียดายมาก” “กลับเรือน ข้าจะลงมือทำอาหารให้เจ้ากินด้วยตนเอง แต่เป็นของง่ายๆ มิใช่อาหารเลิศรสอันใด” “ใครจะกล้ารบกวนหัวเกอ” ปลายเสียงของนางแสดงความแง่งอนอย่างชัดแจ้ง “มิใช่รบกวน ถือเสียว่าข้า ทำความดีเล็กๆ น้อยๆ ตอบแทนน้ำใจ อีกทั้งการทำให้เจ้าเป็นห่วง หาใช่เรื่องน่ายินดี” หรันอันเจียวพยักหน้ารับ ยามนั้นนางขยับสาปเสื้อของตนเล็กน้อย เพราะรู้สึกได้ว่า สายตาคมๆ ของชายหนุ่ม ซุกซนเหลือเกิน เขามองใบหน้างามที่แต้มสีสันงดงาม แล้วเลยลงมาที่ลำคอ ก่อนมองเนิ่นนานบริเวณหน้าอกอวบสวย ซึ่งแม้มันอยู่ในร่มผ้า แต่เขาก็ทำให้นางสะเทิ้นอายขัดเขิน “ข้าไม่ได้คิดเอาเปรียบเจ้า หรือหมกหมุ่นกับเรื่องระหว่างชายหญิงหรอกนะ แต่... สุราของสหายปู้ กับเครื่องหอมที่เขาให้ข้าทดสอบ มันร้ายกาจจน...เอ่อ อยากชมของสวยของงามอยู่ตลอดเวลา!” หญิงสาวพยายามไม่คิดสิ่งใดแล้ว ทว่าซ่งเฟิงหัวกับเป็นฝ่ายเริ่มมันเสียนี่ และยังดูเหมือนว่า เขากำลังต้องการบางสิ่งที่อาจทำให้หรันอันเจียวต้องพบความยุ่งยาก เมื่อนางนิ่งงัน เขาก็เอ่ยต่อ “ข้าไม่เคยจ่ายเงิน เพื่อให้สตรีมอบความสุขให้... หากเกิดความปรารถนาเมื่อใด มักมีคนเสนอมิขาด” ซ่งเฟิงหัวพูดจาอย่างคนหน้าไม่อาย และนางอยากให้เขาสร่างเมาเดี๋ยวนี้ “อันที่จริง หากข้ากลับไปนั่งรถม้าคันเล็กๆ จะดีกว่าหรือไม่ ชายหญิงอย่างไรก็ไม่สมควรใกล้ชิด ยิ่งข้ามีฐานะต่ำต้อย เป็นบ่าวในเรือนของท่าน” หญิงสาวตอบอย่างนั้น ฟังแล้วรุนแรงอยู่สักหน่อย แต่นางไม่ชอบให้บุรุษใด คิดว่าตนเป็นสตรีใจง่าย แม้จะขายตัวเข้าเรือนของซ่งเฟิงหัว แต่นางรักศักดิ์ตน ยิ่งกว่านั้น จู่ๆ อาการครั่นคร้ามใจต่อบุรุษก็เกิดขึ้น คงเป็นตั้งแต่ที่หรันอันเจียวรู้สึกได้ว่า มีใครแอบติดตามนาง “เหตุใดจู่ๆ ถึงกลัวข้าขึ้นมา” คำถามตรงๆ ไม่อ้อมคอม หรันอันเจียวนิ่วหน้า และใช้ความคิดอยู่ประเดี๋ยวเดียว จึงตอบออกไป “คงเป็นเพราะรู้ว่า หัวเกอสติไม่อยู่กับเนื้อตัว และกำลังทำในสิ่งที่ ควบคุมตนเองไม่ได้” “อารุ่ย... ส่วนหนึ่งที่ข้าดื่มอย่างหนัก ตั้งแต่เมื่อคืน จนถึงรุ่งเช้าก็เพราะ อยากมีความกล้าพอที่จะเปิดเผยความรู้สึกในใจต่อเจ้า” หรันอันเจียวหยุดนิ่งไปในทันที “ปกติ ข้าเห็นหัวเกอเปิดเผยทุกอย่าง และสำหรับคนด้อยวาสนา ท่านอย่าได้ให้ความใส่ใจมากเลย หาไม่แล้วคงเป็นข้าที่รู้สึกผิด” หญิงสาวไม่ได้อยากแสดงความงี่เง่า ทว่านางกลัวว่า ภายภาคหน้า สตรีไร้หัวนอนปลายเท้าอาจต้องเจ็บหนัก จากการรักซ่งเฟิงหัว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม