เด็กเสี่ย - โดดเดี่ยว

1660 คำ
“เสี่ยคะ?” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน เมื่อผ้าห่มผืนหนาถูกวางลงบนตัว “คืนนี้เธอนอนที่นี่แล้วกัน หรือต้องไปไหนหรือเปล่า?” “เปล่าค่ะ” “พรุ่งนี้เช้ามาร์คจะมารับ เธอต้องไปตรวจร่างกาย” “ตะ...ตรวจร่างกาย ตรวจทำไมคะ?” ร่างอิ่มรีบลุกขึ้น เธอคว้าผ้าห่มขึ้นแนบอก ปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าไว้ทั้งๆ ที่ไร้ประโยชน์ เพราะเสี่ยเห็นร่างกายเธอหมดทุกซอกทุกมุมแล้ว แต่เธอยังมีความอายหลงเหลืออยู่บ้าง ให้นั่งคุยกันด้วยสภาพเปลือยเปล่า... เธอทำไม่ได้ “ฉันเพื่อตัวเธอ และก็ตัวฉันด้วย” พิธานติดกระดุมเสื้อที่ปลดออก เขาปลายตามองคนบนเตียงด้วยหางตา “ฉันไม่นอนกับใครสุ่มสี่สุ่มห้า” “แต่แก้วไม่มีโรคนะคะ!” “มั่นใจได้ยังไง?” พิธานหันกลับไปมองหญิงสาวเต็มตา เขาอยากรู้ว่าเธอจะตอบว่าอะไร “ก็แก้ว...” ยังไม่เคยมีอะไรกับใคร ประโยคหลังดอกแก้วไม่ได้พูดออกมา เพราะเสียงบางอย่างร้องเตือนอยู่ในหัว เสี่ยไม่ชอบผู้หญิงไม่ประสา เธอจะให้เสี่ยรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าเธอไม่เคยมีอะไรกับใคร ถ้าเสี่ยรู้ เสี่ยอาจจะไม่สนใจเธออีก เป้าหมายของเธออยู่แค่เอื้อม เธอจะไม่มีวันทำให้มันพังเด็ดขาด! “ค่ะ แก้วจะตรวจ” ดอกแก้วกระชับผ้าห่มแน่นกว่าเดิม ปากอิ่มเม้มเข้าหากันจนซีดขาว “แต่ถ้าแก้วปกติ เสี่ยจะรับเลี้ยงแก้วใช่ไหมคะ?” “ใช่ ถ้าเธอปกติ ฉันจะรับเลี้ยงเธอ” “ขอบคุณค่ะเสี่ย” น้ำเสียงของเธอปิดบังความดีใจไว้ไม่มิด พิธานแค่หยักหน้ารับครั้งเดียว ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้หญิงสาวนั่งได้คิดอะไรตามลำพังอยู่ในห้องนอนใหญ่ ผลการตรวจร่างกายของดอกแก้วเป็นไปตามที่พิธานคิดไว้จริงๆ และเพราะพิธานไม่ใช่คนตระบัดสัตย์ หลังจากได้ผลตรวจมาอยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว พิธานก็ส่งคนไปรับดอกแก้วตามสัญญา พิธานให้คนสนิทเตรียมคอนโดไว้ให้ดอกแก้วเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ขนาดห้องไม่ได้กว้างและไม่ได้เล็กจนเกินไป แต่นั่นก็ดีมากแล้วสำหรับดอกแก้วที่ยังไม่ได้ถูกเขาเชยชม เขาไม่ชอบให้เงินหรือสิ่งของกับใครง่ายๆ ถ้าไม่มีอะไรแลกเปลี่ยน แต่ดอกแก้วเป็นข้อยกเว้น... เขายอมจ่ายเงินไปก่อนเพื่อลงทุนกับเธอคนนี้ เพราะเขามั่นใจว่าสิ่งที่ได้กลับมามันจะคุ้มค่า "พรุ่งนี้มีงานที่ไหนหรือเปล่า?” พิธานถามทั้งๆ ที่ยังไม่ละสายตาจากวิวด้านนอก ตอนนี้เขาอยู่บนรถคันหรู ที่กำลังพาเขาและลูกน้องอีกสองคนมุ่งหน้าไปยังสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องบินส่วนตัวกลับประเทศไทย พิธานเดินทางมาคุยงานที่จีนได้ราวอาทิตย์หนึ่งแล้ว ตามกำหนดการณ์เขาต้องกลับไทยตั้งแต่สามวันที่แล้ว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ต้องอยู่ต่ออย่างเลี่ยงไม่ได้ พิธานจำเป็นต้องยกเลิกงานทั้งหมดที่ไทย รวมถึงการเข้าไปหาเด็กใหม่อย่างดอกแก้วเพื่ออยู่จัดการเรื่องทางนี้ เพราะประเทศจีนนับว่าเป็นรายได้หลักๆ ของบริษัทรองจากเยอรมัน สำหรับนักธุรกิจแบบพิธาน สิ่งไหนที่ให้ผลประโยชน์กับเขามากที่สุด สิ่งนั้นก็จะได้รับความสนใจจากเขาเป็นพิเศษ เขายอมเสียสิ่งที่มีค่าน้อยกว่า เพื่อสิ่งที่มีค่ามากกว่าได้เสมอ เขาเลือกทิ้งทุกอย่างที่ต้องทำที่ประเทศไทยเพื่อเม็ดเงินจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ และการตัดสินใจของเขาก็ไม่เคยผิด สัญญาที่เพิ่งเซ็นสดๆ ร้อนๆ จะทำให้เขามีรายเพิ่มอีกหลายร้อยล้านบาทต่อปี “พรุ่งนี้ไม่มีครับ” “ส่งข้อความไปบอกดอกแก้วว่าพรุ่งนี้ฉันจะเข้าไปหา” “ครับท่าน” พิธานเหลือบตามองคนสนิทที่ยกมือถือขึ้นมา ดวงตาคมฉายแววบางอย่าง ก่อนที่เสียงทุ้มจะเอ่ยเปลี่ยนแปลงคำสั่ง “ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ไม่ต้องส่งอะไรไปบอกเธอทั้งนั้น ฉันจะเข้าไปโดยไม่ให้เธอรู้” แม้จะแปลกใจ แต่มาร์คก็ยอมลบข้อความที่พิมพ์ค้างไว้ และเก็บมือถือเข้าเสื้อสูทแต่โดยดี “ครับท่าน” ร่างอิ่มนอนนิ่งสงบอยู่บนเตียงกว้างสีขาวสะอาด ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ชั่วโมงร่างนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับเขยื้อน แต่เมื่อลองสังเกตดีๆ ก็จะเห็นว่าทรวงอกใต้ชุดนอนผ้านิ่มยังคงขยับขึ้นลงตามจังหวะหายใจ เธอแค่หลับไปเท่านั้น... และท่าทางว่าจะกำลังฝันดีเสียด้วย เพราะมุมปากของเธอยกขึ้นบางๆ เหมือนกำลังมีความสุข จนกระทั่งแสงแดดจากหน้าต่างเริ่มส่องผ่านเข้ามา ดวงตาหลังเปลือกตาสีน้ำนมขยับยุกยิกไปมาเพื่อหลีกหนีแสงที่รบกวน แต่หนีเท่าไหร่ก็หนีไม่พ้น สุดท้ายเจ้าหญิงนิทราก็ต้องตื่นขึ้นมาพบกับความจริง ไม่มีเจ้าชาย... มีเพียงแค่แสงแดดเท่านั้นที่ทำให้เธอตื่นขึ้นมา ดอกแก้วลุกขึ้นนั่ง สะบัดผ้าห่มผืนหนาออกจากตัว ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัว มื้อเช้าของดอกแก้วเป็นอาหารง่ายๆ เพราะเธออยู่คนเดียว ของสดในตู้เย็นไม่ได้มีมากมาย เธอแค่กินเพื่อความอยู่รอด ไม่ให้ร่างกายหิวโหยเกินไป จะว่าไปช่วงนี้เธอน้ำหนักลงหรือเปล่านะ น่าจะซักสามโลได้ มือบางบีบเอวตัวเองเบาๆ เธอน่าจะน้ำหนักลงจริงๆ เพราะกางเกงที่ใส่อยู่หลวมกว่าปกติ อาจจะเป็นเพราะเธอต้องย้ายที่พักกะทันหัน ร่างกายยังไม่ชิน เธอเลยกินได้น้อย และนอนไม่ค่อยหลับ เพิ่งได้หลับสนิทจริงๆ ก็เมื่อคืนนี้เอง ดอกแก้วกัดขนมปังไส้ทูน่าเข้าปาก เธอเคี้ยวมันช้าๆ พลางนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาตลอดทั้งอาทิตย์ เริ่มจาก... เช้าวันจันทร์ มีผู้ชายราวสองสามคนมาหาเธอที่หอพัก เขาบอกว่าเป็นคนจากเสี่ย ผู้ชายที่เธอแก้ผ้าให้เขาสำรวจร่างกายอย่างน่าไม่อายในคืนนั้น พวกเขามีหลักฐานยืนยันว่ามาจากเสี่ยจริงๆ และมีคำสั่งจากเสี่ยให้พาตัวเธอมาอยู่ที่นี่ หลังจากนั้น เธอก็ได้รับข้อความจากผู้ชายที่ชื่อมาร์ค เขาส่งมาสั้นๆ แค่ว่าวันพฤหัสเสี่ยจะเข้ามาหาเธอ ให้เธอเตรียมตัวไว้ แต่แล้วเขาก็ไม่มา ไม่ว่าจะวันพฤหัส ศุกร์ เสาร์ หรือแม้กระทั่งวันนี้ เขาก็ยังไม่มา ดอกแก้วไม่ได้เสียใจที่เสี่ยไม่มาหา เธอแค่กลัวว่าเสี่ยอาจจะเปลี่ยนใจ ไม่อยากรับเลี้ยงเธอขึ้นมา ถ้าเป็นแบบนั้นเธอคงต้องกลับไปเริ่มใหม่ทุกอย่าง ต้องเดินหางานตามบริษัท ร้ายสุดก็ต้องยอมเป็นเด็กเสิร์ฟกลางคืนอีกครั้ง แต่เธอจะไม่คิดเรื่องเป็นเด็กเลี้ยงของใครอีกแล้ว เธอขายศักดิ์ศรีได้แค่ครั้งเดียว จะไม่มีซ้ำสอง ต่อให้ไม่มีเงินเหลือเลยก็ตาม... หญิงสาวล้างแก้วน้ำที่ใช้ดื่ม ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำจนตัวหอมกรุ่น เธอแต่งตัวด้วยชุดสบายๆ เพราะไม่ได้จะออกไปไหน และคิดว่าเสี่ยคงไม่มาหาวันนี้เพราะเป็นวันอาทิตย์ เขาคงใช้เวลาในวันหยุดกับครอบครัว ไม่ใช่กับเด็กที่เลี้ยงไว้ระบายความใคร่แบบเธอ ดอกแก้วเปิดทีวีดู สารคดีสัตว์ไม่ใช่สิ่งที่เธอโปรดปรานที่สุด แต่ในเวลานี้มันไม่มีอะไรน่าดูไปมากกว่านี้อีกแล้ว อย่างน้อยก็เปิดไว้เป็นเพื่อนแก้เหงาได้บ้าง เพราะอยู่ที่นี่เธอไม่มีใครเลย... ถ้าอยู่ที่หอเก่า เธอยังมีเจ้น้ำเป็นเพื่อน ต่อให้เครียดเรื่องที่สมัครงานไม่ได้ก็ยังมีเจ้น้ำมาคอยบ่นอยู่ข้างๆ ถึงจะหนวกหูไปบ้างแต่ก็ไม่เหงาแบบนี้ คิดถึงเจ้น้ำจัง ร่างอิ่มลุกขึ้นไปหยิบมือถือในห้องนอน เธอกดตัวเลขที่จำได้ขึ้นใจ ก่อนจะยกมือถือขึ้นแนบหูฟังเสียงสัญญาณ ตอนนี้เพิ่งเก้าโมงตรง เจ้น้ำน่าจะยังไม่ตื่น แต่เธอเหงาจนทนไม่ไหวแล้ว ‘โหล...’ “เจ้น้ำ!” 'ครายวะ’ “ฉันเอง ดอกแก้วไง ไม่ได้คุยกันอาทิตย์เดียว ลืมเสียงน้องนุ้งนะเจ้” “ไอ้แก้ว!” เสียงตะโกนจากปลายสายทำให้ดอกแก้วต้องยกมือถือออกห่าง แต่ก็ยังไม่วายได้ยินเสียงโวยวายแว๊ดๆ นั่น “นึกยังไงโทรมาตอนเก้าโมงวะ!? ฉันเพิ่งเลิกงานตอนตีสี่ เพิ่งได้นอนไม่ถึงสามชั่วโมง!!” “ฉันขอโทษ ฉันแค่...เหงา” เสียงอ่อยๆ ของน้องที่รู้จักกันมานานทำให้น้ำไม่สามารถตัดใจหลับต่อได้ เธอลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะพูดคุยกับปลายสายด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป “เหงา? เสี่ยไม่ค่อยมาหาหรือไง?" “ไม่ใช่ไม่ค่อย... แต่ไม่เคยมาเลยต่างหาก” “ตายแล้ว!!” น้ำโวยวาย รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจเหมือนเป็นเรื่องของตัวเอง “ตายๆๆๆๆ” “ยังไม่ตายเจ้ ฉันแค่เหงา ไม่มีอะไรทำ” “ฉันแค่อุทาน แต่ช่างมันเถอะ! วันนี้แกว่างใช่ไหม ออกมาเจอกันหน่อยดีกว่า” ดอกแก้วนิ่งคิดเพียงไม่นานก็ตอบตกลงไป เธอไม่ได้ถูกกักขัง สามารถไปไหนมาไหนได้ตามปกติ แต่หลายวันที่ผ่านมาเธอไม่รู้จะไปไหนดี วันนี้เป็นวันแรกที่จะได้เจอเจ้น้ำหลังจากย้ายมาอยู่ที่นี่ อย่างน้อยได้ออกไปพบเจอคนคุ้นเคยบ้าง มันคงจะดีกว่าการนั่งโดดเดี่ยวอยู่ในห้องแบบนี้...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม