“คุณจะไม่ชอบสิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ ครับคุณเดือน” พิชญะยังคงยืนยันคำเดิม ขณะที่อีกคนดูเหมือนจะไม่รับฟังอะไรจากเขาทั้งนั้น เพราะนอกจากเธอจะไม่ยอมปล่อย ยังกระชากเอาชุดราตรีออกไปจากร่างกายหน้าตาเฉยไม่เหลือแม้แต่ชุดชั้นในสีดำที่ถูกปลดออกอย่างไม่ใยดีนั่นด้วย
“ฉันจะไม่มีวันเสียใจ นะคะ อยู่กับฉัน ช่วยทำให้ฉันมีความสุข แค่คืนนี้เท่านั้น” พิณรัมภาเอ่ยขึ้นพร้อมป้อนปลายถันของตัวเองให้อีกคน แม้คราแรกเขาจะส่ายหน้าปฏิเสธไม่ยอมสัมผัสสิ่งเร้าอารมณ์ตรงหน้า ไม่นานก็พ่ายแพ้ต่อความปรารถนา ที่ถูกปลุกปั้นขึ้นมาด้วยฝีมือของเธอเอง
“ผมเตือนคุณแล้วนะครับคุณเดือน!” พิชญะคำรามลั่นพร้อมสบถคำหยาบใส่แม่คนช่างยั่ว เขาใช้เพียงเสี้ยววินาทีก็สามารถจับเธอพลิกให้กลับมานอนอยู่ใต้ร่างได้อีกครั้งก่อนจะปิดเสียงร้องโวยวายด้วยจูบเร้าร้อนรุนแรง ให้สาสมกับความต้องการของอีกฝ่ายที่อยากจะได้มัน
พอกันทีสำหรับความเป็นสุภาบุรุษบ้าบอ! เขาเชื่อเหลือเกินว่าถ้าใครมาเจอแบบเขาตอนนี้ก็คงหยุดยั้งตัวเองไม่ได้แน่ และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้เขาก็ยินดีรับมันทุกอย่าง
ขอแค่วินาทีนี้
ให้ได้ปลดปล่อยความทรมานของตัวเองก็เป็นพอ!
ปลายลิ้นสากชอนไชไปด้วยโพรงปากหวานอย่างเอาแต่ใจ การตอบสนองที่ไม่รู้ประสาไม่ได้ทำให้เขาหงุดหงิดเลยแม้แต่น้อย กลับกันมันยิ่งกระตุ้นความต้องการที่ไม่ได้ปลดปล่อยมานานหลายเดือนได้เป็นอย่างดี จนบางครั้งก็เผลอรุนแรงทิ้งร่องรอยไว้บนเรือนร่างสมบูรณ์แบบ
“อ๊ะ! คุณ…เจ็บค่ะ” พิณรัมภาเคยคิดมาเสมอว่าเซ๊กส์คือความสุข แต่เวลานี้เธอได้รู้ซึ้งแล้วว่าทุกสิ่งที่เคยวาดฝันเอาไว้มันไม่ใช่ความจริง เพียงแค่ปลายเท้าถูกจับแยกออกจากกันก่อนจะทดแทนด้วยบางสิ่งที่แทรกเข้าหาก็ทำให้หญิงสาวกรีดร้องขึ้นเพื่อต้องพาลพบกับความปวดร้าว มันเหมือนร่างกายของเธอกำลังค่อยๆ ถูกฉีกออกจากกันอย่างช้าๆ ทุกๆ อย่างดูรวดเร็วไปหมดจนไม่รู้ว่านี่คือความฝันหรือความจริงกันแน่ รู้เพียงแต่ว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ทำเธอเจ็บปวดเจียนตาย
นี่เธอกำลังจะตายใช่ไหม…
“คุณเดือน!” พิชญะเองก็ตกใจจนควบคุมสติเอาไว้ไม่อยู่ ไม่อยากจะเชื่อว่าบนโลกที่เทคโนโลยีก้าวล้ำทันสมัยจะหลงเหลือผู้หญิงที่ครองความสาวของตัวเองเอาไว้มาจนถึงทุกวันนี้ ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ
“เจ็บค่ะ! เอามันออกไปได้ไหม” ชายหนุ่มตอบคำถามนั้นด้วยการก้มลงไปจูบเรียวปากสวยเพื่อหวังว่ามันจะช่วยคลายความเจ็บของเธอได้บ้างไม่มากก็น้อย เขามาไกลเกินกว่าที่จะถอยหลังแล้วในตอนนี้
ชายหนุ่มคิดก่อนตัดสินใจแทรกแก่นกายเข้าหาจนมิดลำ ก่อนจะกดแช่มันเอาไว้เพื่อรอให้อีกคนได้ชินกับสภาพร่างกายที่กำลังรวมเป็นหนึ่ง เมื่อเห็นหญิงสาวหยุดดิ้นจึงค่อยๆ ขยับสะโพกพร้อมครางกระเส่า
“อ่าส์…ยังเจ็บอยู่ไหมครับ”
คนถูกถามไม่มีสติที่จะตอบอะไรทั้งนั้นในเวลานี้ เธอเพียงแต่ร้องครวญครางใต้ร่างของคนที่กำลังขยับโยกใส่เป็นจังหวะ ความเจ็บที่เคยมีบัดนี้ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความสุขล้นเล็กๆจนเผลอส่งเสียงน่าอับอายออกมาอยู่หลายครั้งราวคนไม่ได้สติ
ค่ำคืนนี้เหมือนจะยาวนานเพราะไม่เพียงแต่ครั้งเดียวเท่านั้นที่ทั้งสองจูงมือกันแตะขอบสวรรค์ พิชญะเองก็มาไกลเกินกว่าจะควบคุมอารมณ์เร้าร้อนของตัวเองได้อีกต่อไป ประจวบกับร่างอวบอิ่มที่ให้ความร่วมมือกับเขาเป็นอย่างดีเลยทำให้ชายหนุ่มลืมความผิดชอบชั่วดีไปชั่วขณะ เดินหน้าปลดปล่อยความต้องการสู่ใจกลางสาวที่พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วว่าสะอาดหมดจดเพียงใด ครั้งแล้วครั้งเล่าไปตลอดทั้งคืน…
พิณรัมภาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงที่ทำให้เธอสะอื้นไห้อย่างหนัก ยิ่งภาพใบหน้าของคนที่เคยพบเคยเจอกันอยู่ทุกวันปรากฏชัดเจนมากขึ้นเท่าไหร่ หัวใจของเธอมันก็พาลจะหยุดเต้นตามไปมากขึ้นเท่านั้น
ไม่น่าต้องเป็นเขาเลย!
แม้จะขาดสติไปแค่ไหนแต่ก็พอสำนึกได้ว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะตัวของเธอเองที่ยั่วยวนเขาจนสติแตกทำให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ยิ่งคิดหญิงสาวก็ยิ่งร้องไห้หนัก
หมดสิ้นแล้วความสาวที่รักษามาทั้งชีวิต
เพราะคนในอ้อมแขนเริ่มขยับพิชญะจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นตาม ภาพแรกที่ได้เห็นคือใบหน้าที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาของเลขาหน้าห้อง มันทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงมองเธอที่ขยับนอนหลังหันให้ทันทีที่สบตากัน เมื่อเริ่มได้สติจึงค่อยๆ โอบร่างบอบบางที่สั่นเทาเอาไว้หลวมๆ
“ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง” เขาไม่ใช่คนขาดความรับผิดชอบ
และสิ่งที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเขาก็เองก็มีส่วนผิดที่ใจไม่แข็งพอที่จะปฏิเสธผู้หญิงตัวเล็กๆในอ้อมกอดนี้แม้ว่าจะไม่ใช่คนเริ่มแต่ก็รู้สึกผิดอยู่ดี
“อย่าเลยค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นฉันผิดเอง ถ้าเมื่อคืนฉันไม่ดื่มหนักขนาดนั้นทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้ ท่านประธานก็ลืมๆ มันไปเถอะนะคะ” เนิ่นนานกว่าจะได้รับคำตอบจากอีกคน เธอไม่ต้องการความรับผิดชอบอะไรจากเขา เรื่องทั้งหมดเธอเองที่เป็นคนผิด เธอคนเดียวที่เป็นคนเริ่ม เพราะฉะนั้นเธอไม่มีสิทธิ์ไปเรียกร้องความรับผิดชอบจากเขา
“ผมทำแบบนั้นไม่ได้!”
“คุณต้องทำให้ได้ เราสองคนจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้หมด ฉันขอตัวก่อนนะคะ” พิณรัมภาพูดตัดบทก่อนจะฝืนลุกขึ้นเดินหลบเข้ามาในห้องน้ำ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นอย่างคนหมดเรี่ยวแรง หญิงสาวใช้เวลาที่เหลือหมดไปกับการร้องไห้ แม้จะได้ยินเสียงเคาะประตูจากอีกคน แต่นั่นมันก็ไม่สามารถเรียกความสนใจจากเธอไปได้เลย
พิชญะเฝ้ารออยู่นานนับชั่วโมงจนในที่สุดคนที่หายเข้าไปในห้องน้ำนานจนเขาเริ่มเป็นห่วงก็เดินออกมาในสภาพที่มีเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำคลุมร่างกายที่เปียกปอนเอาไว้หลวมๆ เพียงเท่านั้น ไม่มีใครทันจะได้พูดอะไร พิณรัมภาก็เดินไปหยิบเอาเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายไปทั่วห้องมาถือเอาไว้ก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้งเพื่อทำการสวมใส่มัน
“ให้ผมไปส่งนะครับ” กระทั่งเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นเธอก็ยังใจแข็งเดินผ่านหน้าอีกคนทำท่าจะออกไปจากห้อง ติดแค่เพียงยังไม่ทันจะก้าวพ้นประตูห้อง ต้นแขนกลับถูกพิชญะที่เดินตามหลังกันมาคว้าไว้เสียก่อน
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอตัวนะคะท่านประธาน” พิณรัมภาปฏิเสธน้ำใจนั้นแทบจะทันที ก่อนจะเดินออกมาจากห้องไม่สนเลยสักนิดว่าอีกคนที่อยู่ในนั้นจะรู้สึกยังไง รู้เพียงอย่างเดียวคืออยากไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
ส่วนเรื่องอื่นนั้นค่อยหาทางออกให้ตัวเองก็ยังไม่สาย…