พยศบทที่ 1 : Only me know me.

1595 คำ
นรกบนดิน ..ผมเข้าใจเเล้วว่ามันเป็นยังไง เพียงเเค่ตอนนี้ผมไม่สนว่าใครจะมองผมยังไง หรือพูดถึงผมยังไงบ้าง เพราะมันมีเพียงเเค่ตัวผมเองเท่านั้นที่รู้ว่าผมทำอะไรเเละไม่ได้ทำอะไร ผมไม่สนอะไรเเล้วนอกจากตัวเอง.. "อย่ายอมเเพ้ง่ายนะๆ เข้าใจมั้ย" ผมพูดขึ้นกับตัวเองหน้ากระจก หลังจากเเต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว งานแรกของวันคือการที่ผมต้องไปนั่งกับลูกค้าวีไอพี ที่จองผมไว้ตั้งเเต่เห็นรูปจากเจ๊ซ้งส่งให้ เเต่จวบจนเวลานี้ผมก็ยังเอาเเต่นั่งมองหน้าตัวเองในกระจกนานนับนาที รับน้องเมื่อเช้ามันเเย่มาก.. ผมได้ยินทุกคนพูดถึงผมไปต่างๆ นานา เเละที่เเย่ขั้นสุดคือการมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาขอซื้อผมนี่เเหละ เหอะ "เท่าไหร่" "อะไรเท่าไหร่ครับ" "ค่าตัวเราไงเท่าไหร่ครับ" เขายังคงเหมือนเดิมสินะ ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยเเม้เเต่นิดเดียว ถ้าไม่ติดว่าแม่ของผมป่วยติดเตียงอยู่ ผมจะหนีไปให้ไกลสุดขอบโลกเลย หนีไปจากสังคมเฮงซวยพวกนี้โดยไม่หันหลังกลับมามองอีกเเน่นอน เเละใช่ครับ ผมทำงานกลางคืน ผมรับบทโคโยตี้บอยที่เขาเรียกกัน หรือน้องบันนี่ที่คลิปกำลังโด่งดังในหมู่เหล่าชายหญิง ตอนกลางคืนผมทำงานในบาร์ กลางวันไปเรียนเเละหากวันไหนว่างผมก็รับงานทานข้าวด้วยนะครับ ไม่ได้จำกัดว่าหญิงหรือชาย ไม่ได้ใช้ร่างกายในการเเลกเงิน เเต่ผมเเค่ใช้ความเข้าอกเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาอยากเล่าให้ฟัง เพราะงั้นผมถึงโกรธผู้ชายเมื่อเช้ามากไงครับที่ถามราคากับผมแบบนั้น โดยที่ไม่ได้รู้จักอะไรเกี่ยวกับผมเลย "นั่นน้องบันนี่ไงมึง น่ารักสัดเลย" "ถ้าให้มาชงเหล้าเท่าไหร่วะ" "เเก้วละสามพัน" "เชี่ย สามพันเลยเหรอวะ" "ได้เเค่มองเเหละวะ เอื้อมไม่ถึงหรอกน่ะ" เสียงเหล่าบรรดาลูกค้าที่อยู่บริเวณขอบโซนวีไอพีต่างก็พูดถึงผมในทางนี้กันทั้งนั้น สายตาไม่รู้กี่คู่กำลังจับจ้องมาทางผมที่อยู่ในชุดบันนี่สีขาวพร้อมกับหน้ากากปกปิดใบหน้าเอาไว้ เมื่อก้าวเข้ามาในลานของวีไอพี โต๊ะเเละเก้าอี้ที่จัดจะอยู่ในห้องที่เป็นส่วนตัว ประตูไม่มีที่ล็อคเเต่อย่างใด ซึ่งทางหนีทีไร่ในบาร์นี้ผมก็มีสำรองไว้ในหัวอยู่เเล้ว เหล้าราคาเเพงถูกวางเรียงรายตรงหน้า มีคนคอยเสิร์ฟน้ำเเข็งอยู่ตลอดเวลา ส่วนเเขกที่ว่ายังมาไม่ถึง "มาแล้วสินะ.." ผมมองตรงไปยังเป้าหมายที่กำลังเดินเข้ามามาในห้อง สิ่งเเรกที่ผมมองเห็นเลยคือออร่าความหล่อของเขา เเละที่รองลงมาคือสร้อยคอราคาเเพงราคาราวเเปดหมื่นได้ ผมไล่สายตาลงมาที่เสื้อเเบบผ้าลื่นเเหวกลงมายันกลางอก ก่อนจะเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ เพราะเห็นเเค่การเเต่งตัวเหมือนวัยรุ่นธรรมดาทั่วไป เเต่ดันใส่นาฬิกาเรือนละห้าล้านกว่าบาท ทำไมผมถึงรู้น่ะเหรอครับ คือที่บ้านผมเคยทำโรงรับจำนำมาก่อน เพราะงั้นของเเท้ของปลอมผมมองปราดเดียวก็รู้เรื่องแล้ว รองเท้าผ้าใบคู่นั้นเป็นแบบลิมิเต็ดอิดิทชั่น มีเพียงไม่กี่คู่บนโลกเท่านั้น เเต่เขามีมันเเละเป็นของเเท้ซะด้วย เงินคงเป็นพระเจ้าสำหรับพวกเขาสินะ ..เเต่สำหรับผมอิสระต่างหากที่คือพระเจ้า "มึงพากูหลงปะเนี่ยไอ้โฮม" "หลงบ้าอะไร ถูกเเล้วนี่ไง" "ไหนวะ" "นั่นไง น้องสายฟ้า" ผู้ชายที่อีกคนชี้นิ้วมาทางผมที่กำลังยืนพิจารณาเขาอยู่เช่นกัน เเขกใหม่ที่ไม่คุ้นตา นั่นหมายความว่าพวกเขาพึ่งจะเคยมาเเน่ๆ คนที่ชี้มาไม่เท่าไหร่ เเต่คนที่ใส่นาฬิกาเรือนละหลายล้านนั่นเเหละ น่าจะพึ่งเคยมาที่นี่ครั้งเเรกเเน่ๆ เขามาบาร์ที่นี่เป็นครั้งแรก เเต่การพบเจอกันระหว่างเราดันไม่ใช่ครั้งเเรกเเละไม่ใช่ครั้งที่สองด้วย เเถมมันยังไม่ได้เป็นที่น่าจดจำสักเท่าไหร่กับเรื่องที่เกิดขึ้น ใช่ เขาอาจจะไม่เคยจำอะไร เเต่ผมเองไม่เคยลืมเลยต่างหาก "น่ารักสัด" คนตัวสูงกว่าเอ่ยขึ้น พร้อมกับเข้ามาประชิดตัวผม "ต่อหน้าต่อตาดูเลยนะมึง" เพื่อนเขาเเซว "มึงไปเลย เดี๋ยวคนนี้กูดูเเลเองครับ" เพื่อนที่พาเขามาเดินเข้ามาตบบ่าเจ้าตัว ก่อนจะเดินเเยกไปอีกทาง ซึ่งก็เท่ากับว่าในห้องตอนนี้มีเพียงเเค่ผมกับเขาสองคน "พี่ชื่อหมอกนะ" "ครับ" ผมยิ้มรับ ไม่ต้องบอกชื่อก็รู้เเต่เเรกเเล้วล่ะ "ถ้างั้น.." ผมสะดุ้งเล็กน้อยตอนที่เขาเดินมาโอบไหล่ เเถมยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนปลายจมูกเราเฉียดกัน "พี่จ่ายเราตั้งเเพง เเม้เเต่เเขนก็จับไม่ได้หรอ" คนตัวสูงเลิกคิ้วถาม เเววตาวาวโรจน์บ่งบอกว่าเขาดูเจ้าเล่ห์มากเเค่ไหน ไม่ได้จับเเค่เเขน เเต่เลื่อนมาโอบไหล่ผมเลยต่างหาก "ครับ ขอโทษครับ" ผมโคลงศีรษะลงเเล้วหลบตาคู่สนทนา สุดท้ายผมก็ทำหน้าที่ต่อไปด้วยการนั่งข้างๆ เขาพร้อมกับจับเเก้วเหล้ามาชงให้อย่างคล่องมือ ระหว่างที่นั่งด้วยกัน ยอมรับเลยว่าผมประหม่า เเละเขาก็ขยันหาจังหวะให้เข้าใกล้จนผมเกร็งรับไม่ถูก ตอนนี้ก็เหมือนกัน ผมเกือบจะนั่งเกยบนตักเขาอยู่เเล้ว อีกนิดเดียวก็คงจะสิงร่างกันเเล้วล่ะครับ "ปกติเราชอบทำอะไร" เจ้าตัวเอาคางมาเกยไหล่ด้วยท่าทีออดอ้อน "ก็อ่านหนังสือ ดูหนัง.." "ชอบดูหนังหรอ" "ครับ" "ห้องพี่มี Netflix นะ ไปดูด้วยกันมั้ย" "ไม่เป็นไรครับ" ผมยกยิ้มมุมปากพร้อมกับส่ายหน้าปฏิเสธ "ทำไมเราน่ารักจัง" น้ำเสียงนุ่มทุ้มที่ฟังดูลื่นหู หากเเต่ก็เเฝงความต้องการไว้ในน้ำเสียงนั้นด้วย จุดประสงค์ของเขาน่ะแค่จะชมจริงหรอครับ เหอะ ทว่าหลายนาทีก่อนหน้านี้คำว่าน่ารักออกจากปากพี่หมอกราวสิบครั้งได้ ซึ่งผมก็คงไม่สามารถต่อกรกับเเขกของตัวเองได้มากนัก นอกจากระวังตัวเองไม่ให้มีอะไรเลยเถิดไปมากกว่าเอนเตอร์เทนแบบนี้ "นี่ครับ" ผมส่งเเก้วเหล้าที่ชงเสร็จใส่มือเขา "ถอดหน้ากากออกก็ได้นะ เผื่อเราจะลำบาก" เขาทำท่าจะเอื้อมมือมาถอดหน้ากาก เเต่ผมเบี่ยงตัวหลบ "อย่าถอดนะครับ" "หรือถอดหน้ากากพี่ก็ต้องจ่ายครับ" "ครับ ต้องจ่าย" "เท่าไหร่" รู้อยู่เเล้วล่ะครับว่าคนอย่างเขามีเงินมากพอที่จะซื้อมันได้ เเต่ผมเองก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ขายสิทธิของตัวเองเหมือนกัน "พี่กำลังล้ำเส้น ผมมาชงเหล้าไม่ได้มาทำแบบนี้" ผมผละออก เเต่ก็โดนเขาดึงเข้าไปใกล้ เหมือนกำลังถูกเสือไล่ต้อน "เเค่ถอดหน้ากากเอง" เขาเอียงคอใส่ "ผมจะไม่ถอดหน้ากากครับ" "โอเค ยอมเเพ้ก็ได้" "ถ้างั้นผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน" ผมบอก ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มตัว หากเเต่ยังไม่ทันได้ก้าวไปไหน มือหนาก็จับเเขนผมพร้อมดึงเข้าหาตัว "เห้ย" "จับได้แล้ว" ผมหลับตาปี๋ในอ้อมกอด ใบหน้าซุกอกเขา ก่อนมารู้ตัวทีหลังว่าเหล้าในมือเขาหกรดใส่ตัวผมเรียบร้อยเเล้ว "โทษที พี่ไม่ได้ตั้งใจทำเราเปียกนะสายฟ้า" เขาทำหน้าเหวอ มือรีบช่วยเช็ด เเต่ส่วนที่เลอะมันคือตรงเป้ากางเกงไงครับ "มะ..ไม่ต้องครับ" "แต่พี่ทำ.." "บอกว่าไม่ต้องไงครับ" สิ้นเสียงผมที่เอ็ดเขา เจ้าตัวก็ถึงกับชะงักไปแล้วหยุดการกระทำนี้ลง "ผมจะไปห้องน้ำ พี่เองก็รออยู่ตรงนี้นะครับ เดี๋ยวผมกลับมา" ผมรีบผละตัวออกแล้วเบี่ยงหลบ ไม่ได้ชักสีหน้าใส่ เเค่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินออกมาจากห้องวีไอพี มือสะบัดน้ำสีเข้มที่กระเซนมาโดนไปพลาง "ไม่ชอบของจืดว่ะ" "เออ อย่างไอ้หมอกก็ต้องของเผ็ดร้อนดิวะ" "อย่างศิระกานต์เนี่ยนะ จะสเปคไอ้หมอก กูว่าไม่ใช่" "สเปคกูก็บ้าละ ดูจืดชืดว่ะ ไม่ใช่หนุ่มน้อยในอุดมคติกูเลย" ผมยกยิ้มหน้ากระจก มือก็จ้วงน้ำเช็ดที่กางเกงสีขาวที่บัดนี้มีกลิ่นเหล้าคละคลุ้งเต็มไปหมด "เหอะ จืดชืดงั้นเหรอ" เเต่คนที่พี่เคยบอกว่าจืดชืด กำลังฮอตในหมู่รุ่นเขาเลยนี่ หึ คนที่เขาเคยบอกว่าไม่ใช่สเปคคือคนที่เขาชมว่าน่ารักไม่หยุดปากเลยไม่ใช่เหรอครับ "ผมไม่ใช่ศิระกานต์คนเดิมอีกแล้ว.. ไม่ใช่อีกต่อไป"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม