เช้าวันต่อมา....
คุณพิ้งค์เดินเข้ามาในตึก SK Channel อย่างอารมณ์ดีพร้อมกับกระเป๋าใบใหม่ที่มีไอ้หมูอ้วนสายเปย์ซื้อมาให้ เขารู้วิธีการเอาใจเธอมาตั้งแต่ตอนเรียนแล้วเธอไม่ค่อยแปลกใจที่เขาจะทำอะไรแบบนี้ แต่บางอย่างถ้ามันมีมูลค่าที่มากเกินไปเธอก็ไม่อยากรับไว้ แต่ยกเว้นใบนี้นะเธออยากได้มากก็เลยรับไว้แค่นั้นแหละ
"สวัสดีค่ะคุณพิ้งค์"
"สวัสดีจ๊ะทุกคน ตั้งใจทำงานนะ"
คุณพิ้งค์โบกไม้โบกมือให้พนักงานในบริษัทด้วยใบหน้าที่อารมณ์ดีสุดๆ เธอหันไปเจอผู้ช่วยของเธอที่ยืนถือแฟ้มอยู่ตรงทางขึ้นลิฟต์ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา
"สวัสดีค่ะคุณพิ้งค์คนสวย อุ๊ย!!! กระเป๋าใหม่ อร๊ายยย เพิ่งโพสเมื่อวานวันนี้จัดมาแล้วสมเป็นเจ้าแม่แฟชั่นจริงๆ สวยมากเลยค่ะขอจับให้เป็นบุญหน่อยนะคะ"
คุณพิ้งค์เดินตรงไปหาผู้ช่วยของเธอก่อนจะถือกระเป๋ามาอวด ใครเห็นก็ว่าสวยถ้าเธอบอกว่าชอบนั้นคือคนอื่นจะบอกว่าสวยมากจริงๆ มินนี่ยื่นมือมาจะจับกระเป๋าหญิงสาวรีบดึงกลับทันที
"ไม่ได้ยะ!! ห้ามแตะแม้แต่น้อยนิดเดียวก็ไม่ได้ ดูอย่างเดียวก็พอ"
"มินนี่อยากสัมผัสให้เป็นบุญ มินนี่สู้ราคาไม่ไหวหรอกค่ะว่าแต่คุณพิ้งค์ซื้อมาเท่าไหร่คะ"
เธอมองกระเป๋าของตัวเองก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเขินๆ
"คือจริงๆแล้วไม่ได้ซื้อเองหรอกมีคนซื้อมาให้นะ"
มินนี่มองเจ้านายที่ยิ้มแก้มแดงก่อนจะเริ่มมองอย่างจับผิด อาการเหมือนมีหนุ่มๆมาจีบรึเปล่าทำไมเจ้านายของเธอยิ้มเขินแปลกๆ
"กริ๊ดดด มีหนุ่มมาจีบเหรอคะ เขาซื้อกระเป๋ามาให้เลยเหรอสายเปย์มากเลยอ่ะ อร๊ายยย อิจฉาค่ะ"
"ใช่ละ...เอ้ย!!! มะ..ไม่ใช่อย่างนั้นนะ"
คุณพิ้งค์เอ่ยออกไปก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าหลุดปากเธอรีบปฎิเสธพัลวัน เธอเงยหน้าขึ้นหันไปสบตากับวินจิที่ยืนกอดอกมองเธออยู่ตรงประตูลิฟต์ หญิงสาวตาโตก่อนจะเริ่มทำตัวไม่ถูก มาตอนไหนเนี้ย
"ฮั่นแน่.. หลุดปากมาแล้วเขาคนนั้นเป็นใครกันคะไฮโซที่ไหนเอ๋ย"
คุณพิ้งค์เงยหน้ามองวินจิที่เอาแต่ยิ้มมองเธออยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน ส่วนเธอก็ไม่กล้าตอบลูกน้องเลยไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีตอนนี้
"เอ่อ..คือว่า"
"บอกมาเลยค่ะ มินนี่รู้จักมั้ย"
"จะไปอยากรู้ทำไมยะ!! ไปทำงานเลยนะไม่อย่างนั้นจะหักเงินเดือนเข้าใจมั้ย"
"ถามนิดเดียวเอง ค่าๆๆๆ"
คุณพิ้งค์มองมินนี่อย่างคาดโทษกล้ามากที่มาถามอะไรแบบนี้ต่อหน้าไอ้หมูอ้วนอ่ะ เธอรีบเดินตรงไปที่ลิฟต์ก่อนจะทำเป็นไม่เห็นชายหนุ่มประตูลิฟต์ถูกเปิดออกเธอรีบเดินเข้าไปข้างในวินจิเดินตามเข้าไปข้างในก่อนจะกดปิดแล้วกดขึ้นไปชั้นบนสุดแล้วเดินเข้าไปใกล้คุณพิ้งค์จนหญิงสาวเซถอยหลังไปติดพนัง เธอเกร็งตัวมองสบตากับเขากระพริบตาปริบๆ
"ผมดีใจที่คุณพิ้งค์ใช้กระเป๋าที่ผมให้"
"ก็ฉันอยากได้อยู่แล้วนี่นา นะ..นายถอยออกไปหน่อยสิฉันหายใจไม่ออก"
วินจิยิ่งเห็นปฏิกิริยาของหญิงสาวที่มีต่อเขามันทำให้เขาคิดเข้าข้างตัวเองว่าเธอเริ่มรู้สึกอะไรบ้างกับเธอแล้ว ใบหน้าสวยแดงก่ำด้วยความเขินอายถ้าเป็นแบบนี้อีกไม่นานเขาน่าจะกุมหัวใจของเธอได้ทั้งดวงแน่นอน เขายื่นมือไปเกลี่ยปอยผมให้เธอก่อนจะยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของคนตรงหน้า หญิงสาวรู้สึกได้เลยว่าความรู้สึกของเธอเริ่มเปลี่ยนไปหัวใจของเธอเริ่มเต้นแรงขึ้นเมื่อได้อยู่ใกล้คนตรงหน้าคนนี้
"วันนี้คุณสวยมากเลยครับคุณพิ้งค์"
หญิงสาวตัวสั่นเล็กน้อยหัวใจดวงน้อยเต้นรัวเพราะการกระทำอันอ่อนโยนของคนตรงหน้า คุณพิ้งค์ดันตัวเขาออกไปเล็กน้อยไม่ได้แรงมากเพราะที่นี่มันในลิฟต์เดี๋ยวมีใครเห็นจะแย่เอา
"ฉันรู้ยะว่าสวย ฉันก็สวยทุกวันแหละแต่นายออกไปห่างๆก่อน เพราะนี้มันในลิฟต์นะเดี๋ยวใครมาเห็นเข้าจะทำยังไง"
"กลัวคนมาเห็นหรือว่าเขินผมกันแน่"
"คนบ้า ไอ้โรคจิต!!! นายว่างมากหรือไงถึงได้ตามมาแกล้งฉันสารพัดเนี้ย ปั่นหัวฉันสนุกเหรอ"
"สนุกดีนะผมชอบ"
คุณพิ้งค์มองใบหน้าหล่อที่ยิ้มอย่างกวนประสาทเธอยื่นมือตีหน้าอกเขาหลายทีอย่างหมั่นไส้สุดๆ เขากุมมือเธอไว้ทั้งสองก่อนจะดึงรั้งตัวเธอเข้ามากอดไว้แนบอกนั้นทำให้ทั้งสองคนรับรู้ถึงเสียงหัวใจของกันและกันที่มันเต้นรัวแข่งกันแทบจะทะลุออกมานอกอก วินจิยิ้มออกมาอย่างพอใจเขาก้มมองคนในอ้อมกอดก่อนจะยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
"หัวใจเต้นแรงจัง"
"บะบ้า.. ของนายเองรึเปล่่า"
คุณพิ้งค์เริ่มแถไปเรื่อยก่อนจะเอามือทั้งสองข้างของตัวเองมากอดหน้าอกไว้แน่นเพราะไม่อย่างนั้นเขาจะต้องรับรู้เสียงหัวใจของเธอว่ามันเต้นแรงขนาดไหนในตอนนี้
"ปล่อยเลยนะ!!! ว่างนักใช่มั้ยเดี๋ยวฉันจะโทรศัพท์ไปบอกผู้จัดการนายให้รับงานมากขึ้น สั่งผู้จัดป้อนงานละครให้คิวทุกวันดูสิว่านายจะมีเวลามากวนฉันอีกมั้ย!!"
วินจิอมยิ้มก่อนจะปล่อยเธอให้เป็นอิสระเพราะลิฟต์ใกล้ถึงชั้นบนสุดของตึกแล้ว
"ถ้าผมไม่มีเวลามาหาคุณจริงๆ ถึงเวลานั้นผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครกันแน่ที่จะทนไม่ไหว ตั้งใจทำงานนะครับคนสวย"
เขาพูดลอยๆออกไปแต่คุณพิ้งค์ไม่ได้สนใจจะตีความหมายของคำพูดนั้นเลย ประตูลิฟต์ถูกเปิดออกเธอรีบเดินออกไปทันทีก่อนจะหันมาแยกเคี้ยวใส่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ในลิฟต์ตรงที่เดิม
"เตรียมตัวงานยุ่งได้เลย ไอ้หมูอ้วน!!! แบร่ๆๆ"
คุณพิ้งค์หันหลังรีบวิ่งออกไปทันทีส่วนวินจิก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะลงไปชั้นล่างสุดตามเดิม เขาจะเข้าไปอยู่ทุกช่วงเวลาของเธอต่อจากนี้ และเขาจะรอดูว่าเมื่อเขาหายไปจริงๆคุณพิ้งค์คนสวยจะทำยังไง
ส่วนคุณพิ้งค์เมื่อถึงที่ห้องทำงาน เธอเอากระเป๋ามาวางไว้บนโต๊ะมีผ้าปูเรียบร้อยเพราะเธอหวงใบนี้มาก เธอหยิบโทรศัพท์มากดโทรออกไปหาผู้จัดทันที
(สวัสดีคะคุณพิ้งค์)
"คุณพริกแกงคะ ช่วยเร่งการถ่ายทำละครแสงจันทราหน่อยได้มั้ยคืออยากฉายไวๆแล้วนะคะ"
คุณพิ้งค์ยิ้มมุมปากอย่างมีแผนร้าย ไหนดูสิว่าถ้าติดถ่ายละครจนไม่มีเวลามากวนเธอเขาจะเป็นยังไง หึหึ
(ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวพริกแกงจะรวบฉากเท่าที่ทำได้นะคะ จริงๆน้องวินจิงานยุ่งมากเลยค่ะอีเว้นท์เยอะมากแทบไม่มีเวลาถ่ายอยู่แล้ว แต่ถ้าขอเร่งน้องอาจจะโอเคก็ได้ยังไงพริกแกงจะลองขอคิวดูค่ะ)
คุณพิ้งค์เริ่มมีความสงสารวินจิหน่อยๆ เขางานเยอะมากแต่ก็ยังหาเวลามาเจอเธอได้แถมยังเอาใจเธอได้สารพัดโดยไม่บ่นเหนื่อยหรือเธอจะไม่แกล้งเขาดีอ่ะ โอ๊ยยย ทำไมสองจิตสองใจ
'ไม่เป็นไรแกล้งช่วงนี้ไปก่อนเพราะเธอหมั่นไส้ไอ้หมูอ้วน มันกวนประสาทเธอแถมแกล้งให้เธออายอีก ต้องเอาคืน!!!!'