“ไอ้แก่ไม่มีน้ำยา”
เสียงประตูรถปิดดังปึงใหญ่คล้อยหลังหญิงสาวที่ก้าวขึ้นรถมาแล้วเพียงเสี้ยวนาที
ตามด้วยคำด่าทอที่ไม่น่าฟังดังตามมาตัดกับน้ำเสียงหวานๆ ของคนพูด
ส่วนหน้าตาของคนพูดนั้นก็ไม่ต้องพูดถึง หงิกงอเสียจนหาความสวยไม่เจอเลยทีเดียว
ด้วยเธอนั้นกำลังโกรธเคืองเจ้าของบ้านที่เธอเพิ่งจะหันหลังเดินจากมาอย่างพ่อเลี้ยงเกษมที่ชวนเธอมาค้างคืนที่บ้านเป็นอย่างมากจนไม่อาจเก็บอาการเอาไว้ได้
ก็เพราะเขานั้นไม่ทำอะไรหม้ายสาวอย่างเธอเลยทั้งที่เธอนั้นยั่วยวนเขาสุดชีวิต เธอตั้งใจมาเป็นของเขาเพื่อหวังจะครองรักกับเขาที่ก็เป็นโสดเมียเพิ่งจะตายไป แต่เขากลับชวนเธอนอนจับมือกัน
“นี่แกโอเคไหมยัยพราว”
กชมนหรือรุ้งเพื่อนรักของพราวมุกหันไปถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นอาการของเพื่อนไม่สู้ดีนัก
เธอเป็นสารถีส่วนตัวของพราวมุก ด้วยเมื่อวานเธอมาส่งเพื่อนเอาไว้และวันนี้เธอก็มารับกลับ
ก็หวังอยากจะเห็นเพื่อนมีความสุขสมหวังในความรักกับเขาบ้างเลยทำแบบนี้ ไม่คิดว่าเพื่อนจะมีอาการไม่สู้ดีขนาดนี้ตั้งแต่ขึ้นรถมา
“รีบขับรถไปเถอะน่ะ ไม่ต้องมาถามมาก”
พราวมุกหันไปแผดเสียงใส่เพื่อนสาวของเธออย่างคนอารมณ์เสีย
เธอควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่จริงๆ เพราะกำลังผิดหวังอย่างมาก
ก็เธอตั้งใจมาเสียตัวมาเป็นของตาแก่นั้นแท้ๆ แต่กลับไม่ได้ความสัมพันธ์อะไรกลับไปเลยนอกจากมีเพื่อนเพิ่มขึ้น
อุตส่าห์ทนมาทั้งคืนหวังว่าช่วงเช้าจะมีอะไรดีขึ้นมาบ้างก็ยังไม่มีอะไรขึ้นมาอีกนอกจากกินข้าวเช้าด้วยกัน
~อยากจะบ้าตาย~
“พ่อเลี้ยงเกษมเขาไม่ถูกใจแกเลยเหรอ แกถึงได้วิ่งแจ้นออกจากบ้านเขาแต่เช้าเนี่ย”
กชมนขับรถออกจากหน้าบ้านของพ่อเลี้ยงเกษมไปก็หันไปถามเพื่อนสาวของเธอไปด้วยเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
ดูจากอาการโมโหของพราวมุกแล้วนั้น เธอไม่ควรที่จะจอดรถอยู่ตรงหน้าบ้านของพ่อเลี้ยงเกษม เธอควรรีบพาเพื่อนออกไปจากตรงนั้น
ถึงไม่รู้ว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพราวมุกถึงมีท่าทีเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ทั้งที่ตอนมาส่งนั้น พราวมุกยังมีอาการดีใจยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นอย่างดี
“ไม่ถูกใจบ้าอะไรล่ะ ไม่ได้ทำอะไรเลยนะซิ เอาแต่นอนกรน”
พราวมุกหันไปแผดเสียงอีกรอบใส่หน้าเพื่อนรักอย่างกชมนเพื่อระบายอารมณ์เมื่อถูกถามจี้ใจดำถึงเรื่องเมื่อคืนนี้
เธอก็ไม่ได้จะอยากได้ผู้ชายจนตัวสั่นอะไรหรอกนะ แต่พ่อเลี้ยงเกษมคือคนที่เธออุตส่าห์ตามจีบเพราะเห็นว่าเขานั้นเหมาะจะมาเป็นพ่อของลูกเธอจนกระทั่งเขาชวนมาค้างคืนที่บ้าน
สาวเริ่มแก่อย่างเธอก็คาดหวังสิว่าจะได้เขามาเป็นพ่อของลูก แล้วสรุปมันเป็นแบบนี้ เป็นได้แค่เพื่อนกัน จะไม่ให้เธออารมณ์เสียได้ยังไงกัน
“เขาดูดี ดูรักสุขภาพแบบว่าดูแลตัวเองออกกำลังกายอะไรซะขนาดนั้น เขาน่าจะสนุกกับแกทั้งคืนไม่ใช่เหรอยัยพราว”
คนฟังอย่างกชมนถึงกับเริ่มมีสีหน้าผิดหวังตามเพื่อนเมื่อได้รับรู้ว่าเพื่อนต้องเจอกับอะไรมาบ้าง
ก็ตัวเธอก็คาดหวังให้เพื่อนได้เป็นฝั่งเป็นฝากับคนดีๆ อย่างพ่อเลี้ยงเกษมเหมือนกันถึงได้ขับรถพาเพื่อนมาส่งไว้ตั้งแต่เมื่อวาน
อีกอย่างพ่อเลี้ยงนั้นก็ดูฟิตเปรี๊ยะไปทั้งตัว ออกกำลังกายให้เห็นทุกครั้งที่เจอกัน ก็น่าจะทำเพื่อนของเธอที่เป็นหม้ายมาหลายปีได้สนุกกันทั้งคืนไม่ใช่เหรอ มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ
“สนุกกับผีบ้านผีเรือนนะซิ กรนเอาๆ แบบนั้นนะ”
พราวมุกถึงกับถอนหายใจยาวอย่างเหนื่อยหน่ายในชีวิตที่ต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้
เธอสืบประวัติเขามาเป็นอย่างดีและเป็นเวลานานพอสมควรจนเกิดการตัดสินใจขึ้น ไม่คิดเลยว่าจะพลาดครั้งยิ่งใหญ่แบบนี้
“แล้วนี่แกจะสานต่อกับเขาไหม”
กชมนหันไปถามเพื่อนอย่างนึกเสียดายเมื่อขับรถพาเพื่อนมาถึงยังบริเวณหน้าบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพราะถึงพ่อเลี้ยงเกษมนั้นจะไม่มีน้ำยาอย่างที่เพื่อนของเธอว่ามา แต่พ่อเลี้ยงเกษมก็รวยระดับต้นๆ ของจังหวัดเลยนะ ถ้าได้มาเป็นสามีแล้วละก็คงสบายไปทั้งชาติ
แถมยังมีหน้ามีตาในวงสังคมของจังหวัดนี้อีกด้วย เป็นที่นับหน้าถือตาของพวกผู้หลักผู้ใหญ่ ถ้าใครได้เป็นคุณนายของเขาต่อจากเมียที่ตายไปเมื่อปีที่แล้วคงจะดูดีไม่น้อย
ลึกๆ แล้วเธอก็อยากให้พราวมุกนั้นสานต่อกับพ่อเลี้ยงเกษม อยากให้เพื่อนตัดเรื่องการที่ต้องมีลูกทิ้งไป แล้วอยู่อย่างสุขสบายแบบคุณนาย
“ไม่เอาแล้ว แก่ก็แก่แถมยังนอนกรนเหมือนหมูอีก พอกันที”
พราวมุกถอนหายใจยาวและดังอีกครั้งเพื่อระบายความอัดอั้นที่ต้องไปเจอกับความผิดหวังนั้นออกมาให้หมด
เธอจะไม่มีวันสานต่อสัมพันกับพ่อเลี้ยงเกษมนั้นอีก เพราะเขาไม่อาจมอบในสิ่งที่เธอต้องการให้ได้
ด้วยเธอนั้นมีความหวังอันสูงสุดในชีวิตคือต้องการมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ต้องการเป็นแม่คน ไม่ใช่เป็นแค่เมียน้อยข้างๆ บนเตียงแบบนั้น
“เออ ไม่เอาก็ไม่เอา”
กชมนเลิกล้มความคิดของตัวเองเมื่อเห็นว่าพราวมุกนั้นยังคงแน่วแน่กับความคิดในเรื่องของการสร้างครอบครัวของตัวเอง
เธอยอมถอยออกมาไม่เข้าไปเชียร์เพื่อนให้ต้องเสียเวลา เพราะเมื่อไหร่ที่พราวมุกแน่วแน่แล้วนั้นก็ไม่มีใครเข้าไปเปลี่ยนความคิดของพราวมุกได้อีก
“ขอบใจมากนะที่มาส่ง”
พราวมุกหันไปขอบคุณเพื่อนสาวลูกหนึ่งและสามีอีกหนึ่งของเธอก่อนจะลงจากรถไป
ไฟของหม้ายสาวอย่างเธอมอดลงอีกครั้งหลังจากต้องไปเจอกับอะไรที่มันผิดหวังแบบนั้น
เธอคงต้องอยู่แต่ในบ้านไร่เลี้ยงโคนมไปวันๆ จนแห้งตายเหมือนเดิม คงไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากนี้ได้อีกแล้ว
ที่มันเป็นแบบนี้ก็คงเป็นเพราะไอ้สารเลวที่มันมาหลอกให้เธอแต่งงานแล้วก็เชิดเงินสินสอดหนีไปในคืนนั้นมันสาปแช่งเธอเอาไว้แน่ๆ
ชีวิตเธอมันถึงไม่มีอะไรดีขึ้นมา มีแต่ต้องรีดนมวัวหาเงินใช้ไปวันๆ เท่านั้นเอง
“ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนก่อนไหม”
กชมนลดกระจกรถของเธอลงเพื่อถามไถ่เพื่อนสาวอีกครั้ง เห็นเพื่อนเดินคอตกลงจากรถไปแบบนั้นก็เริ่มรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี ไม่อยากจะทิ้งเพื่อนเอาไว้เพียงลำพังกับแม่โคนมสิบกว่าตัวนั้น
“ไม่ต้อง ฉันต้องการอยู่คนเดียวสักระยะ ไม่มีเรื่องด่วนไม่ต้องติดต่อมา”
พราวมุกโบกมือไปมาให้กับกชมนเป็นการปฏิเสธก่อนจะเดินหน้าตรงเข้าบ้านไปไม่หันหลังกลับมามองอีก
เธอต้องการพักทำใจสักระยะ เพื่อดำเนินชีวิตต่อไป
ส่วนกชมนนั้นจอดรถรอดูจนกระทั่งเพื่อนเดินเข้าบ้านไป เธอถึงขับรถกลับออกไป
ใจก็ยังเป็นห่วงเพื่อนสาวอยู่ไม่น้อย แต่ทว่าก็ไม่กล้าเข้าไปวุ่นวายมากนัก
เพราะพราวมุกกำลังผิดหวังอยู่ คงต้องการความเป็นส่วนตัวเพื่อทำใจ
“ไอ้แก่บ้า ทำฉันอารมณ์ค้าง โธ่โว้ย”
ร่างบางของพราวมุกทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างเหนื่อยล้ากับชีวิต
เธอนอนพลิกตัวไปมาเพื่อหวังพักผ่อนให้สบายตัวสักนิดจะได้ลุกไปทำงานในฟาร์มโคนมของเธอต่อ
แต่ทว่ายิ่งนอนอารมณ์ความต้องการในตัวมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้น และพอยิ่งนึกถึงว่าเมื่อคืนควรจะได้ก็ยิ่งมีอารมณ์ความต้องการมากขึ้นไปอีกจนเธอเริ่มหงุดหงิด และเริ่มหาทางออก
“อ่ะ อื้อ”
มือบางของหญิงสาววัยสามสิบสอดเข้าไปในกางเกงชั้นในของตัวเอง ใช้นิ้วที่ยาวที่สุดเข้าไปคลึงเบาๆ กับเม็ดทับทิมสีหวานของตัวเอง มืออีกข้างยกขึ้นขย้ำหน้าอกอวบของตัวเองไปมารับกับจังหวะที่ด้านล่าง
สองขายกขึ้นเบียดเสียดกันไปมาเพื่อความเสียวกระสันให้กับตัวเอง
ดวงตากลมสวยหลับพริ้มเพื่อนำพาสมองให้จินตนาการไปถึงพระเอกซีรีส์ที่เธอนั้นชื่นชอบ
“อื้อ”
น้ำหวานของเธอเริ่มไหลออกมาชโลมนิ้วเรียวที่ยังคงขยับไปมาบนความอ่อนไหวของตัวเอง
ทำให้เธอนั้นขยับนิ้วได้เร็วขึ้นกว่าเดิม โดยมีขาเรียวกอดเกี้ยวกันแน่นเพื่อดันให้นิ้วนั้นอยู่ใกล้ความอ่อนไหวมากที่สุด
“อืม”
ร่างบางที่ยังคงหลับตาพริ้มเพื่อจินตนาการไปให้ไกลที่สุดพลิกตัวนอนคว่ำหน้าไปกับหมอนใบโตของตัวเอง
โดยที่นิ้วของเธอยังคงขยี้ไปมาบนเม็ดทับทิมสีหวาน ส่วนอีกข้างขย้ำหน้าอกไปมาสลับกัน และสองขายังคงเบียดเสียดแนบชิดกันอยู่
“อ้าย”
เธอส่งนิ้วเรียวเข้าไปใกล้ช่องทางคับแคบที่ไม่เคยมีใครได้เข้าหามาก่อนหลายต่อหลายครั้งสลับกับมาเคล้นคลึงเม็ดทับทิมสีหวานนั้น
พร้อมกับหนีบเรียวขาให้แน่นขึ้น แน่นขึ้น เท่าที่จะทำได้
ส่งให้ตัวเธอเองนั้นถึงสวรรค์ของการจินตนาการ ได้ปลดปล่อยอารมณ์แห่งความต้องการออกมา