วินจินั่งอยู่บนดาดฟ้าของตึกแสงจันทร์ระหว่างรอคุณพิ้งค์คนสวยของเขามาทานข้าวด้วยตอนนี้ เขารู้ว่าการที่เขาและเธอจะทำอะไรหรือกระดิกตัวไปไหนมันก็จะเป็นข่าวโด่งดังไปซะหมด เขาจึงเลือกมาที่นี่เพราะตึกแสงจันทร์มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก กฎของตึกนี้คือห้ามถ่ายภาพติดผู้อื่นหรือถ่ายภาพผู้อื่นไปลงโซเชียลเพราะมันคือการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลที่นี่เลยเป็นสถานที่เดตของคนดังและพวกไฮโซที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ถามว่าเขาลงทุนมากมั้ยสำหรับครั้งนี้ก็ไม่นะแต่สั่งปิดโซนดาดฟ้าหนึ่งวันรายได้หายไปหลักล้านเอง และทำไมเขาถึงสั่งปิดโซนนี้ได้เพราะครอบครัวของเขาเป็นผู้ถือหุ้นหลัก
"คุณพิ้งค์เดินทางมาถึงแล้วครับ"
"บอกพนักงานให้พาเธอขึ้นลิฟต์ด้านหลังของ VVIP เธอไม่ชอบให้ตัวเองมีข่าวเสียหายอย่าให้มีภาพหลุดออกไปเข้าใจมั้ย"
"รับทราบครับคุณวินจิ"
ผู้จัดการเดินออกไปจัดการตามที่เจ้านายสั่ง ในนามวินจิพระเอกร้อยล้านไม่มีใครรู้ประวัติครอบครัวของเขาเพราะถูกปิดไว้เป็นความลับเพราะครอบครัวเขาต้องการความเป็นส่วนตัวที่สุด และแฟนคลับทุกคนเข้าใจไม่มีใครขุดคุ้ยนั้นทำให้เขาสบายในการใช้ชีวิตมากพอสมควร
ทางด้านของคุณพิ้งค์เม่ือเดินทางมาถึงตึกแสงจันทร์เธอสวมแว่นดำใส่หมวดใบใหญ่คลุมไปทั่วจนแทบไม่เห็นใบหน้า เธอเดินลงมาพร้อมกับหันซ้ายหันขวามองอย่างระแวง เธอไม่เคยมีข่าวกับผู้ชายแบบเสียหายมันเป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบที่สุดเพราะภาพลักษณ์ของเธอคือหญิงสาวแสนเพอร์เฟค
"สวัสดีครับคุณพิ้งค์เชิญทางด้านนี้ครับ"
คุณพิ้งค์เดินตามพนักงานไปอีกทางปกติเวลาเธอมาที่นี่จะต้องไปขึ้นลิฟต์ด้านหน้า เพิ่งรู้ว่ามีลิฟต์ทางลับด้วยท่าทางไอ้หมูอ้วนจะจ่ายหนักพอสมควร
"ปกติเขาไม่ให้ขึ้นทางนี้เหรอ"
"แขกปกติจะขึ้นด้านหน้าครับ แต่สำหรับคุณพิ้งค์ขึ้นลิฟต์ของ VVIPดีกว่า เพราะไม่มีคนเยอะคุณพิ้งค์จะได้ไม่ต้องระแวงแบบที่ทำอยู่นี้"
"ฉันไม่ได้ระแวงสักหน่อย"
เธอกระแอมเล็กน้อยก่อนจะเชิดหน้าเดินหลังตรง แสดงว่าเมื่อกี้พวกเขาต้องสังเกตเธอแน่ๆว่าระแวงซ้ายขวาขนาดไหน
"ครับ เชิญเลยครับคุณวินจิรออยู่แล้ว"
เธอเดินเข้าประตูไปก็เจอวินจิที่ถือช่อดอกไม้นั่งอยู่ที่โต๊ะ เธอมองช่อดอกไม้ในมือเขาก่อนจะทึ่งในความรู้มากของเขา เขาถือช่อดอกกุหลาบสีแดงนั้นเป็นดอกไม้ที่เธอชอบมากที่สุด หมอนี่มันเอาใจใส่หรือว่ามันโรคจิตก็ไม่รู้เหมือนกัน
"คุณพิ้งค์คนสวยอารมณ์ดีขึ้นรึยังครับ :)"
เขาลุกเดินเดินตรงมาหาเธอก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้เธอจนต้องรีบถอยหลังหนีห่างเขาบอกตรงๆเธอระแวงเขามากจริงๆ
"นะ..นายจะทำอะไร"
"ผมแค่ถาม ว่าแต่แต่งเต็มมากแว่นดำ หมวก ผ้าพันคอมาเต็มมากไม่มีใครเห็นคุณหรอกเราอยู่กันสองคนไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้"
"รู้ได้ยังไงยะถ้าพนักงานแอบถ่ายภาพไปขายให้นักข่าวละนายจะรับผิดชอบมั้ย ฉันคือใครคุณพิ้งค์ SK Channel นะยะ มีข่าวกับพระเอกในสังกัดมันเหมาะสมเหรอ"
"โอเคๆผมสัญญาว่ามันจะไม่มีหลุดออกไปแน่นอน ดอกไม้สำหรับคนสวยครับจะได้อารมณ์ดีขึ้น"
เขายื่นดอกไม้มาตรงหน้าเธอ เธอรับไว้ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะเพราะตอนนี้เริ่มปวดขาอยากพัก คุณพิ้งค์มองหน้าวินจิดูว่าเขาจะทำอะไรอีกเขาหันไปสั่งพนักงานสักพักอาหารมาเสิร์ฟเธอมองเมนูตรงหน้ามันคือของโปรดเธออีกแล้ว
"สลัดออแกนิกเพื่อสุขภาพ สเต๊กแซลมอน น้ำส้มของโปรดคุณทั้งนั้นเลย)
"มีคนเคยบอกมั้ยว่านายมันโรคจิตมาก รู้เรื่องส่วนตัวของฉันดีกว่าฉันรู้ตัวเองอีก"
"เขาเรียกว่าใส่ใจใครสักคน ถ้าวันหนึ่งคุณพิิ้งค์มีคนที่สนใจขึ้นมาคุณจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขาทันทีโดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องบอก"
เธอมองสบตากับชายตรงหน้าก่อนจะก้มลงมองช่อกุหลาบในมือสูดกลิ่นหอมจากดอกไม้ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าถ้าร้านเขาฉีดยาฆ่าแมลงเข้าไปเธอก็ไม่ปลอดภัยนะสิ
"ไม่ต้องระแวงครับ สวนกุหลาบธรรมชาติคัดมาอย่างดี อะไรที่ทำให้คุณพิ้งค์เสียสุขภาพผมไม่เอามาใกล้แน่นอน"
เธอมองเขาเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนหน้านี้เลย เขามีข้อมูลของเธอแน่นมากและรู้นิสัยส่วนตัวของเธอดีสุดว่าเป็นคนยังไง ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะจดจำเกี่ยวกับเธอมากขนาดนี้ทั้งๆที่เราแทบไม่ค่อยได้คุยกันเลยแต่นิสัยคงรู้ดีเพราะเจอมาหมดตอนเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว
"นายเอาเวลาที่ไหนมารู้เรื่องของฉันไม่ทราบยะ พระเอกร้อยล้านนี่มีเวลาว่างเยอะเหรอ สงสัยต้องให้ผู้จัดอัดงานให้นายเยอะๆจะได้ไม่ต้องมีเวลามาเป็นไอ้โรคจิต ชิ!!"
"ผมรู้ก็แล้วกันโดยที่ไม่ต้องมีเวลาว่างไปสืบให้เสียเวลา ทานข้าวเถอะผมสั่งให้เค้าทำเค้กส้มเนื้อเน้นๆให้คุณด้วยนะเดี๋ยวทานกัน"
คุณพิ้งค์มองเขาอย่างระแวงก่อนจะทานข้าวด้วยความหิว ตอนแรกเธออารมณ์ไม่ดีมากๆแต่การได้เห็นดอกไม้ที่ชอบ ได้ทานของชอบหลายอย่างแปลกที่เธออารมณ์ดีขึ้นมาซะอย่างนั้น ปกติจะต้องช็อปปิ้งแบรนด์เนมเท่านั้นถึงจะอารมณ์ดีนะ
"อร่อยมั้ยครับคนสวย"
"อร่อยสิที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องของอร่อยอยู่แล้วนี่นา"
"งั้นก็ทานเยอะๆนะครับ"
คุณพิ้งค์ทานต่อไม่สนใจคนตรงหน้าอีก ส่วนวินจิก็นั่งมองหญิงสาวทานอาหารไปยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี เขารู้วิธียั่วโมโหคนตรงหน้าและรู้วิธีทำให้เธอสงบลงโดยที่คนอื่นไม่รู้ เราสองคนใช่ว่าไม่เคยรู้จักกันตลอดเวลาที่เขาเคยจีบเธอตอนเรียนเขารู้จักเธอดีกว่าใครรู้ว่าทำแบบไหนเธอชอบรู้ว่าทำยังไงเธอถึงพอใจ แต่ตอนนั้นเธอตัดสินใจไปเรียนต่อเขาก็ไม่รู้จะทำยังไงถ้าตอนนั้นเธอมีแฟนเป็นหนุ่มต่างชาติไปซะเขาก็คงเฮิร์ทอยู่เหมือนกัน แต่ที่รู้มาเพื่อนของคุณพิ้งค์ติดต่อเขาตลอดตอนที่เธอเรียนที่นั้นเป็นญาติห่างๆของเขาเอง เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนคนอื่นใครมาจีบก็ไล่ตะเพิดเขาหมด เขาก็เคยเจอแต่ด้วยความหน้ามึนตื้อไปเรื่อยหลังๆก็เลยไม่ไล่แถมยังทานขนมที่เขาเอาไปฝากทุกวันด้วยก็เป็นเค้กของชอบของเธอนั้นแหละถึงบอกไงว่าเขารู้วิธีเอาใจเธอ...
"ไหน เค้กของฉันอยู่ไหน"
คุณพิ้งค์มองซ้ายมองขวาหาเค้กทั้งๆที่ยังทานไม่หมดเลยด้วยซ้ำ
"ไม่ทานของคาวของหวานพร้อมกันครับ ท้องคุณใช่ว่าจะดีเดี๋ยวก็อาหารเป็นพิษหรอก"
คุณพิิ้งค์อุทานออกมาอย่างขัดใจ ทำไมเขาต้องชอบขัดใจเธอด้วยก็ไม่รู้ก็เธออยากทานเค้กไปด้วยนี่นา
"ไหนนายบอกว่าจะไม่ขัดใจฉันไงยะ"
"นี่ไม่ใช่เรื่องขัดใจมันเป็นเรื่องสุขภาพของคุณเอง ไม่ดื้อนะไม่อย่างนั้นผมลงโทษนะ"
"กล้าลงโทษฉันเหรอ... กลัวตายแหละ"
คุณพิ้งค์เบะปากใส่เขาก่อนจะทานสลัดต่อขี้เกียจทะเลาะด้วยมันเสียอารมณ์หน้ามึนแบบนี้เถียงยังไงก็ไม่ชนะหรอก ชิ...
วินจิมองหญิงสาวที่หน้างอทานอาหารอยู่ตรงหน้าแล้วยิ้มออกมาอย่างพอใจ เขาจะทำให้เธอหลงเขาจนหาทางออกไม่เจอเลย เชื่อเขาเถอะยังไงผู้หญิงตรงหน้าต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น