“โอ้ย! นี่คุณทำบ้าอะไร ปล่อยฉันนะคะ!” พิณรัมภาถึงกลับกรีดร้องเมื่อจู่ๆ ก็ถูกกระชากอย่างแรงจากด้านหลัง เมื่อหันมาก็พบว่าไม่ใช่ใครอื่นที่ไหนเลย นอกจากพิชญะที่ดูเหมือนจะเหนื่อยหอบอยู่ไม่ใช่น้อย
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน ไปกับผม!” จนเมื่อหายเหนื่อยเขาถึงได้พูดขึ้นพร้อมทำท่าจะลากเธอไป นั่นเองพิณรัมภาถึงได้เริ่มขัดขืนเขาอีกครั้ง
“ฉันไม่ไปไหนกับคุณทั้งนั้น กรุณาปล่อยแขนฉันด้วยค่ะ”ยิ่งเห็นว่าสายตาของเขากำลังจดจ้องไปอยู่ที่ส่วนไหนบนร่างกายเธอยิ่งรู้สึกกลัว
“คุณต้องไปครับ! หรือคุณคิดว่าคุณไม่จำเป็นต้องอธิบายเรื่องนี้ให้ผมได้รู้!” พิชญะตอบกลับทันควัน สายตาจ้องมองหน้าท้องที่บัดนี้นูนเด่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเขม็ง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะกล้าปิดบังเขาทั้งๆ ที่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่ ผู้หญิงคนนี้กล้าดียังไงปิดบังไม่ให้เขาได้รู้
“ฉะ…ฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร ขอตัวก่อนนะคะ”
“ผมว่าคุณรู้นะครับคุณเดือน เลือกมาครับว่าจะเดินไปที่รถกับผมดีๆ หรือว่าจะให้ผมอุ้มคุณไป” เพราะอีกคนดื้อดึงไม่ยอมทำตาม พิชญะจึงเปิดทางเลือกให้เธอได้เลือก ซึ่งส่วนตัวเขาเองมีคำตอบหนึ่งเดียวอยู่ในใจแล้วตอนนี้ ต่อให้พิณรัมภาจะอยากไปหรือไม่เธอก็ไม่สิทธิ์ปฏิเสธมัน
“นี่คุณ!”
“ผมว่าผมอุ้มไปดีกว่า” ชายหนุ่มจบบทสนทนาพร้อมทำท่าจะทำอย่างที่พูดไปจริงๆ นั่นเองอีกคนถึงได้ขยับหนีพร้อมเสียงร้องโวยวายขึ้น
“มะ…ไม่ต้องค่ะ ฉันเดินไปเองได้ แล้วภรรยาของคุณละคะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นก่อนจะหยุดทุกคำเอาไว้แต่เพียงเท่านั้น ไม่เข้าใจเขาเลยจริงๆ ว่าทำไมเขาถึงได้ทิ้งผู้หญิงอีกคนไว้ แล้ววิ่งตามเธอออกมาแบบนี้
“คุณนุชลีไม่ใช่ภรรยาผม เด็กในท้องของเธอเป็นลูกของเพื่อนรักผม ทีนี้เราจะไปหาที่เงียบๆ คุยกันตามลำพังได้รึยังครับ” พิชญะตอบกลับตามความเป็นจริงก่อนจะถือวิสาสะจูงมือคนที่เป็นยิ่งอะไรภรรยาของเขาเดินออกไป จุดมุ่งหมายคือรถคันหรูที่จอดอยู่ที่หน้าโรงพยาบาล
ชายหนุ่มพาคนที่กำลังอุ้มท้องลูกของตัวเองขับรถมาเรื่อยๆ ก่อนชะลอจอดลงข้างทาง เมื่อความอดทนอดกลั้นของเขาเดินทางมาถึงที่สุด
“คุณคิดจะบอกเรื่องนี้กับผมเมื่อไหร่!” เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้ที่พิชญะรู้สึกโกรธใครสักคนได้มากมายขนาดนี้แต่กลับทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลยเพราะเธอกำลังท้อง และดูเหมือนจะท้องลูกของเขาด้วย
“ไม่คิดจะบอกสินะครับ!” ชายหนุ่มตอบแทนเพราะอีกฝ่ายเอานิ่งแต่เงียบ เขาเชื่อในสิ่งที่เห็น พิณรัมภาไม่คิดที่จะบอกเรื่องนี้กับเขาจริงๆ
“ท่านประธานคะ…คือว่าฉัน…”
“กรุณาเรียกผมว่าหมอก! เพราะผมไม่ได้เป็นท่านประธานของคุณอีกแล้วครับคุณเดือน!” เขาไม่ชอบที่เธอแสดงท่าทีห่างเหินใส่ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงก็เห็นๆ กันอยู่ตรงหน้าว่าเธอกับเขาเป็นมากกว่านั้นหลายเท่า และยิ่งไม่ชอบใจไปกันใหญ่เมื่อเธอเลือกที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียว
“จะอะไรก็ช่างเถอะค่ะ คุณไม่จำเป็นต้องมาใส่ใจกับเรื่องนี้สักนิด เด็กคนนี้เป็นลูกฉัน ฉันจะดูแลเอง” หากเธอต้องการความรับผิดชอบจากเขา ก็คงติดต่อกลับไปตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งท้องนั่นแล้ว แต่เพราะเธอไม่ต้องการอะไรจากเขาทั้งนั้น สำนึกได้เองว่าที่ทุกอย่างมันต้องกลายมาเป็นแบบนี้ก็เพราะเธอทำตัวเองทั้งนั้น แล้วจะให้เธอมีหน้าไปเรียกร้องเอาอะไรจากเขาได้ ต่อให้จะทำได้เธอก็ไม่เคยคิดที่จะทำมัน
“ลูกคุณคนเดียวเหรอครับคุณเดือน!” พิชญะตวาดลั่นอย่างเหลืออดไม่ชอบใจคำพูดของอีกคนเลยสักนิด ลูกของเธอคนเดียวที่ไหน
“นี่คุณ!”
“หรือคุณลืมไปแล้วครับว่าเราสองคนทำยังไงเขาถึงได้เกิดมา” คำพูดนั้นทำพิณรัมภาหมดสิ้นความอดทน เชิดหน้าขึ้นก่อนตอบกลับไป
“แล้วคุณจะเอายังไงเล่า!”
สองชั่วโมงต่อมา
เธอไม่น่าพูดแบบนั้น… เพราะว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่เธอไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้ปฏิเสธมัน เพราะว่าอีกคนไม่ยอม
นางพิณรัมภา ไกศรนุวงศ์
นี่ไงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่คนบ้าอำนาจอุ้มเธอขึ้นรถไปที่อำเภอก่อนจะบังคับให้เธอจดทะเบียนสมรสกับเขา แค่นั้นไม่พอยังสั่งให้เธอเปลี่ยนนามสกุลไปใช้นามสกุลของเขา ทุกๆ อย่างเขาจัดการอยู่คนเดียว ไม่สนเลยสักนิดว่าเธอจะชอบใจกับความคิดบ้าๆ ของเขาหรือไม่
เธอคงเลือกทางอื่นที่เขาหยิบยื่นให้ไปแล้วหากมันไม่ใช่เรื่องบ้าบอที่จะไปกันใหญ่
‘จะจดทะเบียนสมรส หรือจัดงานแต่ง เลือกมาสักอย่างครับ ผมมีตัวเลือกให้คุณเพียงเท่านี้!’
“หิวข้าวรึยังครับ” คนที่จู่ๆ ก็ได้ทั้งลูกทั้งเมียมาครองในเวลาพร้อมๆ กันตัดสินใจหันมาถามคนที่เอาแต่นั่งเงียบมาตลอดการเดินทาง
“คุณถามฉันเหรอคะ” ซึ่งไม่นานก็ได้รับคำตอบยียวนกลับคืนมา
“ถามลูกก็ได้ หิวข้าวรึยังครับลูก” คนกวนประสาท! ไม่คิดเลยว่าท่านประธานสุดเนียบของเธอจะกลายเป็นคนกวนอารมณ์ไปแบบนี้ซะได้
“แล้วนี่คุณจะพาฉันไปไหน!” พิณรัมภาตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องเพราะเบื่อที่ต้องต่อล้อต่อเถียงกับคนนิสัยไม่ดีข้างกาย หากเธอชนะเขาได้สักครั้งก็คงไม่มาต้องนั่งรู้สึกเบื่ออย่างนี้ แต่เพราะไม่ว่าจะเถียงกันด้วยเรื่องอะไร ก็เหมือนอีกคนจะมีร้อยล้านเหตุผลมาเอาชนะกันได้ทุกครั้ง
“ไปเก็บของครับ บอกทางไปคอนโดคุณมาสิ” พิชญะตอบไปตามตรง ในเมื่อตอนนี้เธอเป็นภรรยาของเขาแล้วก็ต้องย้ายไปอยู่กับเขา เขาไม่ไว้ใจ กลัวว่าพิณรัมภาจะเกิดบ้าหอบลูกหนีกันไปอีก เชื่อว่าเธอทำได้เพราะเคยทำสำเร็จมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่ว่ายังไงเขาจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำเป็นหนที่สองแน่ เธอกับลูกจะต้องอยู่ในสายตาเขาไปตลอด!
“เก็บของ เก็บทำไมคะ!”
“คุณลืมไปแล้วเหรอครับว่าเราเพิ่งจดทะเบียนสมรสกัน มันก็เท่ากับว่าตอนนี้คุณคือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย แถมยังเป็นภรรยาที่กำลังอุ้มท้องลูกของผมด้วย!เพราะฉะนั้นคุณต้องย้ายไปอยู่กับผมครับ” พิชญะปิดกั้นทุกๆ สิ่งที่มันจะทำให้เขาพลาดโอกาสได้เห็นสายเลือดของตัวเองเติบโต เขาไม่กล้าไว้ใจแม่ของเด็กนับตั้งแต่ได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าเธอกำลังท้องอยู่อีกทั้งยังไม่คิดที่จะบอกเรื่องนี้ให้เขาได้รู้
“ฉันไม่ไปนะคะ!”
พิณรัมภาตอบกลับไปอย่างไม่ต้องคิดให้มากความ ถึงตอนนี้เธอจะได้ชื่อว่าเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขาก็เถอะ แต่เธอก็ไม่เห็นความจำเป็นเลยสักนิดที่เธอต้องย้ายไปอยู่กับเขา