“เจ้...มีนา” พิสุทธิ์ลูกน้องในฝ่ายกรีดกรายเยื้องย่างเข้ามาหาผู้เป็นหัวหน้า ด้วยสีหน้าแววตากระลิ้มกระเลี่ย
“อะไรพิสุทธิ์” ยังไม่ทันหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ ลูกน้องกระเทยใต้ปีกการควบคุม ได้เดินเข้ามาในห้องทำงานผู้เป็นหัวหน้า แล้วเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงชวนให้คิดไปไกล ปกติพิสุทธิ์ที่ใครต่างต้องจำใจเรียกอีกชื่อหนึ่งที่หล่อนตั้งขึ้นเอง มักสระแนไปทุกเรื่องอยู่ตามวิสัยหนุ่มหัวใจสาว ที่ยังแต่งชายตามปกติแต่หวานแหววปากจัดกว่าสตรีทั่วไปเท่านั้นเอง
“ว๊าย !! เจ้เรียกแบบนี้ ไล่ออกจากการเป็นหัวหน้าซะเลยดีมั้ย” อีพิสุทธิ์ หรือพิ้งกี้ ชื่อที่ไม่มีใครตั้งให้แต่ตั้งเอง เพราะความชอบส่วนตัว วางมือทาบอกแสดงสีหน้าบอกบุญไม่เอาชื่อเดิมที่พ่อแม่อุตส่าห์เปิดพจนานุกรมตั้งให้
“ว่าไงนะ” มีนาชินกับภาษาท่าทางลูกน้องดี แต่ก็อดหยอกกลับไม่ได้ บางทีอีนี่มันก็เรื่องเยอะ ถ้าไม่ปรามบ้างลามเป็นขี้กราก
“อ้อ...ล้อเล่น” พิ้งกี้สะบัดมือกลางอากาศแบบสาวประเภทสองทำกัน กรีดนิ้วเรียวยิ่งกว่าสตรีหลายนาง กระดิกนิ้วกลางกับนิ้วนางพร้อมๆ กัน
“มีอะไรถึงได้เข้ามาแจ๋ในห้องทำงานฉันยะนังพิ้งกี้” มีนาเน้นชื่อไพเราะของนางลูกน้องข้ามเพศ
“เป็นไงบ้างได้อยู่ในห้องกับหนุ่มหล่อปานเทพบุตรขนาดนั้น” พิ้งกี้กับเพื่อนร่วมงานอีกคนลุ้นกันจนตัวโก่ง ระยะเวลาร่วมชั่วโมงที่หัวหน้าอยู่ในห้องประชุมกับหนุ่มหล่อเร้าสองต่อสอง เกิดอะไรขึ้นบ้างประเดี๋ยวแม่นางเมย์คงตามมาสมทบ วันนี้แทบทำงานไม่ได้เมื่อเห็นหนุ่มหล่อ ที่เป็นลูกชายท่านประทานเดินผ่าน หัวใจสาวแท้สาวเทียม เก้งกวางบ่างชะนี ก็หล่นลงไปกองอยู่ตาตุ่มกันถ้วนหน้า
“เป็นไง เป็นไร อะไรของแกนังพิ้งกี้” มีนากลบเกลื่อนสิ่งที่เกิดขึ้น
“ก็...แบบช็อตกันบ้างมั้ย อะไรทำนองนี้”
“ไม่ใช่ไฟจะช็อตทำไมยะ”
“เจ๊ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ แบบหวั่นไหว ซาบซ่าน เพ้อกับความหล่อของคุณเพชรอะไรแบบนี้”
“ไม่นี่เฉยๆ” มีนายังคงวางฟอร์มรักษาหน้าตัวเอง แม้เพิ่งหายใจสั่นไม่กี่วินาทีก่อนก้าวเข้าห้องทำงานก็ตาม
“เป็นพิ้งกี้หน่อยไม่ได้จะกระโดดขี่ เอ้ย กระโดดกอดเลย”
“ฉันไม่ชอบเด็ก ไม่ชอบหญ้าอ่อนแกก็รู้”
“แต่หญ้าอ่อนขนาดนั้นไม่ทำให้เจ้สั่นไหวบ้างเลยเหรอ”
“เขาเป็นลูกบอส และมาคุมกิจการที่นี่ต่อจากบอส ในอนาคตอันใกล้นี้ ฉันอายุสามสิบสองเขาอายุยี่สิบสอง ต่างกันสิบปี แกจะให้ฉันไปสนไปใจสั่นอะไรกับเขานังพิ้งกี้”
“งั้นหนูขอนะเจ้” เสียงแรดๆ แจ๋มาจากปากกระตู ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าลูกน้องอีกคนที่แรดคู่กับนังพิ้งกี้สาวข้ามเพศก้าวเข้ามา
“นังเมย์หล่อนต้องข้ามศพฉันไม่ก่อน”
“ข้ามก็ข้ามสิวะนังเมย์ยอมแลก หล่อขนาดนั้น ดูสิหุ่นโครตน่ากิน สูงยาว และท่าทางจะทั้งยาวทั้งใหญ่”
“นี่ๆ นังเมย์เกรงใจฉันหน่อยยังอยู่ในเวลางานนะยะ” มีนาปรามลูกน้องสองคนนี้อยู่ด้วยกันไม่ได้ เหมือนผีเน่ากับโลงผุ อีกคนขึ้นอีกคนเสริม ไม่รู้รับลูกน้องจำพวกนี้เข้ามาทำงานได้อย่างไร ก็ว่าไม่ได้นะ ฝ่ายการตลาดจะให้เงียบมีแต่สมาธิอยู่แต่กับตัวเลขอย่างฝ่ายบัญชีการเงินคงไม่ได้ ยิ่งต้องคิดงานโฆษณาที่แหวกแนว ล้ำอนาคต ตามผลิตภัณฑ์ในบริษัทให้ทันก็จะแย่อยู่แล้ว แล้วยิ่งเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับเพศย่อมอ่อนไหว ทำโฆษณาออกมาไม่ดีกลายเป็นอนาจาร พานจะแย่โดนปลดโดนฟ้องห้ามยิงโฆษณาจะซวยกันทั้งองค์กร
“หยุดอย่าเพิ่งร่าน แรด แก่นซ่า เอางานใหญ่ไปทำซะ” มีนาโยนแฟ้มเอกสารโครมใหญ่ใส่หน้าลูกน้องแรดทั้งสองดังโครม เพื่อยุติการยื้อแย่งผู้ชาย
“งานใหญ่ ออกจากห้องประชุมได้งานใหญ่มาอีกแล้ว”
เมย์หยิบเอกสารไปเปิดอ่าน อ่านไปก็หน้ายุ่งไป เพราะรายละเอียดให้เตรียมแบบสอบถามเพื่อสำรวจตลาด ชายไทยเกี่ยวกับรสนิยมการใช้ถุงยางอนามัย ศึกษาขนาด ชนิด สี กลิ่น ที่กำลังอยู่ในความนิยม โอ้ว...นี่งานใหญ่ของจริง หมดเวลาแรดสิ
จากนั้นลูกน้องคนสนิททั้งสองที่เล่นหัวหัวหน้าได้ จึงคอตกกลับออกไปด้วยงานที่หยิบติดมือไปด้วย วิธีปราบสองคนนี้ได้คืองาน เพราะเมื่อทิ้งงานให้วาจาแรดๆ กับคำพูดห่ามๆ จะหายไปแล้วตั้งหน้าตั้งตามุกับงานที่ได้รับมอบหมายกระทั่งสำเร็จนั่นล่ะ ถึงจะเงยหน้าขึ้นมาแรดได้อีกครั้ง เรื่องอะไรจะปล่อยให้สองคนนั้นซัก ถ้าซักเดี๋ยวเธอเผลอเล่าเหตุการณ์ในห้องประชุมให้ฟังด้วยอาการลืมตัวอย่างเช่นทุกๆ ครั้งที่โดนรบเร้าจนได้สิ
ครั้นพอเลิกงานมีนาจึงก้าวออกจากตัวอาคาร หลังจากง่วนอยู่กับการเก็บเอกสาร และข้าวของบนโต๊ะจนเรียบร้อยเมื่อสิบนาทีก่อนก้าวลงมา เธอไม่เจอตัวปัญหาที่ทำให้ใจสั่น เขาอาจกลับไปแล้วหรือยังไม่กลับ เพราะช่วงเย็นๆ ยังเห็นเอริก พาเขาไปเยี่ยมแผนกนั้นฝ่ายนี้ในบริษัทอยู่เลย ตอนผ่านฝ่ายของเธอเขาก็อ่อยผู้ใหญ่อย่างเธอด้วยการยักคิ้วหลิ่วตา พร้อมท่าทางกวนบาทาผ่านไป
ถ้าไม่ได้เข้าข้างตัวเองนักปลายสายคล้ายกับเห็นเขาแอบถ่ายรูปเธอไว้ด้วย แต่นั่นไม่แน่ใจนักไม่อยากคิดไปเอง บางทีเขาอาจถ่ายภาพบรรยากาศเพื่อเก็บไว้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กก็เป็นไปได้ ดังนั้นหญิงสาวจึงปัดเรื่องนี้ทิ้งไป แล้วก้าวลงจากอาคาร
แต่แล้วความโล่งใจที่เธอคิดว่าสำเร็จ กลับดังปลุกสติขึ้นเบื้องหลัง
“มีนา” เขาขานเรียก ชายหนุ่มมั่นใจว่าเธอคือมีนา...แน่นอนผู้หญิงสวยคนนี้คือมีนา
“คุณ...เอ่อ...เพชร” นี่คงเป็นช่วงจังหวะที่เธอควรเรียกขานผู้ชายคนนี้แบบที่เขาต้องการ เพราะปราศจากสายตาคนอื่น แม้พนักงานต่างทยอยกันออกจากอาคารก็ตาม
“ดีมาก เราตกลงกันไว้แล้วนะ” เพชรย้ำข้อตกลงระหว่างเธอกับเขาตอนอยู่ในห้องประชุม หน้าเด็กตัวเล็กแบบนี้จะให้เขาเรียกพี่มีนา คุณมีนา ก็ไม่น่าจะเหมาะสมสำหรับเธอคือมีนา หรือถ้าสนิทกันมากกว่านี้ก็ทูนหัว ที่รัก ยาหยี เบบี๋ตามแต่เขาจะบัญญัติศัพท์เหมาะสมเพื่อเธอ ยัยป้าน่ากิน ชายหนุ่มคิดในใจ
“เข้าใจค่ะเข้าใจ” หญิงสาวรู้สึกหนักใจกับสรรรพนามบุรุษที่หนึ่ง กับสรรพนามบุรุษที่สองจนอยากวิ่งหนี
“ไปดื่มกันหน่อยไหม ผมเลี้ยงคือผมมีเรื่องจะคุยกับคุณเกี่ยวกับงานนิดหน่อย” เขาชวนไม่มีปี่มีขลุ่ย
“นี่เป็นเวลาเลิกงานของดิฉัน” นอกเวลางานไม่ควรมีเรื่องงานใดๆ มาคุย หากเขาเป็นเพื่อนที่ค่อนข้างสนิท เธอคงรีบรับปากไปดื่มด้วย เพราะชีวิตโสดอยู่ลำพังไม่ต้องรีบกลับไปหาใคร ไม่ต้องกลับไปดูแลใคร ไปไหนไปกันหากไม่ดึกมาก