เด็กเสี่ย - อาชีพเด็กเสี่ย

1660 คำ
“เสียขา” เสียงหวานครางกระเส่า เรียวขารัดเอวสอบไว้แน่น ปากบางห่อเป็นตัวโอเมื่อคนที่อยู่บนร่างขยับกายกระแทกกระทั้นรุนแรงขึ้น เตียงนุ่มขยับไหวยวบ หัวเตียงกระแทกกับกำแพงห้องดังกึกๆ แต่ไม่มีใครสนใจ เพราะกำลังจมอยู่กับบทเพลงสวาทของกันและกัน “เสียขา เนยใกล้แล้วค่ะ ซี๊ด” หญิงสาวผิวขาวผ่องสูดปากราวกับกำลังกินของเผ็ด ขาที่เคยรัดเอวสอบไว้ปล่อยลง ก่อนจะอ้าออกกว้างให้ เสี่ย เข้ามาได้ลึกขึ้น “ขมิบหน่อย” “อ๊า!” “รัดฉันอีกเนย” เสียงทุ้มกระซิบย้ำ เมื่อสาวเจ้าจมอยู่แต่กับอารมณ์ของตัวเอง จนหลงลืมหน้าที่ที่ต้องปรนนิบัติเขา “ไม่ไหวแล้วค่ะเสี่ย อ๊ะ อ๊าส์!” ภายในกระตุกตอดรัด พิธานหลับตาลงเพื่อซึมซับความรู้สึกนั้น แต่ก็เพียงไม่นาน กล้ามเนื้อภายในของอีกฝ่ายก็คลายตัวเหมือนเดิม ตาคมลืมขึ้น มองไปที่ร่างอิ่มที่หลับตานอนหอบหายใจอยู่ใต้ร่าง เธอเสร็จสมแล้ว แต่เขายัง และไม่มีวี่แววว่าจะถึง พิธานขยับกายออกห่าง ท่อนลำที่ยังแข็งขืนหลุดออกจากช่องทางของอีกฝ่าย เนยพลิกตัวตะแคงข้าง ก่อนจะหลับไปทันที ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว ที่เด็กที่เขาเลี้ยงไว้คนนี้ตอบสนองเขาไม่ได้เหมือนแต่ก่อน และหลายครั้งเธอก็หนีหลับไปก่อนแบบนี้ พิธานเลี้ยงเด็กคนนี้มานานราวสองปีเศษ เขาจำได้ว่าเจอเนยที่ผับแห่งหนึ่ง ทั้งรูปร่างและหน้าตาของเธอทำให้เขารู้สึกถูกใจมาก และเธอเองก็ดูจะถูกใจเขาไม่น้อยเหมือนกัน เพราะหลังจากนั้นเธอก็เดินเข้ามาหา แล้วพวกเราก็มีวันไนท์แสตนด์ที่เร่าร้อนด้วยกันจนเกือบเช้า มันเป็นเซ็กส์ที่วิเศษ เนยอายุแค่ยี่สิบเอ็ด แต่กลับมีประสบการณ์ที่น่าทึ่ง พิธานรู้สึกติดใจจนลองถามออกไปดูว่าเธอต้องการจะมาเป็นเด็กของเขาไหม พร้อมยื่นข้อเสนอที่ไม่มีฝ่ายใดต้องเสียเปรียบให้ แล้วเธอก็ตกลง จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เวลามันคงยาวนานเกินไปสำหรับความสัมพันธ์ที่มีแต่เซ็กส์แบบนี้ เขายังไม่ได้เบื่อเนย แต่เป็นอีกฝ่ายมากกว่าที่เริ่มเบื่อเขา เพราะความเอาอกเอาใจที่เคยมีลดน้อยลง รวมถึงเซ็กส์ที่แย่ขึ้นทุกวัน พิธานแค่รอเวลา รอให้อีกฝ่ายเอ่ยปากก่อน เมื่อถึงเวลานั้นเมื่อไหร่เขาก็พร้อมจะปล่อยเธอไป เหมือนที่เขาเคยปล่อยผู้หญิงคนอื่นๆ ไปเมื่อเธอเหล่านั้นต้องการอิสระ ร่างสูงใหญ่ที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อลุกขึ้นยืน เขารูดถุงยางออกจากท่อนเนื้อที่ยังแข็งเหมือนหินทิ้งลงถังขยะ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป “ไม่ได้งานอีกแล้วเร๊อะ!” “แล้วเจ้จะตอกย้ำฉันทำไมเล่า” ดอกแก้ว หญิงสาววัยยี่สิบเอ็ดย่างยี่สิบสองปีนั่งหน้างอ ตั้งใจจะมาหาที่ปรึกษา ไม่ใช่คนซ้ำเติม เธอเรียนจบมาได้ครึ่งปีเต็มแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ได้งานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง เกียรตินิยมอันดับหนึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเลยเพราะเธอไม่มีประสบการณ์การทำงานมาก่อน งานแปลเอกสารที่รับทำตั้งแต่สมัยเรียนก็เริ่มไม่มั่นคง คนจ้างน้อยลงตามสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน แต่ค่าใช้จ่ายทุกอย่างกลับเพิ่มมากขึ้น เงินที่เคยมีเก็บร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ ถ้าสิ้นปีนี้เธอยังไม่ได้งานประจำทำ เธอคงต้องย้ายออกจากอพาร์ทเมนต์ที่อยู่ปัจจุบัน แล้วไปหาห้องเช่าที่ราคาถูกกว่าอยู่แทน และก็ต้องเสี่ยงเจอพวกขี้เหล้าขี้ยาตามราคา ซึ่งเธอก็ได้แต่ภาวนาให้วันนั้นอย่าได้มาถึงเลย “งานสมัยนี้มันหายาก แกดูเศรษฐกิจสิ ไม่ค่อยมีใครอยากรับคนเพิ่มหร๊อก มีแต่จะไล่ออกเพื่อลดค่าใช้จ่าย” “รวมถึงที่ผับเจ้ด้วยเหรอเจ้น้ำ” “โอ้ย! อย่าพูดถึงเลย” เสียงแหลมสูงปรี๊ด โบกพัดในมือไปมาคลายความร้อนเนื้อร้อนใจ “แขกมาเที่ยวน้อยลงทุกวัน ฉันยังไม่รู้ตัวเลยว่าจะถูกเด้งออกวันไหน” “เฮ้อ! ขนาดงานในผับยังลำบากแบบนี้ สงสัยฉันคงต้องไปทำงานเซเว่นแล้วล่ะมั้ง” “ถ้าคิดว่าทำไหวก็ลองดู” เจ้น้ำไม่ห้ามปราม ทั้งยังสนับสนุน “แต่ถ้าไม่อยากลำบาก เจ้มีงานดีๆ มาแนะนำ” “งานอะไร เงินดีหรือเปล่าเจ้?” “ก็ดี งานสบาย แต่...” “แต่อะไรเจ้” “เป็นเด็กเสี่ย!!?” “ชู่ว!!! เบาๆ สิวะ เดี๋ยวใครได้ยินก็เอาไปนินทาหรอก” “ก็ดูเจ้พูดสิ แนะนำอะไรให้ฉันก็ไม่รู้” “ไม่ใช่อะไรก็ไม่รู้ แต่ฉันกำลังชี้ทางสว่างให้แกนะ” เจ้น้ำพูดเสียงกระซิบ “แกก็ไม่ใช่ขี้ริ้ว หุ่นดี นมใหญ่ ตัวก็ขาวเป็นหยวกกล้วย แบบนี้หาเสี่ยเลี้ยงซักคนไม่ยากหร๊อก!” “แต่ฉันไม่อยากเป็นเมียน้อยใคร!” “เมียน้อยอะไร? เสี่ยบางคนยังไม่มีเมียหรือแต่งงานด้วยซ้ำ” “จะเชื่อได้ยังไงล่ะเจ้” “เชื่อได้สิ ก็เพราะไม่อยากมีพันธะนี่แหละ ผู้ชายรวยๆ เขาถึงรับเลี้ยงเด็กกัน แต่แกก็ต้องยอมรับก่อนนะว่าแกจะไม่ใช่เด็กคนเดียวของเขา นอกจากแกจะมัดใจเขาได้อยู่หมัด แล้วเขายอมตบแต่งให้เป็นเมียออกหน้าออกตา” “มันมีแบบนั้นด้วยหรือไง นี่ชีวิตจริงนะเจ้ ไม่ใช่ละครน้ำเน่า” “ก็ไม่มีน่ะซี่! ฉันแค่พูดไปงั้นแหละ” เจ้น้ำตอบทันควัน ไม่ให้ดอกแก้วได้นึกเพ้อฝันตาม “ก็ฉันบอกแล้วว่าผู้ชายพวกนั้นไม่ได้อยากมีครอบครัว เขาอยากได้แค่เซ็กส์ ได้ระบายความใคร่ ส่วนเด็กที่เลี้ยงไว้ก็จะได้เงิน ได้ข้าวของที่ต้องการ ถ้าผู้หญิงคนไหนรับเรื่องนี้ได้ก็ถือว่าวินวิน” “แต่มันไม่ถูกต้องนะเจ้...” ดอกแก้วพูดเสียงแผ่ว เธอก้มหน้าลงจนคางแทบชิดอก เจ้น้ำพูดออกมาเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่เธอกลับรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง ผู้หญิงที่ดี ก็ต้องเก็บร่างกายไว้ให้สามีในอนาคตเพียงคนเดียวไม่ใช่เหรอ? “ไม่ถูกต้องยังไง” “เรา...ควรเสียตัวในวันแต่งงาน” “โอ้ย! นี่ฉันอยู่ในยุคไหนเนี่ย?” น้ำแทบจะเอาเท้าก่ายหน้าผากตัวเอง เพราะไม่คิดว่าจะยังเหลือคนที่หวงความบริสุทธิ์อยู่ใกล้ตัวแบบนี้ เธอทำงานในผับตั้งแต่อายุยี่สิบ จนตอนนี้เกือบจะสามสิบอยู่แล้ว สังคมของเธอมีแต่สาวๆ ที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากมาย จนได้รู้จักและสนิทกับดอกแก้วตอนที่เจ้าตัวย้ายเข้ามาอยู่ในอพาร์ทเมนต์เดียวกันนี่แหละ นับนิ้วดูก็เกือบสี่ปีได้แล้ว ดอกแก้วเป็นเด็กมั่นใจในตัวเอง ไม่ได้เรียบร้อยสนิมสร้อยเหมือนเด็กที่มีปัญหาทั่วไป ดอกแก้วไม่มีครอบครัว หรืออาจจะมีแต่ไม่เคยพูดถึง เธอสู้ชีวิต ทั้งทำงานและเรียนไปด้วยจนเรียนจบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากมหาวิทยาลัยเปิดมีชื่อ แต่สุดท้ายพิษเศรษฐกิจก็ทำร้ายเด็กจบใหม่จนได้ เพราะผ่านมาครึ่งปีแล้วดอกแก้วก็ยังหางานทำไม่ได้ เธอก็แนะนำอะไรมากไม่ได้ ชีวิตเธออยู่แต่ในที่อโคจร ถ้าจะแนะนำได้ ก็มีแต่อาชีพแบบนั้น... “ก็มันจริงนี่...” “ไม่จริงเสมอไปหรอก” น้ำเถียงทันควัน มือเรียวดันคางของดอกแก้วขึ้นเพื่อให้หญิงสาวได้สบตากับตัวเอง “ฟังเจ้นะดอกแก้ว เจ้เสียตัวครั้งแรกให้แฟนเจ้ คนที่บอกว่ารักเจ้นักรักเจ้หนา บอกว่าได้เจ้แล้วจะให้พ่อแม่มาขอ แต่สุดท้ายพอเจอคนใหม่มันก็ทิ้งเจ้ไปแทบไม่เห็นฝุ่น” “เจ้...” “เจ้พิสูจน์แล้วว่าความบริสุทธิ์มันไม่ได้ทำให้ผู้ชายมักมากเลิกสำส่อน และก็ไม่ได้ทำให้ผู้ชายเทิดทูนเราเหมือนที่เรามโนไว้ด้วย” “...” “ในเมื่อผู้ชายเองก็ไม่เคยสนว่าตัวเองจะนอนกับใครมาบ้าง แล้วผู้หญิงอย่างเราจะสนทำไม? หรือถ้าแกจะรอให้มีผู้ชายมาขอแต่งงาน ก่อนแต่งแกก็ลองถามดูว่ามันยังซิงอยู่ไหม เจ้เอาหัวเป็นประกันเลยว่าต้องเคยขึ้นครูมาแล้วแน่ๆ” "..." "ลองคิดดูนะ ว่าแกอยากเสียตัวให้ผู้ชายที่ไม่เห็นค่า หรืออยากจะเสียตัวแล้วสบายไปทั้งชาติถ้ารู้จักเก็บออมเงินที่เสี่ยเขาให้" “ฉัน...” “เอาเถอะ เจ้แค่แนะนำทางเลือกให้ เผื่อว่าแกจะสนใจ เจ้เห็นแกมาตั้งแต่เพิ่งขึ้นมหาวิทยาลัย ทั้งทำงานและเรียนหนักจนหัวฟู ก็เลยอยากเห็นแกสบายบ้าง” “ขอบใจเจ้มากนะ แต่ฉัน... ไม่สนใจจริงๆ” น้ำได้ฟังแบบนั้นก็ยิ้มบาง มือเรียวลูบผมนุ่มของหญิงสาวรุ่นน้องเบาๆ “เป็นเด็กดีจังนะดอกแก้ว เจ้ก็ขอให้แกได้เจอผู้ชายดีๆ ให้สมกับความดีของแกก็แล้วกัน” พูดจบร่างบางก็ลุกขึ้นจากม้าหินอ่อนและเดินสะบัดก้นจากไป ดอกแก้วมองตามเจ้น้ำจนลับสายตา ก่อนตากลมจะหลุบลงมองมือตัวเอง สิ่งที่เจ้น้ำพูดวนเวียนอยู่ในหัวครู่ใหญ่ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็สลัดมันทิ้งไป "ทางลัดมันไม่มีอยู่จริงหรอกดอกแก้ว ตั้งใจหางานต่อไปเถอะ มันต้องมีซักที่สิที่รับเธอ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม